คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เขาเอเธีย
แต่เมื่อเดินกันต่อไปได้ไม่นานกลับมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นเรื่องๆเหมือนกับว่าเจ้าของเสียงเหล่านั้นใกล้เข้าเรื่อยๆแต่ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจอะไรให้กับพวกเธอนักเพราะไม่ได้มีแค่พวกเธอสักหน่อยที่อยากจะสอบเข้าที่โรงเรียนเอรากอน
“เฮ้ย มีคนอยู่ข้างหน้าด้วย”เสียงทุ้มของใครบางคนเอ่ยขึ้น
“เดินช้าชะมัด เฮ้!พวกเธอเดินเร็วๆหน่อยได้ไหม เดินอืดจริงๆเดี๋ยวก็ขึ้นอืดตายหรอก”เสียงอีกโทนดังขึ้นแต่ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็เป็นเสียงของบุรุษอยู่ดี
“อยากไปเร็วๆก็เดินอ้อมพวกฉันไปสิ!”วิเวียนหันไปพูดอย่างเหลืออดกับคนที่อยู่ข้างหลังก่อนจะต้องชะงักเพราะเห็นผู้ชายอายุไล่เลี่ยกับเธอคนที่เป็นเจ้าของประโยคพูดเมื่อกี้มีหน้าตาที่จัดได้ว่าหล่อถึงหล่อมากเลยก็ว่าได้ผมสีดำสนิทซอยยาวระต้นคอเล็กน้อยกับตาสีเทาเข้มคมกริบแต่ที่วิเวียนตะลึงไม่ใช่เรื่องความหล่อแต่เป็นเรื่องหน้าตาก็ดีทำไมปากหมาแบบนี้
“คาออสนายไปว่าเขาอย่านั้นทำไมละ พูดดีๆหน่อยสิว่ะ”ชายหนุ่มอีกคนที่มีน้ำตาลเข้มและตาสีเทาอ่อนพูดขึ้นกับเพื่อนอย่างตำนิสายตาของเขาดูแข็งกร้าวแต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย มันทำให้วิเวียนรู้สึกคุ้นๆกับนายคนนี้อย่างน่าประหลาดรู้สึกเหมือนกับว่าหน้าตาของหมอนี่ละมายคลายใครสักคน
“คาร์โลนายเข้าข้างใครฮะ ฉันเป็นเพื่อนนายนะเฟ้ย”คาออสหันไปง้างมือแล้วฟาดไปที่หลังของคาร์โลดังป้าบ!
“อู้ยยย มันเจ็บนะเจ้าบ้า”
“ฉันว่าเราพูดกันดีๆก็ได้นี่คาออส คือ
พวกเธอช่วยหลีกทางให้เราก่อนได้ไหมพวกเอเดินช้ามากกกก”เพื่อนของอีกคนพูดขึ้นเขามีเส้นผมซอยรากไทรยาวประบ่าเล็กน้อยรวบไว้ที่ด้านหลังแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมที่ชี้ไม่เป็นทิศของเขาดูเรียบร้อยขึ้นเลยสักนิดและดวงตาคมสีเดียวกันกับเส้นผมดูอย่างไรก็เป็นเพียงแค่คนที่ดูจะขี้เล่นที่สุดในกลุ่มและเป็นไอ้ตัวแสบอีกตัวเท่านั้นเอง
“ใช่ อย่างที่ลีรอยพูดนั้นแหละหลบไปหน่อยสิ”คาออสยังใช้วาจายั่วโมโหด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่กวนอารมณ์ซะไม่มี ยิ่งทำให้วิเวียนรู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้ามากยิ่งขึ้นไปอีก
“ไม่ พวกนายก็เดินเลี่ยงพวกฉันไปเองสิ”วิเวียนเชิดหน้าขึ้นเล้กน้อยขณะที่พูดทำให้คาออสเองก็เริ่มรู้สึกหมั่นไส้ร่างบางตรงหน้านิดหน่อยแล้วเหมือนกัน
