ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    3 | THE GUARD ღ หัวใจเสี่ยงรัก ϟ

    ลำดับตอนที่ #3 : EP [2] คนขี้อิจฉา ✓

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 64


     
     
       





    คิวไอวี่
    .
    .
    .


    EP [2] คนขี้อิจฉา



    “ไอทางนี้” ไอวี่หันมองกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วเดินไปนั่งที่ว่างทันที

    “เมื่อวานเป็นไงบ้าง” พอนั่งปุ๊บอีลี่สาวสองมันก็ถาม มันคงอยากรู้เรื่องเมื่อคืนที่ไปเที่ยวกันแล้วถูกคิวจับได้

    พวกเพื่อนๆ ในกลุ่มจะรู้แค่ว่าคิวเป็นลูกน้องของที่บ้านไอวี่และมีหน้าที่คล้ายๆ กับบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอ และรู้แค่ข้อมูลผิวเผินเพียงเท่านั้น โดยไอวี่บอกแค่ว่าบ้านเธอเป็นตระกูลเก่าที่รวยมากและรับอุปถัมภ์คิวจากบ้านเด็กกำพร้ามาเลี้ยง ส่วนเบื้องหลังอันมืดมิดไม่ได้บอกกล่าวออกไป และแน่นอนว่าหากใครคิดจะสืบคงได้แต่เพียงความว่างเปล่า เพราะคนอย่างคิวจะไม่ยอมปล่อยให้ข้อมูลต่างๆ หลุดรอดออกมาอย่างแน่นอน

    “เขาก็ไม่ได้อะไรกับฉันเหมือนกับที่แล้วๆ มานั่นล่ะ”

    “อย่ามาทำให้ต่อมเสือกพวกฉันทำงานหนักสิ เล่ามาเลยๆ!”

    ไอวี่ถอนหายใจออกมายาวๆ พลางมองบรรดาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวเสือกเต็มที่ อาจเพราะคลาสนี้อาจารย์เข้าช้าพวกมันถึงมีเวลามาเสือกได้แบบนี้ แต่ก็ไม่ถือสาเพราะเธอเองก็เห็นพวกมันเป็นเพื่อนที่พร้อมจะแชร์ในบางเรื่องอยู่แล้ว

    ไอวี่มีเพื่อนสนิท 4 คน คนแรกคือ สาลี่ หรือ อีลี่ เพื่อนสาวประเภทสองที่ขี้เสือกที่สุดในกลุ่ม คนที่สองคือเยลโล่ สาวมั่นใจนิสัยคล้ายอีลี่และคอยเป็นลูกคู่อีลี่ตลอด สองคนสุดท้ายคือมิ้นท์คือมิ้นกับดาวที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยและเรียนเก่ง โดยเฉพาะดาวที่จะเรียนเก่งที่สุดในกลุ่มและนิสัยเฉพาะตัวคือเป็นคนดีแบบใสสะอาดธรรมมะธรรมโมไม่ทำผิดศีล

    “ก็ดุฉันนิดเดียวที่เหลือก็นิ่งใส่” ตอบพวกมัน

    “ไอชอบพี่เขาจริงๆ เหรอ พี่เขาดูน่ากลัวยังไงไม่รู้”

    ดาวแม่ชีของกลุ่มพูดขึ้นมาอย่างหวาดหวั่น เดิมทีดาวมันเป็นคนขี้กลัว นี่ถ้ารู้ว่าบ้านไอวี่มีคนประเภทคิวอยู่เยอะแยะเต็มไปหมดคงจะช็อกตายแน่นอน

    “น่ากลัวยังไงยะเขาเรียกว่าดิบๆ โหดๆ คาริสม่ากระชากมดลูกย่ะ แม่ชีอย่างเธอใช้เวลาว่างเดินจงกลมทั้งวันคงจะมาเข้าใจหรอก”

    “น้อยๆ หน่อยอีลี่ไปว่าดาวมัน” เยลโล่

    “หรือมึงคิดว่าไม่จริงหะอีโล่”

    “เรียกเยลเถอะขอร้อง” ไอวี่ส่ายหน้าระอาเมื่อเพื่อนๆ เบี่ยงประเด็นไป แต่ก็อดยิ้มให้ไม่ได้ที่เห็นว่าเหล่าเพื่อนสนิทเริ่มแซวกันเอง

    ในกลุ่มเพื่อนๆ พวกมันมีฐานะปานกลางไม่เคยเอารัดเอาเปรียบหรือเข้าหาไอวี่เพราะผลประโยชน์ก็เลยสบายใจที่อยู่กับพวกมัน

