คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ♡ chapter seven ; ลูกหมารักษาทุกโรค
C h a p t e r s e v e n
♡
ลูกหมารักษาทุกโรค
ผมบึ่งรถกลับหอทันทีที่กำชับแบคฮยอนเสร็จ มือผมกดปุ่มลิฟท์รัวด้วยความร้อนรนว่าถ้าหากไอ้จื่อมันรอนานอาจเป็นอย่างอื่นที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ ผมก้าวยาวๆทันทีที่ลิฟท์มาส่งยังชั้นเป้าหมาย บิดกุญแจปลดล็อคเข้าไปข้างในก็พบเจ้าลูกหมานอนกลิ้งไปกลิ้งมาที่ฟูก
นี่มันกลับร่างอีกแล้วเหรอเนี่ย ?
“ไอ้ดื้อ ฉันมีเรื่องให้นายช่วย กรุณากลับร่างเป็นคนด้วย” ผมหยุดอยู่ตรงหน้ามันแล้วเอ่ยสั่งอย่างไม่ทุกข์ร้อน ความกลัวของผมมันหมดไปแล้วเมื่อเห็นว่าไอ้ดื้อข้างหน้ายามแปลงร่างก็เป็นแค่คนเอ๋อๆคนหนึ่ง -.-
แต่ความตื่นเต้นมันก็ยังมีอยู่บ้างนะ
ผมยืนนิ่งก่อนจะเริ่มมีอาการมึนๆเบลอๆ มองเห็นภาพข้างหน้าได้ไม่ดีเอามากๆทุกอย่างมันมัวราวกับกระจกรถที่โดนน้ำฝนชะล้างโดยไร้ซึ่งการปัดออก แล้วเพียงไม่นานหลังจากที่ผมขยี้ตาตัวเองไปหลายทีก็เริ่มมองเห็นเจ้าลูกหมาตัวสูงยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าแล้ว
“ไปถอดเสื้อกราวน์ฉันออกซะ แล้วแต่งตัวดีๆกว่านี้” ผมยืนเท้าเอวมองสภาพของมันที่สวมใส่เสื้อกราวน์ของผมที่ดูแล้วเทอะทะเป็นบ้า มันทำหน้างงๆแล้วขยับเสื้อตัวเอง
“เห้ยไปเปลี่ยนในห้องน้ำดิวะ ตรงนี้ไม่ได้ !!” ผมโวยวายทันทีที่มันกำลังปลดเสื้อตัวเองออก “เอ้านี่เสื้อผ้าแล้วก็ไปเปลี่ยนซะ”
ผมถอนหายใจอย่างเอือมๆแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าตัวเอง ทำใจยอมสละเสื้อกับกางเกงหนึ่งชุดให้มันใส่ไปก่อน พยายามเลือกอันที่คิดว่าพอจะเข้ากับมัน…สุดท้ายก็ได้เสื้อยืดสีขาวลายไม้กางเขนกับกางเกงเดฟขายาวสีดำ
ผมนั่งรอได้สักห้านาทีเห็นจะได้ แล้วเจ้าหมาในชุดใหม่ก็เดินออกมา ผมเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่าดูเท่เป็นบ้า แต่ยังไงซะมันก็ไม่เข้ากับหน้าตาจิ้มลิ้มแบบนี้หรอก “ไปกันเร็ว”
ผมฉุดมือมันออกมาจากห้องซึ่งดูเหมือนจะเป็นการออกมาข้างนอกครั้งแรกของมันในร่างคนเลยล่ะ ตากลมๆมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้นแต่มันก็คงไม่ใช่เวลามาสำรวจโลกอะไรตอนนี้เมื่อมีอีกคนกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่
ผมก้าวขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ของตัวเองพร้อมสตาร์ทรอไว้เรียบร้อย “ทำบื้ออะไรอยู่ล่ะ ขึ้นมาสิ”
มันวาดวงขาขึ้นคร่อมด้วยท่าทางเงอะงะที่สุดในโลก เมื่อคาดว่ามันขึ้นมานั่งเสร็จเรียบร้อยผมก็บิดคันเร่งตรงไปยังหอของไอ้จื่อเทาทันทีจนมันตั้งตัวแทบไม่ทัน รู้สึกเหมือนมีแรงดึงเล็กๆจากข้างหลังของผมเอาไว้ด้วย
“จื่อเทาอาการไม่ดีขึ้นเลยพี่คริส !” แบคฮยอนเอ่ยบอกประโยคเดิมอีกครั้งที่คริสเปิดประตูเข้าไป แต่ตาเรียวของแบคฮยอนก็มองผ่านหลังของผมไปด้วยแววตาสงสัย “คนนี้เหรอที่ว่าจะช่วย?”
ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปบอกเจ้าหมาที่ยืนหน้างงอยู่ข้างหลัง “เพื่อนฉันปวดท้อง ไปหาหมอก็ไม่หาย พวกเราต้องการให้นายช่วย” ผมพูดช้าๆภาวนาในใจหวังว่ามันจะรู้เรื่อง และจากนั้นจึงนำทางไปที่เตียงของจื่อเทา
“งั้นขอยอลอยู่กับนายคนนี้สักครู่นะฮะ” เจ้าหมายอลพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ผมจึงจำเป็นต้องพาแบคฮยอนออกไปรอข้างนอกแม้คนตัวเล็กจะไม่อยากห่างแฟนไปไหนก็เถอะ
“คุณอยู่นิ่งๆนะฮะ ยอลขอตรวจดูก่อน” มือขาววางลงไปบนหน้าท้องของจื่อเทา ก่อนจะเอ่ยอะไรสักอย่างที่จื่อเทาเองก็ไม่อาจจับความได้ เพียงไม่นานอาการก็ค่อยๆทุเลาลง
“เรียบร้อยแล้วฮะ” ชานยอลยิ้มแฉ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับออกไปหาเจ้านายตัวเองที่กำลังนั่งปลอบให้แบคฮยอนใจเย็น
“เป็นยังไงบ้าง ได้เรื่องมั้ย?” แบคฮยอนพุ่งพราดเข้ามาหาชานยอลด้วยความร้อนใจ
“ป๋ายเป็นห่วงเทาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ~” ยังไม่ทันขาดคำเสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหลังชานยอล ปรากฏร่างของไอ้จื่อเดินง่อยๆมาทางนี้ แหม…พอหายแล้วน่าหมั่นไส้ชิบหายเลยไอ้นี่
“ขอบใจมากนะ ว่าแต่นายทำได้ไงเนี่ยเก่งกว่าหมอซะอีก” แบคฮยอนหันมาทางเจ้าดื้อด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“ไม่มีอะไรหรอก ก็คงเป็นแบบทั่วไปนั่นล่ะ” ผมหลุดโพล่งออกมาด้วยกลัวความลับจะแตก ผมคงยังบอกพวกนี้ไม่ได้หรอกว่าเจ้ายอลมันไม่ใช่คนธรรมดา ไม่งั้นคงต้องนั่งอธิบายกันยาว
“ถ้าหายแล้วงั้นพวกฉันขอตัวก่อนนะ” ผมคว้ามือเจ้ายอลเอาไว้ให้มายืนข้างๆแล้วตัดบท
“แหม…เพื่อนจริงเหรอเนี่ย เดี๋ยวนี้มีอะไรไม่ชอบบอกนะมึงนะ ~~~” ไอ้เทาเมื่อหายง่อยก็ปากหมาแซวผมทันที โถ่เว้ย..แค่กลัวว่ามันจะซุ่มซ่ามไปทำข้าวของพังมากกว่าแหละ
แต่มือก็นุ่มดี -.-
“คุณคริสทำไมไม่แนะนำเพื่อนๆให้ยอลรู้จักมั่ง ถ้ายอลทำแบบนี้รับรองว่าคุณม๊าจะดุยอลแน่ๆ” ขณะที่ผมกำลังเคลื่อนรถออกมาเพื่อเตรียมตัวกลับเจ้าดื้อมันก็ออกปากบ่นทันที
“ม๊านายหนิ ไม่ใช่ม๊าฉัน” ผมยักไหล่ก่อนจะสตาร์ทเครื่องรถรอ “คุณคริสนี่เอาแต่ใจตัวเองชะมัด” ปากเล็กๆยู่เข้าหากันอย่างกับไม่พอใจที่ผมพูดแบบนั้น เออ…แล้วไงอะก็เอาแต่ใจตัวเองง่ะ - -