“ทางเส้นนี้มันเป็นของเธอหรือไง”
“ใช่”วิเวียนพูดก่อนจะเรียกคทาเวทย์ประจำตัวด้ามใหม่ที่ได้จากพ่อ มา แล้วเริ่มเขียนตัวหนังสือเป็นชื่อของตนว่าVivian Gray ทันทีที่พื้นดิน
“นี่ไง มีชื่อฉันเขียนไว้ด้วยเห็นไหม”วิเวียนยักคิ้วกวนๆให้กับคาออส
“เธอนี่มัน”คาออสสายหน้าอย่างเอือมระอาเมื่อเห็นความไม่ยอมใครของวิเวียน
“วิเวียนเลิกทะเลาะไร้สาระสักทีน่า”ลิลิธถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายทันทีที่เห็นว่าการทะเลาะครั้งนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ฉันเห็นด้วยนะ คาออสเลิกบ้าซะแล้วรีบไปให้ถึงโรงเรียนได้แล้วยิ่งค่ำมากเท่าไหรป่านี้ก็อันตรายขึ้นเท่านั้น”เสียงทุ้มอีกเสียงดังขึ้น เล่นเอาลิลิธหันขวับไปอย่างตกใจทำไมเธอถึงไม่รู้สึกเลยว่ามีคนอยู่ข้างหลัง เขาเป็นหนุ่มร่างสูงอีกคนใบหน้าที่ดูเรียบนิ่งกับดวงตาคมสีทรายที่ดูดุดันกับผมซอยตามสมัยสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ พอได้เห็นกลุ่มนี้ครบทีมมันก็ทำให้พวกเธอสงสัยทันทีว่าเจ้าพวกนี้มันคบกันที่หน้าตารึไงทำไมหน้าตาดีทุกคนแบบนี้
“โซลนายก็ด้วยเหรอ”
“เอ่อ ไม่ใช่แค่โซลหรอกนะฉันด้วยนายรู้ไหมว่าฉันหิวกล้วยอีกแล้วนะ”ลีรอยพูดอีกครั้งก่อนจะหยิบกล้วยออกมาจากไหนสักแห่งแล้วปอกเปลือก เคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มแทบปริอย่างไม่อายสายตาชาวบ้านเลยทีเดียว
“นี่ ลีรอยวันๆนายจะกินแต่กล้วยรึไงหาไอ้ลิง”คาร์โลพูดพร้อมทำหน้าเอือมระอาโลกเป็นที่สุดใส่เพื่อน
“ก็ฉันชอบนี่หว่า”ลีรอยพูดแล้วหยิบกล้วยอีกใบขึ้นมา
“นี่นาย กล้วยมันบอกว่ามันไม่อยากให้นายกินนะ มันอยากให้ฉันกินมากกว่ารู้ปะตอนนี้ท้องฉันคำรามลั่นแล้วนะ”เซรีน่าพูดพร้อมเอามือไปคว้ากล้วยของลีรอยมาอย่างเนียนๆแล้วกินมันเข้าไปทั้งลูกโดยไม่ปลอกเปลือก
“เอ่อ
ลิลิธหายไปแล้วจ้ะ”โซเฟียพูดพลางชี้ไปตรงที่ร่างโปรงของหญิงสาวอีกคนเคยยืนอยู่
“เฮ้ย!”วิเวียนมองหน้าโซเฟียกับเซรีน่าเลิกลักก่อนจะรีบวิ่งตามลิลิธที่เดินนำลิ่วไปแต่ไกลตอนไหนก็ไม่รู้ไป
“อ้ากกกกก ลิลิธรอฉันด้วย”วิเวียนตะโกนขึ้นทันทีที่เห้นหลังของลิลิธไวๆ
“รอด้วยยย”โซเฟียลากเสียงยาวก่อนที่จะกระชากคอเสื้อเพื่อให้เจ้าของตาสองสีหยุดจนลิลิธแทบจะหายใจไม่ออก
“อ๊อก”
“เป็นไงบ้างเนี้ยเธอ”คาร์โลที่เดินตามมากับชาวบ้านเขาด้วยถามขึ้น
“ไม่เป็นไรมั้ง”
“นี่เธอจะฆ่าเพื่อนเธอเหรอไงยายโหด”คาออสพูดพลางเหล่มองมาทางโซเฟีย
“ขอโทษนะ”โซเฟียพูดขึ้นแต่ไม่รู้ว่าวิเวียนคิดไปเองหรือเปล่าว่าหน้าของโซเฟียไม่มีแววจะรู้สึกผิดเลยสักนิด
