คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : คาดไม่ถึง2
คาออสมองเห็นเจ้าตัวหัวหน้ากำลังยื่นอยู่โดยรายล้อมไปด้วยเหล่าลูกสมุน
เขายิ้มเหยียดเล็กน้อยก่อนจะซุ่มคอยดูสัญญาณจากเพื่อน ไม่นานอยู่ๆก็มีกล้วยถูกโยนขึ้นบนฟ้าเป็นสัญญาณเริ่มวันใหม่เอ้ย!ไม่ใช่ เริ่มต้นแผนการ คาออสเมื่อเห็นสัญญาณประหลาดๆจากเพื่อนของเขา เขา จึงเดินออกมาประจันหน้ากับจิ้งจอกทมิฬตัวขนาดบิกบึมที่สุดที่เขาเคยเจอ
“เฮ เจ้าจิ้งจอกงี่เง่า แกเป็นตุ๊ดละสิถึงเอาแต่หดหัวอยู่หลังพวกพ้องนะ”คาออสพูดยั้วอารมณ์ใส่หมาจิ้งจอก
“กรรรรรรรรร์”มันส่งเสียงคำรามในลำคอและจ้องมองคาออสด้วยสายตาไม่พอใจ
“ทำไม โกรธเหรอแน่จริงก็เข้ามาเด่~”คาออสพูดพลางทำทำหน้าตายียวนกวนประสาทใส่
“กรรรรรรรรร์!!!”มันคำรามก้องก่อนจะพุ่งเข้าหาเจ้าที่บังอาจมายั่วโมโหมัน แต่ขณะที่มันกำลังสนใจคาออสที่กำลังกวนประสาทมันอย่างชำนาญการ(แสดงว่ากวนคนอื่นบ่อย ความสามรพิเศษเลยมั้งเนี้ย) ความเจ็บปวดจากการถูกของมีคมเฉือนเนื้อหนังจากด้านหลังก็เกิดขึ้น
“เฮ้ อย่างสนใจเจ้านั้นคนเดียวสิ “โซลยิ้มยียวนกวนประสาทขณะที่ยกดาบที่เลอะเลือดของจิ้งจอกขึ้นพาดบ่า เจ้าจิ้งจอกส่ายหัวด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด มันกระทืบเท้าหน้าข้างซ้ายของมันครั้งหนึ่งก่อนที่จะมีเงาสีดำแผ่กระจายไปทั่วพื้นและเริ่มเชื่อมต่อเป็นลวดลาย
“มันกำลังเรียกวิญญาณแห่งความมืดมา อย่าให้มันทำได้นะ”ลีรอยตะโกนขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่จิ้งจอกทมิฬกำลังจะทำ
“แล้วจะหยุดมันยังไงล่ะฟะ”คาออสบ่น
“อย่าให้เงาดำนั้นมันเชื่อมต่อกันเป็นวงเวทย์ได้ไง”ลีรอยพูดอย่างออกแนวจะรำคาญเล็กน้อย
“งั้นก็ได้เล้ยย”คาออสพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะประชดเพื่อนเล็กน้อย
เขาพึมพัมกับตนเองเบาๆ ก่อนที่จะปักดาบที่ตนถืออยู่ไปบนเงาดำนั้น ทำให้เกิดไฟสีแดงฉานลุกพรึบขึ้นมาบนเงาสีดำนั้น
“นั้นแหละ อยู่นิ่งๆตรงนั้นแหละ”ลีรอยพึมพัมกับตนขณะที่ใช้ดาบสัมฤทธิ์ของตนเฉือนนิ้วตัวเองอย่างเร่งรีบเล็กน้อย เลือดสีแดงเอ่อออกมาจากรอยแผลลีรอยพูดพึมพัมอักษรเวทย์ออกมารวดเดียวจบ แล้วหยดเลือดของตนลงบนพื้นดิน หลังจากเลือดหยดสุดท้ายหยดลงบนพื้นดินก็เกิดวงเวทย์ขนาดใหญ่ส่องแสงสีเขียวอ่อนเรืองๆปรากฎขึ้นบนพื้นล้อมรอบตัวจิ้งจอกทมิฬขนาดใหญ่ทที่คิดว่าเป็นตัวหัวหน้า แต่มันเองก็รู้สึกตัวเมื่อเห็นวงเวทย์สีเขียวมันตั้งท่าจะหลบออกจากวงเวทย์ที่ลีรอยสร้างขึ้น ฉึก! เมื่อมันพยายามจะกระโดดหลบวงเวทย์ก็มีธนูซึ่งถูกยิงมาจากคาร์โลที่คอยดูสถานการอยู่ด้านบนกิ่งไม้