    “ตกลงว่าไงคะอิคนสวย” อีลี่หันมาเสือกอีกจนได้

    “ก็ให้ไปรายงานตัวพร้อมพวกแกนั่นล่ะ เรื่องเมื่อคืนน่ะ”

    “เห็นมะพวกฉันซวยก็เพราะแกอ่ะ มันใช่เรื่องไหมวะเนี่ยอีแค่จะปั่นหัวผู้ชายนี่ต้องทำให้เพื่อนโดนหักคะแนนอ่ะ รู้ก็รู้ว่าพี่คิวเขาประกาศออกมาตอนเข้าแถวรับน้องแล้วนะว่าห้ามทำผิดกฎ ไอ้พวกเราน่ะไม่อะไรแต่พี่คิวเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับแกเลยเหรอวะ” สาลี่บ่น

    ไอวี่เงียบไปเพราะจริงอย่างที่อีลี่มันพูด กฎที่ว่าคือในหนึ่งเดือนนี้ไม่ให้เด็กปีหนึ่งออกเที่ยวถ้าเจอจะหักคะแนน ซึ่งไอวี่กับเพื่อนทำแบบนี้มาแล้วสามครั้ง รวมเมื่อคืนด้วยนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้คะแนนจิตพิศัยของพวกเธอจะเหลือกี่คะแนน

    ความจริงไอวี่ก็รู้สึกผิดนิดๆ ที่พาเพื่อนๆ ทำเรื่องไร้สาระก็เพียงเพราะอยากยั่วโมโหคิวเท่านั้น

    “ขอโทษนะที่ทำให้เดือดร้อน”

    “อีคุณหนูอย่ามาดึงดราม่า พวกฉันไม่ได้อะไรมากหรอกแต่แค่อยากรู้ว่ามันคืบหน้าบ้างไหมก็เท่านั้น” อีลี่ตาประกายพร้อมเสือกเต็มที่

    “ก็คืบหน้าอยู่นะ” ไอวี่พูดพลางเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้พวกเพื่อนฟัง เมื่อเล่าจบเพื่อนๆ ก็หันมาทำหน้าแปลกๆ ใส่

    “นี่คือก้าวหน้าถูกไหม” อีลี่ทำหน้าเบื่อหน่าย

    “อือ เขาพูดยาวกว่าปกติอ่ะ”

    “นั่นเรียกด่าไหมไอ พี่คิวไม่มีมุมเป็นห่วงหรือหึงเลยเหรอ” เยลโล่

    “..เขาตายด้านจะตายไป”

    เธอไม่เคยเห็นคิวเป็นห่วงเลยสักครั้ง เพราะแต่ละครั้งที่เขามาตามตัวเธอก็แสดงแต่สีหน้ารำคาญใจเบื่อหน่ายอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือเพราะไปรบกวนเวลาของเขา

    “แต่ไอก็ชอบเขานี่” ดาวพูดแซวซึ่งไอวี่ไม่ปฏิเสธเพราะมันเป็นความจริง เธอชอบคิวจริงๆ ..

    “ฉันอยากจะรู้ว่าจะมีใครทำให้พี่คิวอ่อนโยนได้บ้างไหมอ่ะ”

    ไอวี่หันไปมองเยลทันทีที่ได้ยินแบบนั้นและก็คิดตามไปด้วย

    ตั้งแต่อยู่กับคิวมาไม่เคยเห็นคิวจะอ่อนโยนกับผู้หญิงเลยสักคน ไม่ว่าจะคู่นอน เลขา หรือผู้หญิงที่เขามีความสัมพันธ์ระยะสั้นก็ไม่เคยเห็น

    “ก็มีนะ”

    “ใคร” เสียงของสาลี่ทำเอาไอวี่หันขวับคอแทบเคล็ด และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเสียงที่เอ่ยถามออกไปนั้นแข็งและห้วนแค่ไหน

    “ก็นั่นไงรุ่นพี่ปีสามคณะไหนเนี่ยล่ะ เขาว่ากันว่าคนนี้อ่ะท่าทางจะทำให้กำแพงน้ำแข็งของพี่คิวถูกทำลายลงได้”

    “ใครวะอีลี่จะยึกยักเพื่อ?” เยลเร่ง แม้แต่ใจไอวี่เองก็เร่งตามด้วย

    “จำชื่อไม่ได้ว่ะแต่สวยและน่ารักมากๆ ได้ยินเขาพูดกันว่า เห็นพี่คิวเย็นชาแบบนี้แต่กับคนนี้เหมือนกับคนละคนกับที่พวกเรารู้จักเลยล่ะ”

