ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คาเงโยชิ ชิซึกานะ เจ้าแห่งอาณาจักรทั้ง5

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานที่1:วันเกิดปีที่ 15 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 49


    <<<<<<<ภาพของคาเงโยชิ ชิซึกานะ ค่ะ

           ในคืนเดือนมืด ทั้งที่มิควรจะมีดวงจันทร์แต่กลับมี ดวงจันทร์กลมโตส่องสว่างอยู่กลางท้องฟ้า แต่ดวงจันทร์นั้นไม่ได้ส่องประกายแสงสีเหลืองนวลเหมือนดังเช่นปกติ กลับเป็นสีแดงฉานประดุจย้อมด้วยเลือด


    !!โป๊ก!! เสียงแปรงลบกระดานถูกปามาโดนหัวของเด็กสาวผู้หนึ่งที่กำลังนอนหลับอย่างมีความสุขอย่างจัง ชื่อของเด็กสาวผู้นั้นคือ ไอคาวะ โซระ


    " อูย ~ " โซระโอดครวญพลางลูบหัวส่วนที่โดนแปลงลบกระดานปามา


    " เธอจะหลับอีกนานมั๊ยยะไอคาวะ " อาจารย์พูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด


    " ค่ะอาจารย์ " เด็กสาวตอบอย่างงัวเงียพลางหาวไปด้วย -o-


    " งั้นก็หลับไปเลย หลับไปเลยไป๊!"


    " ขอบคุณค่ะอาจารย์ " โซระพูดจบก็ทำท่าจะหลับต่อ


    " นี่ไอคาวะครูประชดเธอนะ เข้าใจมั้ยเนี่ยว่าประชดน่ะ "


    " ง่า~ ก็หนูไม่รู้อ่ะค่ะ นึกว่าอาจารย์ให้หลับต่อจริงๆซะอีก "


    " เธอเก่งนักใช่มั้ยห๊ะ เวลาครูสอนเธอก็นอนไปซะทุกคาบ ครูอดทนกับเธอมามากพอแล้ว เธอมาอธิบายเกี่ยวกับการก่อตั้งอาณาจักรทั้ง 5 เมื่อ 2,500 ปีก่อนมาซิ ถ้าเธออธิบายไม่ได้ ครูจะให้เธอตกทุกวิชา "


    " เข้าใจแล้วค่ะอาจารย์ " เธอตอบพลางลุกขึ้นมาอธิบาย


    " ในสมัย 2,500 ปีก่อนได้มีตระกูลใหญ่ 5 ตระกูล ซึ่งเป็นผู้ที่มีพลังพิเศษ เข้าครอบครองพื้นที่ใหญ่ ๆ ทั้ง 5 แต่ยังเหลือพื้นที่เล็กๆระหว่างแคว้นใหญ่ ด้วยแคว้นเล็กๆนี้มีกำลังป้องกันที่แข็งแกร่ง  และความสามารถด้านเวทมนต์ที่แคว้นใหญ่ทั้ง 5 ยังไม่รู้จัก จึงทำให้แคว้นใหญ่ไม่สามารถตีเป็นอาณาเขตพื้นที่ของตนได้ ในแต่ละตระกูลจะมีความสามารถแยกเป็นสายต่าง ๆ และในแคว้นที่พวกเขาปกครองอยู่จะมีหมู่บ้านที่แยกย่อยไปตามสาขาของสายความสามารถนั้น ๆ ด้วยความสามรถที่แตกต่างกันทำให้ทั้ง 5 ตระกูลเริ่มที่จะแย่งชิงและแก่งแย่งทั้งอำนาจ ความสามรถ พื้นที่ ทรัพยากร และชีวิต ในที่สุดตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้....................................................... "



                                 -------------------1 ชั่วโมงผ่านไป------------------



    " ต่อมาในยุดการปกครองของกษัตริย์เอนโด ได้เกิดมีหมู่บ้านที่ก่อกบฏจึงทำให้....................... "



