ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sound Horizon สู่เส้นขอบฟ้าอันกว้างใหญ่

    ลำดับตอนที่ #4 : แปลเพลง;;Hikari to Yami no Douwa [เทพนิยายของแสงสว่างและความมืด]

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 55




    แปลเพลงของอัลบัม Ido ก่อน
    นี่เป็นเพลงแรกของอัลบัมเลย


    Hikari to Yami no Douwa

    [เทพนิยายของแสงสว่างและความมืด] ///อ้ากกกกส์ นี่เพลงไคลแมกเลยนะ revoซังร้องเองเชียว-.- [เอลิเซ่เป็นเสียงมิคุร้องแหละ555]

    แปล;;

    ──そして歴史だけが残った……。
    [Und nur die Historie ist ubriggeblieben]
    และนี่คือประวัติศาาสตร์ที่หลงเหลืออยู่....

    ("matte yo")
    ("osoi yo nii-san")
    ("matte yo onii-chan...itee...")
    ("waa, gomen yo. itakatta naa")
    ("oi ido no toko ni nanika ochite'ru")
    ("omae naa")
    “เดี๋ยวก่อน  รอด้วยสิ”
    “น้องชาย นายช้ามากเลยนะ”
    “เดี๋ยวก่อนพี่ โอ้ย!”<<<เสียงเด็กสะดุด
    “ขอโทษนะ  เจ็บไหม?”
    “เฮ้! ดูสิมีคนตกลงไปในบ่อน้ำนั่น”
    “นายพูดอะไรของนายนะ?”



    (Das Maerchen des Lichts und Dunkels)

    นี่คือเทพนิยายของแสงสว่างและความมืด

    ("soko ashimoto ni ki o tsukete")
    ("un")
    ("daijoubu? kowakunai kai")
    ("ee. sore yori watashi ima totemo dokidoki shite iru wa.
      datte mori wa sekai wa konna ni horoi n desu mono")
    ("jaa kyou wa totte oki no basho o oshiete ageru ne.
      ikou")
    ("un")

    “เดินระวังๆหน่อยน่ะ”
    “จ๊ะ”
    “ไม่เป็นไรนะ? ไม่กลัวใช่ไหม?”
    “อืม.. ฉันไม่เป็นไรจ๊ะ ฉันตื่นเต้นมากกว่า ป่านี้มันช่างกว้างใหญ่จริงๆ!”
    “งั้น...วันนี้ผมจะพาเธอไปที่ที่เคยเล่าเอาไว้นะ  ไปกันเลย”
    “อืม”

    見上げれば丸い夜空 揺らめく蒼い月夜
    神の名を呪いながら 奈落の底で唄う……
    miagereba marui yozora
    yurameku aoi tsukiyo
    kami no na o noroinagara
    naraku no soko de utau
    ท้องฟ้ายามราตรีที่ถูกจำกัดในกรอบกลมเล็กๆ
    ในคืนแห่งความรวนเรของพระจันทร์สีน้ำเงิน
    สาปแช่งนามของพระผู้เป็นเจ้า
    เขากู่ร้องอยู่ที่ก้นบ่อน้ำ

    盲いた闇で彼が 光だと思っていたのは 誤りで
    その温もりの名は 愛だと 後に知った
    meshiita yami de kare ga
    hikari da to omotte ita no wa
    ayamari de sono nukumori no na wa
    ai da to nochi ni shitta
    ความมืดมิดทำให้เหมือนกับตามืดบอด
    เขาคิดว่าอะไร”แสงสว่าง”
    แต่ได้พบในภายหลังว่า
    ความอบอุ่นจริงๆคือ “ความรัก”

    初めての友達は 碧い瞳の可愛い女の子 お別れさ
    その切なさの名が 恋だと 遂に知らず
    hajimete no tomodachi wa
    aoi me no kawaii Madchen
    owakare sa sono setsunasa no na ga
    koi da to tsuini shirazu
    เพื่อนคนแรกของเขาคือ
    เด็กผู้หญิงที่มีดวงตาสีฟ้าใส
    เมื่อเขาบอกลาเธอ ในเวลานั้น
    เขาไม่รู้เลยว่าความรู้สึกเจ็บปวดในตอนนั้น
    คือ “ความรัก”

