คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อำนาจ วิญญาณ และกาลเวลา
นางฟ้า ซาตาน
อำนาจ วิญญาณ และกาลเวลา
บนพื้นโลก อันเป็นสถานที่ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเราอยู่อาศัยกัน พลังแห่งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พลังที่ทุกคนเชื่อกันว่าคงจะเป็นของประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งผู้ครอบครองพลังแห่งอำนาจบนแผ่นดินที่บ้าอำนาจเช่นนี้ ย่อมจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เพราะบนแผ่นดินที่วุ่นวายอันเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากที่สุด สิ่งแน่นอนมันจึงกลายเป็นสิ่งไม่แน่นอน บางทีผู้ที่กุมพลังแห่งอำนาจ อาจจะเป็นกลุ่มคนบางกลุ่มผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลก และคงกำลังคิดวางแผนการณ์อะไรบางอย่างที่พวกเราก็คงจะคาดไม่ถึง...
ณ นรกภูมิขุมที่ลึกที่สุด เป็นที่สิงสถิตของอีกสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจไม่ยาก เพราะเผ่าพันธุ์นี้มีเพียงความคิดเดียวคือทำลายล้าง ผู้ที่มีพลังมากที่สุดหรือ ‘ราชาซาตาน’ เป็นผู้ครอบครองพลังแห่งวิญญาณ สามารถฟื้นชีพคนตายและควบคุมเหล่าดวงวิญญาณได้ แต่พวกเขาก็มีบางสิ่งที่เหนือเหล่ามนุษย์นั่นคือ ปีกสีดำที่จะพาพวกเขาไปที่ไหนในโลกได้ตามปรารถนา และเพราะความชั่วร้ายของเหล่าซาตานบางกลุ่ม ที่มีปีกสีดำเป็นเอกลักษณ์ ทำให้มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเราขนานนามเขาว่า ปีศาจ
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเจ้าจะต้องสืบทอดเป็นผู้ปกครองดินแดนนี้ต่อไป และจะเป็นผู้ได้รับพลังแห่งวิญญาณอันยิ่งใหญ่จากข้า” ราชาซาตานกล่าวกับลูกชายเพียงคนเดียว หรือ เจ้าชายรัชทายาทแห่งแผ่นดินนรกนั่นเอง
“ครับผมทราบ” เจ้าชายรูปงามเพียงตอบรับเบาๆ “เจ้ารู้...แล้วยังจะทำแบบนี้อีกหรือ หนีขึ้นไปข้างบนนั่น แล้วคอยเหลือไอ้พวกมนุษย์ที่เดือดร้อน มันผิดวิสัยซาตานอย่างพวกเรา” ท่านราชาผู้ยิ่งใหญ่กำลังกล่าวอบรมเจ้าชายรูปงาม หลังจากได้รับแจ้งจากผู้เฝ้าประตูนรกว่าเจ้าชายได้แอบหนีไปท่องเที่ยวยังดินแดนมนุษย์บ่อยครั้ง และมีพฤติกรรมชอบช่วยเหลือ คล้ายกับเผ่าเทพ “ดีล่ะ ในเมื่อเจ้าทำตัวเหมือนเทพเข้าไปทุกวัน ถ้างั้น...” ราชาซาตานพูดแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “เจ้ารู้จักเจ้าหญิงเทพไหม” เขาถามแล้วส่งสายตาให้ลูกชายอย่างเอ็นดู “ครับ ผมเคยได้ยินมาเหมือนกัน เจ้าหญิงเทพผู้เลอโฉม แต่ผมก็ไม่เคยเห็น เพราะไม่เคยขึ้นไปสูงขนาดนั้น แต่...