                                ------------------- 2 ชั่วโมงผ่านไป------------------



    " แคว้นโทโลเน่ซึ่งเป็นแคว้นเล็กเกิดโลภอยากจะครอบครองทั่วทั้งโลก จึงได้ประดิษฐ์อาวุธที่สามารถดูดกลืนพลังจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆอาณาเขตพื้นที่ทำให้กลายเป็นอาวุธอันตรายที่พร้อมจะฆ่าทุกสรรพสิ่งของชีวิตอันมีพลังทำลายล้างรุนแรงและมหาศาล แคว้นที่อยู่ใกล้ชิดกันจึงเริ่มที่จะร่วมมือกันเพื่อ....... "



                                ------------------- 3 ชั่วโมงผ่านไป------------------



    " แคว้นจึงเริ่มที่จะแตกแยกอีกครั้งจนถึงสมัยโซโจได้เกิดเหตุมีพวกเมืองนาราสเริ่มดักซุ่มโจมตี........ "



                               ------------------- 4 ชั่วโมงผ่านไป-------------------



    ก๊าก๊าๆๆๆ!!!(เสียงอีการ้อง)


    " หลังจากที่..... "


    " พอ ๆ พอได้แล้ว ครูผิดไปแล้ว "


    " แต่อาจารย์คะยังไม่จบอาณาจักรโชมาเน่เลยนะคะ " โซระแย้ง


    " ไม่เป็นไร ๆ ไม่ต้องแล้ว ครูรู้แล้วว่าเธอเก่งน่ะ เอ้า ๆ นักเรียนเลิกเรียนได้แล้วล่ะกลับบ้านได้ แล้วอย่าลืมทำการบ้านมาด้วยนะ "


    " ค่า/คร๊าบ " (^o^)




    ------------------------------------------------------------------




           แสงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าในวันนี้เป็นวันที่โซระและเพื่อนของเธอกลับเย็นที่สุด ( เพราะอะไรทุกท่านก็คงจะรู้นะคะ ^_^ ) นกต่างๆเริ่มบินกลับรังเด็กสาวเดินกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ 2 คน บ้านของทั้ง 3 ไปทางเดียวกัน พวกเธอจึงไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ


    " เฮ้อ~เลิกซักที " เด็กสาวคนหนึ่งพูดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอ คือ เนเน่ เหมาหลี เพื่อนที่สนิทที่สุด 1 ของโซระ และเป็นดาวของห้อง ด้วยหน้าตาที่น่ารัก รอยยิ้มที่สดใส หุ่นที่ผอมเพรียวบาง ผมสีส้มเป็นประกายถูกซอยสั้นอย่างเก๋ ๆ ดวงตาสีม่วงน่าหลงใหลและนิสัยที่ร่าเริงของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นดาวของห้องตั้งแต่เปิดเรียนวันแรก

    " คนที่แก่ก็บ่นแบบนี้แหละ " เด็กสาวอีกคนหนึ่งพูดเหน็บแนมเนเน่ขึ้นมา เธอชื่อโอลเวีย โซวอน เพื่อนสนิทที่สุด 2 ของโซระ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตสีน้ำตาล ผมหยักศกสีทองเป็นลอนสลวย มัดผมขึ้นไป 2 ข้าง เธอเป็นคุณหนูและลูกสาวคนเดียวของบริษัทที่ใหญ่โต จึงค่อนข้างจะเอาแต่ใจตนเองบ้างเป็นบางครั้ง แต่เด็กสาวก็ยังอุตส่าห์เดินกลับบ้านเป็นเพื่อน เพื่อนสนิททั้ง 2 คนของเธออีก


    " ว่างายน้า~ " เนเน่ เริ่มคิดอยากจะฆ่าคนขึ้นมาในบัดดล


    " โซระนี่เจ๋งไปเลยนะถ้าเป็นเรื่องประวัติศาสตร์กับภาษาโบราณเธอเก่งมากเลย แล้วก็ยังทำอาจารย์หน้าแตกยับเยินอีกด้วยอ่ะ " โอลเวียหันมาพูดกับโซระ โดยไม่สนใจเสียงของเนเน่แม้สักนิด


    " เอ่อ... อืม " โซระพูดตอบอย่างเนือย ๆ


    " นี่ ยัยโอลเวีย แกแกล้งทำเป็นเมินฉัน เรอะ ห๊าาา!!! " เนเน่ง้างมือเตรียมจะตะครุบโอลเวีย