“นี่ๆ ฉันว่าพวกเรายังไงๆก็ต้องเรียนที่เดียวกันเอาเป็นว่าเรามาเป็นพันธมิตรกันดีกว่านะ”เซรีน่าเอ่ยขึ้นพลางมองไปทางคาร์โลอย่างขอความเห็น
“อือ ฉันก็ว่าดีนะคาออสเราเป็นมิตรดีกว่าศัตรูนะ”
นั้นไงเหมือนที่บอกไว้เลยใช่ไหมว่ากลุ่มนี้ยังสามารถขยายตัวได้อีกมีสามาชิกใหม่ที่ท่าทางจะกวนกว่าเดมเข้าถึงสี่พระหน่อเลยทีเดียวแต่อย่างไรการเป็นมิตรก็ดีกว่าสร้างศัตรูจริงๆนั้นแหละแค่กัดกันนิดหน่อยเดี๋ยวคงเป็นเพื่อนที่ดีกันได้เอง
“งั้นก็ได้พวกเธอคิดว่าเราจะผ่านป่านี้ไปได้ยังไงล่ะ อีกสองวันประตูโรงเรียนจะปิดแล้วและนี่ก็ใกล้จะค่ำแล้วด้วย”คาออสหันมาถามโซเฟีย
“เราคงหาที่โล่งเพิ่งพักผ่อนคืนนี้ก่อนยังไงล่ะ”เซรีน่าพูดขึ้น
“ทำไมเธอรู้ดีจัง “
“ก็เพราะฉันเป็นนักเดินทางพเนจรไปเรื่อยไงละ”เซรีน่าขยิบตาให้เพื่อนๆก่อนจะหันไปทางต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
“นี่คุณต้นไม้ แถวๆนี้มีที่โล่งๆให้เรานอนได้ไหม”เมื่อเซรีน่าเล่นพูดกับต้นไม้ดื้อๆแบบนี้ใครเห็นก็คงคิดว่าเธอเพี้ยนแน่ๆ
“เพื่อนเธอเป็นอะไรหรือเปล่านะ”โซลหันมาถามลิลิธที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ไม่รู้สิก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว”ลิลิธสายหัวไปมาอย่างเอือมระอา
“ว้าว!ดีจัง เดินผ่านพุ่มไม้นั้นไปก็จะเจอที่โล่งแล้วละ”เซรีน่าหันกลับมาพูดกับเพื่อนๆเสียงดังโดยที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวทำให้เกือบทุกคนถึงกับสะดุ้งสุดตัวบางคนอาจแถมขนลุกและขนหัวลุกขึ้นมาด้วยเพราะตกใจจัด(เวอร์ไปแล้วมั้ง)
เซรีน่ากวักมือเชิงจะชวนให้ตามมา พร้อมนำทางไปตามทางเหมือนกับชำนาญทางแถวนี้เป็นอย่างดี เจ้าของดวงตาสีอเมธิสต์พาพวกเพื่อนๆแหวกพุ่มไม้ใหญ่ที่ขวางหน้าอยู่ออกทำให้ได้เห็นสถานที่ที่ปรากฎอยู่เบื่องหน้าว่าเป็นพื้นป่าโล่งมีเพียงต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาอญุ่ใจกลางดั่งที่พักพิงหลบแดดฝน ต้นหญ้าขึ้นอยู่โดยรอบพื้นที่แถบนี้เป็นทีโล่งกว้างจริงๆมีเพียงต้นไม้เล็กๆเท่านั้น และจากการคาดคะเนทางภูมิศาสตร์ของวิเวียน(อันที่จริงใช้ความรู้สึกเลยมากกว่า)ทำให้รู้ได้เลยในทันทีว่ากลางป่าแบบนี้ไม่มีที่ไหนหน้านอนเท่าที่นี่อีกแล้ว! ดังนั้นทั้งหมดจึงตกลงใจจะตั้งหลักปักฐานที่นี่สักคืน
เมื่อตกลงกันว่าจะอาศัยลานหญ้าโล่งๆกลางป่าเป็นที่พักพิงคืนหนึ่งทั้งหมดก็เริ่มช่วยงานกันอย่างแข็งขัน ทั้งหาฟืน และจัดที่ทางให้พอนอนหลับพักผ่อนได้สักคืนและแล้วฐานทัพชั่วคราวของพวกวิเวียนก็ได้เวลาใช้จริงแล้ว....
