คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : -:- คุณเคยรู้สึกไหมว่าชีวิตลำบาก...ลองอ่านเรื่องนี้ดู
คุณเคยรู้สึกไหมว่าชีวิตลำบาก...ลองอ่านเรื่องนี้ดู
...คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่...
...คุณรู้สึกว่าชีวิตนั้นเป็นทุกข์...
...อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไรๆ ก็ผิดพลาดไปหมด...
เรื่องราวต่อไปนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้
* - * - * - * - * - * - *
ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานสองอย่าง รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้นเพราะเขามีรายได้น้อย ต้องประหยัดมัธยัสถ์ จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ พ่อตาแม่ยายภรรยา และลูกสาวอีกสองคน ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ จุกจิกภายในครอบครัว
เขาอธิบายให้ฟังว่าเป็นเพราะหลายปีก่อน เขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย ขณะนั้นเขาประสบปัญหาที่สาหัสมาก สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม
คุณอาจจะถามว่า...ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ไม่ใช่...ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน!
แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้ เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช็อก ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น ทันทีทันใด ก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน (ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน) แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวันและแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ ขับไปบนถนน
ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็กซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเอง เพียงเพื่อชิ้นขนมปังราคาไม่ถึง 25 เซน เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน เขามีร่างกายครบสามสิบสอง มีอาชีพการงานมีครอบครัว มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี
ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ? บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้
คุณละ? บางที เมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่าชีวิตของตนกำลังย่ำแย่ ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็นขอทานคนนั้นดูสิ
"ความรู้สึกพอ" ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมาย และเพียงพอ เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมีก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง จึงจะรู้ตัวว่าเราไม่มีมัน
การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น มิได้หมายความว่าเราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน อย่าหวังว่ารักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ
จงสนใจแค่ ให้ความรักนั้นเติบโตขึ้นในใจพวกเขา แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง
[ บทความนี้ได้คัดลอกมาจากเว็บไซต์อื่นนานมาแล้ว จึงไม่ได้อ้างอิงถึงเว็บไซต์ต้นฉบับ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่ด้วยเจตนาดีที่เห็นว่าบทความนี้เป็นบทความดีๆ...แฝงข้อคิด จึงอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันค่ะ ]
ความคิดเห็น