คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : EP [5] ใครคนนั้นที่สำคัญกว่า ✓
ริต้าขับพาเจ้านายของตนมาถึงที่ตึกสูงแห่งหนึ่ง
แน่นอนว่าเธอคุ้นตาดีเพราะเป็นคนไปหาข้อมูลให้คุณหนูเองกับมือ
“ภัตตาคารนั่นอยู่ชั้นอะไรนะ”
ไอวี่ถามขณะรอลิฟต์
“ชั้นที่
45 ค่ะ” ริต้ารายงาน ประจวบเหมาะกับที่ลิฟต์มาพอดีคุณหนูของเธอจึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีก
ไอวี่ให้ริต้าไปติดต่อจองโต๊ะ
เหตุที่เธอไม่เตรียมการก่อนล่วงหน้าเพราะกลัวว่าจะมีคนรู้ทันก็เท่านั้น
“ได้โต๊ะตรงริมกระจกที่เป็นมุมที่ดีที่สุดของภัตตาคารนี้ค่ะ”
ไอวี่พยักหน้าให้ก่อนจะรอเวลาแน่นอนว่าสายตาก็สำรวจไปด้วย
“แล้วคนๆ
นั้นล่ะ” ไอวี่อดที่จะถามไม่ได้
“เธอเป็นแม่ครัวด้านในค่ะคงไม่ได้ออกมาด้านนอก”
ไอวี่รอไม่นานพนักงานชายก็นำเธอไปที่โต๊ะ
เธอหยิบเมนูอาหารขึ้นมาดู “พี่จะยืนอยู่ทำไมนั่งลงสิเดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยหรอก”
“ค่ะ”
ริต้ารับคำก่อนจะนั่งอย่างเกรงๆ
“พี่อยากกินอะไรสั่งเลยเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
ไอวี่หันไปสั่งอาหารกับพนักงาน
ริต้าเสริมเล็กน้อยในเมนูอาหารที่ไอวี่แพ้ พนักงานรับเมนูก่อนจะเดินจากไป
“พี่ว่าเขาจะมาเมื่อไร”
ไอวี่เปรยขึ้นมาซึ่งริต้าเข้าใจในทันที
“น่าจะไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ”
ริต้าตอบ
“หึพี่แพ้..”
ไอวี่พูดก่อนจะเปรยตามองร่างสูงที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าทมึน เธอไม่สนใจเอาแต่ดื่มไวน์ที่พนักงานมาเสิร์ฟก่อนหน้านี้
ริต้าเมื่อเห็นว่าคุณคิวมาก็ลุกขึ้นไปยืนด้านหลังคุณหนูไอวี่ทันที
เมื่อเห็นว่าคนที่ตามหานั่งอยู่ส่วนไหนคิวก็เดินไปนั่งเก้าอี้ว่าง
ดวงตาคมมองหน้าหญิงสาวที่ขยันหาเรื่องมาให้เขาปวดหัวได้ทุกวัน
ไอวี่เองรู้ว่าเขาไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
เอาแต่จิบไวน์และมองวิวยามค่ำคืนไปเงียบๆ และท่าทางแบบนี้คงจะไปกระตุ้นต่อมความอดทนของอีกฝ่ายเข้า
“จะทำอะไรอีก”
คิวถามเสียงเข้มหน้าตาบ่งบอกว่ากำลังสะกดกั้นอารมณ์อยู่ “ถามว่าจะทำอะไร
มาที่นี่ทำไม”
“มากินข้าว”
ไอวี่ตอบก่อนจะมองหน้าคิว
“...”
“ฉันสั่งว่าไม่ต้องโผล่หัวมาให้เห็นไม่ใช่เหรอ?
อ้อ ลืมไปนายชอบทำตามคำสั่งของทุกคนยกเว้นของฉันนี่” ไอวี่พูดแกมประชด
คิวแทบจะกุมขมับ
แน่นอนว่าเขารู้ว่าไอวี่ต้องการจะเอาชนะเขาด้วยวิธีที่เขาไม่ชอบใจ “ทำไมต้องเป็นที่นี่”
“ทำไม?