“ไม่ให้หนีหรอกไอ้งี่เง่า”คาร์โลเหยียดยิ้มแล้วยิงธนูอีกดอกใส่เจ้าตัวการที่ทำให้เขาต้องมาสู้ตั้งแต่วันแรกในการสอบ
หมาจิ้งจอกกระโดดหลบธนูของคาร์โลได้อย่างง่ายๆทำให้มันเกิดความลำพองใจคิดว่าธนูพวกนี้คงไม่มีพิษสงอะไร แต่ที่จริงแล้วเจ้าคนยิงนะตั้งใจไม่ให้ยิงโดนตั้งแต่แรก ธนูนี้ไม่ได้ใช้ในการสร้างบาดแผล แต่เขาได้ใส่เวทย์ผนึกเอาไว้ในแต่ละดอกด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็ถูกเวทย์ผนึกล้อมไว้ทุกทิศซะแล้ว แต่แค่ผนึกจะทำอะไรมันได้เมื่อกี้มันยังทำลายผนึกของผู้พิทักษ์โรงเรียนมาแล้วแค่มันใช้เวลาเล็กน้อยมันก็สามารถทำลายได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้กลับไม่มีเวลาให้มันได้ทำลายผนึกของคาร์โลเพราะ ตอนนี้วงเวทย์ของลีรอยริ่มจะออกฤทธิ์แล้ว
“กรรรรรรรร์”มันร้องอย่างตกใจเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะโดนเวทย์ชั้นสูงเล่นงานเข้า ที่พวกคาออสคอยกวนโมโหและถ่วงเวลาไว้เพราะให้ลีรอยเตรียมเวทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์นั้นเอง
“คนอื่นๆนะหาที่เกาะไว้ดีๆฉันเตือนแล้วนะ”โซลพูดขึ้นทำให้พวกที่กำลังสู้กับเหล่าลูกสมุนจิ้งจอกหยุดชงักแล้วทำตามที่โซลพูดโดยหาที่เกาะหรือเอาดาบปักดินไว้เพื่อยึดเหนี่ยวทันที
วงเวทย์ของลีรอยเลือนหายแล้วกลับกลายเป็นช่องมิติสีดำมืดที่มีแรงดึงดูดมหาศาลลมกระโชกพัดเข้าไปในหลุมดำนั้นทำให้พวกจิ้งจอกทั้งหลายโดนพัดเข้าไปในนั้น แม้แต่เจ้าตัวหัวหน้าด้วย เวทย์ที่ลีรอยใช้คือเวทย์ชั้นสูงเป็นการอันเชิญหลุมดำมันจะดูดทุกอย่างแม้แต่คนใช้ถ้าไม่ระวัง เป็นเวทย์ที่ต้องใช้เวลาทำให้ต้องมีตัวล่อเล็กน้อย ลีรอยกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ตนวางไว้ แม้พวกเขาจะเจ็บตัวกันเล็กน้อยแต่ก็คงเจ็บตัวน้อยกว่าพวกที่โดนหามไปหาโซเฟียละนะ
เมื่อหลุมดำดูดพวกจิ้งจอกทมิฬไปจนหมดแล้วรอยแยกสีดำนั้นก็ค่อยเล็กลงๆเรื่อยๆจนหายไปแล้วปรากฎเป็นลูกแก้วขนาดพอดีมือสีใสออกมาแทน ภายในมีพวกจิ้งจอกทมิฬตัวจิ๋วอยู่ข้างในที่พยายามจะออกมาจากที่กักขังให้ได้
“เท่านี้ก็สิ้นฤทธิ์”คาร์โลพูดพลางเอามือเคาะที่ลูกแก้วเหมือนจะแหย่พวกที่ถูกขังอยู่ข้างใน
“คราวนี้ก็ถึงเวลาเอาเรื่องคนแล้ว”ลีรอยฉีกยิ้มร่าเริงแต่ก็สังเกตุได้ว่าเส้นอารมณ์ของเจ้าตัวยังคงแกว่งอยู่เพราะเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กน้อย
“ใช่ เล่นเอาแย่เลยนะ หึๆๆ”คาออสหัวเราะเสียงเย็น
“นั้นสินะ”โซลยิ้มเหี้ยม
