คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : LESSON V : Club 'ㅅ'
‘TFBOYS’ { Ü [Unconditionally]} (KaiYuan) 'ㅅ'
LESSON V : Club
---<<YUAN Part>>---
“ชมรมหรอ? ลงทะเบียนเฉพาะวันนี้ด้วย” ผมกำลังเดินกอดหนังสือเรียนกลับไปยังล็อกเกอร์ของตัวเอง หลังจากเรียนคาบบ่ายเสร็จแล้ว
“ก็ใช่น่ะสิ ที่จริงเค้าเปิดให้ลงตั้งนานแล้ว นายพึ่งเข้ามาใหม่ก็เลยยังไม่มีชมรมอยู่ เสียดายจังชมรมฉันเต็มแล้ว ว่าจะให้มาอยู่ด้วยกัน” จื่อหงที่เดินมาด้วยกันทำหน้าเสียใจ
“แต่ชมรมบาสน่าจะยังไม่เต็มนะ ลองไปสมัครดูสิ เดี๋ยวฉันพาไป” เชียนที่ที่เดินตามหลังมาพูดขึ้น
“เอ่อ ไม่ดีกว่าอ่ะ ผมเล่นไม่เป็น”
“แล้วบอลล่ะ วอลเล่ก็มีนะ” เชียนซียื่นข้อเสนออื่นๆ
“ฉันเล่นกีฬาไม่เป็นสักอย่างอ่ะ” ผมเกาหัวแก้เขินนิดหน่อย
“ไม่น่าล่ะ ทำไมนายถึงไม่...เอ่อ...ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวนายเสียใจ” จื่อหงนายกำลังจะว่าอะไรผมใช่มั้ย ผมรู้ทันนะ
“ถ้างั้นก็แย่สิ วิชาพละนายก็ไม่ผ่านอ่ะดิ”
“ใช่ๆ วิชาพละโรงเรียนนี้อ่ะ ต้องผ่าน 3 ใน 5 อย่างในแต่ละชั้นปีนะ ถ้านายไม่ผ่าน F แน่นอน” F หรอ
“พวกเธอเรียนยังไงก็ได้ แต่ห้ามติด F แม้แต่ตัวเดียว เข้าใจมั้ย?” อยู่ๆคำพูดของคุณลุงก็ลอยเข้ามาในหัวของผม อ้ากกกกกกกก ทำไงดีเนี่ย
“เดี๋ยวฉันสอนเอง” แคร์รี่ที่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้เข้ามาทักพวกเรา
“ไม่ไหวหรอก จริงๆนะ” ผมว่าผมทำไม่ได้แน่ๆ เพราะตั้งแต่เกิดผมยังไม่เคยเล่นกีฬาอะไรเลย แม่ไม่ยอมให้ผมเล่นอ่ะ บอกว่าผมร่างกายอ่อนแอกลัวได้รับบาดเจ็บ
‘ถึงว่าล่ะทำไมไม่สูง’ ผมเหลือกตาใส่คนกวนประสาทไปทีนึง
“ถ้างั้นเข้าชมรมดนตรีกันมั้ย เมื่อกี้ฉันเดินผ่านเห็นป้ายรับสมัครอยู่” แคร์รี่ชวนผม
เออก็เข้าท่าดีนะ ผมเล่นเปียโนเป็น ถึงจะไม่ค่อยได้เล่นช่วงนี้แล้วก็ตาม
“อื้ม” ผมตอบตกลง
“ถ้างั้นพวกเราขอแยกไปชมรมก่อนนะ พวกนายก็สู้ๆหล่ะ ฉันได้ยินมาว่าชมรมดนตรีคัดโหดเหมือนกันนะ สู้ๆล่ะ” จื่อหงทำท่า Fighting!! ให้พวกเราก่อนจะแยกกัน
“นายเล่นดนตรีเป็นเหมือนกันหรอ” ผมถามแคร์รี่
“ก็พอได้อ่ะ”
“แล้วกีฬาล่ะ เห็นบอกจะสอนผม”
“ก็ตอนอยู่เมกาเป็นนักกีฬาโรงเรียนเฉยๆนะ เล่นเนก็ไม่เยอะหรอก พูดมาเล่นเป็นหมดแหล่ะ” นี่ไม่ได้โม้ใช่มั้ย
อยู่กับคนคนนี้นานแล้วผมก็เริ่มมั่นไส้เค้าขึ้นทุกวัน คนอะไรไม่รู้
‘คนหล่อไงครับ’ ผมหันขวับมองหน้าเขาทันที
‘กล้าพูดเนาะ’ ผมกวนเค้าคืนบ้าง
‘หรือไม่จริง’ แล้วเขาก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆผม
จนผมได้เอามือผลักหน้าเค้าออกไป คนอะไรหลงตัวเองเป็นบ้าเลย
แล้วเค้าก็จับมือผมเดินไปด้วยกัน ผมเริ่มชินแล้วสิที่เค้าทำแบบนี้ แล้วก็รู้สึกชอบด้วย ก็มือเค้าอุ่นหนิ ไม่รู้สิผมรู้สึกว่ามันปลอดภัยมากเลยเมื่อเค้าจับมือผมไว้ ขอบคุณพระเจ้านะครับที่ส่งคนคนนี้มาอยู่ข้างๆผม
จากเด็กที่เป็นตัวประหลาดของคนอื่น การได้มีใครสักคนที่เข้าใจผมมันเป็นอะไรที่วิเศษมาก ขอบคุณมากจริงๆ
“นี่ไงถึงแล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นมองป้ายหน้าห้องที่เขียนว่า ‘MUSIC CLUB’
“น้องจะมาสมัครหรอครับ เชิญเลยครับตอนนี้กำลังออดิชั่นกันอยู่” พี่คนหนึ่งที่สูงมากๆเดินเข้ามาพาพวกเราเข้าไปในห้อง
พี่แกสูงจนผมต้องเงยหน้ามองพี่แกเลย คิดดูนะครับว่าสูงขนาดไหน (หรือที่จริงเค้าไม่ได้สูงมาก แต่หนูเตี้ยเองรึเปล่าลูก หยอกๆน้าาาา)
คนมาออดิชั่นที่ชมรมนี้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย เห็นต่อคิวกันยาวเลย สักประมาณ 20 คิวได้มั้ง
