คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เลือกหอ
“เลือกหอเหรอ มันเจ็บไหมอะ”โซเฟียพูดขึ้น
“ไม่รู้สิ”ลิลิธพูดพลางนั่งแหมะลงกับพื้นห้อง ดูเหมือนกลุ่มของพวกวิเวียนจะปรับตัวกับสถานที่ได้เร็วเกิดเหตุเพราะคนอื่นๆยังไม่กล้าจะที่จะหย่อนก้นลงนั่ง พวกนี้กลับนั่งกลิ้งนอนกลิ้งเหมือนอยู่บ้านตัวเองซะเฉย
“หอที่นี่มีกี่หอเหรอ”เซรีน่าถามผู้ที่คาดว่าจะฉลาดสุดและบ้าสุดของกลุ่ม
“มีสี่หอ เธอไม่ได้ฟังที่เวสบอกก่อนเราจะสอบไม่ได้เหรอ มี หอทิวา บ้านราตรี ปราสาทดารา เคหาสเมฆา “ลีรอยอธิบาย
ที่จริงแล้ววิเวียนก็พอจะรู้เรื่องราวของโรงเรียนนี้คราวๆจากการฟังพ่อตนบรรยายให้ฟัง หอทิวา...พวกที่อยู่หอนี้มีลักษณะเด่นเรื่องการต่อสู้ความใจร้อนและพลังที่แข็งแกร่ง มักมีปัญหากับพวกที่อยู่ บ้านราตรี หอที่มีคุณสมบัติ ของพวกค่อนข้างใจเย็นเน้นใช้ทั้งพลังหลายๆอย่างความกล้าหาญ และถนัดในหลายๆด้าน ส่วนเคาหาสเมฆา เป็นที่สิงสู่ของพวกชอบล่องลอยมีนิสัยลอยไปลอยมา เป็นกลางเสมอ เป็นพวกที่คอยไกล่เกลี่ยเวลาหอทิวากับบ้านราตรีทะเลาะกัน
ปราสาทดารา ที่ๆมีพวกหนอนหนังสืออยู่โดยทั่วไปเป็นพวกเน้นทฤษฎีไม่เน้นปฏิบัติ วิเวียนเองก็ชักอยากรู้แล้วว่าตนจะได้อยู่หอไหน ขอแค่ให้ได้อยู่กับเพื่อนๆก็พอ
“แล้วมันคัดเลือกกันยังไงอะ”คาออสถามลีรอยบ้าง
“อืม.... ฉันถามพ่อมาบ้างอะนะ เห็นว่าจะมีบ่อน้ำพุอยู่บ่อหนึ่งเขาว่าในบ่อนั้นเราจะดูไม่ออกเลยว่ามีน้ำสีอะไรอยู่ เห็นว่ามันเป็นเครื่องทดสอบว่าเราจะอยู่หอไหนนะ”ลีรอยพูด
โซเฟียมองหน้าลีรอยเล็กน้อยแล้ว เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาถูแขนตัวเองและ การกระทำของเธออยู่สายตาของลีรอยโดยตลอด
“ทำอะไรนะ”
“คือ... พอนายพี่งพาได้แล้วฉันขนลุกอะ”โซเฟียพูดตามความจริงที่เธอคิแต่ดันโดนนิ้วของลีรอยดีดเข้าที่หน้าผากอย่างจัง
“ให้มันน้อยๆหน่อยน้า”ลีรอยว่าพลางทำหน้างอนใส่
“อืมมมม นายทำหน้าแบบนี้ทำไมคิดว่าดูดีนักเหรอ”
