คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : LESSON IX : Luv 'ㅅ'
‘TFBOYS’ {β.Ö.Ỳ[Because Of You]} (KaiYuan) 'ㅅ'
LESSON IX : Luv
---<<YUAN Part>>---
เที่ยงวันนี้ผมมากินข้าวกับมยองโฮสองคน จากที่เคยมีจุนไคมาด้วยกลับไม่มี เขาเป็นอะไรของเขาก็ไม่รู้วันนี้ ตั้งแต่เช้าก็ทำตัวแปลกๆแล้ว แถมยังไม่ยอมพูดกับผมสักคำ นายเกลียดฉันหรือไง
มยองโฮวันนี้ก็ทำตัวแปลกเหมือนกันคือ เขาหลอกล้ออย่างกับเราเป็นแฟนกันอะไรอย่างนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
“ถามจริง มึงยังไม่รู้อีกหรอ” อยู่ๆเขาก็ถามขึ้น
“เรื่อง??” ผมไม่เข้าใจคำถามของเขา
“...ชั่งมันเถอะ แล้วเรื่องมึงอ่ะ จะไปบอกเขาตอนไหน?”
“เขาไหน เรื่องอะไร” มยองโฮต้องล้อผมอีกแน่ๆ ทำเป็นไม่ร็ไม่ชี้ดีกว่า
“อย่ามาตอแหล มึงจะไปบอกชอบรึเปล่า” -///-
“ก็...ไม่อ่ะ หน้ากูก็ไม่ได้ฉาบด้วยปูนซีเมนต์สักหน่อย ก็อายเป็นนะเว้ย”
“ไอ้พวกคนปากแข่ง เหมือนกันเลย”
“หมายความว่ายังไง?”
“ป่าวๆ ไม่มีไร”
จากนั้นเราก็กินข้าวจนหมดแล้วก็ขึ้นชั้นเรียน
คาบบ่ายว่างจนถึงคาบก่อนเลิกเรียน คาบเลิกเรียนมีเรียนพละ
ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดดีกว่า
ผมเดินไปห้องสมุดคนเดียว ไม่ต้องถามนะครับว่าทำไมไม่ชวนมยองโฮไปด้วย หมอนั้นจะไปห้องสมุดก็เฉพาะไปส่องเด็กกับไปนอนแค่นั้นแหล่ะครับ เรื่องอ่านหนังสือไม่ต้องพูดถึง แต่มันเป็นคนที่หัวไวมาก เรียนรู้ได้เร็ว เลยทำให้ไม่ต้องอ่านหนังสือมากก็เก่งแล้ว ดีจังนะครับคุณเพื่อน ผมนี่อ่านหนังสือแทบตายกว่าจะจำแต่ละเรื่องได้
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องสมุดที่ยังคงไม่ค่อยมีคนเหมือนเดิม คลาสอื่นเขาก็เรียนตามปกติ มีบางคลาสที่ตรงกับคาบว่างพอดีก็อาจจะเห็นมาอ่านหนังสือบ้าง
ผมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะประจำ ก่อนจะวางตำราที่แบกมาด้วยลงบนโต๊ะ
ผมจะเริ่มยังไงดีล่ะ ถ้าเกิดผมอยากจะบอกชอบจุนไค เออ!!! ยอมรับแล้วคร้าบบบบบบบบ ว่าชอบ พอใจรึยัง?? โอเคนะ ผมชอบจุนไค!!!
จุดประสงค์ที่มาห้องสมุดนี่ไม่ได้มาอ่านหนังสือนะครับ มาคิดวิธีที่จะบอกจุนไคยังไงต่างหาก
เดินเข้าไปโต้งๆเลยแล้วบอกว่า “จุนไค ฉันชอบนาย” แค่นี้จบ เออวิธีนี้ก็ง่ายดีเหมือนกัน สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ถุ้ย!!!!! ตัดทิ้ง หน้าผมไม่ได้ก่อด้วยเพชรฉาบด้วยปูนซีเมนต์ร้อยชั้นนะครับ จะบ้าหรอให้ผมเดินเข้าไปบอกตรงๆ
อีกอย่างคือเมื่อก่อนเราเคยเป็นศัตรูตัวฉกาจกัน แบบนี้มันเสียศักดิ์ศรีเกินไป ไม่เอาๆ วิธีอื่นๆ
หรือว่าจะเขียนจดหมายรัก
‘ถึงจุนไค ฉันหยวนนะ ฉันมีอะไรจะบอก ฉันชอบนาย แล้วนายล่ะชอบฉันมั้ย’
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย วิธีนี้ยิ่งแล้วใหญ่ หวังหยวนคนนี้จะไม่มีทางทำแบบนั้นเป็นอันขาด NO!!!!!!!!!!!!