“จะกลับมั้ย”
“เจ้านายฮะ”
แหม่…ถ้าขึ้นจงนงเจ้านายทีไร แสดงว่ามันจะอ้อนชัวร์ๆ
“อะไรอีกล่ะ”
“น้องยอลอยากไปเที่ยวโลกมนุษย์”
ให้ตายเถอะครับ...รู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มกลายเป็นทาสไอ้ดื้อไปทีละนิดแล้วล่ะ หลังจากที่มันแสร้งทำตาแป๋วนิด ปากยู่หน่อย ขอให้ผมพามาท่องโลกมนุษย์อย่างที่ว่าซึ่งนั่นคือหมายความว่ามันอยากมาเปิดหูเปิดตานั่นเอง ไอ้ผมที่เห็นว่าเลยเวลาเรียนมาได้เกินครึ่งชั่วโมงแล้วก็เลยยอมปล่อยเลยตามเลย
อันที่จริงก็ขี้เกียจด้วยแหละ
ในตอนแรกที่ได้ฟังประโยคที่มันแทนตัวเองว่าน้องยอลเนี่ย บอกตามตรงเลยนะครับว่าแอบค้างเล็กๆ คืออยากรู้ไงว่ามันเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหน ~ รู้มั้ยว่าแม่ งทำใจผมสั่นอีกแล้วง้า
“ฉันพามาเดินเฉยๆนะ อย่ามาอ้อนให้ซื้ออะไร” ไม่ได้ครับ เรื่องนี้ต้องออกตัวไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของกระเป๋าสตางค์ เดี๋ยวมันจะไม่ถึงสิ้นเดือนไงเว้ย
“ถึงน้องยอลอยากได้ น้องยอลก็จะไม่ขอยืมเงินคุณคริสหรอก” มันหยุดเดินก่อนจะกอดอกแล้วเชิดปากขึ้น
“ทำไมมีเงินหรือไง ?” ผมหันหลังไปถามด้วยความหมั่นไส้ด้วยท่าทางเย่อหยิ่งนิดๆของมัน อย่าบอกว่าจะหันมาเปลี่ยนอาชีพเป็นโจรปล้นธนาคารน่ะห้ะ ?
“คุณคริสลืมไปแล้วหรือไงว่าน้องยอลไม่ใช่คน..อุ้บบบ !! อ่อยอ้ะอื้อ” ผมรีบใช้มือตัวเองปิดปากมันทันทีก่อนจะได้หลุดประโยคเทือกนั้นออกมา เผื่อมีคนมาได้ยินเข้าจะได้ซวยกันหมด !
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยไม่งั้นจะพากลับ !”
ผมเอ็ดเสียงเข้มจนมันยอมพยักหน้าหงึกๆ ไอ้ผมที่เห็นว่ามันยอมฟังดีๆแล้วก็กำลังจะปล่อยมือออกแต่ที่ไหนได้ล่ะ มันดันเล่นพิเรนทร์งับนิ้วผมเอาไว้ซะนี่ !!!!
“โอ้ยย !!! ทำไรวะ” ผมสะบัดมือรัวด้วยความเจ็บ เดี๋ยวนี้แสบนักนะไอ้ลูกหมา !
“แบร่ ;P”
ว่าจบมันก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปอีกทางหนึ่งจนผมเลี้ยวตามแทบไม่ทัน ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่พามันมาข้างนอกแบบนี้ ยิ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแบบนี้ด้วยแล้วถ้าไปชนของเขามา เสียเงินบานตะไทใครจะรับผิดชอบวะครับ ????
ปึก !