    “อีนั่นมันเป็นใคร” ไอวี่ถามเสียงแข็งแกมไม่พอใจที่ได้ยินแบบนั้น

    “เออเดี๋ยวบอกแต่ตอนนี้อ่ะเรียนก่อนดีกว่าอาจารย์มาโน่นแล้ว”

    เยลโล่เอ่ยขัดเพราะอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้องพอดี

    ไอวี่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ข้างในแต่ก็ไม่วายคิดตลอดทั้งคาบเรียนว่าผู้หญิงคนที่สาลี่บอกนั้นเป็นใคร

    ไม่รู้สิในอกเหมือนมีใครมาสุมไฟให้ร้อนลุ่มยังไงชอบกล เธอมันก็นิสัยแบบนี้ นิสัยเสียที่โดนคนสปอยล์มามากอยากได้อะไรก็ต้องได้ ของๆ เธอก็ต้องเป็นของๆ เธอใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งไป!

    “แล้วจะเอาไงเรื่องไปรายงานตัวเนี่ย” อีลี่เอ่ยขึ้นตอนเราเรียนเสร็จสองคาบแรกจบ อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้วแต่ทุกคนยังนั่งปรึกษากันอยู่ว่าจะไปรายงานตัวตามคำสั่งของพี่ระเบียบก่อนหรือหลังกินข้าวกันดี

    “ไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปเถอะ” ไอวี่พูดเสนอขึ้น เพราะหากไปแล้วเจอคิวตอนที่เทอท้องว่างๆ แบบนี้อาจจะทำให้เผลอหงุดหงิดเขาก็ได้

    เพราะในหัวเธอมีแต่คำว่าไม่พอใจเต็มไปหมด แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องของคิวกับผู้หญิงปริศนาที่สาลี่พูดค้างเอาไว้

    เพื่อนๆ เห็นด้วยจึงเก็บของแล้วไปกินข้าวกัน เมื่อมาถึงโรงอาหารไอวี่กับเพื่อนต่อแถวซื้ออาหารกันจนเรียบร้อยแล้วก็เดินหาที่นั่ง พอนั่งปุ๊บก็เข้าระบบเม้าท์มอยฝอยแตกกันไป ซึ่งไอวี่ก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ เท่านั้น

    “ไอนั่นกลุ่มพี่คิวนี่” ไอวี่หันไปมองตามเมื่อได้ยินสาลี่เรียกชื่อของบุคคลที่อยู่ในหัวมาตลอดช่วงเช้าจนถึงตอนนี้ “กลุ่มพี่คิวนี่หล่อเหมือนเดิมเลยเนอะ แต่วันนี้ขาดไปสองคนนี่ พี่คินทร์กับพี่โชนไม่มาเหรอวะ”

    “ใครคือพี่คินทร์พี่โชน” ไอวี่ถามด้วยความสงสัย

    “อ้าวอีนี่ชอบพี่คิวยังไงไม่รู้จักเพื่อนๆ ของเขาเนี่ย”

    สาลี่มันว่า อาจเพราะไอวี่ไม่เคยสนใจใครนอกจากคิวก็เลยไม่รู้ว่าในกลุ่มที่เดินมานั้นมีใครบ้าง

    “ไหนใครมีข้อมูลบอกฉันหน่อยสิ” ไอวี่พูดอย่างหมั่นไส้เพื่อนๆ

    “บอกแล้วได้อะไรอ่ะไอ” เยลถามกวนๆ ไอวี่ถอนหายใจ

    “เรียงคนเลย ข้อมูลหนึ่งคนต่อหนึ่งพันบาท”

    “เดี๋ยวฉันบอกเองย่ะกลุ่มนี้อ่ะมีกันอยู่หกคน คนแรกที่เรารู้จักดีนั่นก็คือพี่คิวที่เป็นพี่ระเบียบ คนที่สองคือพี่คินทร์ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม วันนี้ไม่อยู่คงจะไม่มาเรียนหรืออาจจะมาแต่ตามมาทีหลัง ส่วนผู้ชายที่ดูเจ้าชู้ๆ ยิ้มตลอดเวลานั่นคือพี่ออสติน ข้างๆ พี่ออสตินนั่นชื่อพี่เคน และข้างพี่เคนคือพี่คอปเตอร์ ปิดท้ายด้วยพี่โชนว่าที่คุณหมอสุดหล่อที่ไม่อยู่ตรงนี้ด้วย”