โอ๊ย คิดมากก็ปวดหัว โอ๊ยยยยยยยยยยยย ทำงายดีเนี่ยยยยยยยยยย
ผมกระวนกระวายมากเลยตอนนี้ มากจนซุ่มซามโยกเก้าอี้จนหง่ายหลังไปเลย
โครม!!!!!!
“โอ๊ย” เจ็บสัสรัสเซียเลยครับ และก็อับอายมากเลยครับตอนนี้
คนที่อยู่ในห้องสมุดทุกคนถึงแม้จะมีอยู้น้อยนิดก็ตาม ต่างให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือไม่ต้องอยากรู้อยากเห็นขนาดนั้นก็ได้ครับ
ตอนนี้ผมอายมากครับบอกเลย ต้องรีบปลีกตัวออกจากสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด
พอผมลุกขึ้นเตรียมจะหนีออกจากห้องสมุดนั้น สายตาอันเฉียบคมก็เลียบไปเห็นจุนไคที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุดอยู่เหมือนกัน กำลังมองมาทางผม
แต่เมื่อรู้ว่าผมกำลังมองเขา เขาก็หลบตาผมแล้วกลับไปอ่านหนังสือตามเดิม ไม่สนใจผมอีกต่อไป ผมกำลังจะทักเขา แต่ก็ไม่ดีกว่า เขาคงไม่ยากคุยกับผมสินะ
จากนั้นผมก็เดินกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเองโดยการเอาตำราที่แบกไปบังหน้าตัวเองไว้ ยังอายไม่หายเลยครับ
“หยวนๆ มึงหง่ายหลังกลางห้องสมุดหรอวะ” มยองโฮเพื่อนรักเดินตรงมาหาผมพร้อมกับกอดคอผม และตามเสต็ปเดิมของมันคือ เริ่มล้อผมและคงจะล้อไปอีกนาย
“คาบต่อไปเรียนไรวะ” ผมทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง
“พละว่ะ อย่าเปลี่ยนเรื่องดิ มึงทำอีท่าไหนวะถึงได้หง่ายหลัง” นึกว่าจะทำได้สำเร็จ แต่ก็วกกลับมาเรื่องเดิมอีกแล้ว
“กูไปห้องพักก่อนจะ อยากอาบน้ำพอดี คาบต่อไปจะได้ไม่เหม็นเหงื่อ”
“ทำเป็นหนีนะมึง ถึงมึงจะหนีกูก็ไม่หยุดล้อมึงหรอก”
หลังจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดพละ พอดีว่าเหลือเวลาอีกตั้ง 20 นาทีกว่าจะเริ่มคาบ ผมเลยนอนรอที่โซฟา
แต่พอนอนลงบนโซฟาก็คิดถึงตอนที่เขาทาคารามายด์ให้ผม ตอนที่เราแย่งของกันในคาบเคมี
คิดแล้วก็ตลก ใครจะไปรู้ล่ะว่าตอนนั้นผมเกลียดขี้หน้าจุนไคมากแค่ไหน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมชอบเขาแทน
นี่หรือเปล่าที่เขาบอกว่า เกลียดอะไร ได้อย่างนั้น
เฮ้อ นายจะชอบฉันมั้ยนะ ? ? ? . . ?