ท่านพ่อพูดอย่างนี้หมายความว่าไง” เจ้าชายชะงักคำพูดแล้วเริ่มเอะใจ สงสัยในตัวผู้เป็นบิดา ซึ่งมักจะมีความคิดแปลกๆพิเรนๆเสมอ “แหงล่ะ...ที่เจ้าไปไม่ถึงก็เพราะสวรรค์เขามีประตูลับ เหมือนแผ่นดินของเรา เอ้อ และข้าจะบอกว่าเจ้าหญิงเทพนอกจากจะสวยบาดใจแล้ว เธอยังเป็นผู้สืบทอดพลังแห่งกาลเวลา เจ้าลองนึกดูว่าถ้าพลังแห่งวิญญาณและกาลเวลาสามารถรวมกันได้ แล้วพลังแห่งอำนาจมันจะหนีไปไหน” ราชาพูดแล้วหัวเราะหึๆในลำคอ ตอนนี้เจ้าชายปั้นหน้าไม่ถูกเลย พ่อของเขาหมายความว่า จะให้เขากับเจ้าหญิงเทพ... “ปีนี้เจ้าก็อายุ18แล้ว ถ้านับอายุตามเผ่าซาตานเจ้าก็ควรที่จะแต่งงานได้แล้ว ส่วนเรื่องที่จะได้ตัวเธอมายังไง ข้าก็จะส่งเจ้านี่แหละขึ้นไปสู่ขอตัวเธอมาดื้อๆ และถ้าเขาไม่ให้ เจ้าก็ลักพาตัวมาเลย และถ้าทำไม่สำเร็จ ไม่ต้องกลัว ข้ามีแผนสำรอง ข้าเตรียมกองทัพซาตานที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมเป็นกองหนุนช่วยเหลือเจ้าเพื่อชิงตัวเจ้าหญิงเทพเสมอ” ราชาซาตานร่ายแผนการยาวเหยียด แต่ลูกชายสุดที่รักของเขาไม่อยู่ฟังซะแล้ว
เจ้าชายซาตานรูปงามกางปีกกว้างสีดำ พาร่างสง่าของเขาบินผ่านประตูนรกอย่างรวดเร็ว หน้าตาของเขาบูดบึ้งเกินกว่าที่จะมีใครกล้ารั้งตัวเขาไว้ ‘ท่านพ่อบ้า อยู่ดีๆก็หาเรื่องทำสงครามกับดินแดนสวรรค์’ เจ้าชายคิดขณะบินเอื่อยมาถึงโลกมนุษย์ ถ้าเขาไม่อยู่ หรือไม่คิดจะทำอะไรซักคน ทั้งสามโลกก็คงปลอดภัย ดังนั้นเจ้าชายจึงตัดสินใจหลบเรื่องวุ่นวายที่พ่อของเขากำลังจะก่อขึ้นที่โลกมนุษย์ไปซักพัก-
เป็นยังไงคะอ่านรู้เรื่องกันบ้างไหม เรื่องที่พวกคุณอ่านกันเมื่อกี้เป็นนิยายรักแนวแฟนตาซีที่ฉันแต่งเองค่ะ นี่เป็นแค่ต้นเรื่องนะคะ ฉันแต่งโดยเอาผู้ชายในสเป็กมาเป็นพระเอก เขาเป็นคนที่สุขุม แต่ใจดี อบอุ่น และอ่อนโยน ที่สำคัญหล่อมากๆค่ะ ไม่รู้ทำไมในชีวิตฉันไม่เจอผู้ชายแบบนี้สักคน
“ไมลิน”เสียงหวานๆเสียงหนึ่งปลุกฉันจากภวังค์แห่งความเพ้อฝัน ใครกันนะเข้ามากวน ฉันไม่เคยบอกหรือไงว่าไม่ชอบให้ใครมากวนตอนแต่งนิยาย
“ไมลิน อไมลิส” เสียงหวานๆนั้นแผดขึ้น ฉันจำได้แล้วล่ะว่าใคร ‘พี่ลีมีน’ นางพญาปีศาจสาวสุดสวยของฉันนี่เอง ‘โครม’ น้ำสาดมาแบบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่ฉันชักต้นฉบับออกทัน ฉันล่ะเบื่อไอ้วิธีการป่าเถื่อนของสาวงามใจยักษ์อย่างพี่ลีมีนจริงๆ
