คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : LESSON V : Going Crazy 'ㅅ'
‘TFBOYS’ {β.Ö.Ỳ[Because Of You]} (KaiYuan) 'ㅅ'
LESSON V : Going Crazy
---<<YUAN Part>>---
“โรมิโอ ได้โปรด อย่าจากข้าไปเลย ข้าร เอี่ย ฉันพูดไม่ได้หรอก” ผมกำลังซ้อมบทละครที่จะแสดงวันเปิดงานโรงเรียนอยู่กับเพื่อนๆในห้องอยู่ที่เวทีของหอประชุม
“อะไรของมึง ก็แค่พูดๆไปแค่นี้ก็จบแล้ว” ไอ้มยองโฮเพื่อนรัก(ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังใช่อยู่รึเปล่า)เดินเข้ามาใช้บทละครม้วนเข้าแล้วฟาดลงที่หัวของผมทีนึง
“ก็มึงเป็นก้อนหินนี่หว่า มึงลองมาเล่นบทกูมั้ยล่ะ” ผมกุมหัวที่ถูกมันหาดก่อนจะหันไปแหว่ดใส่
“อ้าวๆ อย่าพึ่งทะเลาะกัน เดี๋ยวครูไม่ให้พักนะ” มิสจางลี่อิน ที่นั่งดูการซ้อมของพวกเราอยู่ก็ลุกขึ้นมาห้ามทัพระหว่างผมกับไอ้มยองโฮหน้าลิง
“ฉากต่อไป โรมิโอกลับมาเจอจูเลียตที่นอนตายอยู่นะ 3 2 1 แอคชั่น” มิสจาง พูดให้สัญญาณ เหมือนกำลังถ่ายหนังจริงๆเลย
ซึ่งฉากนี้ผมแค่นอนเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไรมาก
“จูเลียตของข้า ไม่น่าเลย...” เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้น เรียกความสนใจจากเพื่อนๆให้มองกันเป็นตาเดียว
ซึ่งผมหลับตาอยู่เลยไม่รู้ว่าเขาเล่นเป็นไงบ้าง
“ข้ารักเจ้าจริงๆนะจูเลียต” ผมฟังเสียงของไอ้คนที่แย่งบทโรมิโอของผมไปต่อหน้าต่อตาอยู่นิ่งๆ คิดแล้วก็เจ็บใจ
“เชี่ย เขินสาสสสสสสสสส” เสียงของเพื่อนในห้องดังขึ้น
“จุนไคแม่ง เล่นดีจริงๆว่ะ”
ผมได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะไอ้โรมิโอมันจะจูบผมแล้วน่ะสิ ผมรีบผลักเขาออกไป
“คัทๆๆๆๆ หวังหยวน เธอผลักจุนไคออกทำไมเนี่ย กำลังจะไปได้สวยอยู่แล้วเชียว” มิสจางลุกขึ้นจากเก้าอี้ผู้กำกับก่อนจะพูดกับผม
“จุนไคเล่นดีมากจ่ะ เหลือแต่หยวนแค่นั้นแหล่ะ งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมกันใหม่” มิสจางสั่งแยกย้าย ก่อนที่ทุกคนจะโค้งทำความเคารพแล้วมิสก็เดินออกไป
“เกือบดีแล้ว มึงอ่ะผิดคิว” ไอ้มยองโฮพูดขึ้น
“หรือว่านายเขินฉันหรอ?” จุนไคพูดขึ้น
“เขินบ้าเขินบออะไรล่ะ เป็นใครเขาก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แล้วนายก็ด้วยในบทไม่เห็นมีฉากจูบอะไรเลย”
“แต่มันก็ออกมาดี ไม่เห็นหรอมิสจางชมด้วย” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“จะเล่นนอกบทก็ช่วยปรึกษาฉันก่อนได้ป่ะ ไปๆกลับบ้านไปได้แล้ว” ผมว่าอย่างนั้นก่อนจะสะพายเป้ของตัวเองแล้วเดินออกไปจากหอประชุม
ซึ่งมีจุนไคที่เดินตามหลังมาต้อยๆ
“นายจะตามฉันมาทำไมเนี่ย?”
