ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( fic exo ) 'ลูกหมายอล เลี้ยงไม่ยากหรอก' - krisyeol

    ลำดับตอนที่ #27 : ♡ chapter twenty - five ; ย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้น ( end )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 957
      9
      2 พ.ย. 57

    C h a p t e r    t w e n t y  -  f i v e

     

     

     

     

    ย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้น



     

    "ลาก่อนฮะ..."

    ไหนนายบอกจะไม่ถอดมันไง….นายต้องกลับมาเอามันคืนไปเดี๋ยวนี้นะ

     

     

     

    "ชานยอล !!!"

     

     

     

     

    ติ้ด ติ้ด ติ้ด 

    "ผ..ผู้ป่วยรู้สึกตัวแล้วคุณหมอ !!!"

     

     

     

    สัญญาณฉุกเฉินถูกกดรัวพร้อมกับประโยคระล่ำละลักอันปนไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ กลุ่มพยาบาลจำนวนหนึ่งพร้อมกับหมอตรงดิ่งมายังเตียงผู้ป่วยทันที อุปกรณ์ระโยงระยางสร้างความปวดหัวให้แก่ผู้พบเห็น แต่ถึงอย่างนั้นมันคือสิ่งที่ช่วยให้คนบนเตียงมีอาการดีขึ้น

     

     

    เวลาผ่านไปราวสิบนาทีที่มีคนผลัดกันเช็คร่างกายตรงนั้นตรงนี้ ไม่นานคุณหมอก็เผยรอยยิ้มให้แก่ผู้เฝ้าไข้ที่เห็นหน้าค่าตาบ่อยจนจำได้ "หายห่วงแล้วครับ รอดูอาการอีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้"

     

     

    "ชาน..ยอล.."

     

    "ฮึก..ไอ้พี่บ้านี่ คิดว่าจะทิ้งกันไปซะแล้ว !"

     


     

    เด็กหนุ่มตัวสูงบางใช้มือขยี้ตาตัวเองเพื่อป้องกันน้ำใสๆที่กำลังก่อตัวขึ้นรอบดวงตาอันมาจากความดีใจ ซึ่งผิดกับอีกคนที่ยังเหม่อมองหน้าเขาอย่างไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์ใดๆได้

     

     

    "=____=?"

     

     

    "เห้ยอย่าบอกว่าความจำเสื่อม? ไหนหมอบอกว่าจะไม่กระทบกระเทือนสมองมากไง !!"

     

    "=_____="

     

     

    "…แต่ก็เรียกชื่อถูกหนิ" ปากเล็กบ่นมุบมิบกับตัวเองก่อนจะโพล่งออกมา ชนิดที่ว่าอีกคนต้องร้องห้าม "แบบนี้ต้องเรียกหมอ !"

     

     

    "ด..เดี๋ยวๆๆ" ก่อนที่จะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีกรอบ ผู้ป่วยบนเตียงก็ตะเบ็งเสียงแห้งๆของตัวเองห้ามไว้ก่อน

     

     

    "ทำไมจะจำแฟนตัวเองไม่ได้ฮะ..แต่หิวน้ำขอกินน้ำก่อน" เมื่อรวบรวมแรงพูดประโยคยืดยาวจบ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าแฟนก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำพร้อมหลอดส่งให้อีกคนทันที
    "หลับไปตั้งสามวัน ไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะเป็นห่วงหรือไงฮะ ?!" แก้วเปล่าถูกส่งคืน พร้อมกับถูกความสดชื่นเข้าแทนที่

     

     

    "สามวันเลย?"

     

     

    "ก็แหงดิ รถชนรุนแรงขนาดนั้น" ชานยอลยู่ปากอย่างขัดใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นได้เป็นอย่างดี "อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้?" สีหน้าคนบนเตียงดูงุนงงและสงสัยจนชานยอลต้องเล่าที่ไปที่มาคร่าวๆให้ฟัง

     


     

     

    "เห้ยสอบเสร็จไปไหนต่อดีวะ ?"


