คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (สงครามไททั่น) คนนี้ฉันชอบ ch.1
“แม่งน่าเบื่อว่ะ” เสียงบ่นงึมๆงำๆของเด็กที่มีแต่นั่งๆนอนๆไม่สร้างงานสร้างการอะไรกับเขาได้แต่นั่งอยู่หน้าคอมไปวันๆไม่ไปไหน วันนี้เป็นวันหยุดแทนที่วันหยุดนี้มันจะเป็นวันที่มีความสุขๆแต่ไม่มีมันกลับเป็นวันหยุดที่แสนน่าเบื่อไปสะงั้น
“หาหนังดูดีกว่า” ตื๊ด มือที่กำลังคลิกเม้าส์หยุดชะงักทันทีที่ได้ยืนเสียงสั่นที่ข้างโต๊ะ ไม่มีอะไรนอกจากเสียงไลน์เข้ามือถือ ใครมาทักวะ ตองนี่หว่าอะไรอีกหล่ะครั้งนี้
“กินส้มตำไหม” นั้นว่าละถ้ามันได้ทักมานี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากจะชวนกินส้มตำ
“เลี้ยงดิ.”
“โถ่ อีกละ”
“ก็ชั้นไม่มีตังนี่หว่า เก็บตังอยู่ นานะ”
“ก็ได้ๆ เดี๋ยวเลี้ยงเอง” ฮ่าๆๆๆ จนได้ๆถ้าไอ้เพื่อนคนนี้มันอยากกินจิงๆแล้วมันก็ยอมเลี้ยงไปเองแหละ ก็อย่างที่ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันบ้านอยู่ไกล้กันไม่ถึง5เมตรมาเล่นด้วยกันทุกวันเวลาที่เบื่อๆไม่มีอะไรนอกจากจะชวนกันกินส้มตำ เวลาผ่านไปนานประมาณ5นาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือเพื่อนรักของเขาที่พึ่งซื้อส้มตำมานั้นเอง
“รอแปปนะไปเอาจานแปป”
“อืม”
พูดจบก็รีบเดินเข้าไปในครัวหยิบจานหยิบซ้อมแล้วเดินออกประตูเดินตรงไปทางที่เพื่อนนั่งรออยู่ “ครั้งนี้รู้สึกเหมือนจะจืดๆเผ็ดๆไปหว่ะ”
แต่คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงแค่ความเงียบเด็กน้อยสงสัยทำไมมันไม่ตอบรับก่อนจะระเรื่องส้มตำออกไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพื่อนคนนี้ที่ตอนนี้นั่งหน้าบานยิ้มเฉิ่มอยู่คนเดียว
“โว๊ย ตอง!” ดูเหมือนมันจะสะดุ้งตัวนิดนึงก่อนจะหันหน้ามา “ห๊ะ ห๊ะ”
ดูมันสิยั่งกับวิญญาณพึ่งกลับเข้าร่างมา “แกเป็นอะไร มีความสุขอะไรกันวะยิ้มหน้าบานเชียวนะ” เพื่อนที่ชื่อตองยิ้มให้กับคำถามของคนตรงหน้าทันทีที่ได้ฟังก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยๆของเขา
“ก็ไอ้ยุหน่ะสิมันซื้อตุ๊กตาให้” ไม่พูดปล่าว พร้อมทั้งยกมือขึ้นกุมที่อกแล้วโย้กตัวไปมายั่งกับคนถูกหวย
“หรอ!”
“ใช่แล้วหล่ะ ชั้นดีใจเป็นบ้าเลยยยยหล่ะ” เพื่อนตองหยุดโย้กย้ายทันทีที่เห็นเพื่อนของตัวเองนั่งหน้ามู่ทู่คิ้วขมวดเป็นปมอยู่เลยอดที่จะถามไม่ได้ “เป็นอะไรอิจฉาหรอจ๊ะ!?” เพื่อนตองยิ้มทันที่พูดจบ “ใครจะไปอิจฉา แกก็รู้ว่าชั้นหน่ะจะไม่มีแฟนจนกว่....”
“จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบเพื่อนตองก็พูดขึ้นขัดจังหวะทันทีอย่างรู้ทันว่าเขาจะต้องพูดคำนี้ออกมาแน่ๆ “พอเลย ชั้นรู้ว่าแกหน่ะจะพูดอะไร นี่ไอ้อ๋อมถามจริงเหอะแกจะมีแฟนเป็นคนแก่หรือไงกัน”
“แค๊ก ๆ ๆ” อ๋อมที่กำลังจิบน้ำอยู่สำลักน้ำอย่างกระทันหันกับคำพูดของเพื่อน
“โว๊ะแกนี่ กว่าชั้นจะบรรลุนิติภาวะมันก็18-19พอดีถึงตอนนั้นอายุของคนที่ตรงสเป๊คชั้นก็อายุแบบพอเหมาะพอสมนั้นแหละ” เพื่อนตองได้ยินเช่นนั้นกับเพื่อนตัวเองอย่างไม่ค่อยปลงใจเชื่อสักเท่าไหร่จึงหรี่ตามองทันที
“อ่ะ นะนี่ๆ แกดูนี่เพจของ เออร์วิน สมิธ เอารูปลงอีกแล้วแม่มครั้งนี้โครตหล่อกระชากใจมาก” อ๋อมที่เห็นสถานการณ์ในตอนนี้รีบพูดตัดบทไปเรื่องอื่นทันทีเพื่อไม่ให้มันลามปรามไปกันเยอะ มือก็ล้วงเข้าไปหยิบมือถือในกระเป๋าก่อนจะเอามาเปิดเข้าอัลบั้มรูปที่ได้บันทึกภาพหนุ่มหล่อการ์ตูนสุดเท่ห์ในดวงใจที่ชื่อว่า เออร์วิน สมิธ ที่เป็นผู้บัญชาการทีมสำรวจในเรื่อง ฝ่าพิภพไททั่น ที่แต่ละวันที่นั่งหน้าคอมไม่ลืมที่จะแวะเวียนเข้าไปหารูปที่อัพเดทลงไหม่อยู่เรื่อยในแต่ละวันรูปไหนโดนใจก็กดบันทึก ไว้ชมเวลาเหงา
“หล่อไหมรูปนี้” ทั้งพูดทั้งยิ้มอย่างตื่นเต้นพร้อมกับยื่นมือถือให้เพื่อนตองทันที
“อะ อืม ก็หล่อนะ” “ฮ่าๆๆ ใช่ม๊าๆ หล่อโครตเลย” เพื่อนตองที่เห็นเพื่อนตรงหน้ายิ้มแย้มมีความสุขกับชายสุดเท่ห์ในดวงใจที่ไร้ตัวตน ก็ได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาเบาๆกับความที่รักอะไรๆที่ไม่มีตัวตนในโลกไม่อยากจะพูดให้เสียดแทงเลยถึงอยากจะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ก็เห็นอ๋อมมีความสุขแบบนี้คงพูดไม่ลงแน่
เขานั้นรู้รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะให้การ์ตูนมาอยู่บนโลกจริงๆได้นั้นก็เป็นเพียงแค่นิยาย แต่ยังไงๆมันก็คือความสุขของเราอะไรๆที่ทำไปใครเขาจะว่าบ้าก็ตามทีมันก็คือความสุขของเรา ความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน นึกคิดในใจไปพลางก่อนจะคิดอะไรบางอย่างได้พร้อมยิ้มนิดๆ
“ตอง”
“หือ” เพื่อนตองเอียงคอนิดๆกับเสียงเรียกของเพื่อนที่ดูผิดแปลกไป