“เดี๋ยวไปส่ง” แล้วเขาก็มาเดินข้างผม
“ไม่ต้องฉันกลับเองได้ นายนั้นแหล่ะกลับบ้านไปได้แล้ว พ่อบ้านนายมารอตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ” ผมชี้ไปทางหน้าโรงเรียนที่มีลุงพ่อบ้านคนนึงกำลังยืมรอหน้ารถลีมูซีนสีดำสุดหรู
“เดี๋ยวฉันไปส่ง นี่ก็จะค่ำแล้ว นายเดินไปคนเดียวไม่กลัวโดนฉุดหรือไง ยิ่งหน้าตาอย่างนี้ด้วย” อ้าวพูดอย่างนี้หมายความว่าไง หน้าตาผมมันเป็นยังไง
“ไม่ต้อง ฉันกลับได้ นายขึ้นรถไปเถอะ” เรามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้ารถ
“นายจะขึ้นดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้มขึ้น” เขาเริ่มขู่ผม
“นายนี่มันดื้อด้านจริงๆ ก็บอกแล้วไงว่ากลับได้ นายนี่มัน....” แล้วผมก็เดินขึ้นรถเขาไป ผมไม่ได้กลัวคำขู่เขาสักหน่อย
แล้วเขาก็เดินขึ้นมานั่งเบาะข้างๆผม แล้วก็ปิดประตูก่อนที่รถจะออกตัวไป
ว้าว ผมไม่เคยนั่งรถหรูขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงทางบ้านผมจะไม่ได้ถึงกับขั้นจนแต่ก็ไม่ได้ถึงกับขั้นรวยจนเงินเหลือใช้อย่างไอ้คุณหนูจุนไคนี่ก็เถอะ เมื่อเทียบกับเขาแล้วผมดูจนไปเลย
ผมบอกทางกลับบ้านกับคนขับรถจนรถเคลื่อนตัวมาจอดอยู่ข้างหน้าบ้านผม
“ฉันไม่ได้ขอให้นายมาส่งนะ นายอยากมาเอง แต่ก็ขอบใจนะ” ผมกำลังจะเปิดประตูรถออกไป
“ทำไมบ้านมืดจัง พ่อแม่นายไปไหนหรอ” จุนไคถามขึ้น
ทำให้ผมนึกถึงตอนเช้าที่แม่บอกผมไว้ว่า
‘หยวน วันนี้แม่จะไปหาพ่อที่เกาหลีนะ น่าจะไปสักสองสามวันแหล่ะ อยู่บ้านคนเดียวได้ใช่มั้ยลูก หรือไม่ก็ไปนอนบ้านเพื่อนก็ได้นะ เดี๋ยวแม่ซื้อของมาฝากนะลูก’
“อ๋อ แม่ฉันไปต่างประเทศน่ะ”
“แล้วนายจะอยู่บ้านคนเดียวหรอ ไม่กลัวผีหรอ”
“นี่ฉันอายุ 14 แล้วนะ”
“ไปนอนบ้านฉันมั้ยล่ะ?...ลุงเฉินครับออกรถเลย” ผมยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะ
“เฮ้ย ไม่เป็นไร นายส่งฉันที่บ้านแหล่ะ” แต่เขาก็ไม่ฟังที่ผมเรียกร้อง ไอ้หมอนี่มันเผด็จการจริงๆ ผมได้แต่มองเงาของบ้านตัวเองตาละห้อย
20%
แล้วรถคันหรูก็เคลื่นตัวมาจอดอยู่สถานที่สถานที่หนึ่งที่ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านของจุนไคผมคงคิดว่านี่คือพระราชวังของเชื้อพระวงศ์ที่เหลือรอดมาจากสมัยราชวงศ์ถังแล้วมั้งเนี่ย
ผมเดินลงมาจากรถด้วยอาการตาค้าง มองจ้องไปที่บ้านไม่สิคฤหาสน์ที่เกือบจะเป็นปราสาท หรือเรียกสั้นๆว่าบ้านของจุนไคอย่างไม่วางตา
“นะ..นี่ บ้านนายหรอ” ผมเอ่ยถามเขา
“ก็ใช่น่ะสิ คิดว่าฉันจะพานายเข้าม่านรูดหรือไง” อ้าวไอ้นี่ อยากมีเรื่องหรือไง แต่บ้านหมอนี่ใหญ่เป็นบ้าเลย ดูอาณาเขตแล้วน่าจะกินพื้นที่เกือบจังหวัดนึงเลยมั้งเนี่ย(นั่นก็เว่อร์เกิน) ผมมองไปยังสวนที่ถูกจัดอย่างสวยงาม มีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางสวนเป็นอะไรที่น่าชมมากๆเลย