    "ไอ้จื่อมันจะเลี้ยงเหล้าที่มันแพ้พนันกูวันก่อน คืนนี้ผับเดิมๆ"


    "เอองั้นคืนนี้เจอกันเว้ยไอ้กัมจง อย่าลืมบอกไอ้ฮุนด้วย"

     

     

     

    เอ้า ! ชนนนนนน ~

    "เมิง...กูแม่.งเมาละว่ะ กลับเหอะเดี๋ยวขับรถไม่หวายยย"

    "กลาบก็กลาบเว้ยยย ไปๆไอ้จื่อเมิงงง..ลุกดิวะ~"

    "มึงนั่งเดๆน้าา พี่จื่อจะซิ่งละโว้ยยยย ~"

     

     

    "ครายโทรมาว้าา ~" 

    "เห้ย ไอ้จื่อรถสวน !!!"

    เอี้ยดดดดดด
    โครมมมมมมมมม !!!

     

     

     

    "ใจจริงนี่อยากจะด่าด้วยซ้ำนะ แต่เห็นเจ็บหนักก็เลยสงสาร" ชานยอลแยกเขี้ยวด้วยความหมั่นไส้ ข้อหาไปกินเหล้าเที่ยวผับยังไม่พอ นี่ยังมีข้อหาทำให้เป็นห่วงอีก 

     

     

    "แล้วคนอื่นล่ะเป็นไงมั่ง"

     

     

    "สามคนนั้นน่ะออกจากโรงพยาบาลไปนานละ มีแต่คุณคริสนี่แหละที่หนักกว่าเพื่อน" เสียงประชดชันจากแฟนหน้าใสยังคงทำให้คริสหมั่นเขี้ยวอยู่เสมอ ติดแค่เจ็บแขนนิดๆกับติดสายน้ำเกลือเลยแกล้งคืนไม่ได้ 



    "แต่ไงก็เหอะ อย่าเป็นอะไรไปอีกนะ"

     

     


     

    - Kris Part

     


    หนึ่งอาทิตย์หลังออกมาจากโรงพยาบาล ผมก็กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ..ปกติที่ว่าก็ปกติจริงๆครับ มีเพื่อนกวนตีน มีแฟนขี้งอน เรียกได้ว่าครบสูตร  แต่อ้อ..ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย

     




    "ยอล..พี่มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง" ขณะพักเที่ยงผมก็มานั่งมุมิกับชานยอลสองคนที่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิมใกล้คณะ

     

     

    "เรื่องไรอะ หนุกปะ" เจ้านี่ก็ยังตอบรับผม แม้สายตาจะยังจดจ้องอยู่กับเกมในไอโฟนอยู่

     

     

    เก็บก่อนได้ปะ แล้วตั้งใจฟังผมแกล้งทำเสียงจริงจังพร้อมส่งสายตากดดัน เจ้านั่นเหมือนจะรับรู้ได้เลยจำใจออกจากแอพแล้วส่งโทรศัพท์คืนผม ใช่ครับ..เอาของผมไปเล่นก็ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอยู่แล้วล่ะ

     

     

    เล่ามาดิ เดี๋ยวจะถึงเวลาเรียนละเนี่ย

     

     

    ผมแอบลอบขำกับสีหน้าบึ้งตึงเพราะโดนขัดใจ ก่อนจะค่อยๆเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะที่ผมนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลให้ชานยอลฟัง

     

     

    ตอนที่พี่นอนไม่ได้สติสามวันที่โรงพยาบาลอะ พี่ฝันถึงนายนะรู้เปล่า

     

     

    เห้ย อย่ามาเน่าตอนนี้ได้ป้ะ

     

     

    นี่พี่พูดจริงๆนะ

     

     

    โอ้ยอะไรล่ะ นี่ถึงกับจะบอกว่ายอลไปหลอกหลอนถึงในฝันเลยว่างั้น?