    " แต่เธอก็อธิบายซะนานเชียว คิดจะฆ่าเพื่อนทุกคนรึไงกัน " โอลเวียคุยกัยโซระต่อโดยไม่สนใจเนเน่ซักนิด


    " เออ ช่าย ๆ ฉันนี่เบื่อเชียว ถึงแม้ว่าจะสะใจที่เห็นยัยครูนั่นหน้าแตกยับก็เถอะ " และแล้วเนเน่ก็เปลี่ยนเป้าหมายที่จะตะครุบโอลเวียมาเป็นคุยเรื่องวีรกรรมในวันนี้ของโซระแทน " ฉันว่ายัยครูนั่นคงไม่กล้าเล่นเธออีกแน่ ๆ "


    " อืม " โซระตอบรับอย่างเฉื่อยชาพร้อมกับรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เห็นได้ยากจากเพื่อนคนนี้


    !! ปึ๊ก !! เสียงกระเป๋าถูกฟาดมาโดนหัวของโซระเข้าเต็ม ๆ จนเธอเซไปเล็กน้อย
    โดนรอบที่2แล้วนะเนี่ย วันนี้มันวันซวยอะไรกัน โซระคิดในใจ


    " นี่ ยัยป้าอย่ามาเดินขวางทางดิ " เสียงจากเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น เขาดึงกระเป๋ากลับมาพาดที่ไหล่หลังจากที่กระเป๋าใบนั้นได้ฟาดหัวโซระไปเรียบร้อยแล้ว


    " นี่ เอสไทม์ นายมีตากับเค้าบ้างรึเปล่าเนี่ยทางมีอีกตั้งเยอะ มาบอกว่าโซระไปขวางทางนายได้ไงกัน " โอลเวียพูดว่าเขาแทนโซระที่ไม่มีท่าทีว่าจะว่ากลับ


    " ฉันพูดกับโซระแล้วเธอไปเกี่ยวอะไรด้วย " เด็กหนุ่มคนนั้นเอ่ยย้อนกลับมาด้วยรอยยิ้มที่กวนบาทาของโอลเวียเป็นอย่างสูง เขาคือเอสไทม์ ฟาลคอน  เด็กหนุ่มที่มีแววตาที่มั่นใจมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์อยู่เสมอ ผมสีแดงเพลิงของเขานั้นถูกเสยไปอย่างยุ่ง ๆ แววตาที่มีความมั่นในใจนั้นเป็นสีน้ำเงินเข้มบ่งบอกถึงความมั่นคง
     

            เมื่อเขาหันกลับมามองที่โซระ แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจนั้นกลับกลายมาเป็นขี้เล่น คนที่เขาแหย่แล้วไม่โกรธก็คงจะมีแค่โซระเพียงคนเดียว  เขาอยากจะลองแกล้งดูว่าเวลาโกรธเธอจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะแกล้งซักเท่าไหร่สาวเจ้าก็ไม่เคยคิดแม้แต่จะโกรธ  มีแต่หันกลับมาพร้อมกับหน้าตาที่เหมือนคนกำลังง่วงนอนอยู่เป็นประจำ ซึ่งนั่นก็คือหน้าตาที่เป็นปกติของเด็กสาวอยู่แล้ว


    " นายวิ่งมาสินะ " โซระเอ่ย


    " หา ? " โอลเวียกับเนเน่เอ่ยพร้อมกันด้วยความงง


    " เธอรู้ได้ไงเนี่ย " เอสไทม์ถามโซระอย่างอึ้ง ๆ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะวิ่งเร็วเท่าไหร่หรือระยะทางไกลแค่ไหน เขาก็ไม่เคยแม้แต่จะหอบหรือว่ามีเหงื่อเลยซักนิด และเขาก็ใช้วิธีวิ่งโดยกระทบพื้นให้น้อยที่สุดจึงทำให้ไม่เกิดเสียง


    " ก็โน่นไง " โซระตอบพลางชี้มือไปด้านหลังของเขา มีเด็กสาวผู้หนึ่งวิ่งตามเอสไทม์มาด้วยท่าทีเหนื่อยหอบ เขาหันหลังกลับไปมองอย่างไม่ค่อยสนใจแล้วหันกลับมาที่โซระเพื่อจะคุยกับเธอต่อ