“นายอยากเข้าไปดูในบ้านมั้ย?” จุนไคถามขึ้นขณะที่ผมกำลังหลงใหลกับทิวทัศน์บ้านของเขา
ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ อย่างลืมตัว
แล้วผมก็เดินตามหลังเขาเข้าประตูบานใหญ่ไป สิ่งแรกที่เจอคือห้องโถงขนาดใหญ่ที่อยู่กลางบ้าน โดยบ้านนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น มีห้องมากมายนับไม่ถ้วน ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านคนผมก็นึกว่าเป็นโรงแรมเหมือนกันนะ
“อ้าวคุณหนูจุนไค กลับมาแล้วหรอคะเนี่ย แล้วคนนี้ใครคะ แฟนหรอ? หน้าตาน่ารักจัง” เสียงของผู้หญิงใส่ชุดเมดเดินออกมาต้อนรับ
“มะ..ไม่ใช่ครับ ผมเป็นผู้ชายครับ แล้วก็เป็นเพื่อนเฉยๆครับ” ผมรีบแก้ตัวทันที
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ พี่เห็นน่ารักๆอย่างนี้นึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง” เอ่อ พี่ครับที่พูดมานี่ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกผมดีขึ้นเลย
“จุนไค กลับมาแล้วหรอลูก” เสียงของผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้น ทำให้ผมหันไปมอง เขาน่าจะเป็นพ่อของจุนไค ซึ่งผมกำลังจะโค้งทำความเคารพ แต่กลับถูกจุนไคคว้ามือของผมไปแล้วลากผมขึ้นไปชั้นสองทันที
“นายทำอะไรเนี่ย” เขาปิดประตูห้องของเขาลง แล้วผมก็สะบัดมือเขาออก
“ไม่มีอะไรหรอก นายจะนอนห้องนี้ก็ได้นะ ฉันไปอาบน้ำก่อน” ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยเขาก็หลบหายเข้าไปในห้องน้ำซะแล้ว
เป็นอะไรของเขานะ อยู่ดีๆก็หงุดหงิดขึ้นมาเฉยเลย
ผมเดินสำรวจห้องนอนของเขา ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายห้อง มีทั้งห้องนอน ห้องอ่านหนังสือ ห้องนั่งเล่น อยู่รวมกันในห้องเดียว
แล้วก็ต้องไปสะดุดกับกรอบภาพที่อยู่บนหัวเตียง
เป็นรู้ที่จุนไคกำลังยิ้มอย่างร่าเริงกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแม่ของเขา รอยยิ้มของจุนไคดูเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขมากเลย แม่ของจุนไคเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ไม่แปลกใจเลยที่เธอมีลูกชายที่หล่ออย่างนี้ อ้าวแล้วผมจะไปชมหมอนั้นทำไมเนี่ย - -“
แล้วผมก็เหลือบไปเห็นกรอบรูปอีกอันที่ถูกคว่ำลง ผมก็ไม่ได้เป็นคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ผมแค่อยากรู้ว่ามันคือรู้อะไรแค่นั้นเอง
ผมเลยหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นภาพรวมครอบครัวของเขา ที่มีทั้งคุณพ่อคุณแม่แล้วก็เขา ทั้งสามยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุข แต่ทำไมตอนนี้จุนไคเขาถึงไม่พูดกับพ่อของเขาสักคำ แล้วแม่ของเขาไปไหนแล้วล่ะ
“นายจะอาบน้ำเลยมั้ย?” เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวที่ปกปิดร่างกายครึ่งท่อนร่าง ผมรีบวางกรอบรูปนั้นคว่ำลงเหมือนเดิม ก่อนจะหันไปมองเขา
ทำไมจุนไคหุ่นดีอย่างนี้นะ กล้ามท้องที่บ่งบอกว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายมา อีกทั้งร่างกายที่สูงกว่าผมนิดหน่อย(ไม่นิดล่ะมั้ง) ผิวที่ขาวแต่น้อยกว่าผม
ผมอิจฉาเขานะเนี่ย ผมมองดูตัวเองที่ทั้งผอมบาง แล้วยังตัวขาวซีดปากแดงยังกับเด็กผู้หญิง แต่ผมก็สูงอยู่นะแค่สูงไม่เท่าเขาเฉยๆ
“ฉันไม่มีเสื้อผ้าน่ะสิ” เพราะหมอนั้นเล่นถ้าผมมาบ้านทั้งๆที่ผมยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย
“งั้นเดี๋ยวใส่ของฉันก่อนก็ได้ ไปอาบน้ำไป” ผมรับผ้าเช็ดตัวจากจุนไคก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
โห หมอนี้จะรวยเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะ ขนาดห้องน้ำนี่ยังจะใหญ่กว่าห้องนอนของผมอีกมั้งเนี่ย มีทั้งอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ฝักบัวอีก ไฮโซสุดๆ
ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานเท่าไหร่ตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไปที่อาบน้ำเป็นปกติ
ผมเดินออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเหมือนจุนไค แต่ติดที่ผมไม่มีกล้ามท้องแบบเขานี่สิ ผมมีแต่หน้าท้องแบนราบเนี่ยและ พยายามออกกำลังกายแล้วนะ แต่ซิกแพคมันไม่ขึ้นให้ผมสักที พระเจ้าช่างทำร้ายผมจริงๆ
“นายใส่ชุดนี้ไปก่อนนะ” ผมรับชุดนอนลายหมีน้อยจากมือจุนไคก่อนจะเดินเข้าห้องแต่งตัวไป แล้วจัดการใส่ชุดนั่นให้เรียบร้อย
ทำไมเสื้อจุนไคใหญ่จังเลย หรือว่าผมตัวเล็กเองก็ไม่รู้
ผมเดินออกมา ด้วยชุดนอนลายหมีน้อยของจุนไคที่ไม่ค่อยจะพอดีตัวผมเท่าไหร่เลย
“จะนอนยัง?” จุนไคที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงถามผมขึ้น
ผมหยิบโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิ้ลของผมขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ก็พึ่งจะ 2 ทุ่มเอง ปกติผมนอน 3-4 ทุ่มโน้นแหล่ะ
“ถ้านายง่วงก็นอนก่อนก็ได้” ผมบอกเขาไป ก่อนจะเดินไปนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟา
“นายไม่หิวหรอ? ข้าวเย็นก็ยังไม่กิน”
“เอ่อ ลืมไปเลยว่ายังไม่กินข้าว แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่หิว”
โครกกกกกกกกก ครากกกกกกกกกกกกกกกก
-///- ผมไม่ได้หิวจริงๆนะ ท้องมันหิวต่างหากล่ะ(?)
