คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter11 - Foreknowledge
Chepter 11 - Foreknowledge
“นะ นาย นายคนที่ฉันเห็นนี่”
*********
“นายให้คนบ้าแบบแจ็คสันเข้าไปจะได้เรื่องหรอมาร์ค”
หนุ่มนักกีฬาเอ่ยขึ้น หลังจากที่บุคคลที่เขาไม่ชอบค่อนไปทางเกลียดขี้หน้าเลยด้วยซ้ำหายเข้าไปในบ้านเป้าหมายสักพักก็ยังไม่มีวี่แววจะติดต่อกลับมาแต่อย่างใด หรือบางทีตัวอันตรายไม่น่าไว้ใจอย่างนายนั่นอาจจะถูกเก็บไปแล้วก็เป็นได้
“ไม่รู้สิ ฉันแค่มีความรู้สึกว่ายองแจอะไรนั่นไม่ใช่คนธรรมดา คนเดียวที่จะทำให้หายข้องใจได้ก็คือ แจ็คสัน”
ไม่มีเหตุผลอะไรที่เด็กครอบครัวอบอุ่นดูมีฐานะ แถมยังมีเป้าหมายในการเข้าเรียนต่อมหาลัยอย่างเด็กคนนั้นจะไม่ไปเรียนเป็นเวลานานขนาดนี้ ถ้าจะให้เดา... ต้องมีอะไร เกิดขึ้นแน่ๆ
“ฉันว่าความรู้สึกนายก็คงจะไม่ได้เรื่องเหมือนหมอนั่นนั่นแหระ ฉันกลับไปที่ชมรมดีกว่า ใครจะอยู่ก็อยู่”
จินยองก็ยังคงเป็นจอนยองผู้เย่อหยิ่งและเชื่อมั่นในความรู้สึกตัวเองมากกว่าใครๆ ยิ่งถ้าเป็นคู่แข่งตลอดกาลอย่างมาร์คแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะยอมรับง่ายๆ
“จินยองเดี๋ยวก่อนดิ” แจบอมที่คิดจะคว้าตัวเขาไว้ก็ไม่ทันซะแล้ว “มาร์ค ถ้าได้เรื่องยังไงก็กลับไปเจอกันที่ชมรมนะ ขอบใจมากเลยที่ช่วย” หันมากล่าวลาก่อนจะวิ่งตัวปลิวตามคนที่ไปก่อนหน้านี่ ไม่มีคำกล่าวตอบรับจากคนที่อยู่ มาร์คเพียงยิ้มมุมปากและพยักหน้าให้เบาๆเป็นการตอบรับ
บ้านตระกูลชเว
“เฮ้ พูดอะไรของนายน่ะ ฉันไม่คิดว่าเรารู้จักหรือเคยเจอกัน”
เพียงประโยคกล่าวทักทายแรกที่ออกจากปากเจ้าของห้องกลับทำให้แจ็คสันงงเป็นไก่ตาแตก แน่นอนว่านี่คือครั้งแรกที่เขากับพบกัน แถมแจ็คสันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่อยู่หน้าเขาตอนนี้เป็นชเว ยองแจ คนที่เขาตามหาอยู่หรือป่าว แล้วประโยคที่หลุดจากปากมาว่า “นายคนที่ฉันเห็นนี่” นั่นล่ะ บางทีเขาอาจจะเพี้ยนไปแล้วก็ได้
“กลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะตะโกนออกไป เดาได้เลยว่านายไม่ได้ออกไปในสภาพดีแน่ๆ” ถอยห่างด้วยท่าทางผวา
“ใจเย็นก่อนน่า ฉันแค่จะมาชวนนายกลับไปเรียน ไม่ได้มาทำร้ายนายสักหน่อย”
“ไม่ !! ฉันจะไม่กลับไปที่โรงเรียนเด็ดขาด ทีสำคัญนายกับฉันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเรื่องอันตรายได้เกิดขึ้นแน่ๆ”
ไม่เห็นจะเข้าใจตรงไหน เรื่องอันตราย (?) อะไรกัน ถ้าไม่นับคำว่าตัวอันตราย(ในเรื่องผลการเรียน) ที่เขาเคยได้ยินจากปากเพื่อนในห้องบ่อยๆ แจ็คสันก็เป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาที่เคยสร้างความเดือดให้ใคร...มากนัก
“พูดเรื่องอะไรของนายน่ะ อันตรายอะไรกัน ถ้าการไปเรียนเป็นเรื่องอันตราย นายก็คงเป็นแค่คนขี้ขลาดสินะ เฮ้อ... ผิดหวังชะมัด ทิ้งความฝันในการเข้ามหา’ลัยไปแล้วหรือไง”
คำพูดมีสาระและท่าทางที่ดูจริงจังนั้นไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากที่ชื่อ..แจ็คสัน เวลานี้เขาดูเปล่งประกายเกินกว่าที่ใครๆจะเรียกเขาว่าตัวอันตรายซะอีก ยองแจก็สัมผัสความรู้สึกอัดอั้นนั้นได้เช่นกัน
“คนเก่งและมีความมุ่งมั่นอย่างนาย แต่กลับมาทิ้งความฝันไว้กลางทางแบบนี้ มันไม่ดูไร้ค่าไปหน่อยหรอ ดูฉันดิ ใครๆต่างก็เรียกฉันว่าตัวอันตราย ต้นเหตุที่ทำให้ห้องไม่ผ่านการประเมิน แต่ฉันไม่เห็นจะสนใจ ฉันก็ยังเสนอหน้าไปให้คนพวกนั้นหงุดหงิดอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะฉันอยากเข้าเรียนมหา’ลัยหรอก แต่เป็นเพราะความฝันของครอบครัวฉันยิ่งใหญ่”
คำพูดที่กลั่นกรองออกมาจากความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ในหัวใจที่ดูแข็งแกร่ง คนที่ดูจะไม่รู้สึกรู้ร้อนกับสิ่งใดๆรอบตัว แต่นี่คือน้ำหนักบ่นบ่าที่เขาต้องแบกอยู่
“พูดบ้าอะไรว่ะเนี่ย” ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างน่าอาย “ฉันไปล่ะ ส่วนนายจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้ก็ตามสบาย” ในขณะที่เท้ากำลังจะก้าวพ้นประตูห้อง
“เดี๋ยวก่อน !!! ถ้านายอยากรู้เรื่องราว ฉันก็จะเล่าให้ฟัง”
ห้องชมรม
“ถึงนายจะไม่ชอบมาร์ค แต่ก็ไม่ควรแสดงออกไปแบบนั้นหนิ”
แจบอมที่วิ่งตามจินยองมาจนถึงห้องชมรม พยายามที่จะเปิดบทสนาก่อน แต่กลับไร้ซึ่งคำพูดตอบโต้
“นี่จินยอง นายเลิกเป็นแบบนี้สักทีเถอะ รู้มั้ยว่าตอนนี้นายดูไม่น่ารักเลยนะ”
กระชากเขาที่แขนจนอีกคนหันกลับมาตามแรง นัยน์ตาแข็งกร้าวกำลังจ้องมองมาที่เขา แต่ แววตาคู่นั้นกลับดูเศร้าอย่างน่าแปลกใจ
“ฉันไม่คิดว่านาย... จะชอบมาร์คหรอกนะ”
“พูดอะไรของนาย!!”