“ถ้าเกิดเราไปอยู่ในยุคไททั่นนั้นเหมือนในการ์ตูน คงจะสนุกเนาะว่ามะ” พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างสุขสมเหมือนกับไม่กลัวไททั่นมันงาบกินเล๊ย
“สนุกแกอ่ะดิ มีไททั่นยักษ์อยู่แบบนั้นยังจะว่าสนุกอีกโลกเรานี่แหละสงบสุขแล้ว เอ๊ะหรือว่า..” เพื่อนตองหรี่ตามองเพื่อนทันทีที่เห็นยังไม่หุบยิ้มตั้งแต่พูดเมื่อกี้
“ใช่ ก็จะได้ไปเจอ ผบ.เออร์วิน สมิธ ไงหล่ะ” นั้นไงว่าละ สนุกที่มันหมายถึงคือได้เจอ เออร์วิน สินะ ก็มันมีคนที่ชอบอยู่ที่นั้นมันคงมีความสุขแต่สำหรับชั้นนี่สิไม่มีทางอยู่เป็นสุขแน่นอนแวดล้อมที่โดยรอบเต็มไปด้วยไททั่นไม่มีทางที่จะอยากไปอยู่ในที่ที่แบบนั้นแน่นอน เพราะฉะนั้นยุคปัจจุบันเรานี่แหละดีที่สุด แต่ก็ปล่อยให้อ๋อมมันมีความสุขในฉบับนี้หน่อยแล้วกันเพราะคนอย่างอ๋อมมันไม่เคยมีความสุขในฉบับเรื่องรักเลยสักครั้งถึงจะเป็นคนที่ไม่มีอยู่ในโลกก็เถอะ
“พรุ่งนี้ไปโรงเรียนลำบากหน่อยนะฮ่าๆ อ๋อม”
................................................................................................................................................................................
และวันนี้ก็เหมือนดั่งเช่นทุกวันคือตื่นแต่เช้า ฝืนสังขารลุกขึ้นจากเตียงแสนสุขสบายเพื่อที่จะไปชำระร่างกายไปโรงเรียน “ทำไมวันหยุดมันถึงได้ผ่านไปเร็วขนาดนี้” ทั้งบ่นไปทั้งแปรงฟันไปนี้แหละคือกิจวัตรประจำวันของเขาที่อะไรๆไม่ได้ดั่งใจก็ชอบบ่นในใจไปเรื่อยแต่เรื่องบ่นไม่ค่อยชอบออกนอกหน้าเท่าไหร่
“วันนี้มีไรกินอ่ะยาย” หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวชุดนักเรียนเสร็จก็ชักถามยายทันทีที่เดินเข้าครัว “ข้าวมันไก่น่ะ อยู่บนโต๊ะนั้นทานสะเดี๋ยวไปเรียนสาย” อีกละวันนี้ก็ข้าวมันไก่ทุกๆวันนี้ช่วงที่เป็นวันไปเรียนจะได้กินแต่ข้าวมันไก่ บางวันก็ข้าวหมูแดงวันไหนแม่จะกลับหล่ะเนี่ยอยากกินผัดผักรวมมิตรฝีมือแม่ แต่ก็อยากบ่นหน่ะนะแต่ก็บ่นไม่ได้เพราะถ้าไม่กินคงจะต้องไปท้องร้องที่ห้องตอนเช้าแน่นอนได้เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
(ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย.......) เสียงเพลงชาติไทยที่ดังก้องกังวานในโรงเรียนนั้นทำให้เด็กน้อยที่ลงจากรถนั้นหน้ายู่ขึ้นทันทีเพราะหากเพลงชาติดังขึ้นนั้นก็แสดงว่าเขามาสาย โหยยยขี้เกียจฟังครูบ่นมีหวังหูชาอีกแน่