“ปากไม่ตรงกับใจ” แล้วเขาก็ลุกจากเตียงมาเปิดตู้เย็นเล็กข้างทีวีหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะปิดมันลง
“ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย เดี๋ยวลงไปดูห้องครัวให้ รอแป๊บนะ” ว่าแล้วเขาก็เดินออกจากห้องไป จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เดินขึ้นมาพร้อมครัวซองสองชิ้นกับนมมอีกสองกล่อง
“โทษที เหลือแค่นี้เอง” เขาวางถาดอาหหารลงที่โต๊ะตรงกลาง ก่อนจะนั่งโซฟาตัวตรงข้ามผม
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้ว” หมอนี่ก็แปลกนะบางทีก็กวนฝ่าพระบาทชิบหาย บางทีก็แสนดีเหลือเกิน เปลี่ยนโหมดเร็วจนผมตามไม่ค่อยทัน
ผมหยิบครัวซองชิ้นนึงขึ้นมากัดแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะรู้สึกแปลกๆ หันไปมองหน้าจุนไค เขากำลังมองผมกินอยู่
“ทำไมนายไม่กินล่ะ มานั่งมองฉันกินทำไม”
“กลัวนายไม่อิ่มไง กินๆไปเถอะ เดี๋ยวฉันนั่งมองเฉยๆ”
“ได้ไงล่ะ นายกินเลย” ผมวางครัวซองของตัวเองลง ก่อนจะหยิบอีกชิ้นส่งให้จุนไค
“นายกินเลย” เขาพยายามปฏิเสธ
“ไม่นายนั่นแหล่ะกิน” แต่ผมก็พยายามยัดเยียด
“ก็ได้ๆ แต่กินชิ้นนี้นะ” ว่าแล้วเขาก็หยิบครัวซองชิ้นที่ผมกัดแล้วขึ้นไปกัดต่อตรงรอยกัดเดิมของผมหน้าตาเฉย
“เฮ้ย” ผมอึ้งกับการกระทำของเขา อะไรเนี่ย
นี่มัน... -////- ไม่ๆๆๆๆ ผมจะไม่คิดมากนะ เขาแค่หลอกเล่นเฉยๆล่ะมั้ง
หลังจากอาหารมื้อค่ำจบลง ผมก็มองดูเวลา ตอนนี้ก็ปาไปแล้ว 4 ทุ่ม สมควรแก่การนอนแล้ว
“นายนอนบนเตียงฉันก็ได้นะ” จุนไคพูดขึ้นหลังจากเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันนอนโซฟาก็ได้” ผมรีบปฏิเสธทันที เกรงใจเขาจะแย่อยู่แล้ว
“เอาเหอะหน่า เตียงฉันใหญ่อยู่นอนสองคนได้สบาย” เขาเดินเข้ามาลากผมไปที่เตียง
“ฉันเกรงใจ จริงๆนะ” ผมพยายามขืนตัวเองไว้
แต่เพราะด้วยร่างกายที่พระเจ้าลงโทษกับแรงของอีกฝ่าย ทำให้ที่ผมพยายามขัดขืนนั้นไม่เป็นผล
“นายจะนอนดีๆมั้ย” เขาขู่ผมอีกแล้ว ทำไมเปลี่ยนโหมดเร็วงี้วะ
“ไม่!! ” เอาสิผมก็ไม่ใช่คนยอมคนง่ายๆซะด้วย
“งั้น...” แล้วจู่ๆ ร่างของผมก็ลอยขึ้นบนเตียงอย่างง่ายดาย โอ๊ยทำไมผมถึงตัวเล็กอย่างงี้นะ บ้าจริง
เขาจัดการห่มผ้าห่มให้ผมก่อนจะนอนลงข้างๆผม
ทำไมผมต้องแพ้เขาตลอดเลยเนี่ย ครั้งนี้ผมไม่ยอมหรอก
ผมเตะผ้าห่มออกก่อนจะพยายามลุกขึ้นจากเตียง
แต่หมอนั่นก็ไม่ยอมให้ผมลุกง่ายๆเหมือนกัน
เขาเอาตัวมาขึ้นคร่อมผมเพื่อไม่ให้ผมหนีไปไหนได้
“จะนอนดีๆมั้ย?” เขาถามผม
“...” ผมรอจังหวะอยู่ครับ
“อย่าดื้อสิ” ดื้อหรอ? เขาว่าผมดื้อครับ ตัวเองนั่นแหล่ะที่ดื้อ
แล้วเขาก็ค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ เฮ้ย ไอ้หมอนี่จะทำบ้าอะไรของมันเนี่ย ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย!!!!!!!