     

     

    เปล่า แต่พี่ฝันว่านายน่ะเป็นลูกหมา..” ว่าแล้วล่ะว่าไอ้เจ้ายอลต้องไม่เชื่อผมแน่ๆ แต่มันก็อึกอัดว่าเปล่าล่ะ? กับเรื่องราวที่ผมเผชิญมาทั้งหมดกลับกลายเป็นแค่เพียงฝันเท่านั้น ทุกอย่างมันดูสมจริงมากจนผมยังอดขนลุกไม่ได้ ทั้งความรู้สึกโกรธ ดีใจ หรือใจเต้นแรง มันเหมือนจริงยิ่งกว่าดูหนังสามดีเลย

     


     

    งั้นไหนลองเล่าดูซิ =[]=”

     

     

     

    ผมเริ่มต้นเล่าเหตุการณ์แรกที่เจอชานยอลตรงถนนเปลี่ยวสายหนึ่งที่ไอ้จื่อบอกว่าเป็นทางลัด แต่น่าแปลกที่เรื่องราวมันต่อเนื่องจากที่รถชนกันในชีวิตจริง ผิดก็แค่ในฝันไอ้จื่อมันหักหลบทันและเปลี่ยนใจไปทางลัดจนได้พบกับไอ้ดื้อหรือชานยอลในที่สุด จากนั้นผมก็เอาชานยอลมาเลี้ยงจนได้พบเรื่องราวประหลาดว่าเจ้านี่เป็นเทพที่ถูกสาป นอกจากนั้นยังนึกไปอีกว่ามีจงแด ไอ้หมอซิกเซนส์อะไรอีก ไหนจะจุนมยอนเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลาย ชานยอลขณะที่ผมเล่าก็หัวเราะบ้างว่าผมเพ้อบ้าง แต่สุดท้ายก็นั่งฟังจนจบ

     

     

     

    โอ้ยมาเกือบดีแล้วอะ ทำไมยอลต้องกลับไปด้วย T3T”

     

     

    นี่ๆอินไปละ ชีวิตจริงนายก็ไอ้ดื้อเหมือนกันนะ ผิดก็แค่เวอร์ชั่นคน

     

     

    พี่คริส !! เดี๋ยวจะฟ้องป๊าให้มาตีเลย พูดมากอะผมหัวเราะร่วนให้กับท่าทางโมโหเหมือนเด็กๆที่เอะอะก็เรียกเอาพ่อมาขู่ นี่เด็กปีหนึ่งหรือมอสามวะ ป๊ายังไม่เห็นบอกว่ายอลดื้อสักคำ -[]-“

     

     

    แล้วอีกอย่างยอลก็ไม่ได้ซื่อเหมือนในฝันพี่คริสเลยเหอะ

     

     

    ครับๆพี่เชื่อๆผมทำหน้าล้อเลียนก่อนจะเบือนสายตาไปอีกทางแต่มันดันพบเข้าให้กับใครอีกคนพอดิบพอดี ยอลๆ นั่นไงไอ้หมอคิม จงแด ที่พี่บอกในฝันน่ะ

     

     

    ไอ้คนใส่ขาเดฟ ผอมๆน่ะเหรอ?

     

     

    เออนั่นแหละ แต่สไตล์การแต่งตัวมันผิดจากที่พี่ฝันนิดหน่อยว่ะผมยังจดจ้องอยู่ที่ไอ้หมอจงแดไม่วางตา นึกประหลาดใจกับคาแรกเตอร์มันนิดหน่อยที่ชีวิตจริงแล้วค่อนข้างจะดู….กวนตีนไปสักหน่อย

     

     

    โอ้ยยยนั่นมันจงแดคณะบริหารแล้ว หมอเหมออะไรไม่มีช็อคครับนี่ผมมโนอีกแล้วเหรอวะเนี่ย

     

     

    ถึงเวลาเรียนละ ไปดีกว่า

     

     

    อ่าวเห้ย ทิ้งกันงี้เลย?”

