คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องเล่า...นักดนตรีสีขาว
บันทึก นักพเนจรเล่าเรื่อง
Question&Answer; White Musician
ฉันเป็นนักเพนจรมานานแค่ไหนแล้วนะ....คำถามที่ลอยขึ้นมาในใจ....ฉํนจำไม่ได้....ก็เลยไม่ได้ตอบมัน
การเดินทางของฉันก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ
ภายในป่าลึกลับที่เป็นทางผ่าน....มีแต่ความรกร้างว่างเปล่า
ทำได้แต่เดินต่อไปเรื่อยๆเส้นทางจะถูกหรือไม่ก็ไม่อาจรู้ได้....จนในที่สุดฉันก็พบกับบ้านเล็กๆแสนน่ารักกลางป่าใหญ่ซึ้งเป็นที่อยู่ของนักดนตรีผู้โดดเดี่ยวซึ่งมีเส้นผมสีขาวสะอาด
นักดนตรีสาวผู้ซึ่งอาศัยอยู่ภายในป่าเพียงผู้เดียว แต่เธอกลับไม่เหงา
ซึ่งฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก ในส่วนลึกต้องมีความเหงาอยู่แน่...ถ้าเธอเป็นมนุษย์
ในตอนนี้ฉันได้มานั่งนึกอีกครั้งว่า....เมื่อไหรกันนะที่พวกเราเริ่มสนิทกัน
นักดนตรียิ้มแล้วพูดเสียงใส
“คำถามนั้นเธอควรจะหาคำตอบมันได้เองนะ”
แล้วฉันก็ได้รู้เบื้องหลังการอยู่อย่างโดดเดี่ยวของเธอ....นักดนตรีสาวผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถกลับถูกเพื่อนที่ร่ำเรียนดนตรีด้วยกันมาใส่ร้าย ดนตรีที่แสนบริสุทธิ์ถูกฉาบไปด้วยสีเลือดเพียงเพราะความริษยา....
นักดนตรีเป็นคนช่างเจรจาเสียเหลือเกิน เธอสงสัยใคร่รู้ไปซะทุกสิ่งผิดกับฉันที่ไท่เคยคิดจะขวนขวายหาคำตอบใดๆทั้งสิ้น แม้อย่างนั้นฉันก็ยังรับรู้ได้....เบื้องหลังรอยยิ้มกลบเกลื่อนความทุกข์ เสียงหัวเราะที่แอบซ่อนหยดน้ำตา ท่วงทำนองคำร้องแสนเศร้ายังคงถูกบรรเลงไป เมื่อไหร่ท่อนสุดท้ายของเพลงนี้จะมาถึงเสียที
ในวันที่กุหลาบป่าสีขาวเริ่มเบ่งบาน เรื่องราวแสนเศร้าก็หวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เรื่องเล่าลือแสนน่าขันของพวกชาวบ้านที่เล่ากัยปากต่อปาก “นักดนตรีปีศาจ ผู้ที่มักเล่นเพลงปลุกปีศาจอื่นๆขึ้นมาร่ายรำท่ามกลางความตายของผู้คน”
เมื่อไหร่คนพวกนี้จะตาสว่างกันได้สักทีนะ!!! ช่างงมงายไร้สาระเหลือเกิน....
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ แต่ก็นั้นแหละ....มันก็สามารถสร้างปัญหาได้อยู่ดี
พวกชาวบ้านพากันจับดาบมีดอาวุธทั้งหลายคบเพลิงโชนแสงยังคงเข้าใกล้ตัวบ้านเข้ามาเรื่อยๆ
นักดนตรีที่ไม่รู้เรื่องราวยื่นเป่าขลุ่ยซึ่งเป็นสิ่งที่เธอมักจะทำเป็นประจำทุกย่ำค่ำ ได้สังเกตุเห็นแสงสีส้มเรืองใกล้เข้ามาเสียงโหวกเหวกอย่างเกรียวกราดดังสนั่นมาจนถึงบ้าน นัยตาใสของเธอฉายแววตกใจระคนหวาดกลัว ฉันไม่ยอมอีกแล้ว....ฉันไม่อยากจะเห็นเพื่อนถูกฆ่าอีกแล้ว
“หนีกันเถอะ เม็ก!”ใช่...ยังพอมีเวลา....คราวนี้แหละจะต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้
แต่กระนั้นเธอก็ยังคงยืนนิ่ง เธอบอกให้ฉันไป....ไปเพียงคนเดียว....ทำไม....ทำไมไม่ไปกับฉันละ!!!??
“คิกๆ นั้นเป็นโจทย์ที่ฉันจะขอให้เธอช่วยตอบนะ จงมีชีวิตต่อไปเพื่อหาคำตอบนี้ให้ตัวเองละ”
ในค่ำวันนั้น....ทั้งกุหลาบป่าและเส้นผมของนักดนตรีก็ถูกยอมไปด้วยสีแดงสดของเลือด แม้ว่าพวกชาวบ้านจะเข้าใจผิดเธอมากมายขนาดนี้ทำไมถึงยังไม่โกรธ
“ผิดถูกมันไม่มีหรอก มันอยู่ที่ว่าใจของเราจะกว้างพอจะรับได้แค่ไหน”เสียงกระซิบจากสายลมแผ่วที่ฟังดูคุ้นหูแม้จะไม่เห็นเจ้าของเสียงก็ตาม
....เสียงของสาวดต้องสาป(เอลิเซ่)กับสาวเกราะน้ำเงิน(ไดน่า)....
ฉันยิ้มรับทั้งน้ำตา....แต่ขอโทษนะ ใจของฉันมันไม่กว้างพอที่จะให้อภัยคนพวกนั้นหรอก!! ไอ้พวกสารเลวที่ทำลายความสุขของฉันกับพวกเธอ!!!
“หยุดเถอะทานาทอส”
ฉันไม่แน่ใจว่าประโยคสุดท้ายที่ได้ยินเสียงของทั้งสามเป็นอะไร...ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจจนหมดสิ้น หูอื้ออึงจนฟังเสียงไม่ได้ศัพท์....แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำ.....
จาก..........
นี่เป็นหนึ่งในShort StoryZ of Moon Dog
หนึ่งในซีรี่...Forester tell
#Last story’s of Forester tell series [Forget; Forester’s tear] Will coming soon#
เรื่องสุดท้ายของซีรี่...ตอนหน้าช่วยติดตามกันด้วยนะฮร๊าฟฟฟ
ความคิดเห็น