    " เอสไทม์ นายสนใจแฟนนายซะมั่งสิ วิ่งหนีแฟนมาเพื่อที่จะแกล้งโซระ แล้วให้เขาวิ่งตามเนี่ยนะ " เนเน่ต่อว่าเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่สนใจของเอสไทม์


    " ก็ช่างยัยนั่นสิ " เอสไทม์เถียง ไม่มีความสนใจใยดีผู้ที่วิ่งตามมาแม้สักนิด


    " เฮ้อ~ฉันล่ะสงสารฮัทสึจริงจริ๊ง " เนเน่เอ่ยพลางเอามือกุมขมับตัวเอง


             เด็กสาวคนนั้นวิ่งมาถึงและหยุดยืนอย่างเหนื่อยหอบที่ด้านหลังของเอสเทมพร้อมกับเหงื่อที่ไหลจนเปียกโชกไปทั้งตัว เธอเป็นรุ่นน้องของพวกโซระ ทุกคนเรียกเธอว่าฮัทสึไม่มีใครรู้ว่าชื่อเต็มของเธอชื่อว่าอะไร โซระและเพื่อน ๆ เพิ่งจะรู้จักกับเธอได้เมื่อปีก่อนเนื่องจากเอสไทม์พามาแนะนำตัวและบอกว่าเป็นแฟนของเขาเอง ผมของเธอเป็นสีฟ้าเข้มปล่อยยาวลงมาปิดใบหน้าทำให้มองไม่เห็นหน้าตาของเธอ ตั้งแต่ที่ทุกคนได้รู้จักเธอ ก็ไม่เคยมีใครเห็นเธอพูดหรือขยับปากเลยซักคนเดียว


    " โซระ! วันนี้รู้สึกเธอพูดนานมากเลยนะ ผีเข้ารึไงเนี่ย " เอสไทม์ชวนโซระคุย


    " หนุกไง " โซระตอบแบบไม่ตรงคำถามเท่าไหร่เพราะเธอเริ่มจะเบื่อ ๆ แล้ว


    " แล้วจะทำไม! โซระพูดนานต้องผีเข้าด้วยรึไง ถ้าพูดไม่นานขนาดนี้ก็ต้องสอบตกเลยนะเฟ้ย สอบตกเลยนะ มันหนักหัวนายนักรึไง เชอะ! " เนเน่เริ่มหันไปอารมณ์เสียกับเอสไทม์บ้าง

    " ก็ใช่น่ะสิ " เอสไทม์ตอบรับ แล้วก็บ่นต่อไปเรื่อยๆ ถึงความกวนประสาทของอาจารย์ 


    เมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ 

    ---------------------

    " นี่!!หัวหน้า  มาหาครูหน่อยซิ "   อาจารย์พูดขึ้นในขณะที่โซระกำลังอธิบายประวัติอันยาวนานที่แสนน่าเบื่อสำหรับทุกคนในห้อง  เอสไทม์จึงเดินมาหาแล้วบอกกับอาจารย์ด้วยหน้าตาสะลึมสะลือ เพราะใกล้จะหลับเต็มที

    " วันนี้หัวหน้าห้องไม่สบายครับ "

    " งั้นเรียกรองหัวหน้ามาซิ "

    " ผมนี่แหละครับรองหัวหน้า มีอะไรให้รับใช้ล่ะขอ~~ร้าบ~~~"

    " อืมมมม  มีอยู่แล้วล่ะ~~~  แหม แสนรู้ดีนี่ ช่วยไปบอกอาจารย์ชุนชุนให้หน่อยสิ ว่าชั้นจะขอแลกชั่วโมงกับอาจารย์แกในคาบพละที่เป็นคาบต่อไป "

    " ร้าบ~~~แซบ~~~คร้าบ~~~~ผู้จัดการ ฮ้าวววววววววววว~~~~~~~~~~~"  เขาหาวแล้วก็เดินออกจากห้องไปปฏิบัติภารกิจอันแสนลำเค็ญนี้  


    หลังจากออกมาจากห้องเรียนอันน่าเบื่อ เขาก็เริ่มสร่างง่วง  จึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่โรงยิมฯ ซึ่งเป็นที่พักครูของอาจารย์หมวดพละทั้งหลาย  แต่เมื่อไปถึงแล้วก็ไม่พบแม้แต่เงาของอาจารย์ชุนชุน

    " ตาลุงคิงคองนั่นหายเศียรไปไหนฟระ " เขาสบถออกมาพลางนึกถึงหน้าของอาจารย์คิงคองของเขา  แล้วพาลทำให้อารมณ์เสีย

    จากนั้นเขาก็วิ่งไปหาอาจารย์ชุนชุนจนทั่วโรงเรียน 

     .
     .
     .
     .
     .

