คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : LESSON I : Familiarize ㅅ
‘E X O’ {Brac-à-Bric[ของเก่า]} (LUMIN) ‘ㅅ’
LESSON I : Familiarize
---<<MINSEOK Part>>---
วันต่อมา~~
วันนี้ก็เป็นวันที่สองแล้วที่ผมไปโรงเรียนแห่งใหม่ หลังจากที่ผมได้ตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า ไม่ว่าจะยังไงก็จะทำให้ไอ้คนที่ชื่อ ลู่หาน คนโต๊ะข้างๆผมยอมมาเป็นเพื่อนผมให้ได้ เมื่อคืนผมกลับไปนอนคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ลู่หานยอมมาเป็นเพื่อนผมดี คอยติดตามดูกันนะครับ ว่าผมจะทำยังไง ^.^
ผมเดินเข้าไปในห้องเรียน ตอนนี้ปาไปแล้วเกือบ 8 โมงแล้ว เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็ยังประจำที่ของตัวเอง และที่แน่นอนก็คือ ลู่หานเขาก็ยังคงยังอ่านหนังสือเล่มหนาของเขาอยู่ที่โต๊ะของเขาเหมือนเดิม เอาล่ะมินซอกสู้ๆ
“ลู่หาน อรุณสวัสดิ์” ผมทักทายเขาพร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าดูดีที่สุดให้เขาไป
“…” แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็คือ เขาหันมามองหน้าผมผ่านแว่นตากรอบหนาของเขาแป๊บนึง แล้วก็หันกลับไปจดจ่ออยู่ที่แผ่นกระดาษรวมเล่มที่อยู่ตรงหน้าเหมือนเดิม
การกระทำของเขาทำให้ผมเสียความมั่นใจไปค่อนข้างมาก หรือเรียกง่ายๆคือ ตอนนี้เฟลสุดๆ ผมอุตส่าห์ส่งยิ้มที่สาวๆโรงเรียนเก่าถึงกับสลบไปให้แล้วแท้ๆ แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย ขอบอกว่าผมเฟลจริงๆนะครับ
หลังจากนั้นผมก็เรียนคาบเช้าผ่านไปด้วยอาการหดหู่นิดหน่อย
--------------------------------------------------------- S2 ------------------------------------------------------
กริ๊ง~~~~~~~~~~~
เสียงออดดังบ่งบอกให้รู้ว่าถึงเวลาพักกลางวัน
“วันนี้พอแค่นี้นะจ๊ะ พรุ่งนี้อย่าลืมส่งการบ้านก่อนเข้าแถวด้วยนะจ๊ะ ไปกินข้าวได้จ่ะ” คุณครูวิชาวรรณกรรมสั่งการบ้านก่อนจะเดินออกไป
ผมเก็บข้าวของเตรียมจะเดินออกไปกินข้าวที่โรงอาหาร เหลือบไปเห็นว่าลู่หานเขาไม่ลุกไปไหนเลย เขายังนั่งอยู่กับที่ เห็นอย่างนั้นผมเลยทักเขาขึ้น
“ลู่หาน ไม่ไปกินข้าวหรอ ไปด้วยกันมั้ย?” ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับเขาสองคนอยู่ในห้อง เพื่อนเขาพากันไปกินข้าวหมดแล้ว
“...” ไม่มีคำตอบออกมาจากปากลู่หาน แต่เขาหยิบเอาถุงผ้าที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“ไปกินด้วยกันเถอะ นะ” ผมลองชวนอีกครั้ง
“ฉันมีข้าวกล่องแล้ว นายไปกินเถอะ” ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดกับผมแล้ว
เขาเปิดถุงผ้าออก แล้วก็พบกับข้าวกล่องเบนโตะรูปกวาง ที่พวกเด็กๆชอบให้คุณแม่ทำให้ก่อนไปโรงเรียน
ผมเอาเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเขา เพื่อรอให้เขาไปกินข้าวกับผม
“แล้วนายไม่ไปกินข้าวหรอ” เขาเอ่ยถามผม
“ถ้านายไม่ยอมไปกินผม ผมก็ไม่ไปเหมือนกัน’’
“แล้วนายไม่หิวหรอ”
“ไม่เลย”
โครกกกกกกก ครากกกกกกกกก
.
.
.
.
.
เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง
“เอ่อ...กินด้วยกันมั้ย?” ลู่หานเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ผมที่ตอนนี้หน้าแดงยังกะลูกมะเขือเทศก็พยักหน้ารับเบาๆ ไอ้ท้องบ้าแกจะมาร้องอะไรตอนนี้ -///-
ลู่หานยื่นช้อนมาให้ผม แล้วเขาก็ใช้ตะเกียบขีบไข่หวานเข้าปากตัวเองไป
“นายห่อข้าวมากินอย่างนี้ทุกวันเลยหรอ” ผมตักข้าวเข้าปากไปก่อนจะถามเขาไป
“อื้ม”
“ใครทำให้หรอ แล้วทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารอ่ะ แล้วอำไออ้องอินอนเอียวอ้วยอ่ะ” ลู่หานขีบไข่หวานยัดใส่ปากผมที่ดูเหมือนจะถามมากเกินไป
ตอนนี้ในปากผมเต็มไปด้วยไข่หวานไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาเป็นคำได้ มีแต่เสียงอู่อี้
อยู่ๆลู่หานก็หลุดหัวเราะออกมาครั้งนึง แล้วเขาก็ทำเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
“เมื่อกี้นายหัวเราะผมหรอ”
“เปล่าซะหน่อย” เขาเปลี่ยนกลับมาเป็นสีหน้าธรรมดา
“เมื่อกี้ผมได้ยินอยู่ นายหัวเราะผม” ผมลุกขึ้นเถียง
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้หัวเราะน่ะ” ดูเหมือนเขาก็ไม่ยอมรับเหมือนกัน ลู่หานลุกขึ้นยืนตามผม
“อุ๊ต๊ะ *.* เจ้าชายน้ำแข็งคุยกับเด็กใหม่ ข่าวใหญ่แล้ว ข่าวใหญ่” อยู่ๆเพื่อนที่เดินเข้ามาในห้องก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ ดูเหมือนว่าการที่ลู่หานคุยกับผมนี่เป็นเรื่องใหญ่นักหนา
พอเห็นอย่างนั้นลู่หานเลยนั่งลงกับที่เหมือนเดิม ผมเลยนั่งตาม
“ขอบคุณนะ อร่อยมากเลย” ผมส่งยิ้มให้เขาอีกที
ลู่หานเริ่มมีปฏิกิริยามากขึ้น ตอนนี้เขาหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดแล้วก้มหน้าก้มตาอ่าน
--------------------------------------------------------- S2 ------------------------------------------------------
คาบว่าง
“นายเด็กใหม่ ชื่อมินซอกหรอ ไม่เบาเหมือนกันนะเรา” พออาจารย์คาบก่อนหน้านี้เดินออกจากห้องไป เด็กหนุ่มตัวสูง หน้าตาคล้ายๆแพนด้าก็เดินเขามาหาผม
“ไม่เบายังไงหรอ” ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดมา
“ก็นายเป็นคนแรกเลยนะที่ เจ้าชายน้ำแข็งของเรายอมคุยด้วย ขนาดพวกเราเรียนอยู่ด้วยกันกับเขามาตั้งหลายปีแล้ว ลู่หานเขายังไม่พูดกับพวกเราเลย”
ผมหันไปมองลู่หานที่กำลังอ่านหนังสืออย่างไม่สนใจสิ่งแวดล้อมภายนอก มีเวลาว่างไม่ได้ เขาต้องหยิบเจ้าหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่าน
“ผะ..ผมเป็นคนแรกเลยหรอ” ผมอึ้งไปเล็กน้อย เป็นไปได้หรอครับที่คนเราจะไม่ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเลย
“ก็ใช่น่ะสิ หรือว่าเจ้าชายน้ำแข็งของเรากำลังสนใจนายอยู่หรือป่าวนะ” เพื่อนคนนั้นเหล่ตาไปมองลู่หานเป็นเชิงล้อเลียน
พรึ้บ ลู่หานปิดหนังสือที่เขากำลังอ่านอยู่แล้วหันหน้ามาหาเพื่อนคนนั้น
“เงียบไปเลย เทา”
“คร้าบบ คร้าบบ ” คนที่ชื่อเทาเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ส่วนลู่หานก็กลับไปอ่านหนังสือต่อเหมือนเดิม
“ทำไมนายต้องหงุดหงิดด้วยล่ะ” ผมที่ยังงงๆอยู่ถามเลยขึ้น
“ไม่ต้องไปสนใจที่หมอนั่นพูดหรอก” ลู่หานเขาพูดขณะที่ยังคงมองไปยังตัวหนังสือในกระดาษอยู่
“อื้ม”
--------------------------------------------------------- S2 ------------------------------------------------------
“วันนี้กลับบ้านดีๆนะจ๊ะ เจอกันพรุ่งนี้” คุณครูคณิตศาสตร์กล่าวบอกลานักเรียนแล้วเดินออกไป ผมอยากจะรู้จริงๆว่าใครจัดตารางเรียน คิดยังไงครับถึงเอาวิชาคณิตศาสตร์มาไว้คาบสุดท้าย ใครไม่หลับนี่ผมนับถือจริงๆเลยครับ