    花に水を遣るように 儘 罪には罰が要る 嗚呼
    やがて《迎宵》疾しる《第七の物語》
    摂理に背を向けて──
    hana ni mizu o yaru you ni mama
    tsumi ni wa batsu ga iru aa
    yagate Guten Abend hashiru sieben Maerchen
    kami ni se o mukete

    เหมือนกับการที่เรารดน้ำให้ดอกไม้ในสวน
    บาปจะไม่ถูกปล่อยให้ลอยนวล
    ขอต้อนรับรัตติกาล เทพนิยายบาปทั้งเจ็ด
    เขาหันหลังให้กับพระเจ้า

    (drei...zwei...eins...)
    (สาม....สอง....หนึ่ง)

    見下ろせば昏い大地 揺らめく紅い焔尾
    母の瞳に抱かれながら 奈落の底へ堕ちる……
    mioroseba kurai daichi
    yurameku akai honoo
    haha no me ni dakarenagara
    naraku no soko e ochiru
    ลึกลงไปในโลกแห่งความมืดมิด
    ในเปลวเพลิงสีแดงที่ริบหรี่
    ขณะที่ยังคงถูกโอบอุ้มด้วยนัยตาอบอุ่นของผู้เป็นแม่
    เขาจมลงสู่ก้นบึ้งของนรก

    ["sabireta mura marude hakaba ne"]
    ["Elise, douwa wa itsu datte hakaba kara hajimaru mono sa"]
    [หมู่บ้านที่ทรุดโทรมเหมือนกับสุสาน]
    [เอลิเซ่....ทุกเทพนิยายเริ่มต้นที่สุสาน]


    <何故 コノ村ニハ 今 誰モイナイノ?>
    (──其れは 昔 皆 死んじゃったからさ)
    <ジャ...何故 昔 村人 皆 死ンジャッタノ?>
    (──其れは 黒き 死の 病 のせいさ>)
    <ジャ...何故 ソノ森ノ 村ニ 母子(親子)ハイタノ?>
    (──其れは 或の【イド】が 呼んだからさ)
    <ジャ...何故 【イド】ハ 何ノ為ニ 人ヲ呼ブノ?>
    (──其れこそが 奴の本能だからさ)
    <naze kono mura ni wa ima dare mo inai no>
     -------sore wa mukashi mina shinjatta kara sa
    <ja naze mukashi murabito minna shinjatta no>
     -------- sore wa kuroki shi no yamai no sei sa
    <ja naze sono mori no mura ni oyako wa ita no>
     -------- sore wa aruno ido ga yonda kara sa
    <ja naze ido wa nan no tame ni hito o yobu no>
     --------sore koso ga yatsu no honnou da kara sa

    <ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ในหมู่บ้านนี้กัน?>
    -----นั้นเป็นเพราะทุกคนได้ตายไปหมดแล้ว
    <ทำไมทุกคนในหมู่บ้านถึงตายหมด?>
    -----นั้นเพราะมีโรคระบาดที่เรียกว่ากาฬโรค
    <แล้วทำไมแม่และลูกชายถึงยังอยู่ในหมู่บ้าน?>
    -----นั้นเพราะบ่อน้ำ เรียกขานพวกเขาทั้งสอง
    <แล้วเหตุผลที่บ่อน้ำเรียกผู้คนล่ะ?>
    -----การเรียกร้องหาผู้คน แน่นอน...นั้นคือเหตุผลที่เกิดบ่อน้ำ Id.
    (เล่นคำกับIdที่แปลว่าความอยาก/ตัญหา)

    嗚呼 墓穴掘っても 掘っても 掘っても 必死に掘っても キリがない 「悲惨な時代さ」
    嗚呼 死体と土塊(つちくれ) 死体と土塊 死体と土塊 多層菓子 「無惨な事態さ」
    aa hakaana hotte mo hotte mo hotte mo
    hisshi ni hotte mo kiri ga nai
    hisan na jidai sa
    aa shitai to tsuchikure shitai to tsuchikure
    shitai to tsuchikure Mille-feuille
    muzan na jitai sa
    อา...ขุดหลุมศพ ขุดมากขึ้นมากขึ้นไปอีก
    ไม่ว่าจะกี่หลุมที่พวกเขาขุด มันไม่เคยพอ!
    ช่างเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย!
    อา...ซากศพและธุลีดิน ซากศพและธุลีดิน
    เถาวัลย์ ซากศพและก้อนดิน
    ช่างเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย



    生命の目的は 生きる事と増エル事
    殺せと 侵せと イドは唄う
    seimei no mokuteki wa ikiru koto to fueru koto
    korose to okase to ido wa utau
    ชีวิตคือการมีอยู่ คือการเพิ่มทวี เพื่อฆ่า  เพื่อช่วงชิง

    ["fuesugite mo kekkyoku shukushu o
      koroshite shimau no ni ne"]
    ["hito to daichi no kanken to onaji sa.
      saa monogatari o tsuzukeyou ka"]
    [“เมื่อพวกเขาเยอะขึ้น(หมายถึงจำนวนประชากร)พวกเขาก็จะ
    จบลงด้วยการฆ่าโฮสต์ของพวกเขาเอง”]
    [“นั้นคือสัมพันธ์เดิมๆของมนุษย์กับผืนดิน เอาล่ะ...
    แล้ว...เราจะดำเนินเรื่องราวต่อไปหรือไม่?”]

    【仄昏き宵闇の森】
    夜露に濡れた 苔藻を踏み鳴らす 少年の
    その足取りは 哀しい程に軽く 少年を
    [der Wald der Abenddammerung]
    [ผืนป่าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดแสนเศร้า]


    ("honto ni kocchi de ii no ka")
    ("saa naa ore datte shiru ka yo")
    ("ttaku yo kimi no warui mori da ze")
    ("to! ano gaki uwasa no Thuringen no majo no gaki ja nee ka")
    ("hyo! koitsu tsuite'ru ze")
    ("na")
    “มันอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ?”
    “ถามฉันแล้วฉันจะรู้ไหมฟระ??”
    “พระเจ้า ป่านี้น่าขนลุกเป็นบ้า”
    “นั่น!  เด็กนั้่นเป็นลูกของแม่มดใช่ไหม?”
    “โอ้! ดูเหมือนเขาจะมุ่งหน้ามาทางเรานะ”
    “ใช่”

    呼び止めた声は 下卑た響きで されど彼はまだ知らない
    嗚呼 世界の作為など 世間の悪意など 何ひとつ触れぬまま育ったから
    yotsuyu ni nureta kokemo o fuminarasu
    shounen no sono ashidori wa kanashii hodo ni karuku
    shounen o yobitometa koe wa gebita hibiki de
    saredo kare wa mada shiranai
    aa sekai no sakui nado seken no akui nado
    nani hitotsu furenu mama sodatta kara
    เหยียบย่างไปในป่ายามค่ำคืน
    ในขณะที่เขากำลังเดิน
    เสียงที่หยาบคายก็ร้องเรียกเขาไว้
    อา...เด็กชายเติบโตมาโดยไม่รู้จักคำว่า “เจตนาร้าย” “อาชญากรรม”

    ("moshi bocchan")
    ("e")
    ("wareware wa kenjo-dono ni youji ga atte yatte ita no desu
      bocchan ni go-issho sasete moratte mo yoroshii desu ka")
    ("mochiron kamaimasen yo.
      sore de wa haha no moto e to go-annai itashimashou")
    ("Danke schon")
    “สวัสดี เจ้าหนู”
    “หือ?”
    “พวกเรามาพบปราชญ์หญิงผู้เก่งกาจ...แม่ของเธอ ขอพวกเราตามเธอไปที่บ้านด้วยได้ไหม”
    “ได้ครับ งั้นให้ผมเป็นคนนำทางนะครับ”
    “ขอบใจมาก”

    友達を抱いたまま→招かざる客を連れ→優しい母の元へと→そして...
    見渡せば──
    tomodachi o daita mama
    manekazaru kyaku o tsure
    yasashii haha no moto e to
    soshite miwataseba
    ถือเพื่อนตุ๊กตาของเขาเอาไว้แน่น
    เขาพาแขกไปหาผู้เป็นแม่
    และในขณะที่เขามอง......