    กลับมาสู่ปัจจุบัน

    -----------------------

    " แล้วสรุปว่าไปเจออาจารย์แกที่ไหนล่ะ?? " เนเน่ถามด้วยความสงสัย หน้าเป็นปรัศนีย์

    " เออ หัดรอมั่งสิ พูดจนเหนื่อย ขอพักก่อน " เขาหยุดพักเพื่อหายใจสักพัก แล้วจึงเริ่มเล่าต่อ



    ย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้อีกครั้งนึง

    ------------------------

    " 'จารย์ ผมหาไม่เจอ " เขากล่าวด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้ง

    " เอ๊าะ เหรอออ........งั้น.............. "  อาจารย์หยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมากด
    .............ตู๊ด!! ตุ๊ด!! ตึ๊ด!! ตุ๊ด!! ติ๊ด!! ติ๊ด!! ตุ๊ด!!..............
    แล้วเอาแนบหู

    เอสไทม์>>> 0_0 แล้วให้ชั้นวิ่งไปทำไมฟระ -_-++++

    " ฮัลโหลว~~~~~~~~~~~ นั่นใครพูดอยู่ก๊ะ "

    " แล้วคุณจาโทรหาไผเล่าฟระ? -_-+ "

    " เดี๊ยนจาโทรหา คุณคิงคอง ชุนชุน น่ะค่ะ "

    " โทษที ที่นี่ไม่มีคนเป็นคิงคอง - -++++ " อาจารย์ชุนชุนตอกกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน

    " โอ๋ววว สุดหล่อ~~~~~~แค่นี้ก็จำกิ๊กของตะเองมะด้ายเหรอจ๊า "

    ในใจของเอสไทม์คิด >>> -_-*  รุ่นนี้แล้วยังจะเป็นกงเป็นกิ๊กกันอีกเรอะ ถึกทั้งคู่เลยคบกันได้ล่ะมั้ง
     
    " เอ้อนี่ตะเอง เค้าจาขอแลกชั่วโมงกะตะเองน้า ได้เป่า "

    " เออๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จาเอาไงก็เอา "

    " บ้า!!!!!!!!!!! มาองมาเอาอารายกัน เค้าเขินนะตะเอ๊ง!!! "

    " ไปตายซะ "

    ในใจของเอสไทม์คิด >>> -_-*  นี่หรืออาจารย์ ถ้าเราเรียนไปด้วยนานๆ จะบ้าไปด้วยมั้ยเนี่ย -*-

    แล้วในที่สุดอาจารย์ก็วางโทรศัพท์ที่จู๋จี๋กระหนุงกระหนิงนั้นลง  แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า แลกคาบได้ T0T

     กลับมาสู่ปัจจุบัน(อีกครั้ง)

    -----------------------


    " สมน้ำหน้านาย " เนเน่พูดก่อนหัวเราะอย่างสะใจ ด้วยเสียงนางมารร้าย(ถึงร้ายก็รักเธอ<<อันนี้เราเติมเอง อย่าใส่ใจ)

    " ไม่มีสงสารกันมั่งเลยน้า T^T " เอสไทม์คร่ำครวญ

    " น่าสงซ้าน น่าสงสาร จนมันน่าสมเพ๊ช น่าสมเพช " โอลเวียแสดงสีหน้าท่าทางว่าสงสารเป็นที่สุด ซึ่งตรงข้ามกับสายตาและน้ำเสียงที่แสดงออกมา

    " นี่เธอสงสารชั้นจริงมั้ยเนี่ย "

    " เอาน่าๆ ชั้นสมเพชด้วยอีกคนละกัน " โซระเออออไปตามโอลเวียด้วยท่าทีที่ไม่ใส่ใจเช่นเดิม

    " ง่า TT_TT "