“ไม่หรอก ฉันไม่รู้ว่าดูดีไม่ดูดีแต่อย่างน้อยฉันก็ฉลาดกว่าเธอ และสูงกว่าเธอด้วย”
“อ้ากกก นายว่าฉันเตี้ยเรอะ” โซเฟียเริ่มจะเปิดฉากตบตีกับลีรอยแต่ไอ้คำว่าเตี้ยนั้นทำให้ลีรอยซวยซ้ำซวยซ้อนเมื่อมันดันไปกระทบกับอีกสามสาวเข้าด้วย
“ไหน ลีรอย นายลองนับดูสิ มีกี่เท้า”ลิลิธยิ้มให้ลีรอยพลางทำท่าหักคอคนบ้ากล้วยตรงหน้า
“เอ.... หนึ่งสอง....สาม สี่ ห้า หก....เจ็ดแปด หึๆ ตั้งแปดข้างเลยเนอะ”วิเวียนยิ้มเหี้ยม
“เลือกเอาเลยลีรอยอยากได้รอยเท้าประดับตรงไหนบ้างเดี๋ยวจะได้ทำให้สวยๆ”เซรีน่ายิ้มรับด้วยอีกคน
“ผมผิดไปแล้วววว อย่ากระทืบผมเลยนะขอรับ”ลีรอยพูดทีเล่นทีจริงแล้ววิ่งไปหลบหลังคาออสกับโซล
“เฮ้ย อย่ามาทางนี้สิ “และแล้วคาออสกับโซลก็ได้แสดงให้เห็นถึงความรัก
เพื่อนอย่างยิ่งโดยการหลีกหนีจากการเป็นที่กำบังให้ลีรอยแถมยังล๊อคแขนเพื่อนเอาไว้อีกด้วย
“เอาเลย จัดการมันเล้ยยย”คาออสและโซลประสานเสียงกันขณะที่ล๊อคเจ้าตัวแสบไม่ให้หนีไปได้
“คาร์โล ช่วยด้วยยย”ลีรอยพูดกับเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ร่วมวงรุมอัดตน
“เฮ้! เดี๋ยวสิ!”คาร์โลพูดพลางทำให้ทุกคนหยุดชะงัก
“ฮือออ คาร์โลไอ้เพื่อนยาก”ลีรอยพูดพลางทำหน้าซึ้งเพราะคิดว่าคาร์โลจะช่วยตน
“เอาให้หนักๆเลยนะ”คาร์โลกำชับก่อนจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ไอ้เพื่อนเลว”ลีรอยคอตกทันที แล้วเตรียมรอรับ บาทาของสี่สาวที่กำลังจะประทับบนตัวแต่ก็ได้มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะไว้ซะก่อน
“ทาลอส เวสโทรเซียร์ ออกมา...”เสียงเรียกจากอีกฟากฝั่งของประตูสีน้ำเงินนั้นเอง
เจ้าของชื่อค่อยๆลุกขึ้นอย่าง งงๆแล้วค่อยๆเดินไปที่ประตูอย่างช้าๆ
“โอ้ววว เสียงเรียกจากความตายมาแล้ว”โซลพูดพลางปล่อยแขนเพื่อนให้เป็นอิสระ
“อ้ากกก ตื่นเต้นๆ”ลิลิธและโซเฟียพูดพร้อมกัน มาดที่ไม่ค่อยมีอยู่แล้วเริ่มจะหลุดไปทุกที
“เอมิว ราเวนเดอร์ .”
“วิลโก อเกรสซิส .”
“ครอส โซดิแอกค์....”
และ
“เอริค บาเรส .....”