ทางด้านข้างเวที มีป้ายโชว์ว่าตอนนี้เหลือรับสมาชิกแค่ 5 คนสุดท้ายแล้ว ผมจะได้เข้ามั้ยเนี่ย
“I’m in my dr…emmm.........eammmmmmm.........” เสียงจากบนเวทีจากผู้สมัครสิ้นสุดลง
“ทำไมถึงร้องเพลงหรอคะ คิดว่าร้องเสียงสูงๆเฉยๆแล้วคิดว่าเก่งหรอคะ ทำไมไม่ลองฝึกจับจังหวะ จับโน้ต ร้องให้ถูกคีย์จะไม่น่าฟังกว่ารึป่าว.....ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ไม่ผ่านนะคะ .....คนต่อไปเชิญค่ะ” กรรมการผู้หญิงคนหนึ่งคอมเม้นท์ได้แบบแรงมาก จนเด็กผู้หญิงที่ออดิชั่นเมื่อกี้ ร้องไห้วิ่งลงจากเวทีไปเลย
“เจ๊ไอยู โหดสัส”
“แล้วเราจะโดนอะไรบ้างวะ ไม่อยากจะคิดเลย” ผมแอบได้ยินคนที่ต่อคิวข้างหน้าผมสองคนคุยกัน แล้วผมล่ะจะเป็นยังไงเหมือนกัน
แคร์รี่ที่ต่อหลังผม จับไหล่ผมพร้อมกับบีบเบาๆ
‘สู้ๆ ทำได้ เชื่อสิ’ เค้าให้กำลังใจผมตลอดเลย
ผมเงยหน้าขึ้นก็สามารถมองเห็นหน้าเค้าที่คอยส่งยิ้มมาให้ผมเสมอ ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น
ผมต้องทำได้สิ
ตอนนี้ก็ถึงคิวของผมแล้ว แต่ผมยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่เลย
“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ นายทำได้ เชื่อสิ” แคร์รี่ลูบหัวผมก่อนจะเดินขึ้นเวทีไป
“สู้ๆนะ” ผมให้กำลังใจเค้าบ้าง เพราะเค้าให้กำลังใจผมมามากแล้ว
“แคร์รี่หวัง ห้อง 11-B ครับ” แคร์รี่แนะนำตัวแค่นั้นก่อนจะเดินไปหยิบกีต้าโป่งที่ชมรมจัดไว้ให้มา ก่อนจะเริ่มบรรจงบรรเลงบทเพลงบทเพลงหนึ่งขึ้น
“All I hear a raindrops
Falling on the rooftop
Oh baby tell me why you have to go
Cause this pain I feel
It won’t go away
And today I’m officially missing you”
เมื่อเขาเริ่มร้องเพลง ทำให้ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เค้าเป็นตาเดียว บทเพลงที่เค้าร้องเหมือนเป็นมนต์สะกดให้ทุกคนเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงทุ้มนุ่มของเค้า มันเป็นอะไรที่ไพเราะมาก บวกกับการเล่นกีต้าของเค้าที่ไม่มีที่ติเลย
แล้วเค้าก็มองมาที่ผม มองมาทำไมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกร้อนๆที่หน้า ไม่รู้เป็นอะไร อย่ามองได้มั้ยเนี่ย มองไปที่อื่นไป ถึงจะบอกอย่างนั้น ผมก็ไม่สามารถมองไปทางอื่นได้เลยนอกจากเค้า
“I thought that from this heartache
I could escape
But I fronted long enough to know
There ain’t no way
And today
I’m officially missing you”
เมื่อสิ้นสุดบทเพลงที่แคร์รี่ร้องทุกคนในห้องต่างปรบมือให้
“โอเคค่ะ เสียงโอเค กีต้าโอเค ภาพรวมโอเค แต่ติดอยู่นิดนึงคือเวลาร้องเพลงไม่สบตาคนดูเลยอ่ะค่ะ มันเลยดูแข็งๆไปนิด แต่ไม่เป็นไร แก้ไขได้ ผ่านค่ะ ยินดีด้วย”
“รับอีกคนเดียวเท่านั้นนะคะ คนต่อไปเชิญค่ะ คนสุดท้ายแล้วหรอ โอเคค่ะ เริ่มได้ค่ะ”
“สะ..สวัสดีครับ หวังหยวน ห้อง 11-B ครับ ฝะ...ฝากตัวด้วยนะครับ”
ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเปียโน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสมาธิ ก่อนจะเริ่มบรรจงพรมนิ้วมือลงบนแป้นคีย์บอร์ด ปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ของตัวเอง
“Please don't see just a boy caught up in dreams and fantasies
Please see me reaching out for someone I can't see
Take my hand let's see where we wake up tomorrow
Best laid plans sometimes it's just a one night stand
I'd be damned Cupid's demanding back his arrow
So let's get drunk on our tears and….”