“ !!! ” ชานยอลที่ตอนแรกตั้งใจจะวิ่งหลบเจ้านายตัวเอง แต่ด้วยความคิดที่ครีเอทสุดยอดจึงเปลี่ยนมาเป็นหาที่ซ่อนแทน แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นเมื่อเผลอชนเข้าให้กับ…คนที่พยายามหนีมาตลอด
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยไอ้ดื้อ…อ้าวไอ้จุน !” ผมผ่อนลมหายใจถี่เพราะใช้แรงไปมากโขกับการวิ่งตามไอ้หมาจอมดื้อนี่ แต่แล้วกลับบังเอิญเจอไอ้เพื่อนเก่าอย่างจุนมยอนพอดี
“บังเอิญชิบหายเลย” ไอ้จุนมันว่าแล้วก็ยิ้มในมือมีถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมอยู่สองสามใบ “แล้วมึงมาทำไร”
“เอ่อ...” …จะบอกว่าพาหมามาทัวร์โลกมนุษย์ก็คงงี้ป้ะ ?
“แล้ว…ไม่คิดจะแนะนำคนข้างหลังให้กูรู้จักเหรอวะ ?” มันพูดแล้วเบนสายตามาข้างหลังผมที่มีไอ้ดื้อยืนหลบอยู่ตอนไหนก็ไม่รู้ ทีตอนแรกละวิ่งหนีกู…ตอนนี้มายืนมุดหัวอยู่ข้างหลังอย่างกับเจอเทศบาลมาเก็บมาจรจัดงั้นแหละ
“กูมาหาซื้อของเข้าหอน่ะ แล้วนี่ก็ชานยอล…รุ่นน้อง~” ผมพูดแล้วพยักเพยิดหน้าไอ้จุนมันก็ยิ้มเออออไปกับผม ขอบคุณเหลือเกินที่มึงไม่สงสัยไปกว่านี้ ;__;
“อ่อ…ยินดีที่ได้รู้จักนะชานยอล”
ไอ้จุนมันยื่นมือมาหวังจะเช็คแฮนด์ตามประสาวัฒนธรรมคนรวยอย่างมันล่ะ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมาข้างหลังผมมันจะมองเพื่อนผมนิ่งอย่างกับสต๊าฟร่างเอาไว้ “ยืนทำไรอยู่ล่ะ รักษามารยาทหน่อยสิชานยอล”
ผมเอ็ดมันอีกรอบ มันย่นคิ้วมาทางผมราวกับไม่พอใจ “อ..อือ” แทบจะเรียกว่าส่งมือไปแตะมือไอ้จุนมากกว่า
“งั้นกูไปล่ะ เจอกันใหม่นะมึง ชานยอลด้วย” ไอ้จุนเดินออกไปไม่วายส่งสายตามาทางเจ้าชานยอลที่ยืนตัวสั่นข้างหลังผมด้วย หมดฤทธิ์แล้วหรือไงเมื่อกี้ยังร่าเริงอยู่เลย
“น้องยอลปวดหัว อยากกลับแล้ว” มันก้มหน้างุดแล้วกระตุกชายเสื้อผม อ้อลืมบอกไปว่าถึงผมจะอธิบายว่ามันค่อนข้างจะสูงโย่งแต่สุดท้ายผมก็ยังสูงกว่าอยู่ดี ไม่มีไรหรอกแค่อยากบอกน่ะ -.-
“กินอะไรก่อนมั้ย” เมื่อเห็นว่ามันดูซึมๆไป ไม่รู้ว่าเพราะผมดุมันบ่อยหรือเปล่า ในใจผมก็รู้สึกผิดทันทีงั้นยอมเลี้ยงอะไรสักอย่างแล้วกันไม่อยากเห็นหมาเหงาแบบนี้
“ไม่ฮะ น้องยอลอิ่มแล้ว” มันเดินคอตกตามหลังผม ดูแล้วมันก็น่าหงุดหงิดชะมัด ไม่ได้การ…ผมหยุดแล้วคว้ามือมันมาไว้ข้างๆแทน แบบนี้แหละจะได้มั่นใจว่าจะไม่ไปซนที่ไหนอีก
“กินเถอะน่า ฉันอุตส่าห์เลี้ยงโมเมนต์นี้หาไม่ได้บ่อยๆนะเว้ย”