จนในที่สุด....ท้องไส้ของพวกวิเวียนเริ่มปั่นปวนไปทุกที เมื่อไหรจะถึงพวกวิเวียนกัน! พวกวิเวียนเริ่มหงุดหงิดที่ชื่อตนอยู่ท้ายๆ จนน้ารำคาญที่จะต้องลุ้นตัวโก่งตลอดเวลา
“คาร์โล ไดมอส...”คารโลลุกขึ้น
“ถึงตาแกแล้วเหรอเนี้ย”คาออสพูดพลางตบบ่าเพื่อนเชิงให้กำลังใจ
“คาร์โล....ไม่ว่ายังไงอย่างเดินตามแสงสว่างไปนะ”โซลพูดสั่งเสียกับเพื่อน
“ฉันไม่ได้ไปตายนะเฟ้ย”คาร์โลแยกเขี้ยวใส่เพื่อนก่อนจะเดินที่ประตูสีน้ำเงินนั้น
“โชคดีนะ”โซเฟียพูด
“โอ๊สท์”คาร์โลขานรับแล้วหายไปทางด้านหลังของประตู
“มันจะตายไหมเนี้ย”
“อย่างแช่งเพื่อนสิเจ้าบ้า”
เวลาผ่านไปและผ่านไปไร้ซึ่งร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่เหลือรอดยิ่งทำให้วิเวียนชักจะใจเสีย เพื่อนๆของวิเวียนเริ่มหายไปทีละคนจนเหลืออยู่แค่วิเวียนกับคาออส
“ฮือ ทำไมมันเงียนหายกันไปอย่างนี้”วิเวียนคร่ำครวญ
“ยายบ้าอย่างเพิ่งสติแตกสิ พวกนั้นก็คงไปอยู่รวมกับพวกที่มีหอแล้วนั้นแหละ”คาออสพูดพลางส่งสายเหมือนจะรำคาญไปให้วิเวียน
“นายก็อย่าตายนะ”วิเวียนพูดพลางทำหน้าเศร้า
“ก็บอกว่าไม่ได้ไปตายไง”คาออสพูดอย่างอารมณ์เสีย
“คาออส มอร์เวน......”เสียงประกาศเรียกชื่อคาออสดังขึ้น ทำให้หลายๆคนที่ยังไม่ถูกเรียกหันเหความสนใจมายังผู้โชคดี(มั้ง) ทันที คาออสถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วลุกขึ้นเดินไปยังประตู
“ไปก่อนนะ ยายเตี้ยแล้วเจอกัน”คาออสว่าแล้วก็เดินลับเข้าไปในประตูบานเดิม
วิเวียนสูดลมหายใจลึกๆสองสามรอบพลางรอเวลาของตนบ้างจนกระทั่งเสียงนรกก็ดังขึ้นและเสียงนั้นกำลังเรียกชื่อของเธออยู่ วิเวียนเดินเข้ายังปากทางไปยมโลก(เรอะ)อย่างช้าๆเหมือนจะพยายามถ่วงเวลา วิ่งเวียนกลั้นหายใจแล้วเดินเข้า และสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือเธอยืนอยู่บนเวทีขนาดใหญ่โดยมีสายตานับพันคู่จ้องมองอยู่ แล้วเธอก็เบนสายตากลับมาบนแทนพิธียักษ์หรือเรียกง่ายๆว่าเวที ที่มีบ่อน้ำขนาดกลางตั้งอยู่แท่บจะกลางเวที และก็มีโต๊ะยาววางอยู่ข้างๆไม่ห่างไปจากอ่างน้ำนั่นนัก มีคนนั่งอยู่ตรงนั้น มีทั้งอมิเลียที่เป็นอาจารย์และป้าของลีรอย แซรีส และอีกหลายๆคนที่คาดว่าเป็นอาจารย์ แถมยังมีเวสกับพรรคพวกอีกสี่พระหน่อยืนจ้องเธออีกด้วย
วิเวียนมองซ้ายขวาเลิกลักไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจนกระทั่งเวส เดินเข้ากระซิบข้างๆ
“เดินไปที่บ่อน้ำเลย เอามือวักน้ำขึ้นมานะ สู้ๆล่ะวิเวียน”เวสขยิบตาให้วิเวียนก่อนจะถอยหลังกลับเข้าที่
วิเวียนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วเดินตัวเกร็งไปที่หน้าอ่างน้ำที่มีของเหลวเจ้าปัญหาอยู่ภายในอ่างน้ำนั้นมีน้ำสีสันต่างๆปนเปกันไปหมดเหมือนจิตกรเอกนำสีแสนแพงของตนมาเทละเลงรวมกันจนแยกไม่ออก
“ตะ ... ตายเป็นตาย”
วิเวียนพูดพลางเอามือจุ่มลงไปในน้ำ ถ้ามันไม่ยอมขึ้นมาหละ ถ้าฉันไม่ได้อยู่หอไหนสักหอล่ะ วิเวียนคิดอย่างเป็นกังวลมือที่จุ่มลงไปในน้ำชาจนไร้ความรู้สึก ความรู้สึกเย็นเยียบราวกับเอามือทาบบนหิมะแผ่กระจายจากฝ่ามือไปทั่วตัว
วิเวียนตัวสั่นสะท้านด้วยความเย็นที่สัมผัสได้แต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าจะชักมือออกกลางคัน จนกันทั่งน้ำภายในอ่างเริ่มหมุนวนทวนเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ ฉับพลับความรู้สึกอุ่นวาบท่ามกลางความเย็นเยียบก็แผ่เข้ามาวิเวียนรู้สึกได้ถึงของแข็งบางอยู่ที่อยู่ในฝ่ามือ วิเวียนสูดหายใจเรียกความมั่นใจให้กับตนอีกครั้งก่อนจะชักมือกลับขึ้นมาจากน้ำ ภายในฝ่ามือเล็กของร่างบางปรากฎเป็นผลึกคริสตัลสีม่วงอ่อนขนาดพอๆกับลูกโอ๊คอยู่
“บ้านราตรี!!!”เสียงของเวสตะโกนขึ้นก้อง เล่นเอาวิเวียนสะดุ้งเฮือก ส่วน ชายอีกคนที่ยืนอยู่กับเวสก็ก้าวออกมา เขามีผมสีดำสนิทและตาสีน้ำเงินเข้ม สวมชุดเครื่องแบบคล้ายๆกับเวสแต่เป็นสีดำขลิบม่วงแทน
“ตามมาสิ ...”เขาพูดพลางผายมือให้ร่างบางเดินตาม วิเวียนจึงเดินตามร่างสูงลงมาจากเวที
“ฉันชื่อมิดไนท์ เป็นผู้พิทักษ์ของบ้านราตรียินดีที่ได้รู้จัก”เจ้าของตาสีน้ำเงินเข้มพูดโดยยังคงตีหน้านิ่งสนิท วิเวียนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“แล้ว เพื่อนๆของฉันล่ะ”วิเวียนเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
“เธอคิดว่าฉันจะรู้ว่าใครบ้างที่เป็นเพื่อนเธองั้นเหรอ ไม่ได้มีนักเรียนแค่สิบคนนะ”มิดไนท์ว่าพลางเดินนำวิเวียนมาที่โต๊ะตัวยาวกลุ่มหนึ่งที่มีผ้าปูสีม่วงอยู่ ซึ่งวิเวียนก็สังเกตุว่าภายในห้องแห่งนี้มีกลุ่มโต๊ะอยู่ สี่สี คือสีม่วง สีเหลืองทอง สีแดง และสีฟ้า แต่ที่ทำให้วิเวียนรู้สึกดีใจจนแสดงอาการดี้ด้าออกนอกหน้าก็คือเธอเห็น ลีรอยกำลังเอาหอกที่ควรจะประดับอยู่ข้างโล่ตรงผนังห้องมาผูกธงรูปกล้วยแล้วโบกไปโบกมาเหมือนจะบอกให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า เขาอยู่ที่นี่! แถมข้างๆลีรอยก็ยังมีเพื่อนๆที่เหลืออีกด้วย
“เย้....ได้อยู่หอเดียวกันหมดเลย”เซรีน่าพูดพลางกระโดดเข้ากอดวิเวียน