“สุดารัตน์! “ นั้นไงพูดไม่ทันขาดคำ เสียงดังคุ้นหูที่ดังขึ้นทำเอาเด็กน้อยรอบหายใจไปยาวๆครู่หนึ่งเพราะทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจออะไรต่อไปนี้ “ทำไมมาสาย มาสายอีกแล้วนะ ให้เรียกผู้ปกครองมาไหมนี่ “
เสียงบ่นของอาจารย์ที่ด่าทอมาทำเอาเด็กน้อยก้มหน้างุดแต่ก็ไม่ได้ทำกริยาที่หวาดกลัวอะไรมาก “หนูขอโทษค่ะคุณครู ก็รถหนูมาสา..” ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ” เด็กน้อยชะงักคำพูดทันทีที่โดนโต้มาได้แต่ทำปากขมุบขมิบไปมาเพราะไม่รู้จะทำยังไง
“นินทาครูหรอ” แต่เหมือนจะรู้ทัน “ปล่าวค่ะครู” แต่ดูเหมือนอาจารย์จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ยิ่งจ้องจับผิดเด็กน้อยตรงหน้าเข้าไปใหญ่
“ครั้งนี้ครูจะปล่อยไปแล้วกัน ห้ามมาสายอีกหล่ะนี่ก็เปิดเทอมมา2อาทิตย์แล้วทำตัวให้ดีๆหน่อยขึ้น ม.3แล้วทั้งที แล้วดูเหมือนเธอจะเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
พูดพร้อมทั้งยิ้มให้เด็กน้อย เด็กน้อยไม่ตอบอะไรเพียงแค่ไหว้คุณครูอย่างที่ควรทำก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องตามเพื่อนไป แต่มันก็หน้าแปลกใจอยู่นะเพราะอยู่ที่นี่มา 2 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นอาจารย์คนนี้เคร่งครัดกับเขาเลยสักครั้งนี่ก็อยู่ปีที่ 3 แล้วถึงปีก่อนๆอาจารย์จะหยอกบ้างก็เถอะแต่ปีนี้ดูเหมือนจะเข้าหาตลอดเป็นอาจารย์ผู้ชายอีกตางหาก ก็แค่เปลี่ยนไปนิดๆหน่อยๆเอง อ่อก็ตอนปิดเทอม คือตั้งเป้าหมายว่าจะเปลี่ยนตัวเองคือที่จริงแล้วเป็นคนชอบเท่ห์บางคนก็หาว่าเป็นทอมแต่ที่จริงใจยังชอบผู้ชายช่วงปิดเทอมเลยซื้อยาวิตามินเพิ่มฮอร์โมนเพศชายมากินแต่ก็รู้สึกว่าร่างกายจะตอบรับเป็นอย่างดีอย่างที่เขารีวิวเพราะตอนนี้มีกล้ามขึ้นมาหน่อยหน้าก็กระชับๆเสียงเริ่มแมนๆหล่อเหมือนกระชากใจสาว
“พี่อ๋อม” นั้นไงไม่ทันขาดคำเสียงหญิงสาวแซวหาละ “หืม ว่าไง” เด็กน้อยกล่าวทักตอบพร้อมยิ้มให้ “ได้กินข้าวเช้ามาหรือปล่าวค๊ะเมื่อกี้เห็นโดนอาจารย์ดุอ่ะค๊ะ” ฮ่ะๆ อายเลยครับพี่น้อง
