ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ‘TFBOYS’ { Šhh… [Silent Honey Heart]} (KaiYuan) 'ㅅ'

    ลำดับตอนที่ #4 : LESSON III : Joker (Re-Up)

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 58


    ‘TFBOYS’ { Šhh… [Silent Honey Heart]} (KaiYuan) ''

     

    LESSON III :  Joker

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ;:/.\YUAN…PART/.\:;

     

     

    เช้าวันใหม่ที่สดใสสำหรับผมได้เริ่มขึ้นแล้ว ที่จริงมันก็แค่อีกวันธรรมดาๆของผมนั่นแหล่ะครับ แต่ที่แตกต่างไปจากเดิมก็ตรงที่เมื่อคืนมีคนบอกฝันดีก่อนเข้านอนเป็นครั้งแรกก็แค่นั้นเอง

     

    ผมก็ไม่ได้ดีใจเท่าไหร่หรอก ดูสิขนาดตอนนี้ส่องกระจกในห้องน้ำยังยิ้มไม่หยุดเลย ใครเห็นก็คงคิดว่าผมเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆเลย หรือผมบ้าไปแล้วจริงๆ อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

     

    เพื่อนคนแรกตั้งแต่ที่ผมจำความได้ เค้าชื่อว่า หวังจุนไค ยังไงล่ะครับ คนคนแรกที่ต่อยหน้าผม แต่มันก็คุ้มนะที่ผมได้เพื่อนกลับมาตั้งคนนึงแหน่ะ

     

    ชีวิตของผม พวกคุณคงคิดว่ามันรันทดขนาดนั้นเลยหรอ ใช่ครับ!! อาจจะยิ่งกว่าที่พวกคุณคิดซะอีก ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากไปหรอกนะ โรงเรียนแย่ๆอย่างนั้น จะต้องไปเจอเพื่อนแย่ๆ กับคุณครูที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร ไม่มีความใส่ใจในตัวนักเรียนเลยแม้แต่นิดเดียว

     

    พูดแล้วก็อารมณ์เสีย ผมไม่อยากจะคิดถึงมันมากเท่าไหร่ แต่ถึงแม้จะไม่คิดถึงมันแต่ยังไงผมก็ต้องไปเจอมันทุกวันอีกตามเคย

     

    ตอนแรกผมคิดจะหนีให้พ้นๆไปเลย จะได้สิ้นเรื่อง แต่ถ้าเกิดผมโดดเรียนหรือทำอะไรไม่ดีจะถูกรายงานตรงไปยังบ้านที่บ้านนอกของผมทันที แล้วเฮียที่บ้านนอกจะโทรมาสวดผมยับเลยครับ ประมาณ 1 พระคัมภีร์เห็นจะได้ ผมก็เลยต้องอดทนอดกลั้นอยู่ในโรงเรียนนั้นต่อไป

     

    เล่ามาถึงขนาดนี้แล้วพวกคุณก็คงสมเพชผมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะครับ ผมก็สมเพชตัวเองเหมือนกัน

     

    ตึ๊ง

     

    เสียงเตือนจากโทรศัพท์เครื่องน้อยของผมดังขึ้น พร้อมแจ้งเตือนแอพพลิเคชั่นสีเขียวๆของผมที่เคยเงียบสงัด แต่เดี๋ยวนี้มันมีข้อความเข้ามาแล้ว

     

    Wang Junkai : อรุณสวัสดิ์

                           เมื่อคืนเพราะนายแท้เลยฉัน

                           ตื่นสายเลยเนี่ย

     

    ผมยิ้มให้กับตัวอักษรที่ถูกส่งมาครั้งแรกของวันพร้อมกับบรรจงกดตัวอักษรพิมพ์ตอบไปอย่างเก๋ๆกังๆ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยจะได้ใช้สักเท่าไหร่เลยทำให้พิมพ์ผิดแล้วต้องไปแก้ไขใหม่ตั้งหลายรอบ

     

    Wang Yuan : นายเองไม่ใช่หรอที่ชวนเราคุย มาโทษกันได้ไง -.-

     

    Wang Junkai : ^^ แต่งตัวเสร็จยัง เดี๋ยวไปส่ง

     

    ผมอมยิ้มกับข้อความที่ถูกส่งมา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนไปส่งผมถึงโรงเรียน