“ดวงดีจริงๆแฮะๆลิลิธยิ้มแล้วตบไหล่วิเวียนเบาๆ
“ครบทีมเลย “ลีรอยฉีกยิ้มร่า
“อานะ”
มิดไนท์มองพวกวิเวียนเฮฮากันสักพักแล้วจึง เดินกลับขึ้นไปบนเวทีแล้วไปยืนข้างเวสอีกครั้ง เมื่อไร้ซึ่งคนที่ต้องเลือกหอแล้วก็เริ่มมีเสียงดังเซ็งแซ่ ดังขึ้นเป็นละรอกคลื่น
“อะแฮ่ม! นักเรียนทุกคนเงีบยหน่อย”เสียงทุ้มนุ่มและเปี่ยมไปด้วยอำนาจดังขึ้น ทำให้เสียงต่างๆในห้องโถงเงียบลงราวกับนัดหมายกันไว้ ทุกคนต่างเบนความสนใจไปยังเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่กลางเวที โดยยืนอยู่ข้างหลังบ่อน้ำที่คอยคัดเลือกนักเรียน
“ฉันมีชื่อว่ากราเบรียล เอรากอน เป็นอาจารย์ใหญ่ของที่นี่ ที่นี่เป็รโรงเรียนที่เราจะสอนนักเรียนทุกคนให้เอาตัวรอด มีความชำนาญในสาขาต่างๆ และขอให้รู้ในที่นี้ว่าเราจะไม่มีการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์เด็จขาด เพราะนี่จะเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของพวกเธอ อย่างที่ฉันเห็นอยู่ว่าปีนี้นักเรียนรุ่นใหม่ที่สมัครเข้ามานั้น มีทั้งที่เป็นมนุษย์ พราย เอลฟ์ ก๊อบลิน และอีกหลายเผ่าพันธุ์ ดังนั้นฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่าอยากจะให้ทุกคนปรองดองกันไว้ เป็นดีที่สุด และถ้าเราพบว่ามีเหตุวิวาทกันจนบาดเจ็บเกินกว่าเหตุ พวกผู้พิทักษ์จะเป็นคนจัดการเอง” กราเบรียนผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนพูดพลางกวาดตามคมดุจเหยี่ยวไปรอบๆห้อง แม้ริ้วรอยบนใบหน้าจะฉายให้เห็นว่าเขามีชีวิตมายืนยาวขนาดไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้อำนาจในตัวเขาร่อยหลอลงไปได้เลย
สิ้นคำของอาจารย์ใหญ่เวสก็ก้าวออกมา พร้อยรอยยิ้มพริมใจเขา ก้าวออกมาพร้อมๆกับเพื่อนๆของเขาอีกสี่คน
“สวัสดีเจ้าหนูทั้งหลาย พวกนายคงจะคุ้นๆหน้าพวกเราดีโดยเฉพาะฉันที่ชอบเจ๋อไปทุกงาน”เวสพูดอย่างติดตลก
“แต่ พวกที่เป็นเด็กใหม่คงจะไม่คุ้นสี่คนข้างๆฉันใช่ไหม งั้นเราจะมาแนะนำตัวกันอีกรอบก็แล้วกัน ไอ้พวกปีสามปีสี่ตรงนั้นนะ เลิกทำหน้าเซ็งเลยนะ อย่าคิดว่าฉันไม่เห็น”เวสพูดพลางเอามือชี้ไปทางที่พวกรุ่นพี่ปีสามและปีสี่นั่งอยู่
“งั้นเริ่มจากฉันก่อนก็แล้วกัน ฉัน...เวส เป็นผู้พิทักษ์ปราสาทกลางใครที่ทำเรื่องงามไส้ในปราสาทรับรองเจอฉันแน่”เวสยิ้มแต่คราวนี้รอยยิ้มเป็นรอยยิ้มที่เรียกว่าทำเอาหลายๆคนหนาวไปตามๆกันเพราะรังสีอำมหิตที่แอบแผ่ออกมาโดยเจตนาจะข่มขู่ของเจ้าตัว