“อ๊ากกกกกกกกกก” ผมรวบรวมพลังทั้งหมดถีบขาคู่ใส่ท้องจุนไคเต็มๆ ก่อนที่เขาจะทำอะไรหน้าสยดสยองกับผม
แล้วผมก็รีบลุกขึ้นจากเตียงเพื่อหนีไปอีกมุมของห้อง
“โอ๊ย หน้าทำอะไรของนายเนี่ย” เขานอนกุมท้องของตัวเองอยู่บนพื้น
“ก็นายนั้นแหล่ะจะทำอะไร อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีกนะ” แล้วผมก็นอนลงที่โซฟา เพราะมั่นใจแล้วว่าหมอนั้นจะทำอะไรผมไม่ได้อีก หึ ให้มันรู้ไว้บ้างว่าผมเป็นใคร
“ตามใจนาย” แล้วเขาก็นอนลงบนเตียงก่อนจะปิดไฟ
เมื่อเวลาผ่านไป ความเงียบก็เข้าครอบงำ อุณหภูมิก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆจากกำลังของเครื่องปรับอากาศ
ทำไมมันรู้สึกเย็นๆ หนาวๆอย่างนี้นะ
ผมใช้แขนกอดตัวเองเพื่อให้ความอบอุ่น แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลย โอ๊ยหนาวๆๆๆๆๆ เพราะแอร์มันตกลงมาตรงนี้พอดีเลยนั้นเอง ผ้าห่มก็ไม่มี มีหวังผมได้นอนแข็งตายแน่ รู้งี้นอนที่เตียงดีๆตามที่จุนไคบอกก็ดีสิ ผมไม่น่าดื้อเลย
ทันมั้ยเนี่ย?
ชั่งมันเถอะ ผมพยายามข่มตาให้หลับ
ถึงจะหนาว แต่เพราะว่ามันค่อนข้างดึกมากแล้ว ผมก็ผล็อยหลับไปทั้งๆที่นอนกอดตัวเองโดยปราศจากผ้าห่ม
14/10/24 0.34 : แอนอัพแล้วน้า รู้สึกหายไปนานมากอ่ะ ไม่ว่ากันใช่มั้ย?
อีก 80% กำลังจะตามมา แต่เนื่องจากตอนนี้ดึกมากแล้ว แอนขอตัวไปนอนก่อนนะ บาอิ้ง~~
ปล. เม้นท์เหมือนเดิมนะคะ ยิ่งเม้นท์เยอะยิ่งเป็นกำลังใจในการแต่งกับแอนนะคะ
14/10/25 23.21 : มาอัพช้าไปมั้ยอ่ะ? 55555 รู้สึกตอนนี้แอนแต่งไม่ค่อยดีเลย ไว้จะหาเวลามารีไรท์ใหม่อีกครั้งนะ รู้สึกยืดเยื้อยังไงไม่รู้ ถ้างั้นวันนี้ขอตัวนะคะ สวีทดรีมทุกๆคนน้าาาาาาา
ปล.เม้นท์จ้าเม้นท์ เม้นท์เท่านั้นที่ครองโลก (เกี่ยว)
ความคิดเห็น