ผมค่อยๆลุกขึ้นเช็ดคาบน้ำลายที่ติดปากตัวเอง บิดขี้เกียจสองสามที แล้วไปเห็นลู่หานที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋า
“ผมถามจริงๆเถอะ นายเรียนเข้าใจได้ไงเนี่ย คณิตศาสตร์กับช่วงบ่ายเป็นอะไรที่ไม่ควรมีในโลกใบนี้”
“ไม่รู้สิ ฉันว่ามันสนุกดีนะ” นี่แหล่ะครับคนที่ผมนับถือ
“นายจะกลับบ้านเลยหรอ”
“อื้ม ก็หมดคาบเรียนแล้วก็ต้องกลับบ้านสิ”
“ผมกลับด้วย รอผมเก็บของแป๊บเดียวนะ” ผมกวาดทุกอย่างลงกระเป๋าสะพายแล้วสะพายมันเดินตามลู่หานออกไป
พวกเราเดินไปด้วยกันเพิ่งรู้ว่าบ้านของเราอยู่ทางเดียวกัน พวกเราเดินไปเรื่อยๆ สายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งเข้า ไม่ได้การแล้ววันนี้ผมยังไม่ได้ดื่มกาแฟเลย ต้องไปหามาเติมลงท้องก่อนจะลงแดงดีกว่า
“ลู่หาน แวะร้านตรงนั้นก่อนได้มั้ยอ่ะ นะ นะ”
“นายหิวแล้วหรอ”
“ผมอยากกินกาแฟน่ะ นะ นะ”
“อื้ม ฉันก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ไปกันเถอะ”
“เย้ ลู่หานใจดีที่สุดเลย” จากนั้นพวกเราก็เดินตรงไปยังร้านคาเฟ่นั้นพร้อมกัน
หลังจากสั่งรายการทั้งหมดแล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะตัวติดหน้าต่าง ร้านนี้ตกแต่งด้วยนาฬิกาหลายเรือนที่ทั้งแบบเก่าและใหม่ปะปนกันไป ดูออกแนววินเทจนิดๆ ตกแต่งด้วยสีอ่อนๆทำให้บรรยากาศหน้ามานั่งจิบกาแฟเป็นที่สุด
“ลู่หาน ตกลงเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”
“คงงั้นมั้ง” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่เขาก็ยิ้มบางๆให้กับผม
“ฉันมีเรื่องอยากจะถาม”
“อะไรหรอ?”
“ทำไมนายต้องใส่แหวนหนาๆนี่ตลอดเวลาด้วยอ่ะ” ผมสงสัยมานานแล้ว อยากเห็นหน้าเขาชัดๆสักครั้งด้วย
“ก็ฉันสายตาสั้นไง ก็เลยต้องใส่แว่น ถ้าไม่ใส่มันมองไม่...เห้ย นายทำอะไรน่ะ” ผมดึงแว่นตาหนาๆของเขาออก ลู่หานเลยโวยวายใหญ่
“เอาแว่นฉันคืนมานะ”
ภายใต้แว่นตาหนาๆนั้น
ตึกตัก ตึกตัก
หล่อจัง ~
อยู่ๆคำนี้ก็ลอยเข้ามาในหัว ใบหน้าที่ออกไปทางหวาน ดวงตาโตที่ดูคล้ายกับกวางน้อยตอนนี้กำลังหรี่ตาเพราะสู้แสงไม่ค่อยได้ จมูกที่ได้รูป ปากสีชมพูเป็นกระจับน่าหลงใหล โครงหน้าได้รูปพอเหมาะ ถ้าเขาตัดผมให้ดูเข้าที่เข้าทางซะหน่อยจะเป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดเลย
และแล้วเขาก็แย่งแว่นจากมือผมกลับไปใส่ได้เหมือนเดิม ผมก็หลุดออกจากภวังค์ของผมเหมือนกัน ซึ่งก็ถึงเวลาที่อาหารที่สั่งมาส่งแล้ว
ผมรีบตักเค้กเข้าปากไม่พูดอะไรอีก ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว จะว่าผมเขินก็ได้นะ
“มินซอก ฉันหน้าตาน่าเกลียดขนาดนั้นเลยหรอ” ลู่หานเอ่ยถามเสียงอ่อน
ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าลู่หาน เขากำลังทำหน้าเศร้า ผมจึงบอกปฏิเสธ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เอ่อ รีบกินกันเถอะจะได้รีบกลับ” ถ้าเกิดอยู่นานกว่านี้ผมกลัวว่าผมจะทำไม่ดีกับเขาอีก
ใครว่านายหน้าตาน่าเกลียดล่ะ นายไม่รู้หรอกว่านายทำให้ผมใจเต้นแรงมากแค่ไหน -///-
จบไปแล้วกับพาร์ทแรกนะคะ คือแบบรู้สึกเหมือนพี่หมินใจง่ายเลยอ่ะ ไม่ได้นะค้าาาาา เราต้องเก็บอาการนิสนึงนะ ตอนนี้พี่ลู่ยังไม่วิ๊งเท่าไหร่นะคะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ เดี๋ยวจะรีบปั่นโดยด่วนเลยค่ะ บาอิ้ง~~
ปล.ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ แอนไม่คิดเลยว่าจะมีคนคอยติดตามอ่านฟิคกากๆของเค้า รักทุกคนที่คอยติดตามนะค่ะ จุ๊บ ^3^
◊ SQWEEZ
ความคิดเห็น