“ฉัน มิดไนท์ เป็นผู้พิทักษ์บ้านราตรี”มิดไนท์พูด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด
“คอมเมต ผู้พิทักษ์ปราสาทดาราคร้าบบบบ”ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆมิดไนท์พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริ่ง เขาดูจะเป็นพวกขี้เล่นที่สุดในหมู่ผู้พิทักษ์ ผมสีทองเป็นประกายบวกกับตาคมสีฟ้าทำให้เขาดูสดใสยิ่งกว่าชาวบ้านจนหน้าหมั่นไส้
“ส่วนฉันก็ เดย์ไลท์ ผู้พิทักษ์หอทิวา”ชายอีกคนที่หน้าตาดีอีกคนที่มีผมสีดำและตาสีแดงพูดขึ้น เขาชูสองนิ้วให้กับพวกนักเรียนทั้งหลาย
“ส่วนฉันก็ คราว...ฮ่าว~~~เป็นผู้พิทักษ์ ฮ่าวว...เคหาสเมฆา”ผู้ชายอีกคนที่มีผมและตาสีชาพูดขึ้นดวงหน้าหล่อเหลามีท่าทางสะลึมสะลือตลอดเวลาแถมยังพูดไปหาวไปอีกด้วย
“ส่วนเรื่องแนะนำตัวอาจารย์คงจะไม่ต้องไว้ไปทำความรู้จักกันตอน จะเรียนก็แล้วกันเดี๋ยวพซกปีสามปีสี่ทั้งหลายจะหลับตายคาโต๊ะก่อนได้กินข้าว”เวสยิ้มร่าก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆโต๊ะที่พวกอาจารย์นั่งอยู่
“ถ้าอย่างนั้น ก็ทานอาหารกันได้แล้ว พอทุกคนอิ่มแล้วพวกหัวหน้าหอปีสี่จะพากลับหอเอง”
กาเบรียลพูด เมื่อสิ้นคำจานใส่อาหารหลากหลายอย่างก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะตัวยาวที่พวกนักเรียนนั่ง
“ว้าวววว สุดยอด”วิเวียนพูดพลางทำตาวิบวับ
“หลุมดำเปิดอีกแล้วสิท่า”คาออสมองวิเวียนอย่างหน่ายๆแล้วตัดเค้กช๊อกโกแลตมาวางไว้หน้าวิเวียน
“อะ “คาออสพูดพลางดันจานเค้กเข้ามาใกล้ๆวิเวียนอีกนิด
“หืม แต๊งค์กิวว่าแต่เอามาให้ฉันทำไม นายไม่กินมั่งละ”วิเวียนพูดอย่างสงสัยแต่ตาก็ยังไม่ละไปจากขนมเค้กตรงหน้า
“ก็เห็นตอนกลางวันเธอเขมือบแต่ของหวานๆ คิดว่าท่าจะชอบ”คาออสตอบหน้าตาย
“เหรอ งั้นนายก็กินดิ”วิเวียนเอานิ้วชี้ไปที่จานเค้กอีกจาน
“ไม่ล่ะ พอดีไม่ค่อยปลื้มเท่าไร”คาออสว่าพลางส่ายหน้าไปมาแถมยังทำท่าเหมือนสยองของหวานๆเสียเต็มประดา
“งั้น.....เจ้เหมานะ!”วิเวียนพูดแล้วกวาดเอาเค้กที่คาออสเขี่ยมาให้บวกกับของตนเข้าปากอย่างรวดเร็วจบ เล่นเอาคาออสมองตามไม่ทันเลย
“กินเข้าไปได้ไงฟะ”คาออสบ่นพึมพัมกับตนเบาๆแต่มีรึ...ที่หูนรกอย่างวิเวียนจะไม่ได้ยิน
“ก็กินเข้าไปทางปากเนี้ยแหละ ฉันคงไม่บ้ากินทางสะดือหรอกนะ”วิเวียนว่าพลางหันไปจ้องคุ้กกี้ในจานของเซรีน่า
“เฮ้ อย่ามามองนะฉันก็กินเหมือนกัน”เซรีน่าว่าแล้วรีบหยิบคุ้กกี้ของตนใส่ปากกันไม่ให้เพื่อนสาวข้างตัวฉกไปได้