“เล่นอย่างงี้มันแรงไปไหมครับครู”คาร์โลพูดยิ้มๆทั้งที่ในใจอยากฆ่าคนที่จะเป็นว่าที่อาจารย์ของตน
สิ้นคำของทั้งสี่พวกที่เหลือก็ทำหน้าเลิกลักอย่างสงสัยว่าพวกนี้กำลังพูดอะไรกันแล้วก็ต้อง งงมากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าแซรีสกับเวสเดินออกมาจากกระท่อมสังเกตุการณ์ของเวสที่พวกคาออสนอนหมกอยู่เมื่อคืน แถมไม่มีแม้แต่รอยแมวข่วนด้วยซ้ำ
“ไอ้เจ้าจิ้งจอกพวกนี้เป็นฝีมืออาจารย์ใช่ไหมครับ”ลีรอบชูลูกแก้วที่เขาขังพวกจิ้งจอกทมิฬไว้
“หือ”แซรีสทำหน้าเอ๋อเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ไอ้เจ้าพวกนี้เป็นตุ๊กตาเวทย์ที่ใส่จิตสำนึกของสัตว์ร้ายลงไป มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริงๆ”คาร์โมองว่าที่อาจารย์อย่างเคืองๆ
“เหรอ แล้วรู้ได้ยังไงละ”แซรีสยิ้มกริ่มอย่างถูกใจที่ถูกจับได้
“มันไม่มีลมหายใจ เสียงหัวใจก็ไม่มี แต่ดันมีเลือดมีเนื้อแสดงว่าถูกคนที่มีพลังเวทย์สูงเป็นคนสร้างขึ้นมา “โซลพูดแทนลีรอย
“มันถึงได้มาไม่รู้จักหมดไง” เมื่อคาออสพูดก็ยิ่งทำให้คนที่เหลือเดินทางเข้าถึงบางอ้อและเริ่มส่งสายตาตำหนิมาที่อาจารย์ผู้สอนวิชาศาสตร์การรบกันใหญ่
“เหอๆๆ แซรีสฉันบอกแล้วว่าปีนี้คมในฝักมันเยอะ”เวสเอามือตบไหล่แซรีสเบาๆเป็นเชิงหยอก
“อืมมม ก็จริงมีแววหลายคนเลยด้วยสิ”แซรีสพูด
“อาจารย์อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ ทำไมเล่ยแรงอย่างนี้พวกผู้หญิงก็มีบาดเจ็บเป็นแถบ”คาร์โลพูดอย่างเอือมๆ
“เอาน่า ก่อนอื่นไปตามพวกที่รักษาคนอยู่ ทั้งคนเจ็บแล้วก็คนที่หลบอยู่ในปราสาทด้วยออกมาตรงนี้ให้หมด”แซรีสพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆเต็มไปด้วยอำนาจ
คำพูดของแซรีสทำให้ทุกคนมองหน้ากันเลิกลักก่อนจะมีผู้ชายสองสามคนวิ่งไปตามพวกที่เหลือ ไม่กี่นาทีต่อมาฝูง(?)นักเรียนทั้งหลายก็รีบกระวีกระวาดกรูกันเข้ามาที่ๆพวกคาออสยืนเขม่นครูตัวเองอยู่
“เกิดไรขึ้นเหรอๆ”เซรีน่าพูดด้วยความกระตือรือร้นแล้วมองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย
“จะรู้ไหมฉันยังเอ๋ออยู่เลย”คาร์โลแล้วขมวดคิ้วเป็นปม
“เอาละ ในเมื่อมาครบแล้ว.....ฉันขอบอกเลยว่า....พวกที่ออกมาสู้กับตุ๊กตาจิ้งจอกทมิฬของฉัน......”แซรีสพูดพลางกวาดมองไปรอบๆแบบรวมๆ
“สอบผ่าน!”เสียงทุ้มของแซรีสก้องกังวานไปทุกโสตประสาทของเหล่าผู้เข้าสอบ
“หา!?”เสียงของมนุษย์หลายๆคนอุทานขึ้นอย่างมึนงง เมื่อได้ยินคำพูดของว่าที่อาจารย์
“เหตุการณ์เมื่อกี้ทั้งหมดเป็นเพียงการสอบเท่านั้น”เวสพูดยิ้มๆแล้วตัวเริ่มสั่นเนื่องจากกลั้นหัวเราะที่เห็นหลายๆคนทำหน้าเอ๋อรับประทาน