“ก็กินอยู่แต่กินไม่ค่อยมากเพราะรีบอ่ะ ถ้าขืนจะกินให้อิ่มท้องมีหวังขึ้นรถไม่ทันเพราะขนาดนี้ยังมาสายเลย” เด็กน้อยพูดจบพร้อมหัวเราะแก้เขิล “งั้นหนูให้ค่ะ”
เด็กน้อยหลุบตาลงต่ำมองของที่เด็กหญิงรุ่นน้องยื่นมาให้ มันคือขนมปังลูกเกดของชอบเลย “อ่ะ เอ่อ ให้พี่แน่หรอ” ที่จริงก็อยากกินแต่ต้องสำรวมกิริยาเอาไว้ “หนูได้ยินมาจากเพื่อนพี่ค่ะว่าพี่ชอบ” เด็กสาวรุ่นน้องยื่นให้ทั้งๆที่มือนั้นก็สั่นระรัว “ขอบใจนะ”
อ๋อมยื่นมือหยิบขนมมาพร้อมส่งยิ้มที่จริงใจให้กับเด็กตรงหน้า เหมือนเด็กตรงหน้าจะทำท่าเขิลอายนิดๆหน่อยๆแล้วก็ยิ้มให้ก่อนจะเดินจากไป
“โอ้โหๆๆๆ เพื่อนชั้นโครตฮอตเลยหว่ะฮ่ะๆๆๆ” เสียงโห่ร้องแซวที่ดังมาจากข้างหลัง ทำให้อ๋อมหันไปดูในทันทีพร้อมยักยิ้มกวนๆเข้าให้
“ก็แหง่ละ ชั้นมันเทห์คุ้มค่ากับการลงทุนเงินไปหลายพัน” เพื่อนสนิททั้งสามคนที่เดินตรงมาหาต่างพากันมาแตะไหล่ แต่ที่ที่มันเซ็งๆนี้สิคือทันทีที่พวกมันมานั้นคือต้องมาลูบๆคลำๆตรงกล้ามแขนทุกทีปีก่อนหล่ะบอกซะเสียงจริงจังว่าไม่มีทางจับแน่นอนมีของแฟนให้จับอยู่แล้ว
“พูดได้แต่ปากว่าจะไม่จับ เอาเข้าจิงจับไม่วางมือเลยนะเว๊ย!” เสียงพูดที่ดูเหมือนจะโกดแต่ไม่ได้โกดเพราะผลลัพธ์จากยาที่กินทำให้น้ำเสียงดูสุขุมขึ้น
“ก็ไม่รู้นี่หว่าว่ามันจะน่าจับขนาดนี้” คำพูดของเพื่อนบางคนในกลุ่มสามคนทำเอาเด็กน้อยที่อยู่ตรงกลางถอนหายใจไปยกใหญ่ก่อนที่ทั้ง4คนจะเดินเข้าห้องของตัวเองไป ทันทีที่เดินเข้าห้องไปกลับต้องตกใจที่อยู่ๆก็มีเครื่องบินกระดาษลอยมากปักเข้าที่หัว
“แม่มห่า นี้ก็ม.3แล้วพวกมึงยังเล่นแบบนี้กันอีกหรอวะห๊า!” เสียงร้องที่ดูทรงพลังดั่งลั่นห้อง ทำเอาเด็กชายหลายคนในห้องชะงักกันหมดในห้องตกอยู่ในความเงียบก่อนที่เพื่อนชายในห้องคนหนึ่งจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“โอ้โห ดูเหมือนเสียงของไอ้อ๋อมมันจะแตกใหญ่กว่าเดิมนะนิทำเอาพวกกูตกใจไปเลยนึกว่าคุณครูมาสะอีก” มันพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากน้อยๆ แต่แท้จริงในใจนั้นกลับหวั่นเกรงคนตรงหน้าเพราะตั้งแต่ที่เปิดเทอมมานี้ไอ้อ๋อมมันก็เปลี่ยนไปมากขนาดเลยกล้ามก็ใหญ่ตัวเหมือนจะใหญ่แต่ใหญ่เหมือนนักกล้ามไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนักหรอกพอดีเป๊ะๆ ตั้งแต่ที่มันแปลงโฉมมานี้ดูเหมือนผู้ชายในสายชั้นนี้จะตกกระป๋องไปหมดเพราะมันหล่อมากเลยขอยอมรับ