“ใครสั่งใครสอนให้พวกเธอกินของหวานก่อนอาหารกันเนี้ย”คาร์โลพูดอย่างสงสัยเพราะปกติเขาต้องกินข้าวก่อนสิแล้วค่อย ตามด้วยของหวาน ไม่งั้นกินข้าวไม่ลงชัวร์
“ความพอใจ”วิเวียนและเซรีน่าพูดแทบจะพร้อมกัน
“ช่างเถอะ ฉันก็หิวจนจะกินหัวคนได้อยู่แล้ว”คาร์โลพูดพลางหยิบขนมปังปิ้งขึ้นมาเตรียมสวาปามบ้างแต่ยังไม่ทันจะเข้าปากขนมปังก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เฮ้ย หายไปไหนเนี้ย”คาร์โลเกาหัวตัวเองอย่าง สงสัยแล้วก็เหลือไปเห็นเซรีน่ากำลังกลั้นหัวเราะอยู่
“เธอเอาไปใช่ไหมเนี้ย”
“ก็ฉันหยิบในจานใหญ่ไม่ถึงอะ”เซรีน่าว่า ทำให้คาร์โลต้องหันมองตัวของร่างบางแล้วหันกลับไปมองจานใหญ่ที่ตั้งไว้รอคนมาหยิบเอง สลับไปมาและคำนวนระยะทางของแขนร่างบางแล้วคาดว่าเอื่อมไม่ถึงจริงๆ คาร์โลเลยเลื่อนจานใหญ่เข้ามาใกล้ๆพอในระยะที่คิดว่าร่างบางน่าจะหยิบได้ แล้วเขาก็หันมาสนใจแอปเปิ้ลของตนแทนแล้วคราวนี้มันก็ปลิวหายไปกับสายลมอีกรอบ
“เฮ้!” คาร์โลหันควับมามองเซรีน่าแล้วฏพบว่าเซรีน่ากำลังกัดแอปเปิ้ลที่ตอนแรกเขาเป็นคนหยิบอยู่
“อ้อ! อีกอย่างหนึ่งนะ ฉันถือคติแย่งข้าวเพื่อนกินอร่อยที่สุด ฮ่าๆๆ”เซรีน่าว่าพลางกัดแอปเปิ้ลต่อ
“แล้วฉันจะได้กินไหมเนี้ยยย”คาร์โลคร่ำครวญเล็กน้อย และแล้วสงครามแย่งชิงอาหารระหว่างคาร์โลกับเซรีน่าก็เริ่มขึ้น....
ขณะที่หลายๆคนกำลังง่วนกับการกิน(เห็นได้ชัดว่าเห็นแก่กินกันเกื่อบทุกคน)แก้วน้ำก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกๆคน บางคนก็ได้น้ำเปล่า บ้างก็กาแฟ น้ำผลไม้ โกโก้ ชาและเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่ใครจะรู้จัก ขณะที่ลิลิธกำลังเหงื่อตกกับแก้วน้ำของตน
“.....”ลิลิธจ้องเขม็งไปที่แก้วของตน สลับกับมองหน้าโซล
“.....”โซลขมวดคิ้วดูอากการของเพื่อนอย่างสงสัย
“.....”ลิลิธยังคงจ้องเขม็งไปที่แก้วของตนสลับกับมองหน้าโซล
“.....”โซลมองแก้วน้ำตัวเองสลับกับแก้วของลิลิธอย่าง งงๆ ว่ามีอะไรทำให้เจ้าของตาสองสีต้องจ้องเขม็งขนาดนั้น
“ในแก้วนาย...เป็นน้ำอะไร”ลิลิธพูดด้วยน้ำเสียงเครียด
“เอิม...โกโก้ละมั้ง”โซลตอบ
“แล้ว...ไอ้ที่อยู่ในแก้วฉันมันคืออะ...อะไร”ลิลิธพูดด้วยน้ำเสียงหวาดผวาเล็กน้อย
“ไหน” โวลชะโงกหน้าดูของเหลวในแก้วของลิลิธ ของเหลวนั้นมีสีดำแทบจะสนิทแถมยังส่งกลิ่นคาเฟอีนโชยออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“กาแฟดำนะสิ ไม่เคยกินหรือไง”
“ม่ายยยย เอามันออกไป”ลิลิธว่าพลางเอาแก้วของตนมาสลับกับของโซลอย่างรวดเร็ว
“เฮ้!”