    ไอวี่มองตามที่สาลี่แนะนำและเริ่มจำเพื่อนในกลุ่มของคิวเอาไว้

    “หกคนหกพันจ่ายมาก่อนเดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้” สาลี่เริ่มขูดเงินทันทีที่พูดจบ พอเห็นประกายแววตาจากพวกมันแล้วไอวี่ก็ถลึงตาใส่

    ขอถอนคำพูดตอนที่อธิบายว่าพวกมันไม่ต้องการอะไรจากเธอได้ไหม! แล้วเปลี่ยนเป็นอีพวกนี้มันหน้าเลือดกับเธอทุกเม็ด!!!

    “มีพร้อมเพย์ไหมล่ะ” ไอวี่ไม่ถือสายังถามข้อมูลอื่นๆ อีกเล็กน้อยด้วย “ขอรายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยสิ”

    “โถ่ไอเพื่อนรักเงินมาปากพร้อมขิงความรู้ที่มีค่ะ”

    ไอวี่ฟังเพื่อนๆ เล่าต่อ ส่วนมากจะเป็นสาลี่เสียมากกว่าที่พูดจนน้ำลายแตกกระเซ็น

    พี่คินทร์..ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม มีแฟนอยู่ปีสามคณะอาหาร

    พี่ออสติน..คนเจ้าชู้ประจำกลุ่มก็มีแฟนแล้วด้วย

    พี่เคน..ดูแล้วจะคล้ายพี่ออสตินแต่ความเจ้าชู้น้อยกว่านิดหน่อย ได้ยินว่ามีคู่หมั้นที่ทางบ้านหาไว้ให้เหมือนกัน

    พี่คอปเตอร์..ได้ข่าวว่าแฟนเขาเป็นพี่ว้ากปีสี่ที่ชื่อคีนส์

    พี่โชน..เรียนหมอและยังไม่มีแฟนแต่ได้ข่าวว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว

    ส่วนคนสุดท้ายก็คิว..ทุกอย่างก็อย่างที่ไอวี่รู้แต่ที่ไม่รู้คือมีข่าวกับผู้หญิงปีสามที่สาลี่เคยบอก จากข้อมูลที่ได้ฟังมานี่เธอสนใจแค่คนสุดท้ายอยู่คนเดียว

    “สาลี่ไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนั้นที่เป็นข่าวกับคิวเป็นใคร ถ้าได้เรื่องเดี๋ยวฉันให้ห้าพันเลย” ไอวี่ที่มองคิวอยู่ห่างๆ พูดขึ้น ทำให้ตาของสาลี่สาวสองของกลุ่มเป็นประกาย

    “หวานปากอีลี่ล่ะ”

    “ถ้าได้ข้อมูลแล้วจะทำอะไรเขา” ดาวถามอย่างกังวล เพราะกลัวว่าเพื่อนของตนเองจะไปทำอะไรรุนแรงกับคู่ผู้หญิงที่เป็นข่าวกับพี่คิว

    ไอวี่นิ่งเงียบ..จะทำอะไรน่ะเหรอ? ก็ไม่รู้เหมือนกัน รอให้ได้ข้อมูลมาก่อนถึงจะรู้ได้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไปกับผู้หญิงคนนั้น จะหาว่าเธอร้ายก็ไม่ว่า เธอจะไม่ยอมให้คิวมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนแน่นอน!

    “เปล่าก็แค่อยากรู้ว่าข่าวจริงน่ะจริงหรือหลอกและถ้าเป็นความจริงก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเป็นคนแบบไหนก็เท่านั้น”  

    “จะอะไรก็ได้แต่อย่าทำบาปก็พอนะไอ” ดาวพูดขึ้น ทำเอาไอวี่กรอกตามองบน เพื่อนๆ ทุกคนในที่นี้แทบจะยกมือสาธุให้กับมัน

    “ไม่ทำอะไรหรอกน่า” ถ้ามันไม่มากไปจนทำให้อิจฉาละก็นะ!