     

    เดี๋ยวเลิกแล้วโทรหาไง

     

     

    อ่าครับๆ คุณแฟนยอลครับรักนะครับ

     

     

    แงงไอ้พี่คริสอย่ามาหยอดได้มั้ยยยยย >/////////<”

     

     

     

     

    หลังจากที่ชานยอลไป ผมก็นั่งเล่นมองนู่นมองนี่ไปรอไอ้สามเกลอที่เพิ่งไลน์มาบอกว่าจะมาเมาท์ด้วย -.- คือไม่ใช่อะไรนะ ช่วงนี้เวลาไม่ค่อยตรงกันสักคนพอมีเวลาเลยต้องใช้ให้คุ้มสักหน่อย แสงแดดที่เลยหัวผมไปแล้วแต่ยังส่องแสงจ้าทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศในฝันตัวเองอีกครั้งราวกับผมกลับมาเกิดใหม่อะไรแบบนั้น

     

     

    ไอ้คริสสสสสสสสส ดีใจจังมึงยังไม่ตายยย

     

    แหมกูหลับไปสามวัน พร้อมไม่เจอกันอาทิตย์กว่าเสียงทักอันเป็นมงคลก็ยังออกมาจากปากไอ้กัมจงคนกากเหมือนเดิมเลย

     

     

    สาส คำทักมึงเหรองี้อะ

     

     

    โห กูหยอกๆ เป็นไงมึงหลับไปสามวันอิ่มเลยอะดิ

     

     

    อิ่มพอมีแรงเตะพวกมึงทุกคนได้แล้วล่ะกูว่า


     

    ผมว่าติดตลกเรียกเสียงโห่ของไอ้สามตัวได้อีกรอบ ทั้งไอ้จื่อ ไอ้จงอิน และเซฮุนเล่าว่ามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยเพราะคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ผิดกับผมที่กระเด็นออกจากรถไปนอนคว่ำอยู่อีกฝั่งของถนนเลย นี่คงต้องสถาปนาตัวเองเป็นไอรอนแมนแล้วล่ะ

     

     

    ผมและพวกอีกสามตัดสินใจว่าจะไม่เข้าเรียนในภาคบ่ายแล้ว เพราะมีเรื่องคุยกันเยอะเหลือเกิน รีดเดอร์อย่าเพิ่งฮาพวกผมนะ คือแบบคนไม่เจอกันนานมันก็มีเรื่องเล่าเยอะปะครับ อารมณ์นั้นแหละฟีลเดียวกัน

    -0-

     

     

    อ้าวพี่จงอิน พี่จื่อเทาแล้วก็พี่เซฮุน สวัสดีฮะเสียงทักของชานยอลดังมาจากข้างหลังผม จนต้องเผลอยกนาฬิกาขึ้นดูก็พบว่าเวลามันล่วงเลยไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว จนกระทั่งเด็กยอลเลิกเรียนแล้ว

     

     

     

    น้องชานยอลครับ เรียนเหนื่อยมั้ย

     

     

    ไอ้จื่อมึงนี่เงียบไปเลย เดี๋ยวกูถามเอง

     

     

    โห่.......

     

     

    แฟนผมผมก็ถามเองได้ปะครับ ไอ้จื่อนี่แม่.งกวนตีนเดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวกูบอกน้องป๋าย แล้วมึงแล้วจะหนาว

     

     

    เห้ยไอ้นี่ กูแกล้งมึงขำๆครับ

     

     

    ไปๆแยกย้าย เดี๋ยวคืนนี้เจอกันกูไปส่งน้องละผมลุกขึ้นราวกับเป็นประธานการประชุม พอหมดเวลาก็ไล่ทุกคนกลับบ้าน

     

     

     