ฉันจะกินข้าวที่นี่แล้วมันแปลกรึไง”
“ไอวี่อย่ากวนประสาท”
ไอวี่แค่นยิ้มเมื่อคิวเรียกชื่อเธอเพราะมันหมายถึงคิวกำลังโกรธมาก คงจะโกรธที่เธอล้ำเส้นจนเกินไป
“มาก็ดี
ไหนๆ ก็มาแล้วก็กินด้วยกันเลยแล้วกันฉันสั่งอาหารไปเยอะ พี่เองก็นั่งสิ” ไอวี่บอกก่อนจะหันไปหาริต้า
ริต้ามองคิวพอคิวพยักหน้าให้เธอจึงนั่งลง
“เหอะ
อยากจะรู้จริงๆ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้านายกันแน่”
ตอนนี้เธอเข้าใจดีว่าถึงทุกคนจะทำตามคำสั่งเธอแต่ก็ต้องผ่านคิวมาก่อน
นั่นทำให้เธอรู้สึกว่าไม่มีใครสักคนที่อยู่ข้างเธอเลยจริงๆ
แม้แต่ริต้าที่อยู่กับเธอมานานก็ด้วย
พนักงานเดินมารินไวน์ให้กับคิว
ผ่านไปไม่นานอาหารที่สั่งเอาไว้ก็มาเสิร์ฟ ไอวี่มองอาหารที่เริ่มจะเต็มโต๊ะท้องก็กิ่วคล้ายจะหิวจริงๆ
ขึ้นมา
“จะไปไหน”
คิวถามเมื่อไอวี่ลุกขึ้นยืน
“ไปห้องน้ำ”
“ริต้า”
คิวเรียกคนข้างกายของไอวี่แต่โดนไอวี่ขัดเสียก่อน
“ไม่ต้องเดี๋ยวฉันไปเอง”
ไอวี่สั่งเสียงแข็ง
คิวเองก็ขมวดคิ้วเข้ม แน่นอนว่าต่างคนต่างไม่ยอมกัน ทว่าไอวี่ไม่รอให้ใครอนุญาตเธอเดินออกไปโดยไม่สนใจคิวอีก
“ขอโทษด้วยค่ะ”
ริต้าพูดขึ้นก่อนจะเดินตามไอวี่ไป
คิวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
ไม่คิดว่าไอวี่จะควบคุมยากและดื้อดึงขนาดนี้ เพราะรู้จุดประสงค์ของหญิงสาวดีจึงต้องรีบตามมาถึงที่นี่
อาจเพราะเหมือนคำโบราณที่ว่าไว้ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เขาบอกว่าห้ามยุ่งกับคนรอบๆ
ตัวแต่ไอวี่ก็ยังดื้อดึงมาที่นี่จนได้..ที่ที่แคลร์ทำงานอยู่..
“คุณคิวครับ”
คิวมองเมืองสิงห์แน่นอนว่าไม่ต้องรายงานเขาก็พอรู้ว่าไอวี่คงไม่ได้ไปห้องน้ำตามที่เธอบอก
คิวพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามไป
หลังจากที่บอกร่างสูงว่ามาเข้าห้องน้ำแต่ความจริงแล้วคิดจะมาส่องผู้หญิงคนนั้น
ไอวี่หันเลี้ยวไปทางส่วนที่เป็นพนักงานก่อนจะหามุมหลบเพื่อหาหญิงสาวที่ชื่อแคลร์
พอมองดูก็เห็นว่ามีพนักงานครัวหลายคนแต่ที่เด่นสำหรับไอวี่ก็คงเป็นผู้หญิงที่คุ้นหน้าคุ้นตาและเป็นวัยรุ่นเพียงคนเดียวในที่นี้..คนคนนั้นคือคนที่ทำให้คนอย่างคิวกรณ์ถึงกับไปไม่เป็น!
อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรดีนักถึงทำให้คิวสนใจและแสดงท่าทีที่อ่อนโยนแบบนั้นได้..และอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรที่เธอไม่มีกันแน่
“คุณหนูคะ”
ไอวี่ออกจากภวังค์เพราะเสียงของริต้า
“บอกว่าไม่ต้องตามมาไง”
ไอวี่เอ็ดเสียงเบาทว่าเธอยังไม่ทันได้ดุริต้ามากนักเสียงเย็นๆ ของใครบางคนก็เรียกเอาไว้ก่อน
“ไอวี่!” เป็นคิวที่เดินหน้านิ่งเข้ามา และดูเหมือนว่าใบหน้าจะโกรธที่สุดเท่าที่ไอวี่เคยเห็นมา
การปรากฏตัวของคิวเรียกสายตาคนในครัวไม่น้อยหนึ่งในนั้นก็ผู้หญิงที่ชื่อแคลร์
“ที่นี่สำหรับเจ้าหน้าที่นะครับ
เชิญพวกคุณออกไปข้างนอกด้วย”
พนักงานชายคนหนึ่งพูด
ไอวี่ยืนตัวตรงทันทีที่รู้สึกตัวว่าโดนจับได้
“อาหารอร่อยมากฉันก็เลยอยากจะขอพบคนที่ทำอาหารขึ้นมาเสียหน่อย”
ไอวี่ยิ้มให้ทุกคนแต่สายตาของเธอวางเอาไว้ที่ผู้หญิงที่ชื่อแคลร์
“เราคงทำตามที่คุณขอไม่ได้เพราะมันเป็นกฎของที่นี่”
“คุณคงไม่อยากปฏิเสธคนในตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุลใช่รึเปล่า”
ไอวี่ถามเสียงเรียบทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่เกร็งไปหมด
ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลที่โด่งดัง ดังนั้นพวกพ่อครัวจึงเอาแต่ยืนนิ่งเป็นหุ่นไม้
คิวจะเข้ามาจัดการแต่โดนไอวี่มองด้วยความไม่พอใจเอาเสียก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เปรม
เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ”
หญิงสาวที่ชื่อแคลร์พูดขึ้น
ไอวี่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะ ตามมาด้วยบุคคลทั้งสาม พอมาถึงไอวี่ก็นั่งพร้อมๆ
กับคิว แต่ริต้าเปลี่ยนไปยืนด้านหลังไอวี่แทน ไอวี่มองหญิงสาวที่ชื่อแคลร์ที่น่าจะอายุมากกว่าเธอเกือบสองปีด้วยสายตานิ่งเงียบ
“แคลร์นั่งสิ”
คิวเป็นคนเอ่ยชวนทำเอาไอวี่แปลกใจไปนิดหน่อย เพราะแรกเริ่มเธอก็จะชวนอยู่แล้วไม่คิดว่าคิวจะข้ามหน้าเธอแล้วชวนแทนผู้หญิงที่ชื่อแคลร์ยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงข้างคิว
“คุณมีอะไรจะถามฉันเหรอคะ”
แน่นอนว่าคนเริ่มประเด็นเป็นอีกฝ่าย ไอวี่เงียบไปพักหนึ่ง
“อาหารที่ทำมาอร่อยมากเลยนะคะช่วยแนะนำหน่อยได้รึเปล่า”
“อ่า
เมนูที่คุณผู้หญิงเลือกจะมีเมนคอร์สหลักๆ อยู่ 5 หมวดหมู่นะคะจะแยกเป็นหมวด Appetizer Hot ที่คุณผู้หญิงสั่งจะมี..”