คิดไปคิดมา พอดูเวลาอีกที เหลืออีกแค่ 5 นาที จะเริ่มคาบแล้ว ทำไมเวลาของผมเดินเร็วจัง เวลาที่เราอยู่กับตัวเองเราอาจจะคิดว่ามันแป๊บเดียวแต่ในความเป็นจริงอาจจะนานกว่านั้น
ผมลุกขึ้นจากโซฟาออกจากห้องไปยังโรงยิม
@ โรงยิม
“วันนี้เราจะมาเรียนเต้นรำกันนะ เพื่อที่งานสิ้นปีของโรงเรียนเรากับโรงเรียนหญิงล้วนตรงข้ามจะได้ม่ขายขี้หน้าเขานะ” มิสเฟย์ บอกก่อนที่นักเรียนหลายคนจะทำหน้าดีใจ
งานสิ้นปีของโรงเรียนจะจัดร่วมกับโรงเรียนหญิงล้วนตรงข้ามทุกๆปีเป็นประเพณี และธีมงานปีนี้เป็นงานพอร์มหรืองานเต้นรำนั้นเอง
พวกนายคงอดอยากมานานแล้วสินะ ดูหน้าแต่ละคนนี่ ฮืม....
“อ้าวทีนี้จับคู่ 2 คน”
“หยวนคู่กูนะ” อยู่ๆมยองโฮไม่รู้โผล่มาจากไหน ก็ลากมือผมไปคู่กันมัน
“มึงไม่คู่กับจุนฮุยหรอ หรือว่าจุนฮุยไล่มึงมา” เพราะปกติเรียนพละทีไร มยองโฮต้องไปขอคู่กับจุนฮุยตลอด ที่จริงหลอกแต๊ะอั๊งจุนฮุยต่างหาก
“กูอยากคู่อยู่ แต่ขอช่วยเพื่อนก่อน”
“เพื่อน? กู?” เป็นอีกครั้งที่มันพูดให้ผมไม่เข้าใจ
“กูเป็นผู้ชาย มึงเป็นผู้หญิงนะ โอเค” ผมยังไม่ทันตอบมันก็ตอบตกลงเองและจัดท่าให้ผม เอามือวางบนไหล่มันและรวบเอวผม
“มึง!!!!”
“เริ่มนะคะ” จากนั้นมิสเฟย์ก็เปิดเพลงจังหวะช้าๆให้พวกผมเริ่มขยับนิดหน่อย
“กูว่ามึงใกล้กูไปป่าววะ ออกไปอีกนิดดิ้ จะสิงกูอยู่แล้ว” ผมรู้สึกว่าระยะห่างระยะหว่างเราน้อยลงทุกที เลยท่วงมัน
ผมมองดูคู่อื่นนี่แทบห่างกันเป็นวา แล้วดูคู่ผมสิ มันจะสิงผมอ่ะครับ
“พวกมึงสองคนมีซัมติงกันป่าววะ ใกล้กันขนาดนั้นไม่จูบกันเลยล่ะ”
“เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อหรอวะพวกมึง” จากนั้นก็มีเสียงแซวจากหลายๆปาก
ผมเหลือบไปเห็นจุนไคมองมาทางพวกเรา แล้วทำท่าไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกจากโรงยิมไปทางด้านห้องพักนักกีฬา
ผมเห็นเช่นนั้น จึงผลักไอ้มยองโฮที่กำลังจะฟิวชั่นกับผมออกไปและวิ่งตามจุนไคไป
“นาย”
“นาย รอก่อนสิ”
“จุนไค”
“หวังจุนไค นายเป็นอะไรของนาย” ผมวิ่งทันเขาก่อนจับไหล่เขาให้หันมาคุยกับผมดีๆ
“ก็ป่าวหนิ” แล้วเขาก็หลบตาผม
“ป่าวหรอ? ถ้าไม่มีอะไรจริงๆทำไมนายต้องหลบหน้าฉันด้วย แล้วที่เดินออกมานี่ด้วย”
“ก็บอกว่าไม่อะไรไง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หวังจุนไค ฉันจะถามนายดีๆอีกครั้งนะ นายเป็นอะไร ทำไมต้องหลบหน้าฉัน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันขอสั่งให้นายเลิกยุ่งกับฉัน คงจำสัญญาของเราได้นะ” เขาพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน
ก่อนจะหันหลังและกำลังจะเดินต่อไป
“นายชอบฉันหรอ?”
อยู่ๆประโยคเมื่อกี้ก็หลุดออกมาจากปากของผมอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมแค่พูดออกไปตามความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
เขาชะงักการเดินเอาไว้
.
.
.
.
.