“ว่าไงน้า~~~~”
“ก็อย่างว่าแหละ เมื่อกี้คือการสอบ คนที่ออกมาร่วมสู้สอบผ่านทั้งหมดสองร้อยสิบสองคนจากสี่ร้อยสอบผ่านทั้งหมด! ส่วนพวกที่ไม่มีความกล้าที่จะรับมือกับสถานการเฉพาะหน้าแบบนี้แล้วหลบอยู่ในปราสาทสอบตกทั้งหมด เสียใจด้วย”แซรีสพูดโดยที่ไม่แสดงถึงสีหน้าเสียใจกับผู้สอบตกเลยสักนิด
“เพราะงั้นรีบๆกับบ้านไปได้แล้วไป๋”แซรีสพูดเหมือนเป็นการไล่ทางอ้อม
“ฉันยอมรับไม่ได้หรอกนะไอ้การตัดสินแบบนี้เนี้ย” เสียงห้าวๆของหนึ่งในผู้สมัครสอบที่เข้าไปหลบในปราสาทพูดขึ้น ทำให้แซรีสหันไปยิ้มเย็นใส่
“ปีนี้ หน้าที่ในการสอบด่านสุดท้ายของที่นี่ก็คือฉัน วิธีของฉัน การตัดสินของฉัน ถ้าหากมีปัญหาก็มาคุยกับฉันตรงนี้ อีกอย่างอาจารย์ใหญ่ไม่ได้ให้ฉันสาบานกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ซะด้วยสิว่าจะไม่ให้มีคนตายในการสอบ หึๆ”
สิ้นคำพูดของอาจารย์วิชาศาสตร์การต่อสู้ก็ทำให้เหล่าผู้สอบตกที่ตอนแรกคิดจะหาเรื่องกลับหน้าซีดลงไปตามๆกัน
“เอาละๆ อย่ามัวแต่เถียงกันผู้ที่สอบไม่ผ่านกรุณาตามฉันมา ฉันจะพาไปส่งเอง”เวสว่าแล้วเดินนำหน้าไปทางประตูรั้วของโรงเรียน ซึ่งเหล่าผู้สอบตกทั้งหลายก็เดินคอตกตามเวสไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากโดนอาจารย์ของโรงเรียนที่เข้าสอบฆ่าหมกป่า
เมื่อเหล่าผู้สอบตกถูกเวสพาไปยังทางที่พวกเขาเข้ามาแล้วคราวนี้ความสนใจก็กลับมาที่แซรีสอีกครั้ง พวกที่สอบผ่านมาได้แบบ งงๆไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้แต่มองหน้าแซรีสอย่างอยากให้อธิบายคำตอบ ส่วนพวกที่รู้ว่าจิ้งจอกทมิฬทั้งหมดเป็นฝีมืออาจารย์ก็ได้แต่มองแซรีสอย่างเคืองๆเล็กน้อย มีแต่ลีรอยที่ยังคงจ้องแซรีสแบบอยากบีบคอ และแซรีสก็ยังไปมองตอบอีกด้วย
สักพักหลังจากการส่งสายตาอำมหิตพิศวาส(?)ใส่กันสักพัก ตัวของลีรอยก็เริ่มสั่น ตามด้วยตาขวาของแซรีสเริ่มจะกระตุกเป็นจังหวะๆ เมื่อลีรอยเห็นอาการของคนตรงหน้า ก็รู้ได้เลยว่า.....สัญญาณนี้...รู้เลย! พวกเดียวกัน! ......
“หึๆๆๆกรั้กๆๆๆฮาๆๆๆๆกร๊ากกกกกกกกกกกกกก”เสียงหัวเราะชวนสะดุ้งทั้งสองเสียงดังขึ้นประสานงานความสยองให้กับคนรอบข้าง เสียงหนึ่งจากลีรอยและเสียงหนึ่งจากอาจารย์นั้นเอง
และทำให้ทุกคนได้รู้ในทันทีว่าลีรอยและแซรีสเป็นพวกเดียวกัน.... บ้า! เหมือนกันนั้นเอง!!!
“กรักๆที่แท้ก็บ้าเหมือนกัน ฮาๆๆ”ลีรอยพูด
“กร๊ากกกก แน่นอนรู้ไหมว่าแอ๊บเข้มนี่มันยากขนาดไหน”แซรีสพูดพลางเอามือกุมท้องตัวเองเพราะเริ่มปวดท้องที่เป็นผลมาจากการหัวเราะมากเกินขนาด!