    ไอวี่มองกลุ่มของคิวที่นั่งกินข้าวกันอยู่ คิวไม่ได้แสดงท่าทางต่างจากที่อยู่บ้านมากนัก ยังคงทำหน้าตานิ่งๆ คอยฟังเพื่อนๆ ของเขาพูดคุยกันไปอย่างเงียบๆ แต่ถ้าเพื่อนๆ ขอความเห็นคิวก็จะพูดออกมาอย่างลื่นไหล พอมองแบบนี้แล้วแปลกตาไปนิดหน่อยเหมือนกัน

    ไอวี่คิดว่าที่คิวต้องวางตัวแบบสุขุมเย็นชาก็เพราะอีกฝ่ายเป็นที่นับหน้าถือตาในฐานะคนที่ปกครองคนจำนวนมาก แต่พออยู่ในมหาลัยในฐานะพี่ระเบียบเขาก็จะลดความเข้าถึงยากลงมาบ้างแต่ไม่มากนัก และยิ่งมาอยู่กับเพื่อนๆ เหมือนกำแพงพวกนั้นจะลดลงไปมากทำให้บรรยากาศรอบตัวดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดใจ

    “ไอ้คินทร์ทางนี้เว้ย” ออสตินโบกมือหยอยๆ เรียกเพื่อนทำให้ทุกคนหันไปมองไม่แม้แต่กลุ่มไอวี่เองก็ด้วย

    ไอวี่ได้ยินว่าคนที่มาใหม่ชื่อคินทร์เดินมาพร้อมกับผู้หญิงสวยๆ คนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นแฟนของเขา ทั้งสองคนไปนั่งตรงที่ว่างข้างๆ คิวที่เหลือเอาไว้สองเก้าอี้ ผู้หญิงคนนั้นนั่งข้างๆ คิวและพี่คินทร์นั่งหน้าสุด สักพักคนที่ชื่อคินทร์เดินไปซื้ออาหาร ทำให้ในกลุ่มนั้นเริ่มคุยกันต่อ ไอวี่มองไปที่คิวที่นั่งพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่คลาดสายตา 

    แกร็ง!

    ไอวี่เผลอปล่อยช้อนหล่นกระทบจานทำให้เพื่อนๆ ของเธอหันมามอง เธอไม่ได้สนใจเพื่อนๆ เพราะสายตาเธอมองบุคคลสองคนที่นั่งคุยกันห่างออกไปนั่นต่างหาก และปฏิกิริยาทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นว่าไอวี่กำลังตกใจ..คิว..หมอนั่นกำลังยิ้มและใช้มือลูบหัวผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน

    ไอ้ท่อนไม้ยิ้มยากคนนั้นกำลังแสดงความรู้สึกออกมา ทั้งๆ ที่ไอวี่ไม่เคยได้เห็นหรือได้รับมันมาก่อน ท่าทางแบบนั้นที่เธอฝันมาตลอดแต่ไม่เคยที่จะได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นได้รับไปง่ายๆ ..

    ดูเหมือนว่าในอกของเธอกำลังร้อนลุ่ม!

    และใช่เธอกำลังอิจฉา ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอต้องรู้ให้ได้!!

    รถสปอร์ตสีดำขับเข้ามาจอดตรงโซนด้านในอย่างเป็นปกติ ร่างสูงก้าวลงมาจากรถพลางขมวดคิ้วนิ่งเมื่อเห็นบรรดาลูกน้องที่ยืนต้อนรับทำท่าทางแปลกไป ไม่ต้องถามก็รู้ได้ในทันทีว่าอะไรเป็นสาเหตุ และยิ่งลูกน้องคนสนิทอย่างทิมวิ่งเข้ามารายงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก็เริ่มปวดหัวรอไว้เลย

    “คุณคิวครับ เกิดเรื่องแล้วครับ”

    “มีอะไรอีก” เสียงติดรำคาญพูดขึ้นทำเอาทิมเหงื่อตก

    “คุณหนูอาละวาดครับ”

    “คราวนี้เหตุผลอะไรอีกล่ะ”

    “ไม่มีใครทราบครับน่าจะเป็นมาจากข้างนอก เพราะวันนี้ไม่มีคนไปที่เรือนแก้วเลยสักคนครับ” ทิมรายงานต่อ ใครที่ว่าคือบรรดาญาติพี่น้องของคุณหนูไอวี่นั่นเอง

    “ปล่อยให้ทำไปเถอะ” ร่างสูงพูดออกมาอย่างรำคาญเพราะพบเจอประจำจนเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว  

    เมื่อได้ยินอย่างนั้นทิมก็ตอบรับโดยดี เพราะถ้าจะหาใครที่รับมือคุณหนูของเรือนแก้วได้ก็คงมีแต่คุณคิวเพียงเท่านั้น

    “มีอีกเรื่องครับ คุณท่านเรียกให้คุณไปพบที่เรือนใหญ่”