ไอวี่ไม่ได้ฟังที่แคลร์พูดอีกต่อไปแต่สายตาเธอกลับจับจ้องเพียงแต่ร่างสูงที่ตั้งใจฟังผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพูดถึงรายการอาหารแทน
เธอแค่นยิ้มอยู่เพียงเงียบๆ คนเดียวเมื่อเห็นใบหน้าของคิวมีแต่ความผ่อนคลายและเหมือนจะภูมิใจในตัวแคลร์เป็นอย่างมาก
อีกทั้งคิวเองก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่าเผลอปล่อยตัวจนเกินไป เธอก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนอย่างคิวกรณ์มือฉกาจของตระกูลหงส์ฤดีเกียรติกุลก็มีมุมนี้ด้วย
ให้ตายเหมือนพาตัวเองมาตอกย้ำกับอะไรที่ตัวเองก็รู้ดีอยู่แล้ว..
“คุยกันมาตั้งนานยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนะคะ”
ไอวี่แทรกขึ้น
“นั่นสินะคะ
ฉันชื่อแคลร์ค่ะ แล้วคุณ..”
“ฉันไอวี่ค่ะ”
ไอวี่แนะนำตัวกลับแต่พอบอกชื่อไปไม่รู้ทำไมแคลร์ถึงได้หันไปมองคิว..ทำไม? มันมีอะไรผิดปกติอย่างนั้นเหรอ?
“คุณหนูไอวี่นี่เอง
ฉันได้ยินชื่อคุณมานานแต่เพิ่งจะได้เจอตัวจริงก็วันนี้ คุณสวยมากเลยค่ะ” แคลร์พูดขึ้นมาทำเอาไอวี่รู้สึกสงสัย
“ได้ยินมาจากไหนคะ”
แคลร์เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างทว่าก็เปลี่ยนใจหันไปมองคิวแทน ดังนั้นไอวี่จึงรู้ว่าเธอรู้มาจากใคร
ว่าแต่..คิวเล่าอะไรไปบ้างล่ะ?
“รู้จักกับคิวนานแล้วเหรอคะ”
ไอวี่ทำเป็นไม่สนใจประโยคคำถามเดิมแล้วถามคำถามใหม่ ซึ่งมันลดความอึดอัดลงไปมาก
“ใช่ค่ะ
เราสนิทกันค่ะ” แคลร์ตอบ
“เหรอคะ
เห็นคิวอยู่กับเพื่อนกลุ่มผู้ชายห้าหกคนไม่คิดว่าจะมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วย”
“...แล้วคุณไอวี่ล่ะคะ
คุณก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่นาก็น่าจะสนิทกับพี่คิวนี่คะ” แคลร์ถามกลับ
ซึ่งไอวี่ก็แค่ยกยิ้มให้อีกฝ่าย
“คงจะระดับหนึ่งค่ะ
แต่คงไม่สนิทเท่าคุณแน่ๆ”
“อย่างนั้นเหรอคะ
แต่ฉันไม่คิดว่าแบบนั้นนะคะเพราะถ้าคนที่อยู่ใกล้พี่คิวได้แบบนี้คงไม่ธรรมดาแน่ๆ” แคลร์ตอบ
ไอวี่มองแคลร์อย่างประเมิน..ใช่เธอนั่นล่ะที่ไม่ธรรมดา
“คงจะแบบนั้นค่ะ
แล้วคุณแคลร์มีแฟนแล้วหรือยังคะไม่ได้จะละลาบละล้วงนะคะ เห็นคุณสวยและเก่งก็เลยอยากรู้”
“มีแล้วค่ะ”
มีแล้วแต่ก็ยังมาโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชายคนอื่นน่ะเหรอ?
“แฟนฉันเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับพี่คิวค่ะก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันสนิทกับพี่คิว”
“อ๋อแบบนี้เองเหรอคะ”
แน่นอนว่าข้อมูลนี้ฉันได้มาแล้ว
“คุยถูกคอจังค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณแคลร์เรียนที่ไหนเหรอคะ”
“คิงส์ตันค่ะ”
“อ้าวไอวี่ก็เรียนที่นั่นนะคะ
แต่อยู่ปีหนึ่งวิศวะฯ แล้วคุณแคลร์ล่ะ”
“เรียนอาหารฯ
ปีสามค่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“อย่างนั้นก็เป็นรุ่นพี่สิคะ
ไอขอเรียกว่าพี่แคลร์แล้วกันนะคะ”
ไอวี่ถือโอกาสตีสนิทเรียกพี่
แคลร์ดูเหมือนจะตกใจแต่ก็ยอมรับโดยดี หลังจากนั้นไอวี่ก็คุยกับแคลร์อีกเล็กน้อยจากนั้นก็ต้องปล่อยให้หญิงสาวกลับไปทำงานต่อ
แน่นอนว่าระหว่างที่คุยกันก็มีสายตาคมคอยจ้องมองตลอดเวลา และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่แทรกบทสนทนาอะไรแต่มันก็ดูขัดใจไอวี่อยู่ดี
ท่าทีที่ดูชื่นชมและดูเอ็นดูของคิวมันทำให้ไอวี่สติแทบแตก
ทุกการกระทำที่แสดงออกมามันทำให้เธอนึกอิจฉาแคลร์อยู่เต็มหัวใจ
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงไอวี่กับคิวก็รับประทานอาหารเสร็จ
ระหว่างที่นั่งกินเธอกับคิวไม่ได้คุยกันเลยสักประโยค บนโต๊ะอาหารมีแต่ความอึมครึม ริต้าและเมืองสิงห์ลุกขึ้นไปชำระเงิน
ส่วนไอวี่กับคิวก็เดินออกมายืนรอลิฟต์ ทว่าจังหวะรอแคลร์ก็วิ่งหน้าตาตื่นมาทางพวกเขา
“พี่คิวคะรอก่อนค่ะ!”
แคลร์วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคิวด้วยความเหนื่อยหอบ
คิวยกมือขึ้นให้แคลร์เพื่อให้เธอได้มีที่จับ ส่วนไอวี่มองทั้งสองคนด้วยความสนใจ
“ไม่เห็นต้องวิ่งเลย”
คิวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆ แต่น้ำเสียงนั้นดูจะไปในทางเอ็นดูซะมากกว่า
“แคลร์กลัวพี่จะกลับไปก่อนก็เลยวิ่งมา”
คิวยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะจับให้อีกฝ่ายยืนดีๆ
“นี่ค่ะ”
แคลร์ยื่นบางอย่างให้คิว
“อะไรน่ะ”
“เป็นน้ำผลไม้กับขนมที่พี่ชอบค่ะ
แคลร์ว่าจะฝากพี่คินทร์ไปให้หลายครั้งแต่ก็ลืมแต่โชคดีที่วันนี้เจอพี่พอดี”
“ขอบใจ
แต่ว่าโทรมาบอกให้ไปเอาก็ได้ไม่เห็นต้องลำบากเลย”
“ไม่ลำบากหรอกน่า”
แคลร์ยิ้มให้ก่อนจะมองไปทางไอวี่ก่อนจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ไอวี่ตกใจด้วยการโน้มตัวเข้าไปกอดคิว
และคิวเองก็ไม่ผลักเธอออกด้วยกลับกันมือแกร่งนั้นยกขึ้นมากอดตอบด้วย
“ฉันจะไปรอข้างล่าง”
ไอวี่รีบพูดก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไป
“แคลร์จะไม่ถามอะไรหรอกนะคะเพราะรู้ว่าพี่มีเหตุผล
แต่ห้ามปิดบังอะไรแคลร์เด็ดขาดเข้าใจไหมคะ” แคลร์กระซิบให้คิวได้ยิน
คิวเผลอยิ้มออกมาที่หญิงสาวไม่ได้ถามอะไรซอกแซกในตอนนี้ก่อนจะยกมือลูบหัวหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างเอ็นดู
“ทิมพากลับไปแล้วครับ”
เมื่อคิวออกมาทิมก็เข้ามารายงานทันที
คิวพยักหน้ารับรู้ว่าลูกน้องที่กำลังบาดเจ็บแต่เพิ่งจะฟื้นตัวพาคุณหนูของเรือนแก้วกลับไปก่อน