การประสานงานของทั้งสองทำให้หลายๆคนที่มองเกิดอาการสยองขึ้นมาจากความบ้าของทั้งคู่
“ง้า~~ อาจารย์กับลีรอยบ้าไปแล้ว”เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
“หน้าตาก็ดีหรอกนะ แต่นิสัยเนี้ยสิที่รับไม่ค่อยจะได้”โซเฟียพูดอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อยังเห็นเพื่อนชายหัวเราะประสานกับอาจารย์อยู่
“อะแฮ่ม ขอหยุดหัวเราะแปบ เพราะฉันมีเรื่องจะชี้แจงว่าทำไมถึงได้ใช้วิธีการทดสอบแบบนี้”แซรีสกลับมาเก๊กเสียงขรึมอีกครั้ง ทำให้เหล่านักเรียนหันเหความสนใจกับมาอีกครั้ง
“อย่างแรกคือนี่เป็นการดูประสิทธิภาพของพวกเธอหลายๆด้าน ทั้งความกล้าหาญ ความเป็นผู้นำ เป็นผู้ตามที่ดี ความสามัคคี ความสามารถในการออกศึก การวางแผน วิชาเวทย์ และฉันเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้มีมัน”ประโยคแซรีสพูดทำให้เหล่านักเรียนทั้งหลายฉีกยิ้มแก้มแทบปริที่อาจารย์ของพวกเขายอมรับในตัวพวกเขา
“นี่ก็เย็นแล้ว งั้นตามฉันมา”แซรีสพูดพลางพาพวกนักเรียนปีหนึ่งโดยสมบูริณ์เดินเข้าไปในปราสาทกลาง
“เราจะไปไหนกันเหรอ”ลิลิธที่คาดว่ายังเอ๋ออยู่หันมาถามเซรีน่าและวิเวียน
“จะไปรู้เหรอ คิดว่าเธอเอ๋อเป็นคนเดียวหรือไง”วิเวียนที่ยังเอ๋อเหมือนๆกันพูดขึ้น
“ฮะๆๆ เอานะคงไม่ได้ไปตายหรอกน้า”เซรีน่าพูด
“อย่าพูดเรื่องอัปมงคลจะได้ไหมเนี้ย”คาร์ดลหันมาแขวะเซรีน่า
“อะไรอะ ฉันก็แค่พูดตามที่คิดเอง”
“นั้นแหละไม่ต้องพูดเลยเดียวเป็นจริงมันจะซวยซะเปล่า”คาร์โลพูด
แซรีสพานักเรียนปีหนึ่งเข้ามาในห้องโถงห้องหนึ่งห้องนี้ไม่มีอะไรนอกจากเก้าอี้สองสามตัวทั้งที่ห้องก็ออกจะกว้างขวาง
“นั่งรอไปก่อนนะ อีกเดี๋ยวพวกเธอก็จะได้เลือกหอกันแล้ว”แซรีสว่า
“ถ้าได้ยินเสียงเรียกชื่อก็ให้เดินออกมาที่ประตูบ้านนี้นะ”แซรีสชี้ไปยังประตูอีกฟากของห้องที่มีสีน้ำเงินเข้ม แล้วเจ้าตัวก็เดินเข้าไปในประตูบานนั้นซะเฉยปล่อยให้พวกวิเวียนนั่งโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวเอกาต่อไป....
==========================================================================
อัพช้า+ สั้นโคตร!!!
ช่วงนี้เริ่มเฉื่อยแล้ว= =;;;; ชักขี้เกี้ยจ 555
แต่ไม่มีปัญหาเพราะ มูนด๊อกยังดำรงแต่งเรื่องนี้ต่อปายยยยย5555+{มีคนเขาบอกให้แกไปแต่งฟิคต่อด้วยนะยะ อย่ามัวแต่เห่อ
เรื่องใหม่(- _ - )}
เอาล่ะเดี๋ยว จะมีโปรเจกการ์ตูนใหม่ให้วาดเล่นอีกแล้ว คงต้องคลาดแคลวห่างหายคอมไปสักพัก
Moon dog ;;Dream 1 ....Fly 2 Sky
ความฝันงั้นเหรอ? อยากไปให้ได้กว่านี้?
การทะเยอทะยานของนายจะสูญเปล่านะ? นกนะ พอยิ่งบินสูง....ตอนตกลงมาก็ยิ่งเจ็บเจียนตาย
ฉันจะคอยดูว่านายจะปีกหักเมื่อไหร หึๆๆ
ความคิดเห็น