คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : LESSON I : Class S 'ㅅ'
‘TFBOYS’ {β.Ö.Ỳ[Because Of You]} (KaiYuan) 'ㅅ'
LESSON I : Class S
---<<YUAN Part>>---
“นี่นายเด็กใหม่ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมเดินไปที่โต๊ะของเขาที่อยู่หลังห้องหลังจากที่มิสลี่อินออกไปแล้ว
“มีอะไร?” เขาพูดกับผมขณะที่กำลังจัดของในกระเป๋าใส่ในลิ้นชักใต้โต๊ะโดยไม่หันมามองหน้าผม
“นี่นาย เวลาพูดกับคนอื่นน่ะหัดมองหน้าคนที่กำลังพูดด้วย” ผมตบโต๊ะของเขาด้วยมือสองข้าง แล้วเท้าข้างไว้
เพราะเสียงดังเมื่อกี้ทำให้ตรงนี้เริ่มเป็นจุดสนใจของเพื่อนอีก 10 คน ส่วนคนที่โดนผมตวาดใส่ก็หยุดการกระทำทั้งหมดของเขาแล้วหันมามองหน้าผมด้วยหน้าที่นิ่งแบบสุดๆ แล้วจู่ๆ ก็ค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผม ทีละนิดๆ
แล้วจะเลื่อนหน้าเข้ามาทำไมล่ะเนี่ย ผมรีบยื่นหน้าออกไปเมื่อรู้สึกว่าตอนนี้เริ่มไปปลอดภัยซะแล้ว
แต่หมอนั้นยังไม่ยอมหยุด ลุกออกมาจากโต๊ะของตัวเองแล้วก็เดินไล่ผมไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ถอยหลังตามที่เขาไล่ จนตอนนี้ผมหมดทางหนีแล้วเพราะถอยหลังไปจนชนผนังห้องเรียนซะแล้ว
ผมกะจะเบี่ยงตัวหนีไปทางซ้าย แต่ก็โดนหมอนี้รู้ทัน ดักทางไว้โดยการเอาแขนมากั้นไว้ จนผมต้องอยู่เฉยๆนิ่งๆ
“นายจะทำอะไร?” ผมเอ่ยถามไปเพราะตอนนี้ผมอยู่ในท่าที่ล่อแหล่มมาก เสี่ยงต่อการโดนอะไรต่อมิอะไร (ใช้คำอะไรเนี่ย เดี๋ยวคนอ่านเค้าคิดไปไกลนะครับ - -“)
“ก็นายบอกให้ฉันมองหน้านายไม่ใช่หรอ? ฉันก็กำลังทำอยู่นี่ไง พอดีมองไม่ค่อยชัดหน่ะเลยต้องมองใกล้ๆ” แล้วเขาก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง แล้วทำไมจู่ๆหน้าผมถึงได้ร้อนแบบนี้เนี่ย ผมไม่ได้เขินซักหน่อย -///-
“ออกไปนะ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน” ผมผลักเขาออกไปไม่แรงนักพอที่จะให้เขาถอยออกไปได้
“ก็นายบอกมีเรื่องจะคุยกับฉันนี่นา” แล้วดูสิครับ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อีก
“เข้าเรื่องเลยนะ...นายน่ะ ทำไมอยู่ ดีๆ ถึงได้เข้ามาอยู่คลาส S ล่ะ?...มันไม่ผิดปกติไปหน่อยหรอ ทั้งๆที่คนอื่นเขากว่าจะเข้ามากันได้ แต่นายกลับเข้ามาอย่างง่ายดาย” ผมเริ่มพูดเรื่องที่ผมตั้งใจจะพูดตั้งแต่ตอนแรก
“แล้วไงต่อ” เขายังคงทำหน้าแบบไร้ความรู้สึกอยู่เหมือนเดิม
“นายคิดว่านายเป็นใครถึงได้มาอยู่คลาสนี้”
“…” ซึ่งเขายังคงทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีอยู่ต่อไป
“หรือว่านายน่ะ ที่บ้านรวยหรอ...นายใช้เงินยัดไปเท่าไหร่ล่ะ?”