“อา.... นอนบนหญ้านุ่มๆนี่มันสบายไปอีกแบบเหมือนกันแฮะ”โซเฟียพูดขนะที่เริ่มนอนกลิ่งเกลือกไปบนพื้นหญ้าที่อ่อนนุ่ม
“เพราะเซรีน่านะเนี้ย เธอนี่เจ๋งจริงๆแฮะ”ล๊รอยชมเซรีน่าก่อนจะหันไปกัดสาวหน้าหวานที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม
“นี่เอ นอนให้มันดีๆหน่อยเป็นผู้หญิงนะเธอนะ”
“เรื่องของฉันน่า”โซเฟียเชิดใส่ลีรอยก่อนจะกลิ่งตัวไปมากับพื้นอย่างสนุกสนานต่อ
แซก เสียงใบไม้เสียดสีกับบางอย่างดังขึ้นแบบผิดธรรมชาติทำให้บทสนทนาต่างๆเงียบหายไป รึว่าจะเป็นสัตว์ป่าแถบนี้?
“ฉันไปดูเอง”ลิลิธเสนอพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวสิ ฉันไปเองดีกว่าเธอเป็นผู้หญิงอยู่รวมกับเจ้าพวกนี้ไว้ดีกว่า”โซลพูดก่อนจะกดไหล่ให้ลิลิธนั่งลง
“นี่นาย! ฉันไม่ได้เป็นคนไม่เอาไหนเหลาะแหละใจเซาะสักหน่อยอย่ามาดูถูกกันนะ”ลิลิธปัดมือของโซลออกไปก่อนเดินหายเข้าไปกลางพงไม้ต่างๆ
“ยายบ้าเอ๋ยคนเขาเป็นห่วงยังมาทำแบบนี้อีก แย่จริงๆ”โซลขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นหญ้าอย่างแรงจนคาออสนึกขำในใจว่า ปกติเพื่อนเขาออกจะใจเย็นทำไมอยู่ๆมาอารมณ์เสียเพราะเรื่องแค่นี้กัน
“ก็ดันไปพูดเหมือนดูถูกเขานะสิ แล้วไม่ตามไปเหรอ”ลีรอยพูดอย่างสบายๆก่อนจะถามเพื่อนชายอีกรอบ
“ก็อยากไปคนเดียวนี่ ปล่อยเขาไปเถอะ”โซลพูดก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างไม่ใส่ใจ
ลิลิธที่เดินออกมาจากที่พักได้สักระยะก็หยุดฝีเท้าเอาดื้อๆตรงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งตาคมโตสองสีมองไปบนต้นไม้อย่างพิเคราะห์
“ไม่ออกมาหน่อยเหรอ” เสียงหวานแต่แฝงไปด้วยความเย็นชาเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะมีเสียงบางอย่างหล่นตุ้บลงมาที่พื้น ปรากฎชายในชุดสีดำทะมึนที่แทบจะกลืนไปกับเงามืดยามรัตติกาล
“หึ เธอนี่โง่จริงนะที่มาตัวคนเดียว”เสียงทุ้มเอยขึ้น
“นายสินะที่ ตามมาตั้งแต่ที่ร้านอาหารแล้ว”ลิลิธใช้ตาสองสีมองมาอย่างหยั่งเชิง ตาของเธอตอนนี้ดูลึกลับและยากที่จะอ่านความคิดได้
“รู้ตัวตั้งแต่แรกเลยงั้นสิ”
“....”ร่างบางยังคงตีหน้านิ่งเฉยกับท่าทีของบุรุษตรงหน้า
“นายต้องการอะไร เป้าหมายคือวิเวียนสินะ”
“ก็นะ ฉันนะเป็นมือสังหารรับจ้างมาเพื่อเก็บคุณหนูวิเวียนแห่งตระกูลเกรย์ แต่ในเมื่อมีคนจับได้อย่างนี้ก็คงปล่อยให้อยู่รอดต่อไปไม่ได้เหมือนกัน”ชายหนุ่มฉีกยิ้มเหี้ยมเกรียมมาให้กับลิลิธ
แต่แทนที่เธอจะแสดงสีหน้าตกใจหรือหวาดเกรงออกมากลับมีเพียงดวงหน้าเรียบนิ่งและบรรยากาศที่มาคุขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