    ("hahaue tadaima modorimashita")
    ("okaerinasai. sono otoko wa nanimono desu")
    ("bocchan gokurou-san")
    ("waaaaaa")
    ("Meru!")
    “แม่ครับผมกลับมาแล้ว”
    “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน แล้วพวกเขาเป็นใคร?”
    “เจ้าหนู ขอบใจสำหรับความช่วยเหลือนะ!”
    “เหวออออออออ”(ไม่รู้จะแปลคำว่า waaaaaaaaa!เป็นไทยยังไงดี)
    “เมล!”

    ("Therese von Ludowing ochitemo Landgraf no chisuji!
      kisama no sono minikui atama
      nido to doutai no ue ni wa kunrin dekinu mono to omoe")
    ("maji ka yo")
    ("mate mate mate mate mate! ha, hanaseba wakaru")
    ("wamekuna migurushii")
    ("tekozuraseru n ja nee yo")
    “เพราะฉันคือ Therese von Ludowin ถึงจะตายไปแล้วแต่ฉันก็ยังมีเชื้อสายLandgrafอยู่ (แอบงงกับประโยคพวกนี้)ศรีษะที่น่าเกลียดของพวกเจ้าจะต้องถูกบั่นออกจากตัว!!!”
    “จริงเหรอ?”
    “เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ ให้ ฉันอธิบายก่อน”
    “หุปปาก! น่ารังเกียจจริงๆ”
    “น่ารำคาญจริงๆ ผู้หญิงคนนี้!!”


    鳥に羽が有るように 儘 夜には唄が在る 嗚呼
    いずれ《迎暁》 染まる《薔薇の庭園》
    摂理を背に受けて──
    tori ni hane ga aru you ni mama
    yoru ni wa uta ga aru aa
    izure Guten Morgen somaru Rosen Garten
    kami o se ni ukete
     เหมือนกับที่ทำไมนกจึงมีปีก
    รัตติกาลก็มีเพลงของมัน
    อรุณสวัสดิ  และ สวนกุหลาบ
    พระเจ้าเรีกเขาจากด้านหลัง

    (drei...zwei...eins...)
    (สาม สอง หนึ่ง)

    「キミが今笑っている、眩い其の時代に。
    誰も恨まず、死せることを憾まず、必ず其処で逢おう」
    〜『光と闇の童話』
    "KIMI ga ima waratte iru mabayui sono jidai ni
     dare mo uramazu shiseru koto o uramazu
     kanarazu soko de aou"
    [hikari to yami no Maerchen]

    ในช่วงนี้ เจ้ากำลังหัวเราะเยาะ  ไม่ต้องขัดขืน
    ไม่เสียใจในการตายจาก
    จะมีการพบเจอกันใหม่อย่างแน่นอน
    [เทพนิยายของแสงสว่างและความมืด]

    The word "ido" (water well) may also be taken to mean the Latin word "id", which is used in psychology to refer to the unorganized part of the personality containing one's basic drives.

    คำว่าIdo (ภาษาญี่ปุ่น)ที่แปลว่า(บ่อน้ำ) อาจจะไปหมายถึงคำว่า ID ของละตินที่ถูกเอามาใช้ในด้านจิตวิทยา ที่ถือว่าเป็นต้่นกำเนิดของบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล
    (เปิดดิกมา มันบอกว่า ID คือ....ต้นกำเนิดของความอยาก/ตัญหาทางจิตวิทยา)

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    รู้สึกว่าเพลงนี้แปลง่ายกว่าเพลงแรกที่แปล =V=;;;(อัลบัม Shounen)
    หรือเพราชอบอัลบัมนี้เป็นทุนเดิมเลยเข้าใจก็ไม่รู้
    เกลียดไอ้พวกที่มาหาเมลตอนท้ายมาก =___= ไอ้พวกนี้แหละที่ทำเมลตกบ่อตาย(?)
    แต่ก็ยังลึกล้ำ และลึ้กซึ้ง สมเป็น revo ซังจริงๆ**ซึ้งเลยตู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×