คิวเดินไปขึ้นรถแล้วเอี้ยวตัวเอาของไปเก็บด้านหลัง รอยยิ้มผุดขึ้นมาเพราะว่าวันนี้ได้เจอกับแคลร์
ทว่ามือที่เริ่มหยิบของในถุงดูชะงักทันททีที่นึกบางสิ่งขึ้นได้
วันนี้คิวเผลอทำอะไรผิดพลาดไปหลายอย่าง
เขามักจะลดเกราะป้องกันตัวเองระหว่างที่อยู่กับแคลร์ คิวหยิบโทรศัพท์โทรหาใครบางคนทันทีและเมื่อปลายสายรับก็กรอกเสียงลงไปอย่างเคร่งเครียดกว่าทุกครั้ง
“ดูแลแคลร์ให้ดี”
หลังจากพูดจบก็วางสาย นั่งคิดอะไรพักหนึ่งแล้วค่อยขับรถกลับคฤหาสน์
เมื่อกลับมาที่เรือนแก้วคิวก็ได้รับรายงานว่าไอวี่เข้านอนไปแล้วเขาโบกมือไล่ทุกคนให้ไปพัก
ยกเว้นก็แต่เวรยามที่เฝ้าเรือนแก้วที่แน่นหนามากกว่าเดิมถึงสองเท่า ก่อนจะแยกย้ายคิวสั่งงานทิมและเมืองสิงห์แล้วค่อยเดินกลับมาที่ห้องพักของตนเองที่เป็นเรือนแยกออกมาไม่ไกลจากเรือนแก้วนัก
เนื่องจากคิวมีบทบาทและหน้าที่ที่สำคัญต่อคุณหนูเรือนแก้วดังนั้นจึงมีอภิสิทธิ์หลายๆ
อย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือสามารถมีที่พักห่างจากเรือนแก้วเพียงนิดเดียว ซึ่งปรกติแล้วบอดี้การ์ดระดับสูงและเหล่าลูกน้องจะมีบ้านพักอยู่ด้านหลังตัวคฤหาสน์ของเหล่าเจ้านายไปอีกที
Rrrrr Rrrrr
คิวเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำหยิบโทรศัพท์ที่สั่นครืดอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาดูและเมื่อเห็นว่าชื่อที่บันทึกเอาไว้ด้วยตัวอักษรพิเศษโชว์ขึ้นบนหน้าจอรอยยิ้มที่ใครๆ
ไม่เคยเห็นก็ปรากฎขึ้นมา
“ครับ
ผมเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ส่งมาแล้วใช่ไหมครับ ครับ.. ตอนนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวอะไรดีกว่าครับ
ไม่ต้องครับเดี๋ยวผมจัดการเอง ขอบคุณนะครับ”
คิววางสายไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเช็กอีเมล สายตาคมอ่านรายละเอียดข้อมูลที่ปลายสายส่งมาให้
“หึ ชั่วกันทั้งตระกูล”
รอยยิ้มเย็นแย้มขึ้น ก่อนจะกดปิดอีเมลและล็อคเอ้าท์ทุกอย่างจากระบบอีกทั้งล้างแคชข้อมูลการเข้าใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแฮกข้อมูลเกิดขึ้น
แน่นอนว่าคิวระแวดระวังตัวเพราะเขาไม่เคยไว้ใจใคร ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องคนสนิทหรือเพื่อนก็ตามที
หลังจากแต่งตัวเสร็จคิวก็ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยเพราะวันทั้งวันวุ่นไปกับเรื่องของไอวี่เสียส่วนใหญ่
หากจะถามว่าคิวคิดยังไงกับไอวี่ แน่นอนว่าเฉยๆ และถ้าถามว่ารู้ไหมว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเขา
แน่นอนว่าเขารู้ แต่ที่ทำเมินเฉยก็เพราะมันส่วนหนึ่งของแผนการ
คิวต้องการแบบนั้น
ต้องการให้ไอวี่ผูกติดคิวพึ่งพาคิวให้มากกว่าทุกคน
และมันก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าอีกฝ่ายชอบเขา แต่แน่นอนว่าคิวไม่หยุดอยู่แค่นี้เขาจะทำให้ไอวี่รักเขาให้ได้
เพราะยิ่งรักก็ยิ่งควบคุมง่ายและนั่นคือเหตุผลที่คิวต้องยอมอดทนกับอีกฝ่ายไม่ว่าจะน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม
แต่เพื่อเป้าหมายที่วางเอาไว้ในอนาคต เขาก็มีแต่ต้องกัดฟันทนต่อไป..