“เขียนอยู่ได้ จะไปไม่ไป หา!โรงเรียนน่ะ เฮย์มิวเขามารอแกเป็นชาติแล้ว” เจ๊ปีศาจตวาดแว๊ด ฉันโกยของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วแล้วรีบชิ่งทันที
คงต้องแนะนำตัวกันใหม่นะคะ ฉันชื่อ ไมลิน อไมลิส อายุ16ปี เป็นสาวน้อยไฮสคูลธรรมดาๆที่อยากจะเป็นนักเขียน ก่อนหน้านี้ฉันเคยเขียนนิยายมาหลายเรื่อง แล้วให้เพื่อนในห้องอ่าน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ฉันเลยมีกำลังใจที่จะเขียนเรื่องต่อๆไป แล้วมันเลยกลายเป็นสันดานติดตัว ที่เวลาว่างทีไรต้องหยิบสมุดกับปากกาขึ้นมาขีดๆเขียนเป็นเรื่องเป็นราว จนพี่สาวคนเดียวของฉันรำคาญ แล้วเธอก็จะแสดงพลังมหาโหดแบบที่ใครก็นึกไม่ถึงว่า ผู้หญิงสวยที่ร่างบอบบางน่าทนุถนอมอย่างนี้จะเป็นยูโดมือหนึ่งของโรงฝึกชื่อดัง
ส่วนพี่สาวฉันเหรอคะ เธอชื่อ ลีมีน อไมลิส เป็นสาวสวยที่เก่งรอบด้าน เธอหาเลี้ยงฉันมาตั้งแต่จำความได้ด้วยร้านอาหารเล็กๆที่เราเปิดตรงชั้นล่างของบ้าน ฉันไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ของฉันหรอกค่ะ ไม่รู่ว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนและเป็นตายร้ายดียังไง แต่ฉันก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะยังไงฉันก็โตมาโดยมีพี่ลีมีนเป็นแม่ และพี่เฮย์มิวเป็นพ่ออยู่แล้ว
พี่เฮย์มิว หรือ เฮย์มิว เบลเดย์แฮม เป็นพี่ชายบ้านข้างๆค่ะ เป็นโปรแกรมเมอร์หนุ่มไฟแรง และเป็นแฟนพี่ลีมีนด้วย (ไม่รู้ทนคบอยู่ได้ไง) เขาเป็นคนใจดี ใจเย็น และหน้าตาดีมากๆ เป็นคนที่เข้ากับพี่ลีมีนได้ทั้งภายนอกและภายใน ดูสมกันมากๆ และฉันฟันธงได้เลยว่า พี่เฮย์มิวนี่แหละ อนาคตว่าที่พี่เขยฉัน
“พี่เอย์มิวหวัดดี” ฉันทักทายคุณว่าที่พี่เขยอย่างเป็นกันเอง เขาจะไปส่งฉันที่โรงเรียนทุกเช้า ฉันนั่งรถไปได้ซักพักก็ถึงปากซอยเข้าโรงเรียน “พี่ส่งฉันตรงนี้ก็ได้” ฉันบอกให้พี่เฮย์มิวจอดรถ “ทำไม่ล่ะ ยังอีกไกลเลย” พี่ชายถามสีหน้าสงสัย เพราะปกติฉันจะขอให้เขาเข้าไปส่งถึงหน้าตึกเรียนเลยด้วยซ้ำ “ก็เดี๋ยวพี่ต้องไปช่วยพี่ลีมีนเปิดร้านอีก ไปช้าเดี๋ยวก็โดนวีนหรอก วันนี้ยิ่งสายอยู่แล้วด้วย” ฉันพูดอย่างสงสารในชะตากรรมของพี่ชาย เขาลังเลใจเหมือนครุ่นคิดอะไรนิดนึง แล้วจึงตอบตกลง
เฮ้อ! ฉันมีความรู้สึกว่า พักนี้พี่ลีมีนกับพี่เฮย์มิวเป็นห่วงฉันมากเกินไป แต่ก็อย่างว่า ฉันชอบคิดถึงเรื่องนิยายของฉันจนเหม่อแล้วทำอะไรซุ่มซ่ามบ่อยๆ... และก็เหตุผลที่ฉันขอลงปากซอย ไม่ใช่เพราะเกรงใจหรือเห็นใจพี่เฮย์มิวหรอก แต่เพราะว่า...ฉันมีนัดน่ะ