หลังจากประโยคนั้นหลุดออกจากปากผมไป เขาก็พุ่งเข้ามาใส่ผมเหมือนเมื่อกี้ แล้วก็กระชากคอเสื้อนักเรียนของผม ก่อนจะง้างหมัดขึ้นสูง
ผมหลับตาปี๋เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องโดนสักหมัดแน่ๆ แต่เขากับปล่อยหมัดใส่ผนังห้องดัง ปั้ง ห่างจากใบหน้าของผมไม่กี่เซน ซึ่งนั้นก็เรียกเสียง ฮือฮาจากเพื่อนคนอื่นภายในห้องได้ไม่ใช่น้อย
“นายก็เหมือนกันนั้นแหล่ะ คิดว่าตัวเองเก่งมากนักหรือไง เอาแต่พล่ามอยู่ได้ ถ้าคิดว่าเก่งจริงก็ลองมาแข่งกันอยู่มั้ยล่ะ” ผมลืมตาขึ้นมาจ้องมองดวงตาของอีกคนที่ตอนนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโมโห
ซึ่งคิดว่าคนอย่างผมจะยอมหรอ เฮอะ แรงมาก็แรงกลับสิครับ หวังหยวนคนนี้ไม่กลัวอยู่แล้ว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แรงมาแรงไป เอาให้มันรู้กันไปเลยดีกว่า
“ถ้างั้นเรามาแข่งกัน ถ้านายชนะฉันจะทำทุกอย่างตามที่นายบอก...แต่ถ้านายแพ้นายจะต้องออกจากคลาส S”
“ได้เลย แล้วนายจะเสียใจ ฮึฮึ” เขาเค้นเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง ผมที่ยังตั้งตัวไปทันเลยเบือนหน้าหนีไปด้านข้าง
“ฉันชื่อจุนไค เผื่อนายอยากรู้” เจ้าของชื่อกระซิบที่ข้างหูของผมก่อนจะผละออก แล้วก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมยืนพิงผนังหงุดหงิดอยู่คนเดียว
“ไม่ได้ถามโว้ย!!” ผมตะโกนไล่หลังเขา
“มองอะไร กลับไปนั่งที่ได้แล้ว” แล้วผมก็หันไปเหวี่ยงใส่เพื่อนๆในห้องที่มุงดูอยู่
เชอะ นายคอยดูล่ะกัน ฉันได้ขึ้นชื่อว่าอยู่คลาส S มีหรอจะแพ้คนอย่างนาย
ตั้งแต่ตอนนั้นมา ผมก็หมกตัวอยู่กับหนังสือตั้งแต่พักเที่ยง ทั้งอ่านทบทวนบทเรียนตั้งแต่ เกรด 1 ยัน เกรด 9 จนจบ แล้วก็จดย่อใจความสำคัญ เอาเฉพาะ คอนเซ็ปต์ สำคัญๆ ให้มันรู้ไปสิว่าผมจะแพ้เขา
คาบต่อไปมีเทสย่อยวิชาเคมี งั้นมาลองทดสอบดูหน่อยแล้วกัน เห็นดูมั่นใจขนาดนั้นจะได้คะแนนออกมาสักเท่าไหร่กัน
ผมหันไปแอบมอง จุนไค ขณะที่มิสซูจีกำลังเดินแจกข้อสอบ ซึ่งเมื่อหมอนั้นรู้ว่าผมแอบมองก็หันมาจ้องหน้าผมเหมือนกัน แล้วก็เหมือนมีกระแสไฟฟ้า สปาร์คกันระหว่างดวงตาผมกับเขา ฉันไม่ยอมแพ้นายแน่ แล้วผมก็สะบัดหน้ากลับมาที่โต๊ะของตัวเองเมื่อมิสซูจีแจกข้อสอบให้ผม
ผมมองดูข้อสอบที่มิสแจกให้ ซึ่งก็มาแนวนี้อีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าคลาส S จะให้ไปทำข้อสอบเหมือนคลาสธรรมดาก็คงไม่ได้ ต้องเพิ่มดีกรีระดับความยากขึ้นอีกเท่าตัว แต่มันก็ไม่ได้กระทบกระเทือนผมหรอกครับ เพราะก่อนเทสเมื้อกี้ผมอ่านทบทวนมาหมดแล้ว ฮิฮิ ^.^