เหมือนเวลาช้าลงไปเรื่อยๆ ผมเห็นภาพที่จุนไคค่อยๆเหลียวหลังกลับมาแค่ครึ่งหน้า
“ถ้าฉันตอบว่า..ใช่ล่ะ”
ผมได้ยินชัดเต็มสองหู อย่างที่ไม่ต้องหยิกแขนตัวเองถามว่านี่ความฝันรึเปล่า
จุนไคชอบผม
ผมก็ชอบจุนไค
เราสองคนใจตรงกัน
แต่ทำไมตอนนี้เราถึงต้องทะเลาะกันด้วย
พอรู้สึกตัว ผมก็เดินไปขวางหน้าจุนไค เพื่อที่จะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง จะได้ไม่มีอะไรค้างคา
“ที่นายเป็นอย่างนี้ก็เพราะฉันหรอ”
“...” เขาไม่ตอบผมแล้วก็หลบหน้าเหมือนเดิม
“เพราะมยองโฮงั้นหรอ?” ผมเริ่มเข้าใจการกระทำของเพื่อนผมแล้ว มันคงรู้นานแล้วสิว่าจุนไคชอบผม คงมีแต่ผมสินะที่ไม่รู้ตัว
“พวกนายสองคนเข้ากันดีนะ..นายคงมีความสุขมาก”
“ฉันจะบอกว่า นายเข้าใจผิดแล้วล่ะ..ที่นายคิดน่ะมันไม่ใช่นะ”
“นายกับมยองโฮคงไปได้ด้วยดีนะ...ฉันจะเอาใจช่วย ขอให้พวกนายมีความสุขมากๆนะ”
“นี่!!! นายฟังฉันบ้างสิ ก็บอกว่าไม่ใช่ไง”
“ฉันกับมยองโฮเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แล้วฉันก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วด้วย” ว่าแล้วผมก็รู้สึกเขินๆที่จะบอกออกไป
“ถ้าไม่ใช่มยองโฮ แล้วเป็นใครล่ะ?” เขาหันกลับมามองหน้าผมเป็นครั้งแค่แรกของวันนี้
“คือ...” จะให้บอกตอนนี้เลยหรอ
“...” เขาดูตั้งใจฟังที่ผมกำลังจะพูด
“...” เอาว่ะ ไม่บอกตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปบอกตอนไหนแล้ว
“...ชอบนายนั้นแหล่ะ”
เขาดูตกใจมาก เหมือนกับตอนที่ผมรู้ว่าเขาก็ชอบผมเหมือนกัน
“นายชอบฉันหรอ” เขาถามย้ำอีกครั้ง
ย้ำอะไรอยู่ได้ เขินนะเว้ย -////-
ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ
“จริงๆนะ” แล้วเขาก็โผเข้ากอดผม
ผมกอดตอบเขาเช่นกัน
ในเมื่อใจเราตรงกันก็แสดงว่ามันคือความรัก เพราะความรักมันต้องเกิดจากคนสองคนไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง
เราสองคนผละออกจากกันก่อนที่จุนไคจะโน้มใบหน้าของเขาลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของผม
จูบที่ครั้งนี้ไม่มีการขัดขืน ไม่มีการฉวยโอกาส มีแต่ความรักที่ส่งผ่านริมฝีปากหนึ่งไปยังอีกริมฝีปากหนึ่ง
ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าความรักมันดีอย่างนี้นี่เอง
ผมรักจุนไคมากๆเลยครับ
--------------------------------------------------------- S2 ------------------------------------------------------
14/12/2557 : สวีดัสค่ะ แอนมาอัพแล้วนะ รู้สึกอ่านหนังสือไม่เข้าหัวเลยมาอัพฟิคดีกว่า(RIPคะแนนมิดเทอม)
อาทิตย์หน้าแอนไม่อยู่ทั้งอาทิตย์เลยค่ะ ไปแข่งกีฬาที่จุฬา เลยอาจจะไม่ได้อัพฟิคต่อนะคะ แต่เดี๋ยวจะมาอัพย้อนหลังให้ได้อ่านกันแน่นอนค่ะ เดี๋ยวแถม สเปเชี่ยลคริสมาสต์กับนิวเยียร์ให้ด้วยเลย
ขอตัวไปอ่านหนังสือต่อนะคะ เดี๋ยวหม่อมแม่ยึดคอมไม่ได้อัพฟิค ฮิฮิ
ปล. อย่าลืมเม้นท์นะคะ บาอิ้ง~~
。SYDNEY♔
ความคิดเห็น