    “อืม” คิวตอบรับก่อนจะหมุนตัวไปที่ตัวบ้านใหญ่ที่คนเป็นนายเหนือหัวทุกคนในตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุล

    เมื่อมาถึงคิวเดินผ่านเหล่าบอดี้การ์ดหลายๆ กลุ่มเข้าไปโดยไม่เกรงกลัว เพราะไม่ว่าจะกลุ่มไหนหรือเป็นฝ่ายไหนเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้องเกรงใจใคร เขาเดินตรงไปที่ห้องทำงานของ คุณท่านในทันที

    “คุณคิวมาถึงแล้วครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยรายงานกับชายสูงวัยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่

    คิวมองผู้เป็นนายเหนือหัวที่ใครๆ ต่างเรียกว่าคุณท่าน คนๆ นี้คือ ไอศวรรย์ หงส์ฤดีเกียรติกุล เป็นผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของวงศตระกูล

      

    คิวเดินเข้าไปทำความเคารพอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านหน้า อีกฝ่ายไม่แม้จะหันมามองแต่มันก็เป็นปกติของบุคคลนี้

    “ได้ยินว่าไอวี่อาละวาด”  

    “ครับ”

    “เหตุผลคืออะไร”

    “น่าจะเป็นเรื่องเดิมๆ ครับ อาจจะมีคนขัดใจ” คิวเดาสุ่ม เพราะไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงแต่ปกติแล้วก็มักจะเป็นปัญหานี้ที่ทำให้หญิงสาวอาละวาดได้ ไม่ใครไปขัดใจไม่ก็ไปโมโหอะไรมาสักอย่าง

    “อืม ช่วยดูหลานฉันทีนะเขาก็เจ้าอารมณ์แบบนี้ล่ะ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันเอง แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถจะดูแลได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว คนที่จะเอาอยู่ก็มีแค่เธอเท่านั้น”

    คิวไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดเป็นอย่างดี เหตุที่ไม่สามารถดูไอวี่อย่างใกล้ชิดได้ก็เพราะอาจจะทำให้ไอวี่มีปัญหามากกว่าเดิมจากสังคมของการแก่งแย่งชิงดีของคนในครอบครัว

    “ครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้”

    “ช่วงนี้การเรียนของไอวี่เป็นยังไงบ้าง?”

    “ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ”

    “อืมงั้นก็ดี เรื่องงานที่จะถึงนี่ฝากเธอจัดการด้วยนะ”

    “รับทราบครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” คิวตอบรับด้วยความนอบน้อม

    “เธอก็ทำงานกับฉันมานานแล้วนะ ฉันคิดว่าฉันไว้ใจคนไม่ผิด อย่าให้พลาดและรักษากฎที่ตกลงกันไว้ให้ดี” คิวไม่ได้ตอบรับแต่ยืนฟังอย่างตั้งใจ “อาทิตย์หน้ามีกำหนดดูตัว หน้าที่ของเธอคือพาไอวี่ไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม”

    “ครับ”

    “อ่อ เรื่องงานของไอวี่มีปัญหาอะไรรึเปล่า” คงจะหมายถึงคาสิโนและบริษัทที่คิวได้รับหน้าที่ควบคุมดูแลอยู่

    “มีบ้างประปลายแต่ก็แก้ไขได้ครับ”

    “อืมฉันไว้ใจคนไม่ผิดจริงๆ ขอบใจเธอมากไปพักผ่อนเถอะ”

    “ครับ” คิวโค้งรับก่อนจะขอตัวออกมา และเมื่อลงมาด้านล่างก็พบกับคุณผกามาศ หงส์ฤดีเกียรติกุล มีศักดิ์เป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้พอดี คิวก้มหัวเชิงทักทายอีกฝ่ายแต่ไม่ได้ทักทายอะไรมากมาย

    “พวกกาฝากนี่มันเลียแข้งเลียขาเก่งจริงๆ ไปประจบอะไรคุณพ่อมาอีกล่ะ”

    คิวไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องตอบ ในเครือบ้านหลังนี้ทุกคนต่างก็มีเจ้านายของตนเองอยู่ หากไม่ใช่เจ้านายก็ไม่จะเป็นต้องทำตามคำสั่งหรือตอบคำถาม

    “ขอโทษครับ” เมืองสิงห์เดินเข้ามากระซิบรายงานบางอย่าง คิวขมวดคิ้วฉับทันทีที่ลูกน้องรายงานว่ามีคนแผลงฤทธิ์มากขึ้นจนคุมไม่อยู่