ผมอ่านโจทย์ตั้งแต่ข้อแรกยันข้อสุดท้ายก่อนจะลงมือบรรยายลักษณะของธาตุแต่ล่ะธาตุลงไป
ผมหันไปแอบมอง จุนไคที่กำลังทำข้อสอบอย่างใจเย็น เห็นเขาหยุดคิดอะไรบางอย่าง จู่ๆผมก็ยิ้มออกมา ฮึฮึ นายแพ้ฉันแน่ๆ เชื่อสิ
ผ่านไป 10 นาที
ผมเขียนชื่อลงไปในกระดาษคำตอบก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องเป็นคนแรก แล้วก็ตามมาด้วยเพื่อนๆในคลาส S ที่ออกมานั่งแชร์คำตอบกันหน้าห้อง
ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ จุนไคคนเดียวที่นั่งทำข้อสอบอยู่ โดยมีมิสซูจียืนคุมดูอยู่
ผมมองภาพนั้นแล้วก็อดยิ้มออกมาอีกรอบไม่ได้ มันเป็นเหมือนรอยยิ้มของผู้ชนะเลย ขนาดมิสยังไม่ตรวจข้อสอบ ก็เหมือนผมชนะแล้วอ่ะครับ 5555
จนหมดเวลา จุนไคก็ส่งกระดาษคำตอบคืนมิสซูจี ก่อนที่ผมและเพื่อนคนอื่นจะเดินกลับไปในห้องและนั่งที่ของตัวเอง
“งั้น เดี๋ยวครูจะประกาศคะแนนเลยนะ ครูเรียกชื่อใครให้ออกมาเอากระดาษคำตอบคืนด้วย..คะแนนเต็ม 100 นะจ๊ะ ผ่าน 80% อ้าวคนแรก...”
“มยองโฮ 98 จุนฮุย 99 มยองมยอง 97 ...” มิสซูจีเริ่มประกาศคะแนนของแต่ล่ะคน จนมาถึงผม
“หยวน...เต็มนะจ๊ะ” มิสส่งกระดาษคำตอบคืนมาให้ผมพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ ส่วนผมก็ยิ้มตอบ ก็ของมันแน่อยู่แล้ว เป็นไงล่ะ ผมหันกลับไปมองจุนไคที่นั่งทำหน้า - - อยู่
“จุนไค เอ่อ.. ครูให้เต็มเลยนะจ๊ะ เพราะเธอเขียนมาซะละเอียดขนาดนี้ บางข้อนะครูยังไม่รู้เลย เก่งมากจ่ะ” ห๊ะ ผมได้ยินไม่ผิดใช่มั้ยครับเนี่ย ผมมองตามหลังจุนไคที่กำลังเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนจะอ้าปากค้าง
“งั้น ครูไปล่ะนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าครูจะให้ทำแล็บนะจ๊ะ พอถึงคาบปุ๊บให้ไปรอที่ห้องแล๊บเลยนะ...อ่ะหัวหน้าบอก” มิสซูจีเก็บข้อสอบเข้ากระเป๋าก่อนจะหันมาทางผม
แต่ผมที่กำลังอึ้งอยู่ เลยไม่ได้ยินที่มิสบอก
“หยวนจ๊ะ บอกคำความเคารพจ่ะ”
“คะ..ครับ นักเรียน เคารพ” จากนั้นมิสซูจีก็เดินจากไป
พอมิสออกไปพ้นประตูห้องปุ๊บ ผมก็เดินตรงไปยังโต๊ะของจุนไคปั๊บ แล้วหยิบกระดาษคำตอบของเขาขึ้นมาดู ก่อนจะต้องตะลึงกับคำตอบของเขา
เพราะ ที่เขาเขียนมานั้น ละเอียดมาก!! อธิบายอะไรมากมายมาเต็มกระดาษ ซึ่งบางอย่างผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
ผมลดกระดาษคำตอบลงแล้วมองหน้าของจุนไคที่กำลังมองหน้าผมอยู่เช่นกัน
“นายมีปัญหากับคะแนนของฉันรึเปล่า?” ถามด้วยหน้าตาที่ไร้ความรู้สึกตามแบบฉบับเดิมของเจ้าตัว ซึ่งผมยังไม่เห็นมันทำหน้าอื่นเลยนอกจากหน้านี้
“ไม่มี...ถ้างั้นครั้งนี้ ถือว่าเสมอกันแล้วกัน”