ฟังดูเหมือนคิวเป็นคนคลั่งรักทว่าไม่ใช่เลย..
เหตุผลมันไม่สวยหรูอะไรอย่างนั้น..
คิวแค่มีปฏิกิริยาที่รุนแรงกับไอวี่..ไม่ใช่สิกับตระกูลชั่วนี่ต่างหาก
เดิมทีแล้วคิวมีชื่อว่า
คิรัวร์ เกียรติ์เกรียงไกร แต่ตอนนี้มีเหตุผลที่ต้องปิดบังชื่อและนามสกุลจริงดังนั้นเขาจึงใช้ชื่อ
‘คิว’ ซึ่งเป็นโค้ทเนมที่ใช้ในการทำงาน
และใช้ชื่อใหม่กับนามสกุลของตระกูลนี้แทน
ตระกูลที่เขาเกลียดเสียยิ่งกว่าอะไร..
ღ
เช้าวันต่อมาคิวเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผมเปียกลู่
ทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูสีเทาที่ปิดบังช่วงล่างเอาไว้ ร่างสูงชะงักกายเมื่อเห็นว่าใครกำลังรุกล้ำอาณาเขตความเป็นส่วนตัวของตัวเอง
คุณหนูของเรือนแก้ว..
คนที่เพิ่งออกมาไม่คิดจะกระดากอายแต่ไม่ใช่กับคนที่นั่งรออยู่
ไอวี่หันหน้าหนีแทบจะทันทีที่เห็นคิวออกมาในสภาพนั้น เธอรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาอย่างเขินอายที่ต้องเห็นเรือนร่างของอีกฝ่าย
กล้ามเนื้อที่ผ่านการออกกำลังกายและมีสภาพสมบูรณ์ดูแข็งแรงดูจะเพอร์เฟ็กเสียจนไอวี่คิดว่ามันดูดีมากๆ
นั่นยังติดตาอยู่แม้ตอนเธอหลับตา
“ทำไมนายไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนเดินออกมาล่ะ”
“ปกติจะออกมาแต่งตัวข้างนอก
แล้วมีอะไรถึงถือวิสาสะเข้ามา”
“แค่จะคุยกับนายเรื่องของเมื่อคืน”
“งั้นรอก่อน”
คิวไม่สนใจไอวี่ที่อยู่ในห้องเลยสักนิด เขาเดินไปใส่กางเกงในห้องแต่งตัวก่อนจะเดินมาตรงหน้าไอวี่
“ทำไมไม่ใส่เสื้อ”
ไอวี่เผลอหันไปมองก็ต้องหันหน้าหนีอีกที
“นี่มันห้องฉันจะใส่ไม่ใส่เสื้อก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ไอวี่ถอนหายใจออกมา
พลันคิดว่าจะมีสักครั้งไหมที่ผู้ชายคนนี้จะพูดดีๆ กับเธอ ไอวี่หันไปเห็นผมของคิวที่ยังไม่แห้งก็รู้สึกขัดใจขึ้นมา
“มานั่งนี่”
ไอวี่สั่ง คิวนิ่งไปพักหนึ่งแต่ก็ยอมทำตามโดยดี แน่นอนว่าในเขตคฤหาสน์แห่งนี้คิวไม่สามารถที่จะขัดคำสั่งได้
แต่ถ้าไอวี่คิดสักนิดว่าที่นี่เป็นอาณาเขตส่วนตัวของคิว
ซึ่งหากเธอสั่งอะไรไปคิวสามารถจะปฏิเสธได้แต่อีกฝ่ายไม่ทำนั้นมันแปลกเพียงใด
เมื่อคิวนั่งไอวี่ก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กตรงชั้นหน้าห้องน้ำมานั่งเช็ดผมให้คิว
แปลกใจนิดหน่อยที่คนตัวสูงยอมทำตามอย่างว่าง่าย
แต่ไอวี่ยอมรับว่ารู้สึกดีที่ได้เช็ดผมให้อีกฝ่ายเพราะมันเหมือนว่าคิวจะยอมให้เธอเข้าหาเขาขึ้นมาบ้าง
และนั่นทำให้ความน้อยใจของไอวี่ลดลงนิดหนึ่ง
“สนิทกับเธอคนนั้นมากเหรอ?”