‘กริ๊งๆๆ’ มาแล้ว สัญญาณการมาถึงของคนสำคัญของฉัน ฉันผูกเชือกโรเลอร์เบรดข้างสุดท้ายเสร็จพอดีกับที่จักรยานคันสีชมพูหวานแหววจอดลงข้างๆตัวฉันอย่างนุ่มนวล
“พิงค์หวัดดี” ฉันกล่าวทักทายเพื่อนรักเสียงสดใส เธอก็ยิ้มสดใสกลับมาแทนการทักทาย พิงค์ หรือ เพิร์ลพิงค์ เมล์แคนเดีย เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะมีเพื่อนมากมาย แต่ฉันชอบเธอคนนี้ที่สุด หน้าตาน่ารัก และรอยยิ้มอ่อนโยน ใครอยู่ใกล้ๆแล้วก็ต้องรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
- และ...อำนาจและแผ่นดินสุดท้าย เป็นดินแดนสีขาวที่ใครๆต่างขนานนามว่า สรวงสวรรค์ อันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตบริสุทธิ์ที่ได้ชื่อว่า เทพ เอกลักษณ์พิเศษของเผ่าเทพก็คือ ปีกสีขาวสง่างาม ยิ่งทำให้เทพที่มีรูปลักษณ์งดงามอยู่แล้วดูน่าหลงใหล จึงทำให้พวกเขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้ามนุษย์ได้ เพราะอาจทำให้เหล่ามนุษย์ผู้ลุ่มหลงรูปลักษณ์ภายนอกหลงในความงามจนถอนตัวไม่ขึ้น และผู้ที่งดงามที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ก็คงจะไม่พ้น ‘ราชินีเทพ’ ผู้กุมพลังแห่งกาลเวลา ที่มีพลังน่ากลัวมากแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง
“จริงรึที่ว่าซาตานจะมาชิงตัวเจ้าหญิง และจะทำสงครามกับพวกเรา”บัดนี้ใบหน้าสวยไร้ที่ติของราชินีเทพดูสงบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ สมกับเป็นราชินีผู้สูงศักดิ์ เทพสายสืบหนุ่มหล่อตอบรับเพียงแผ่วเบา ตอนนี้ทุกคนกำลังเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าหญิงเทพ ถึงแม้จะถูกส่งไปโลกมนุษย์ตั้งแต่เด็กพร้อมองครักษ์เอกอย่างลับๆ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเหล่าซาตานจะไม่รู้เรื่องนี้เข้าซักวัน
“เจ้าว่า ควรทำอย่างไรดี” ราชินีหันไปถามหนุ่มหล่อเหมือนภาพวาดอันวิจิตรบรรจงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่โตทั้งที่อายุยังน้อย คงเป็นเพราะความแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเทพ เชื่อกันว่าเขาแข็งแกร่งกว่าราชินีเทพซะอีก ปีกสีขาวสว่างที่ดูน่าเกรงขาม เขาผู้เป็นเสมือนเทพในตำนาน... “ควรหลีกเลี่ยง เพราะสงครามมีแต่จะสร้างความเสียหาย” เขาออกความเห็นอย่างมีเหตุผล สมกับเป็นผู้ครองตำแหน่งองคมนตรีที่ราชินีไว้ใจที่สุด และยังเป็นผู้เฝ้าประตูสวรรค์อีกด้วย ราชินีพยักหน้าช้าๆอย่างเห็นด้วย