“จะอีกกี่ครั้ง ฉันก็พร้อมเสมอ ว่าแต่นายเตรียมตัวมาให้ดีก็แล้วกัน” จุนไคพูดด้วยเสียงกวนอารมณ์นิดๆ
“งั้น สอบมิดเทอมที่จะถึงนี้คะแนนรวมทุกวิชา ใครต่ำกว่าคนนั้นแพ้”
“ไม่มีปัญหา” เขายักไหล่ขึ้นเป็นเชิงว่า ยังไงก็ชนะอยู่แล้ว
“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย? งั้นขอตัวนะ” ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
น๊อย ครั้งนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ ครั้งหน้าผมไม่พลาดแน่
ผมเดินกระแทกเท้ากลับไปยังโต๊ะของตัวเองด้วยอารมณ์บูดสุดๆ
ถึงแม้จะได้คะแนนเท่ากัน แต่ดูจากคุณภาพของชิ้นงานแล้ว ของผมแพ้ขาดรอยเลย หึ๊ย เจ็บใจนัก ผมคงต้องอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ซะแล้วสิ จะแพ้จุนไคอีกไม่ได้ จุนไคเป็นคนที่ผมจะแพ้อีกไม่ได้
ผมขอสัญญากับตัวเองไว้เลยว่าจะไม่มีวันยอมแพ้จุนไคอีกเป็นอันขาด ผมเอาจริงนะ !!!!!!
“หยวน นายโอเคป่ะ?” เมื่อตูดผมสัมผัสกับเก้าอี้ปุ๊บ จุนฮุยที่นั่งข้างๆก็หันมาถามผมทันที
“ฉันก็ปกติดีหนิ” ผมพยายามทำตัวเองให้ปกติมากที่สุด พร้อมเปิดหนังสืออ่านไปพราง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา
“เป็นไรวะ?...เดี๋ยวนี้มึงผีเข้าผีออก เมนส์ไม่มาหรือไง” มยองโฮเพื่อนผมค่อนข้างจะสนิทด้วยเข้ามากอดคอผมแล้วถามขึ้น
“ทะลึงล่ะ ฉันไม่ได้เป็นไรซะหน่อย” ผมฟาดไปที่แขนของมยองโฮทีนึงเป็นการลงโทษ โทษฐานพูดจาไม่เข้าหู ก่อนจะสนใจหนังสือต่อ
“จริงๆนะ นายไม่เหมือนหวังหยวนคนเดิม” จุนฮุยที่นั่งอยู่ข้างๆผมก็คอยจับผิดผมตลอดเวลา
“หรือว่าเป็นเพราะ...จุนไค หรอวะ?” มยองโฮ อยู่เฉยๆก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกนะมึง
“แล้วเกี่ยวอะไรกับหมอนั้นวะ โอ้ย...คุยกับพวกนายนี่ ก็ไม่ได้อ่านหนังสือสักที ไปห้องสมุดดีกว่า” ก่อนจะโดนซักไซ้มากกว่านี้ ผมขอเอาตัวรอด แวบไปหลบภัยที่ห้องสมุดก่อนดีกว่า
“มามุขนี้อีกแล้ว พอจะโดนจับได้ก็ชิ่งหนีตลอดเลยนะมึง...” มยองโฮพูดไล่หลังมา ก่อนที่ผมจะหายตัวมาอยู่ให้ห้องสมุดที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้ามาสักเท่าไหร่
ปกติผมก็ไม่ค่อยอ่านหนังสือหรอกครับ แต่เพราะว่าเผลอท้าไปแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ เพราะผมจะไม่แพ้ ถ้าผมแพ้เสียหน้าแย่เลย
ผมเดินไปหยิบหนังสือจากฉันมาสัก 2-3 เล่ม ก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟากลางห้อง แล้วเริ่มเปิดหนังสือชีวะเล่มหนาที่คนปกติธรรมดาไม่แม้แต่จะคิดหยิบมันมาออกมาจากชั้นหนังสือแน่นอน เพราะมันทั้งหนาและเนื้อหาอลังการงานสร้างมาก ถ้าผมอ่านจบนี่คงจะสอบแพทย์ติดอ่ะครับ