    “ขอตัว” คิวโค้งให้อีกฝ่ายเล็กน้อยและเดินออกไปเลยโดยไม่สนใจเสียงด่าทอที่ไล่ตามหลังมา เมื่อเดินเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องซ้อมมวยเหล่าลูกน้องต่างหลีกทางให้พลางทำความเคารพกันเป็นระเบียบ คิวเลื่อนสายตาไปมองบนสังเวียนที่มีลูกน้องจำนวนหนึ่งลงไปกองนอนกับพื้น สายตาคมสังเกตตัวการของปัญหา มองเม็ดเหงื่อที่ผุดซึมตามไรผิวหน้าขาวทำเอาคิวถอนหายใจหันไปสั่งลูกน้องให้เตรียมบางอย่างมา

    “คุณคิวครับ” คิวโบกมือสื่อว่าจะเป็นคนจัดการเอง

    ไอวี่มองบุคคลมาใหม่ที่ทำหน้าตาเหมือนกับว่ารำคาญเธอเสียเต็มทน หน้าเรียบนิ่งที่เธอเกลียดแต่ก็ชอบไปในเวลาเดียวกัน

    “ออกไป” ไอวี่พูดเสียงเรียบ คิวไม่ได้ทำตามคำสั่งอีกทั้งยังเดินเข้าไปหา การกระทำนั่นทำให้ไอวี่หงุดหงิดมากกว่าเดิม

    “เป็นอะไรไปอีก”

    ปึ่ก!! ไอวี่โยนนวมให้อีกฝ่าย แต่มือหนาก็รับมันเอาไว้ได้ในทันที

    ไม่รอให้คิวได้เตรียมตัวไอวี่โถมเข้าไปเพื่อที่จะฮุกหมัดใส่ร่างสูง  ทันทีที่เหวี่ยงหมัดออกไปคิวก็รับได้ทุกครั้ง ไอวี่เปลี่ยนท่วงท่ายกขาขึ้นเตะไปด้านข้างลำตัวแต่อีกฝ่ายก็ยังใช้มือจับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ไอวี่เริ่มหงุดหงิด ไม่ว่าจะเตะจะต่อยก็โดนคิวจัดการเสียอยู่หมัด

    ผ่านไปครู่หนึ่งไอวี่ถึงกับยืนหอบเหนื่อยมองคิวด้วยความขัดใจไม่น้อย เป็นเพราะว่าจะไม่อยากจะยอมแพ้จึงหาทางเอาชนะอีกรอบ ไอวี่ตรงเข้าไปหมายจะเตะต่อยเหมือนเพิ่มเติมคือใส่เทคนิคดึงความสนใจ แต่ไม่ทันได้วาดลวดลายก็โดนมือแกร่งรวบตัวกอดเอาไว้ด้านหลังเสียก่อน

    “พอใจแล้วยัง”

    “ยังไม่พอ! ทำไมนายไม่อยู่เฉยๆ ให้ฉันต่อยหะ!” ไอวี่ถามเสียงหอบปนหงุดหงิด ยิ่งเธอได้ยินคนตัวสูงด้านหลังพ่นลมหายใจออกมาคล้ายกับเบื่อหน่ายเธอก็รู้สึกคันยุบยิบในใจ

    เหอะ!! ใช่สิคงจะเบื่อกันมาก ฉันมันน่ารำคาญน่าเบื่อคงไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นคนที่นายยิ้มให้เมื่อตอนกลางวันนี่!!

    “หงุดหงิดอะไร”

    “หงุดหงิดนายนั่นล่ะ!! ปล่อย!!” คิวยอมปล่อยแต่โดยดี ไอวี่เองก็ถอยออกมาก่อนจะถอดนวมและโยนไปกองที่พื้นตรงหน้าของคิว

    “ตอบฉันมานายมีแฟนแล้วหรือยัง” คิวขมวดคิ้วกับคำถามนั้น

    “ถามทำไม”

    “ถามก็ตอบ”

    “ยังไม่มี” ไอวี่กำหมัดแน่นกับคำตอบเพราะเธอพอจะรู้ว่าคิวก็มีผู้หญิงบ้างแต่ไม่ใช่จะเป็นตัวเป็นตน เขาแค่หลับนอนกับพวกผู้หญิงพวกนั้นแต่ไม่เคยจะสานสัมพันธ์ยืดเยื้อและผู้หญิงพวกนั้นไม่มีทางที่จะเข้ามาในชีวิตของคิวอีกเป็นครั้งที่สองเพราะคิวไม่นอนกับคนเดิมซ้ำๆ

    ทุกอย่างอยู่ในสายตาไอวี่มาโดยตลอดแต่กับผู้หญิงคนนั้นไอวี่ไม่เคยรู้มาก่อน คนที่ทำให้คิวยิ้มได้แสดงท่าทีที่ไอวี่ไม่เคยเห็น..