“โฮ้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะโดนฆ่าด้วยงั้นสิ”ลิลิธพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เหมือนเยาะเย้ย
“นั้นมันของแน่”
“แกชื่ออะไร”ลิลิธถามด้วยใบหน้าที่กวนประสาทเล็กน้อยแต่น้ำเสียงยังคงนิ่งสนิท
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกชื่อให้คนที่กำลังจะตายรู้หรอก”
“โฮ
เดี๋ยวก็รู้กัน”
ขณะเดียวกันที่ที่พัก การหายตัวไปอย่างเงียบๆของลิลิธทำให้ทุกคนเริ่มจะเป็นห่วงเพราะเจ้าตัวหายไปนานพอสมควรแล้ว แต่คนที่ดูจะร้อนใจที่สุดคงเป็นสามสาวที่ออกอาการห่วงเพื่อนอย่างออกนอกหน้า ที่ตอนนี้กำลังนั่งกระสับกระส่ายอยากออกไปตามเพื่อนเต็มแก่แล้ว
“นานไปแล้วนะ! ฉันว่าเราออกไปตามเถอะ”โซเฟียพูดขึ้นในที่สุดทำให้ทุกคนหันมามองทางเธอเป็นตาเดียว
“จริงด้วย”เซรีน่าลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมาถามโซเฟียกับวิเวียนว่า “ไปด้วยกันไหม?”
“เดี๋ยวซิ ฉันไม่ยอมให้พวกเธอไปหรอก”คาร์โลพูด
ทำให้สามสาวหันขวัญมามองด้วยสายตามาดร้ายทันที
“โดยไม่มีพวกฉันไปด้วยนะน่ะ”คาร์โลต่อประโยคของตนให้จบเล่นเอาเพื่อนๆที่เมื่อกี้ยิ้มไม่ออกกลับยิ้มออกมาได้อย่างไม่รู้ตัว
“งั้น เมื่อกี้ลิลิธไปทางไหน”
โซเฟีย ชี้นิ้วไปตามทางที่ลิลิธเดินไป ทางตรงนั้นถือว่ามืดที่เดียวพวกเขาคิดถูกแล้วที่มาพร้อมกันหมดเพราะถ้ามาคนเดียวอาจเจอกับสัตว์ร้านที่ซ่อนอยู่ในความมืดเล่นงานเอาได้ง่ายๆแต่พอยิ่งคิดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ทั้งหมดเป็นกังวลเกี่ยวกับเจ้าของตาและผมสองสีเป็นอย่างมาก
ขณะที่ทั้งหมดเดินตามกันเข้าไปในความมืด ต่างก็ต้องระวังรอบตัวไปหมด และบางครั้งอาจจะมีการเหยียบเท้ากันเองด้วย คงมีแต่คาออสและโซลที่ยังเดินเฉยเหมือนกับคุ้นเคยกับความมืดเป็นอย่างดีเดินนำหน้าไปตามทางมืดครึมอย่างไม่รู้จุดหมาย
กึก โซลหยุดชะงักขาของตนก่อนจะหันไปทางด้านซ้ายแล้วหลับตาลง
“มีอะไรเหรอ โซล”ลีรอยหันมาถามเพื่อนชายอย่างสงสัย
“กลิ่นเลือด
จากทางนั้น!!”สิ้นคำร่างสูงก็วิ่งไปตามทางที่ตนบอกทันที ส่งผลให้คนอื่นๆต้องวิ่งตามเข้าไปด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้วิเวียนสงสัยก็คือพวกเธอไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลยแล้วทำไมโซลถึงรู้สึกได้ถึงมันกันนะ
วะฮะฮะฮ่า และแล้วยายมูนด๊อกก็แต่งจบไปอีกตอน ขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันมาถึงแม้เราจะแต่งได้ทุเรศทุรังมากกกก็ตาม
กร๊าก แต่งไปแต่งมาชักอยากบ้าเองขอบคุณที่จะกรุณาคอมเม้นให้เรา
และ... ระวัง! มันกำลังจะมา มา มา อา อา อา ทูบีคอนทินิวอีกรอบจ้า~~~
ความคิดเห็น