     

    Wang Junkai : รออยู่หน้าห้องแล้วเนี่ย เร็วๆเลย

     

    ผมผูกเชือกรองเท้าก่อนจะเปิดประตูออกไป ก็พบกับมนุษย์หน้าแมวที่กำลังยืนยิ้มโชว์เขี้ยวอยู่หน้าห้องของผม

     

    “ไปกัน”

     

    ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้เค้า

     

    นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ขอบคุณนะที่มาเป็นเพื่อนให้ฉัน

     

    พอลงมาถึงชั้นล่างที่มีมอไซค์ของเค้าจอดอยู่ จุนไคก็หยิบเอาหมวกกันน็อคอันนึงมาสวมให้กับผม แล้วสวมอีกอันที่หัวตัวเอง

     

    แล้วเราก็ออกเดินทางไปยังโรงเรียนของผม และโรงเรียนของเค้าก็อยู่ตรงข้ามโรงเรียนผมพอดี

     

    โรงเรียนผมเป็นแค่โรงเรียนรัฐบาลธรรมด๊าาาาา ธรรมดา โรงเรียนนึง

     

    ส่วนโรงเรียนตรงข้ามเป็นโรงเรียนชายล้วนเอกชนชื่อดัง และผมได้ข่าวมาว่ามีแต่พวกลูกคนร่ำคนรวยไปเรียนกัน

     

    และดูเหมือนว่าพวกผู้หญิงโรงเรียนผมก็ชอบไปกรี๊ดกร๊าดตลาดแตกอยู่หน้าโรงเรียนนั้นบ่อยๆเหมือนกัน

     

    รถของจุนไคได้เคลื่อนตัวมาจอดอยู่หน้าโรงเรียนผม พร้อมกับสายตานับสิบของนักเรียนที่กำลังจะเข้าโรงเรียนเรียน มองมาทางผมกับจุนไคเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจความหมายได้

     

    ผมลงจากรถก่อนจะถอดหมวกคืนให้กับจุนไค พร้อมกับกดโทรศัพท์ของตัวเอง

     

    Wang Yuan : ขอบคุณนะที่มาส่ง ไว้เจอกัน

     

    เค้าถอดหมวกแล้วก็ก้มอ่านข้อความก่อนจะหันมาพูดกับผม

     

    “งั้นเดี๋ยวเลิกเรียนมารับนะ”

     

    ผมโบกมือปฏิเสธก่อนจะพิมพ์ตอบไปว่า

     

    Wang Yuan : ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับเองได้

     

    แล้วผมก็โบกมือบ๊ายบายก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไปโดยที่ไม่ให้เค้าขัดขืนได้

     

    แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว ถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่เราก็พึ่งจะรู้จักกันเมื่อวานเอง รบกวนเค้ามากเกินไปผมว่ามันก็คงไม่ดีแน่

     

    เห็นอย่างนั้นเค้าก็โบกมือลาผมเช่นกันก่อนจะขี่มอไซค์คู่ใจของตัวเองเข้าโรงเรียนไป

     

    แต่ตอนนี้คนที่ตกที่นั่งลำบากกลับกลายเป็นผม ที่โดนนักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นมองผมอย่างไม่วางตาจนผมรู้สึกอึดอัด

     

    “นี่นาย คนที่ใส่หน้ากากอนามัยน่ะ หยุดก่อนสิ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำเอาผมหยุดชะงักไปเลย

     

    แต่ผมคิดว่าถ้าผมหยุดเดินคงจะไม่ดีแน่ๆ คิดได้อย่างนั้นแล้วผมก็ก้าวขาเดินต่อไป

     

    พลั่ก

     

    “ไม่ได้ยินที่เพื่อนฉันบอกรึไง ห้ะ!!” มีผู้หญิงอีกสองสามคนยืนขวางหน้าเอาไว้ เมื่อผมก้าวเดินไปพวกเธอก็ชนไหล่ของผม จนทำให้ร่างของผมถูกชนลงไปกองกับพื้น

     

    ตอนนี้มีผู้หญิงรวมๆแล้ว 5 คน กำลังล้อมผมไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้

     

    เมื่อก่อนเคยคิดว่ามีผู้หญิงมาห้อมล้อมเยอะๆก็คงดี แต่ผมคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วสินะ     