    " โอ๊ย!!!!!!! เบื่อๆๆๆๆๆ กลับบ้านได้แล้ว มัวมาสมเพชกันอยู่นั่นแหละ กลับๆๆๆๆๆๆ " เนเน่ตัดบท

    " เออ ดีเหมือนกัน งั้น.....บ๊ายบายนะ เอสไทม์ กะ ฮัทสึ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ " โซระเอ่ยลา และหมุนตัวเดินกลับบ้านพร้อมโอลเวียและเนเน่
     
    " อืม.......บ๊ายบายโซระ แต่ว่าเราคงไม่ได้พบกันใหม่อีกครั้งวันพรุ่งนี้หรอกนะ "  เอสไทม์ตะโกนไล่หลังมา

    " ? " โซระเหลียวหลังมามองอย่างฉงน  แต่ก็เดินต่อไป

    หลังจากนั้น  ทั้งสามก็เดินไปถึงบ้านของโอลเวียและเนเน่ซึ่งบ้านของทั้งคู่อยู่ติดกัน  เอ่ยลากันอยู่พักใหญ่ แล้วโซระจึงเดินกลับบ้านซึ่งต้องเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที

    -----------------------------------------------

    ในที่สุดก็ถึงบ้านของโซระ เธอเดินไปกดกริ่งเรียกคนในบ้าน แต่ไม่มีใครตอบรับ จึงไขประตูเดินเข้าไป ในห้องโถงมืดสนิท และเงียบเชียบวังเวง

    โคร่ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากห้องอาหาร    เธอรีบวิ่งไปดูที่ห้องอาหารอย่างสุดชีวิต  เพราะกลัวว่า  พ่อ แม่ และน้องชายของเธอจะเป็นเหมือนเช่นที่เธอเคยฝันตลอด  ยามที่ยังเป็นเจ้าหญิงนิทราในสมัยเด็ก 

    ปัง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เมื่อเข้าไปถึงห้องอาหาร  ก็พบกับเพื่อนๆ และครอบครัวของเธอ  ทุกคนยืนอยู่ในห้องอาหาร  พร้อมกับเค้กปักเทียนสว่างไสว 15 เล่ม ซึ่งเท่ากับอายุของเธอในปีนี้ บนโต๊ะมีอาหารเรียงรายอยู่หลายอย่างส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน แต่ละอย่างล้วนเป็นของชอบของเธอทั้งสิ้น

    " แฮปปี้เบิร์ธเดย์ โซระจาง~~~~~~~~~~ " ทุกคนเอ่ยพร้อมกัน(เตี๊ยมกันมาดี)

    " ?! "

    " แฮปปี้เบิร์ธ~เดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ธ~เดย์ ทู้ ยู.................................................................................................แฮป~ปี้~เบิร์ธ~เดย์~ทู~ยู~~~~~~~ "
    " มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้า~~ " 

    ทุกคนปรบมือหลังร้องเพลงวันเกิดจบ พร้อมอวยพรให้โซระ      เธออึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    " เอ้า! โซระ มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม มาเป่าเค้กซี่ " เอสไทม์เรียกโซระให้ตื่นจากภวังค์

    แล้วโซระก็เดินเข้าไปเป่าเค้กอย่างว่าง่าย พลางคิดว่า ทำไมเพื่อนๆ ของเธอจึงมาถึงก่อนเธอได้ และเธอก็ได้รู้แล้วว่าคำพูดของเอสไทม์เมื่อตอนเอ่ยลากันคือ " แต่ว่าเราคงไม่ได้พบกันใหม่อีกครั้งวันพรุ่งนี้หรอกนะ " นั้นมีความหมายคือ " จะเจอกันในวันนี้อีกครั้ง " ต่างหาก  จากนั้นงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น ทุกคนมีของขวัญมาให้โซระ  สร้างความปลื้มปิติให้โซระได้อย่างยิ่ง  ทำให้โซระยิ้มอย่างมีความสุข  นับเป็นครั้งแรกที่เพื่อนๆ และครอบครัวได้เห็นรอยยิ้มอย่างนี้จากเธอ






    --------------------------------------------------


    ในที่สุดก็จบตอนที่หนึ่งซักกะที เฮ้อ!!!!!!!!!!!!!! อู้มานาน
    ช่วยๆ เม้นต์กันหน่อยนะค้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×