    อะไรคืนนี้จะไปร้านเหล้าอีกละเหรอ?ทันทีที่ถึงรถเด็กยอลก็สอบสวนผมทันทีเลยครับ นี่ก็ลืมไปว่าพูดออกอากาศไม่ได้เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลัง ซึ่งก็ลืม -__-

     

     

    ก็นิดนึงงง

     

     

    ไม่เข็ดเหรอ? อยากฝันถึงน้องยอลอีกรอบใช่มั้ย

     

     

    โหย มีแค่เด็กยอลคนขี้บ่นคนนี้ก็พอแล้วครับ กลับบ้านเนอะๆผมพยายามเกลี้ยกล่อมก่อนจะสวมหมวกกันน็อคลงบนหัวเด็กยอลชนิดเบามือที่สุด โดยไม่ได้สังเกตว่าตาคู่กลมนั้นจ้องมองผมอยู่ทุกการกระทำ

     

     

    พี่คริส..น้องยอลไม่อยากเสียใจเหมือนตอนที่พี่คริสประสบอุบัติเหตุอีกแล้วนะ

     

     

    ผมที่กำลังจะสตาร์ทถึงกับหยุดชะงักกับประโยคจริงจังนั้น นี่คิดมากที่พี่จะไปเที่ยวคืนนี้เหรอ?

     

     

    อื้ม

     

     

    พี่สัญญาว่าจะดูแลตัวเอง แล้วจะอยู่แกล้งน้องยอลไปนานๆเลย เค๊?”

     

     

    เด็กยอลพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะก้าวขาขึ้นที่ประจำข้างหลังผม พร้อมกับกอดเอวผมแน่นแปลกจังนะ ทำไมผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากขนาดนี้ อาจเพราะเรื่องราวเทพอะไรนั่นไม่มีจริงด้วยล่ะมั้ง เพราะมันหมายถึงว่าผมจะไม่มีวันพลัดพรากจากคนที่ตัวเองรัก เว้นก็แต่เราจะเบื่อกันและแยกทางกันไปเอง

     

     

    ซึ่งผมจะประคับประคองให้มันไปได้ไกลที่สุด








    รักนายนะเด็กยอล ไม่ว่าจะ ไอ้ดื้อหรือ เด็กยอลมาอยู่ด้วยกันไปจนจบนะ .


    ปล้ำยอล.เห็นมั้ยว่าเรื่องเหลือเชื่อมันไม่มีอยู่จริงหรอก ไอ้คริสคณะวิทย์นี่แหละคอนเฟิร์ม !!

     

     

     

     

    END.

     

    - - - - - - - - - - - - - -

    ฮู้วเร่ !!!! จบแบบไม่ทันตั้งตัว จบแบบปุ๊ปปั้บจบ โอ้วววววววววววว

    เป็นไงมั่งงง ไรท์ขอโต๊ดที่จบกะทันหันแต่ไรท์ก็คัดสรรมาเป็นอย่างดีนะ

    สรุปไงอะฮ่าๆๆๆๆๆ รีดเดอร์โดนไรท์หลอกตั้งแต่เริ่มเลยเหรอเนี่ย

    อย่าเพิ่งโกรธกันน้า 55555 ขอบคุณไรท์บางคนที่อยู่ด้วยกันมาจนจบเรื่องนะคะ และสำหรับคนที่เข้ามาใหม่ก็ขอขอบคุณมากๆที่ติดตามนะคะ อืม...จะว่าอะไรอีกดีนอกจากขอบคุณจริงๆที่ผลตอบรับค่อนข้างโอเคเลย

    สุดท้ายแล้วไรท์ฝากฟิคอีกเรื่องด้วยน้า Fade Destination คริสยอลเหมือนเดิม

    ปล.ใครซุ่มอ่านอยู่ก็แสดงตัวออกมาซะดีๆน้า คิคิ

     

    - -  - - - - -  - - - -  -

     

     


    themy butter

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×