“พรึบ...พรึบ...พรึบ...” เสียงอะไรน่ะ มีคนอยู่ด้วยหรอ
แต่เอ๊ะ ! ปกติห้องสมุดนี้จะไม่มีใครเข้ามาระหว่างคาบเรียนนี่นา ตอนนี้ก็เพิ่งคาบที่ 2 หลังพักเที่ยงเองหนิ
อ่อลืมบอกไปน่ะครับว่า คลาส S ของผมอ่ะ ไม่ค่อยมีเรียนน่ะครับ ฟังดูแปลกๆใช่มั้ยล่ะครับ เพราะเนื่องจากเด็กนักเรียนเป็นพวกหัวกะทิอยู่แล้ว นโยบายของโรงเรียนเลยให้ศึกษาด้วยตัวเองซะมากกว่า ซึ่งวันนี้หลังจากเทสย่อยเคมีแล้ว คลาสของผมก็ว่างจนถึงเลิกเรียนเลยล่ะครับ อย่าอิจครับ อย่าอิจ ฮิฮิ
กลับมาอยู่ที่สถานการณ์ปัจจุบันกันดีกว่าครับ ถ้าอยู่ระหว่างคาบเรียน แล้วใครอยู่ในห้องสมุดกับผมล่ะครับ จะว่าไปพี่บรรณารักษ์ก็พึ่งจะออกไปเมื่อกี้ยังฝากผมดูห้องสมุดให้อยู่เลย แล้วใครล่ะครับ ???
หรือว่าจะเป็น ผี !!!! ม่ายยยยยยย ผมกลัวผีนะ ม่ายยยยยย แต่เดี๋ยวๆๆ ผมมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตอนนี้ก็เพิ่งบ่ายกว่าๆเองนี่ครับ ผีที่ไหนเขาออกมาหลอกหลอนตอนกลางวันแสกๆอย่างนี้กันล่ะครับ หรือว่ามันจะทาครีมกันแดดแล้ว ผมก็คิดไปได้เนาะ ผีที่ไหนจะทาครีมกันแดด
งั้นถ้าไม่ใช่ผีแล้วเป็นใครล่ะครับ? เนื่องจากว่าต่อมความอยากรู้อยากเห็น (เสือกนั่นเอง)ของผมมันทำงานดีไปหน่อย เลยทำให้ผมปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ ก่อนจะค่อยๆตามหาที่มาของเสียงที่ผมได้ยินเมื่อกี้
ซึ่งเมื่อผมเดินไปในชั้นหนังสือหมวดวิชาคณิตศาสตร์ที่ไม่ค่อยมีหนังสือ ก็เลยเห็นคนที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่อีก 2 แถวถัดไป ซึ่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นหมวดวิชาฟิสิกซ์รึเปล่าเนี่ยแหล่ะ
แต่คนที่กำลังนั่งอ่านอยู่นั้นก็คือ คนที่ผมเพิ่งเจอมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
จุนไคกำลังนั่งพิงชั้นหนังสือ อ่านหนังสือเล่มหนา และยังมีอีก 4-5 เล่มวางอยู่ข้างๆ พร้อมกับใส่เฮดโฟนฟังเพลงไปด้วย
หมอนี้ก็ขยันไม่เบาเหมือนกันหนิ หึ นึกว่าจะเก่งแต่พูด
แต่พอลองคิดดูดีๆแล้ว จุนไคเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา แล้วผมจะไปหาเรื่องเขาทำไม เพราะว่าหมอนั้นอยู่ดีๆก็ว่าอยู่คลาส S งั้นหรอ? แต่พอเอาจริงๆแล้ว หมอนั้นก็เหมาะสมกับคลาส S อยู่นะ
ดูจากหน้าตาที่ถือได้ว่าเป็นคนหล่อคนนึงเลยทีเดียว แล้วก็ส่วนสูงที่ค่อนข้างสูงเกินไปสำหรับเด็กม.ต้น ฐานะทางบ้านก็น่าจะดี เพราะไม่งั้นคงไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กหรอก รวมๆแล้วก็ไม่เหมือนคนที่อยู่คลาสธรรมดา
‘ตุบ’
สงสัยผมคงจะคิดอะไรเพลินไปหน่อย เลยเผลอทำหนังสือตกลงมาจากชั้นวาง
ซวยแล้วสิ !