ไอวี่ถามขึ้นมาเสียงเบา
“อืม”
คิวตอบเพราะรู้ว่าไอวี่หมายถึงอะไร
“แล้ว
นายได้ชอบเธอรึเปล่า”
“ก็ชอบ”
ไอวี่หยุดมือไปพักหนึ่งแต่ก็เช็ดต่อ
“เห็นว่าหน้าเหมือนน้องสาวเลยเอ็นดู”
ไม่รู้ว่าคำพูดที่เพิ่มมานั่นต้องการจะอธิบายกับเธอรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ไอวี่รู้สึกดีใจและโล่งใจขึ้นมา
“มีน้องสาวด้วยเหรอ
ไม่เคยรู้เลย”
“จำได้ลางๆ
ว่าเคยมี”
“แล้วครอบครัวล่ะจำได้บ้างไหม”
ไอวี่ถามต่อและค่อนข้างจะระวังคำพูด
สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้คิวไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวหรือตัวเองอยู่เลย
“จะถามทำไม?”
“ตอบมาเถอะน่า”
คิวจับมือไอวี่ที่เช็ดผมให้ตนเองออก
“เคยบอกแล้วใช่รึเปล่าว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องส่วนตัว”
“เรื่องส่วนตัวที่ว่ารวมคนชื่อแคลร์ด้วยใช่มั๊ย?”
“อืม”
“ห้ามยุ่งเหรอ?
แค่ถามก็ไม่ได้เหรอ?”
“อืม”
ไอวี่นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะมองคิวด้วยสายตาตัดเพ้อน้อยใจ
“นายดูห่วงเธอจังเลยนะ
อยากรู้จริงๆ ว่านายเคยห่วงฉันแบบเธอมั๊ย ฉันเคยสำคัญกับนายบ้างมั๊ยคิว”
“เธอสำคัญกับฉันเสมอ”
คิวมองอีกฝ่ายนิ่งๆ ซึ่งไอวี่เองก็เช่นกัน
เธอรู้ว่าเธอสำคัญกับคิวก็เพราะเป็นเจ้านาย..
“แล้วตกลงมาที่นี่ทำไม?”
“เปล่า”
ไอวี่ลังเลกับความคิดตัวเอง สมองคิดบางอย่างออกแต่ไม่รู้ว่าจะทำดีรึเปล่า ทว่าร่างกายและหัวใจมันเร็วกว่าสมองไอวี่จึงเดินเข้าไปกอดคิวอยู่พักหนึ่ง
และยิ่งอีกฝ่ายไม่ผลักเธอออกเธอจึงแปลกใจผละตัวเองขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย
“อย่าไปกอดกับใครอีกเลยได้ไหม
อย่าให้ใครกอดง่ายๆ แบบนั้นอีก ถ้านายชอบทำตามคำสั่งนักฉันขอสั่งนายเรื่องนี้ได้ไหมคิว”
คิวไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่ความเงียบก็ทำให้ไอวี่รู้สึกเข้าข้างตัวเองไปนิดหนึ่ง..
คิวไม่ปฏิเสธแสดงว่าอาจจะทำให้เธอได้..
ღ
ความคิดเห็น