“หึ! โดนกุอีกจะขย้ำให้ตาย” ดูเหมือนจากที่เป็นคนมีแต่โดนแกล้งแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ใครๆต่างก็เกรงๆกันทั้งนั้น แต่บางครั้งก็อ่อนโยนเกินไปจนทำให้ชายบางคนนี้เผลอหลุดใจให้เลย ทันทีที่พูดจบอาจารย์ที่สอนคาบสังคมก็เข้ามาทันที “นักเรียนทั้งหมดทำความเครพ” “สวัสดี ค่ะ/ครับ คุณครู”
เสียงกล่าวสวัสดีอาจารย์ที่ดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้มของอาจารย์ นั้นทำให้นักเรียนรู้เลยว่าเวลาที่ครูคนนี้ยิ้มนั้นต้องมีงานอะไรเข้าชัวร์ป๊าบ “เอาล่ะนักเรียนนั่งลงได้ วันนี้ครูจะไม่สอนอะไรมากเพียงแค่ให้ไปทำรายงาน เกี่ยวกับทวีปที่เราอาศัยอยู่ว่ามีความเป็นอยู่ยังไง ลักษณะแบบไหนในทวีปที่เราอยู่มีกันอยู่กี่ประเทศ ให้ไปหามาเท่าที่จะหาได้ คะแนนให้ตามผลงานนะจ๊ะ”
นั้นไงว่าแล้ว ยากสุดโครตตตตเลยไม่สอนหนำซ้ำยังให้งานยากๆมาอีกทั้งๆที่พึ่งเปิดเทอมแท้ๆงานแรกก็ยากเลยอ่ะ ก็ที่รู้ว่าทำไมเวลายิ้มถึงได้มีงานเข้าก็คุณครูคนนี้สอนสังคม ม.1 กับ ม.3 ยังไงหล่ะ เลยรู้ดีที่สุดใครที่เคยเรียนกับคุณครูคนนี้ ไม่อาจขัดคำสั่งได้ได้เพียงแค่น้อมรับรายงานครั้งนี้เพียงเท่านั้น “ครับ/ค่ะ”
ละจนมาถึงคาบเรียนสุดท้ายของช่วงเช้าทันทีที่คุณครูออกจากห้องนักเรียนต่างพากินทิ่มหัวมูบหน้าลงโต๊ะบ่นงึมๆงำๆไม่ขาดปาก “วันนี้กินอะไรดี” เพื่อนบิวในกลุ่มสามคนทักขึ้น “กินน้ำหวานดีมะ” เพื่อนปามที่เป็น1ในสามตอบกลับ “กินแต่ของหวานๆอีกละนะปาม ชั้นไม่กินด้วยหรอก” “แหม่ๆ พ่อนักกล้ามช่วงนี้งดของหวานเลยสินะ”
เพื่อนฟางในกลุ่ม3คนสุดท้ายก็พูดแซวขึ้นในทันที “ใช่อดทุกอย่างที่หวานๆ อืมจิงสิปามฝากซื้อน้ำปล่าวด้วยนะพอดีรุ่นน้องให้ขนมปังมาละ”
หลังจากพูดจบเพื่อนกลุ่มทั้งสามคนต่างพากันโห่แซวพร้อมๆกันด้วยความหมั่นไส้ไอ้พ่อนักกล้ามคนนี้ หลังจากที่รอให้พวกเพื่อนไปซื้อของกินก็คิดว่าน่าจะไปรอที่ศาลาข้างประตูหน้าโรงเรียนคงจะดีกว่าอยู่บนห้อง ไวเท่าความคิดรีบลุกจากเก้าอี้แล้วเดินลงบันไดไปยังศาลาข้างหน้าโรงเรียนทันทีพร้อมกับทำการเปิดโทรศัพท์เล่นเฟชรอในทันทีไม่ลืมที่จะเสียบหูฟังเพื่อฟังเพลง