    การ์ดหญิงคนหนึ่งเดินเอาซองสีน้ำตาลมาให้ ไอวี่รับมาก่อนจะหยิบของด้านในแล้วโยนไปที่หน้าของคิว

    รูปจำนวนหนึ่งหล่นลงพื้น มันเป็นรูปหญิงสาวกับคิวที่มีทีท่าสนิทสนมกันมากเกินความจำเป็น ไอวี่แค่นหัวเราะ มองหน้าคิวที่ดูตื่นตกใจที่เห็นภาพเหล่านั้น เธอเริ่มจะมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา เพราะคิวคนที่ไม่เคยแสดงกิริยาหลุดมาดขนาดนี้ต่อหน้าไอวี่กลับทำสีหน้าแบบนั้น..

    “แล้วนี่ใคร?”

    “อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัว” เสียงเข้มดังขึ้นทำเอาไฟในอกไอวี่ประทุ

    “หึ! ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับนายมากสินะ”

    “ก็ไม่ได้สำคัญอะไร” คิวเลี่ยงจะตอบ

    “ไม่สำคัญงั้นฉันก็ยุ่งได้น่ะสิ” คิวถอนหายใจออกมา

    “เธอชื่อแคลร์เป็นแฟนของเพื่อนฉัน บอกเอาไว้ก่อนถ้าเธอยุ่งกับคนรอบๆ ตัวฉัน มันจะไม่จบอยู่แค่ฉันไม่ยอมเธอ” เสียงเย็นยะเยือกทำเอาทั้งห้องต่างขนลุกซู่ คิวมองหน้าไอวี่ก่อนจะเดินลงมาจากสังเวียนพลางสั่งทิมให้ดูแลคุณหนูอารมณ์ร้อนและให้เมืองสิงห์ตามเขาไปคาสิโนแทน

    ไอวี่มองแผ่นหลังที่เดินจากไปด้วยความน้อยใจเก็บเอาสิ่งต่างๆของอีกฝ่ายมาคิดมากทำตัวเป็นเจ้าของทั้งๆ ที่เธอไม่มีสิทธิ์

    “คุณหนูครับ” ทิมเรียกสติเจ้านายก่อนจะหยิบยื่นผ้าเย็นและน้ำดื่มที่คุณคิวได้สั่งเอาไว้ตั้งแต่มาถึง

    “ขอบใจ” ไอวี่หยิบผ้ามาเช็ดหน้า

    “ไม่เป็นไรครับ คุณคิวสั่งเอาไว้”

    ดวงตาของไอวี่สั่นไหว ถึงเขาจะพูดไม่ถนอมน้ำใจเธอ อีกทั้งยังทำตัวเย็นชาใส่ แต่การกระทำของเขาบางครั้งก็ทำให้เธอคิดไปไกล

    คิวดูเหมือนจะใจร้ายกับเธอแต่เขาก็ดูแลเธอไม่มีตกหล่น..

    ไอวี่เดินออกมาจากห้องซ้อมเพื่อตรงขึ้นห้องอาบน้ำนอน ในหัวเอาแต่นอนคิดถึงเรื่องของคิววนไปมา

    “คุณหนูคะโลเซ่และลูซี่มาแล้วค่ะ”

    “ให้เข้ามา”

    “ไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้หน่อย” ไอวี่สั่งบอดี้การ์ดคนสนิท

    ถึงจะบอกว่าห้ามยุ่งแต่เธอก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้ ท่าทางที่ไม่ปกติของคนข้างกายนั่นเห็นได้ชัด อยากจะรู้ไปหมดว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีกันแน่..มีอะไรที่ไอวี่ไม่มีกันคิวถึงได้สนใจมากขนาดนั้น เธอแค่อยากรู้..

    ว่าเมื่อไรเธอจะอยู่ในสายตาเขาเหมือนกับผู้หญิงคนนั้น

     


    Talk
    ก็มันอิจฉาและน้อยใจไหมหมด
    สิ่งที่เธอแสดงออกกับเขา
    มันต่างกับที่แสดงออกกับฉัน
    ร้องโดย : ไอวี่เอง 

    ___________


    ※ โหวต เม้นท์ เฟบ ให้กำลังใจ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×