ผมเลือกเพลงนี้ก็เพราะ ผมเป็นเพลงที่ผมชอบฟังมากๆเลย และมันก็มีส่วนที่คล้ายกับผมอยู่เหมือนกัน
“God, tell us the reason youth is wasted on the young
It's hunting season and the lambs are on the run
Searching for meaning
But are we all lost stars, trying to light up the dark?”
ผมบรรจงพรมนิ้วลงบนแป้นท่อนสุดท้าย ก่อนจะยืนขึ้น แล้วโค้งให้กับกรรมการ มายืนตรงกลางเวทีเพื่อฟังคอมเม้นท์
‘เยี่ยมไปเลย’ ผมหันไปมองแคร์รี่ที่ยืนรอผมอยู่ด้านล่าง เค้ายกนิ้วโป้งให้ผมด้วยแหล่ะ
“ก็พอใช้ได้นะคะ เปียโนโอเคเลย แต่เสียงยังติดนิดนึงนะคะ ตื่นเต้นเกินไปรึเปล่า เอ่อ...คนสุดท้ายแล้วใช่มั้ยคะ” เธอหันไปถามทีมงานคนอื่น
“งั้นก็โอเคค่ะ ผ่านค่ะ ยินดีด้วย เสร็จแล้วกรอกใบสมัครนะคะ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ” ผมดีใจลงจากเวทีรีบวิ่งไปกอดแคร์รี่ทันที
“เห็นมั้ยบอกแล้วว่าทำได้”
“ยินดีด้วยนะพวกนายทั้งสองคน” ผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น
อ้าว หัวหน้าห้องนี่เธอ
“หัวหน้าห้องก็อยู่ชมรมนี้หรอ” ผมถามเธอ
“ใช่น่ะสิ แต่นายเรียกฉันว่าแช่นน่อนก็ได้” แช่นน่อน
“อื้ม แช่นน่อน”
“พวกนายสนิทกันจัง เป็น...”
“ฝาแฝดกันน่ะ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก” ผมรีบชิงพูดก่อนที่เธอจะเติมคำในช่องว่าง
“จริงหรอ ว้าววิเศษมากเลย แต่พวกนายไม่เห็นเหมือนกันเลย แต่ก็นะฝาแฝดที่ไม่เหมือนกันก็มีตั้งเยอะ”
“แฮะๆ” ผมได้แต่หัวเราะเพราะไม่รู้จะตอบเธอว่ายังไง
“นายเงียบจัง” แช่นน่อนเปลี่ยนความสนใจไปที่แคร์รี่
“ฉันไม่ค่อยพูดหน่ะ” แคร์รี่พอพูดกับคนอื่นเค้ากลายเป็นคนไม่ค่อยพูดไปเลย แต่พอเวลาอยู่กับผมนี่พูดใหญ่เลย
“งั้นแล้วเจอกันนะ ชมรมมีกิจกรรมทุกวันอังคารนะหรือถ้ามีงานก็จะนัดซ้อม ฉันไปก่อนนะ บาย” แล้วเราก็แยกจากกัน
ผมมองดูเวลานี่ก็เย็นแล้ว เราต้องออกไปรอคุณลุงที่หน้าโรงเรียนแล้วสิ
“กลับบ้านกัน” แคร์รี่ชวนผม
“อื้ม” แล้วเราก็จับมือกันเดินไปที่หน้าโรงเรียน
พระอาทิตย์สีแดงสาดส่องไปทั่วทุกบริเวณ บอกให้รู้ว่าเป็นเวลาเย็นมากแล้ว
ผ่านไปแล้วกับวันแรกที่โรงเรียนใหม่ของพวกเรา เป็นการเริ่มต้นที่ดีว่ามั้ย???
150312 22.59 : อัพอีกแล้ว ถี่เกินไปรึป่าว 55555 อัพเว้นวันดีมั้ยน้าาาาา ล้อเล่นนะคะ #หลบเกิบรัวๆ
คอมเม้นท์อ่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเลยอ่ะ อยากอ่านคอมเม้นท์เยอะๆ แอนจะได้มีกำลังใจในการแต่งโนะ
บาอิ้ง~~
ความคิดเห็น