“งั้นพวกเจ้าจงกลับไปที่เดิม ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด และจับตาดูความเคลื่อนไหวต่างๆรอบตัวเจ้าหญิง” ราชินีออกคำสั่ง แล้วเสด็จเข้าห้องบรรทม การเป็นกษัตริย์ยังมีเรื่องให้คิดอีกมากมาย
ณ พื้นโลก เจ้าหญิงเทพที่ถูกสาปสะกดให้เป็นมนุษย์ ยังใช้ชีวิตแบบสาวน้อยธรรมดาไปวันๆ เธอไม่รู้ตัวเลยว่ามีความสำคัญต่อดินแดนแห่งหนึ่งมากเท่าไหน โดยเฉพาะเธอจะต้องเป็นผู้สืบทอดพลังที่สำคัญ พลังแห่งกาลเวลา
และยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เขารู้ตัวดีว่าแตกต่างจากมนุษย์ แต่เขาต้องปลอมตัวเป็นมนุษย์และมาหลบอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัยของทั้งสามโลก
พลังแห่ง อำนาจ วิญญาณ และกาลเวลา ต่อให้เป็นพลังจากพระเจ้า แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของสิ่งๆหนึ่งที่เรียกว่า ‘โชคชะตา’ แล้วถ้าชะตาของคนสำคัญจากสองโลกถูกกำหนดให้มาพบกันบนแผ่นดินที่เหลือ ก็คงจะมีแต่เรื่องวุ่นวายให้เหล่ามนุษย์เจ้าของแผ่นดินได้รำคาญใจ-
“เฮอะ! เจ้าหญิงเทพ เจ้าชายซาตาน เรื่องปัญญาอ่อนไร้สาระอีกแล้ว” เสียงห้าวๆกวนประสาทเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน จะต้องเป็น เลทิส ไอราเวล แน่นอน เด็กผู้ชายเพื่อนร่วมชั้นของฉัน ที่วันๆเอาแต่กวนประสาทและหาเรื่องแกล้งฉันได้ตลอดเวลา “วันๆเขียนแต่เรื่องเพ้อฝัน ในหัวมีแต่เรื่องเพ้อเจ้อ” หมอนั่นยังไม่หยุดพูดซะที วันนี้ถ้าฉันไม่ได้เอาเลือดบ้าออกจากหัวเจ้านั่น ฉันคงนอนไม่หลับเป็นแน่ แล้วฉันก็เลยคว้าที่ตักผงหลังห้องไล่ฟาดคนปากดี ซึ่งคงจะเป็นภาพที่คุ้นตาดีของคนในห้อง
“เพราะรักดอกจึงหยอกเล่น” เสียงหวานๆของพิงค์ทำให้ฉันหายเหนื่อย เพราะไล่ตีตาบ้านั่นจนหอบแฮ่กๆแท้ๆ ก็หมอนั่นเป็นนักกีฬาโรงเรียนนี่ เอาเปรียบกันชัดๆ แต่ความหมายในคำพูดของพิงค์มันไม่ค่อยดีเลยแฮะ ฟังแล้วขนลุกชอบกล “บางที เลทิสอาจจะชอบเธอก็ได้นะ”พิงค์พูดยิ้มๆ ถึงรอยยิ้มของพิงค์มันจะทำให้ฉันหายโกรธนายเลทิสก็เถอะนะ แต่ทำไมฉันถึงได้หน้าร้อนขึ้นมาเหมือนโกรธจัดอย่างนี้นะ ทั้งที่ไม่ได้โกรธเลยแท้ๆ “เอ้อ! แล้วพิงค์ว่านิยายเรื่องใหม่ของฉันเป็นไงบ้าง” ฉันรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง “อ่านแล้วก็น่ารักดีนะจ๊ะ รีบเขียนต่อเร็วๆล่ะ ฉันอยากอ่านตอนต่อไป” ฉันชอบคำชมและคำให้กำลังใจจากพิงค์ที่สุดเลยแหละ
‘แต่ใครจะไปรู้ว่า พิงค์อาจไม่มีวันได้อ่านตอนต่อไปอีกแล้ว”
ความคิดเห็น