และสุดท้ายไอติมโคนสองอันก็อยู่ในการครอบครองของผมและเจ้าหมาที่แสนขี้งอนแล้วเรียบร้อย ไม่อยากจะนินทาว่าหมาตัวไหนบอกว่าอิ่มแล้ว ผมเห็นมันแทบจะไม่เดินอะ ยืนเลียซ้ายเลียขวาอยู่นั่นจะผมเหนื่อยที่จะลากมันมาเดินข้างๆตลอด
เหมือนเลี้ยงเด็ก เลี้ยงหมา เลี้ยงน้อง ในเวลาเดียวกัน =___=;;;;
“คุณคริสไม่กินล่ะฮะ มันจะละลายหมดแล้ว” เออ…ไอ้ผมก็มัวแต่มองมันเพลิน ครีมที่กำลังจะไหลลงมาทำให้ผมหันมองไอติมตัวเองบ้าง
“ที่บ้านน้องยอลไม่เห็นมีแบบนี้ขายเลย สงสัยตอนกลับไปจะต้องสั่งให้คุณป๊าจัดการแล้ว” มันว่าด้วยท่าทางอารมณ์ดีพร้อมกับยัดโคนที่เหลือเพียงก้นเข้าปากไป “เอ้ะ…แต่คุณป๊ากับน้องยอลยังโกรธกันอยู่นี่นา..”
ผมเหลือบมองมันที่เอาแต่พูดอยู่ตัวเดียวแล้วแวบหนึ่งกลับเห็นสายตาเศร้าสร้อยบ้างด้วย ปัญหาครอบครัวของเทวดาไอ้คริสก็ว่ามันก็ไม่แตกต่างจากครอบครัวมนุษย์เท่าไหร่หรอกเนอะ
“แล้วปกตินายกินอะไรอะตอนอยู่ที่นั่น” …ถือซะว่าเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆแล้วกันเนอะ
“อืม…ไม่กินก็อิ่มฮะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าลงมาโลกมนุษย์แล้วทำไมถึงหิวก็ไม่รู้” ผมหันไปมองหน้ามัน ตอนนี้เราสองคนมานั่งพักที่ใกล้ๆกับลานน้ำพุ เย็นแบบธรรมชาติสุดๆ
ผมยัดไอติมคำสุดท้ายเข้าปากไปก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ แต่แล้วด้วยสายตาที่ดีสุดๆของผมก็มองเห็นคราบไอติมที่ติดอยู่ตรงมุมปากไอ้ดื้อเข้าเสียก่อน
อย่างกับในซีรีย์เลยเถอะ U___U//
“เช็ดมุมปากหน่อยไอติมมันเลอะ” ผมยื่นทิชชูให้มันด้วยความหวังดี แต่มีหรือที่ไอ้ดื้อนี่มันจะทำตาม ลิ้นสีชมพูยกขึ้นเลียไปที่มุมปากตัวเองจนเห็นแก้มอีกข้างเป็นรอยบุ๋มลงไป
อยากจะบอกว่ามัน…แอบเซ็กซี่เล็กๆด้วย T-T
“ไปๆบ่ายแล้ว เดี๋ยวจะร้อน” ผมเบือนหน้าหนีตัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วเดินนำหน้าออกมายังลานจอดรถ
“ตอนกลับคุณคริสห้ามขับเร็วนะฮะ…” มันพูดสั่งอย่างกับเจ้านายแล้วยกแขนสองข้างมาเกาะเอวผมแน่น
“เกาะแน่นๆแล้วกัน”
แต่ทำไมผมต้องฟังมันล่ะ …หึหึ
- - - - - - - - - -
ฮ่าๆๆๆๆ น่ารักเนอะ แต่งเองเขินเอง ชอบให้ชยอลน่ารักแบบนี้มั้ย
หรือชอบให้งอนพี่คริสบ่อยๆ ติดตามตอนหน้านะบ๊อก บ๊อก สกรีมฟิคได้เล้ย #ลูกหมายอล
เม้น + โหวต เป็นกำลังให้ไรเตอร์นะฮับ
- - - - - - - - -
ความคิดเห็น