     

    “ทำไมนายถึงได้มากับท่านจุนไค”

     

    “แกมันไอ้ใบ้ห้อง 3 นี่นา ถามไปมันก็คงตอบไม่ได้หรอกฉันว่า”

     

    “น่าขำสิ้นดี เป็นใบ้แล้วยังไม่เจียมตัวอีก ไปเกาะแกะท่านจุนไคของพวกเรา”

     

    “จำเอาใส่กะโหลกกลวงๆของแกเอาไว้นะ ว่าอย่ามายุ่งกับท่านจุนไคของพวกเราอีก ถ้าไม่งั้นเรื่องไม่จบแค่นี้หรอกนะ”

     

    “คนใบ้ก็อยู่ส่วนคนใบ้ไป อย่าสะเออะมาทำให้ท่านจุนไคของพวกเราต้องแปดเปื้อน อย่าหาว่าพวกฉันไม่เตือน”

     

    พวกผู้หญิง 5 คน พูดไว้อย่างนั้นก่อนจะเดินจากไป อย่างเริ่ดๆ เชิดๆ

     

    อะไรของพวกนั้น ท่านจุนไคอะไรกัน คำก็ใบ้สองคำก็ใบ้ พูดไม่ได้แล้วมันไปหนักหัวส่วนไหนของพวกเธอกันหา

     

    “จับมือฉันสิ” มีนักเรียนชายคนนึงจากเด็กกลุ่มที่เดินผ่านมาพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือเข้ามาช่วยผม

     

    นายเป็นคนดีจัง ทำไมใจดีจัง พระเจ้าส่งนายมาใช่มั้ย โอ้นอกจากจุนไคแล้วยังมีคนเห็นใจผมอีก พระเจ้าทรงเมตตาจริงๆ

     

    ขณะที่ผมกำลังซาบซึ้งอยู่นั้นผมก็ยื่นมือไปจับกับผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาช่วยผม

     

    ก่อนจะค่อยๆดันตัวลุกขึ้น แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันตรงกันข้าม

     

    โครม!!!

     

    ไอ้คนที่ยื่นมือมาช่วยผมในตอนแรกมันกลับปล่อยมือผมก่อนที่ผมจะลุกขึ้นเสร็จ เป็นเหตุให้ผมหกล้มหน้าขมำกับพื้นถนน

     

    “โทษทีๆ มือลื่นไปหน่อย 5555555” พร้อมกับเพื่อนๆของเค้าที่หยุดหัวเราะกันทั้งกลุ่มกับการกระทำของเพื่อนตัวเอง

     

    เจ็บชะมัดเลย จากที่เจ็บแค่ก้นที่ถูกชนล้มในตอนแรก ตอนนี้กลับเจ็บไปทั้งตัวเจ็บทั้งใจ หน่อย ผมคงมองคนง่ายไปสินะ โลกนี้ชั่งอยู่ยากซะจริงๆ

     

    ผมพยายามลุกขึ้นด้วยกำลังของตัวเองอีกครั้ง

     

    “ไม่เป็นไรใช่มั้ย...ลุกไหวมั้ย...มาเดี๋ยวฉันช่วย” เสียงผู้ชายอีกคนนึงดังขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาให้ผมอีกครั้ง

     

    ผมจะไม่ยอมโง่ซ้ำสองหรอกนะ

     

    ผมปัดมือหมอนั่นทิ้งก่อนจะลุกขึ้นด้วยตัวเอง

     

    แล้วปัดเนื้อตัวที่เปื้อนดินก่อนจะเดินจากไปโดยไม่มองหน้าคนคนนั้น

     

    ในสายตาของคนอื่นผมก็คงเป็นแค่ตัวตลกที่ใครๆก็คอยหัวเราะล่ะสิ





    150509 0.56 : สวัสดีค่าาาาาาาาาาา แอนคัมแบคแล้วค่า จากการหนีเที่ยว 55555

    ก็เหมือนเดิมแหล่ะค่ะ อัพตามอารมณ์ อุอิ

    เมนท์เยอะอัพเร็ว เม้นท์น้อยอัพช้านะ 5555

    บาอิ้ง~~

    #FicShhKaiYuan








    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×