ในขณะที่กำลังฟังเพลงไปอย่างเพลิดเพลินที่ศาลาก็ต้องหลงสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจเพราะเหมือนมีมือมาแตะที่ไหล่ ก่อนจะค่อยหันหน้าไปดูที่มาของมือ ก่อนจะรอบถอนหายใจออกมามายาวๆพร้อมกับเอามือทาบหน้าอกด้วยที่ว่าเสียขวัญ ตอนเห็นหน้าไม่ใช่ใครไหนอื่นก็คือคุณครูเมื่อเช้าที่เทศนาเราไปนั้นเอง
“คุณครูหนูตกใจหมด มาไม่ให้ส่งให้เสียง” ดูเหมือนคุณครูจะยิ้มทันทีที่หลังจากถามออกไป
“ครูก็มาเดินๆเล่นแถวนี้อย่างเคยนั้นแหละ แล้วเธอหล่ะมานั่งอะไรอยู่ตรงนี้ไม่ไปทานข้าวหรอไง” พูดพร้อมๆกับนั่งลงข้างๆกับลูกศิษย์ทันที
“อ่อ..หนูมารอเพื่อนที่ไปซื้อของกินหน่ะ” ไม่พูดปล่าวส่งยิ้มให้ทันที ที่จริงคุณครูคนนี้หน่ะใจดีมากๆเลย หล่ะคุยไรด้วยทีไรก็สนุกมากแต่บางครั้งก็โครต น่ากลัว “ทำหน้ายั่งกับนินทาใคร” แต่ดูเหมือนจะรู้ทันไปซะทุกอย่าง
“ฮ๊ะๆ ปล่าวหรอกค่ะคุณครู อืมแล้วคุณครูทานข้าวยัง”
“ยังหรอก เดี๋ยวก็ไปทานละ” ทันทีที่คุณครูพูดจบประโยคก็มีเสียงร้องเรียกของเพื่อนดังขึ้นทันที
“อ๋อม!” ทั้งสองคนที่กำลังสนทนากันอยู่ก็พากันหันไปดูที่มาของเสียงพร้อมกันทันที
“อ่ะเพื่อนหนูมาละหนูไปก่อนนะคะคุณครู บ๊ายบาย” โบกมือไปพร้อมกับเดินลงบันไดศาลาวิ่งปิ๊วไปหาเพื่อนทันที
ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะไม่ทันรู้เลยว่าไอ้การกระทำนั้นมันได้ทำให้คนที่นั่งดูอยู่บนศาลาคิดว่ามันน่าเอ็นดูแค่ไหน “หือ อะไรล่ะนั่น”
หลังจากที่เดินมาถึงห้องต่างก็พากันกินของที่ซื้อมาทันทีทั้งกินทั้งคุยทั้งกวนนี้แหละแก๊งเราเป็นอย่างงี้มาทุกปีใครที่เดินผ่านเห็นไม่ต้องสงสัย “นี่ๆ วันนี้ชั้นบันทึกรูปเออร์วินมาอีกละ ครั้งนี้โครตหล่อ”
พูดจบพร้อมกับยื่นมือถือให้เพื่อนดูทันที “อุ๊ย หล่อ” ทันทีที่ดูจบไอ้ปามก็พูดขึ้นทันที “ใช่ม๊าๆ หล่อๆ นี่พวกแกว่ามะถ้าเกิดว่าเราได้ไปอยู่ในการ์ตูนเรื่องนั้นคงดี เวลาที่ขึ้นม้ากับเออร์วิน ก็จะกอดเอวไว้ให้แน่นๆเลย”
เด็กน้อยที่ชั่งหลงไหลในผบ.เออร์วิน สมิธ พูดอย่างร่าเริง “แหม่ๆๆๆ เวอร์นะๆมันคงจะเป็นไปได้หรอกเนาะ”
“เออ”
เสียงที่เปล่งออกมาของเด็กน้อยทำเอาเพื่อนทั้งสามในกลุ่มหัวเราะโห่ไปตามกันด้วยความที่เพื่อนมันจริงจัง
ความคิดเห็น