“ใครหน่ะ?” ผมรีบหมอบลงทันทีที่จุนไคลุกขึ้นมองมาทางชั้นที่ผมทำหนังสือตก
“ออกมานะ” แล้วเขาก็เริ่มออกตามหาคนที่ทำให้เกิดเสียงดัง //ซึ่งนั้นก็คือผมนั่นเอง
ซึ่งผมก็ค่อยๆคลานหนีออกมาจากตรงนั้นไปเรื่อยๆ ถ้าหมอนั้นจับได้ว่าเรามาแอบดูจะแก้ตัวยังไงดีล่ะทีนี้ แต่ตอนนี้รีบหนีไม่ให้หมอนั้นหาตัวเจอดีกว่า
ผมคลานไปเรื่อยๆอย่างเบาเสียงที่สุด ก่อนจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวหน้า เลี้ยวหลัง เพื่อหาที่ปลอดภัยซ้อนตัว แต่พอผมจะคลานเข้าไปอีกแถวนึงก็พบว่ามีอะไรไม่รู้มาขวางหน้าไว้ก่อน ทำให้ผมต้องหยุดคลานแล้วเงยหน้าขึ้นไปดูว่ามันคืออะไร ก็พบว่าคือจุนไคที่กำลังยืนกอดอกกำลังมองมาที่ผมอยู่
“นายมาทำอะไรที่นี่ เล่นซ่อนหาอยู่รึไง?”
“ใครจะมาเล่นซ่อนหาในห้องสมุดไม่ทราบ ฉันมาหาของต่างหาก” แฮะๆ โดนจับไปแล้วหรอ อย่างนี้มันต้อง แถ สิครับ
“แล้วทำไมต้องคลานหนีด้วยล่ะ หื้ม?” จุนไคนั่งยองๆลงมาคุยอยู่ในระดับเดียวกับผม
“คลานหนีอะไร ฉันก้มลงจะได้หาง่ายๆไง” ผมหลบตาเขาเพราะจริงๆแล้วไม่ได้มาหาของ
“งั้นหรอ ให้ช่วยอะไรมั้ย?”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันหาเอง นายไปอ่านหนังสือต่อเถอะ” ผมลุกขึ้นยืน ก่อนที่จุนไคจะลุกขึ้นตาม
“หรือบางทางนายอาจจะไม่ได้ทำของหาย แต่กำลังแอบดูฉันรึเปล่า?”
“ฉันจะมาแอบดูนายทำไมไม่ทราบ ในเมื่อฉันไม่ชอบขี้หน้านาย สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า?” ภาพของจุนไคที่แสนดีที่ผมวาดฝันไว้เมื่อกี้ถูกฉีกทิ้งเป็นเสี่ยงๆ ตอนนี้มีแต่ จุนไคที่เป็นคู่แข่งของผมเท่านั้น
“งั้นก็แล้วไป ตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ เดี๋ยวสอบมิดเทอมออกมาไม่ดีแล้วจะมาเสียใจทีหลังเอานะ 5555” จุนไคพูดไว้ก่อนจะเดินหัวเราะกลับไปที่มุมของตัวเอง
ชิ! คิดว่านายเก่งอยู่คนเดียวรึไง คอยดูเถอะฉันไม่แพ้นายแน่ หวัง จุน ไค
---------------------------------------------------------- S2 --------------------------------------------------
14/08/30 1.28 : ตอนแรกลงจอแล้วค่ะ ฮิ้ว~~~~~~~~ (ปรบมือ) ก็เปิดมาตอนแรกก็กัดกันเลยค่ะ น้องหยวนน้องไค
ขอบคุณรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนนะคะ ที่เข้ามาอ่านฟิคของแอน คือน้องๆวง TFBoys หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก แอนเลยอยากขอฝากน้องๆวงนี้ด้วยนะคะ ซึ่ง หยวนของเขานะตัว
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว งั้นขอตัวไปก่อนนะคะ บาอิ้ง~~
ปล.อยากให้ช่วยเม้นท์ติชมหน่อยนะคะ คือแอนจะได้นำไปปรับเพื่อให้ฟิคเรื่องนี้ออกมาดีขึ้นไปอีก
ความคิดเห็น