“ฉันไม่กินมันหรอกนะ ไอ้น้ำดำๆสีเหมือนถ่านรสชาติอุบาทว์นั้นนะ”ลิลิธว่าพลางทำท่าจะกอดแก้วโกโก้ที่เพิ่งสลับกับโซล
“มันเลวร้ายขนาดนั้นเลย เหรอ”โซลส่ายหน้าแล้วยกกาแฟดำขึ้นดื่มอย่างสบายๆผิดกับลิลิธที่ทำหน้าเหมือนโซลกินยาพิษเข้าไปก็ไม่ปาน
“กินเข้าไปได้ ขมจะตาย”ลิลิธบ่นกับตนแล้วดื่มโกโก้ในแก้วเข้าไป
ในขณะที่ชาวบ้านกำลังกิน ลีรอยกับโซเฟียก็กำลังเถียงกัน.....
“กล้วยมันไม่ดีตรงไหนฮะ”ลีรอยพูด
“ก็ไม่ดีตรงที่นายชอบกินเนี้ยแหละ”
“ออกจะอร่อย”
“ถ้ากินแล้วฉลาดเหมือนนายก็จะกิน”โซเฟียพูดแล้วเชิดปากขึ้นเล็กน้อย
“ถึงกินไปเธอคงไม่ฉลาดขึ้นหรอก “
“นายว่าไงนะ”
“ก็หวังแต่กินอะไรแล้วให้ฉลาด แต่ไม่อ่านหนังสือน่ะมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ”ทันทีที่คนบ้ากล้วยแต่ฉลาดเวอร์พูด คำพูดพวกนั้นก็แทงฉึกเข้ากลางหัวของโซเฟียอย่างจัง
“ม่ายยยย ไม่มีทางที่ฉันจะไม่หลับตอนที่อ่านหนังสือหรอก แค่ห้าบรรทัดก็ง่วงจะตายอยู่แล้ว”โซเฟียพูดพลางส่ายหัวไปมา
“ก็หัดถ่างตาอ่านให้ครบหน้าซะบ้างสิ”ลีรอบพูดพลางหยิบกล้วยออกมากินต่อ
“เอาปะ”ลีรอยยื่อนกล้วยอีกลูกมาให้โซเฟีย
“ก็บอกว่าไม่ไง!”
“แกอย่าเอากลัวมาชี้หน้าชาวบ้านสิเฟ้ย”คาร์โลปัดกล้วยที่ลีรอยพยายามยัดเยียดให้ชาวบ้านกินออก
“งั้นแกก็กินดิ”
“ก็บอกว่าไม่ไงเฟ้ย”
“แล้วฉันจะได้กินไหมเนี้ย”โซเฟียคร่ำครวน
“เธอก็มานั่งกินตรงนี้สิ จะไปอยู่กลางม๊อบทำไม”ลิลิธพูดแล้วเอามือตบเก้าอี้ข้างๆตัว
“เออ... ก็จริงแฮะ”
“ว่าแต่ เรารีบๆกินเถอะฉันอยากเห็นสภาพหอของเราเต็มทีแล้ว”เซรีน่าว่าพลางรีบกระดกนมเหยือกสุดท้ายลงคอไป
“เออๆ”
*************************************************
อุโฮะ สวัสดีขอรับหลังจากไม่เล่นเด็กดีมานานแสนล้านปีในที่สุดเราก็อัฟสักที
ถึงแม้จะช้าไปหน่อยแต่ก็มาอัฟแล้วนะ***
ขอบคุณเพื่อนๆที่อุส่าติดตามแต่ช่วงนี้เราคงไม่ค่อยได้เล่นคอมเท่าไหรจะสอบต่อม.4แล้ว
T^T
แต่....ชาวบ้านเค้า...เครียด! เครียดนักเรอะ ยัยมูนด๊อกไม่เครียดเฟ้ย^O^
อ้อ ลืมบอกกกก
เรามีเรื่องใหม่ในหัวอีกแล้วอะ-*-(อินี่ เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์เลยนะ)
ช่วยติดตามด้วยก็ดีนะ^^
"Your dream ฝันของเธอโลกของฉัน"
ความคิดเห็น