แจบอมสะดุ้งตัวโยนกับคำพูดที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยิน จินยองรู้ว่าแจบอมรู้สึกยังไงกับตัวเอง หลายครั้งที่แจบอมพยายามเอาชนะท่าทางเย่อหยิ่งนั่น แต่เขาก็ไม่เคยทำมันสำเร็จสักครั้ง
คนตัวเล็กกว่าพยายามบิดข้อมือที่ถูกอีกคนกำแน่นจนเริ่มมีสีแดงระเรื่อให้เห็น แต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่ แรงนั่นยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น
“นายก็รู้นี่จินยองว่าฉันพยายามมากแค่ไหน...เพื่อนาย ฉันกลายเป็นคนทรยศเพื่อน ฉันทำให้นายกับมาร์คมาเจอกันอย่างที่นายต้องการ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาจะถูกทำร้าย”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” คราวนี้เป็นจินยองที่ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีกระชากคอเสื้อจนหนุ่มนักกีฬาเซถลา “อย่าทำให้ฉันโกรธมากไปกว่านี้นะ รู้อะไรมั้ย(?) หัวใจฉันเจ็บปวดทุกครั้ง... เวลาที่นายอยู่ข้างมัน” ราวกับว่าน้ำตาเจ้ากรรมอยากจะทะลักออกมาซะเต็มที่ แต่สิ่งที่จินยองต้องทำคือกลั้นความอ่อนแอเอานี้ไว้
“ขอโทษนะครับ ผมขอสมัครเข้าชมรมนี้”
ประโยคที่ดังขึ้นตรงจังหวะ ทำให้ความรู้สึกทุกอย่างถูกกลืนลงไปในลำคอ น้ำตานั่นก็เช่นกัน จัดแจงเสื้อผ้าที่ยับยู่ให้กลับมาเรียบดังเดิม
“ดูนายจะอยากเจอแจ็คสันจริงๆสินะ”
จินยองพูดกับเด็กคนเดิมที่เพิ่งเจอไม่กี่วันก่อน เด็กผมทองที่วิ่งเลิกลั่กเข้ามาถามหาแจ็คสันที่ห้องชมรม มาวันนี้กลายเป็นเอ่ยปากขอเข้าชมรมด้วย
“เอ่อ.. ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกครับ ผมแค่ อยากหนีใครบางคน”
“แฮ่ก แฮ่ก ผมขอสมัครเข้าชมรมอีกคนครับ”
ยังไม่ทันที่บทสนทนาระหว่างเขากับเด็กผมทองจะสิ้นสุด ร่างใหญ่ที่วิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“ผมคิม ยูคยอม นักเรียนเกรด10 ขอสมัครเข้าร่วมชมรม ยินดีที่ได้พบอีกครั้งครับ รุ่นพี่แจบอม” คนที่เพิ่งแนะนำตัว โค้งทำความเคารพรุ่นพี่ที่ยืนอยู่หลังจินยอง
“คิมยูคยอมม ” แจบอมทวนชื่ออีกครั้ง พลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “เด็กแว่นที่เคยอยู่ชมรมเทควันโดน่ะเหรอ ทะ ทำไมตอนนี้นาย…..”
แจบอมยังคงจำเข้าได้ เด็กแว่นร่างยักที่มีใจรักในกีฬาเทควันโดเท่าชีวิตเช่นเดียวกับเขา แต่ภาพลักษณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้แทบไม่อยากจะเชื่อว่าหมอนี่คือ คิมยูคยอม ที่เขารู้จัก
“นายตามฉันมาที่นี่ทำไม ฉันบอกแล้วไงว่าไม่อยากเจอนายอีกแล้ว”
บ้านตระกูลชเว
“ตกลงนายจะกลับไปเรียนใช่มั้ย”
หันควับกลับทันที คำพูดมีสาระ(ที่สุดในชีวิต)ของเขาสามารถเปลี่ยนใจคนได้งั้นสิ
“ฉันไม่สัญญา ฉันแค่อยากให้นายรู้เหตุผลของของสิ่งที่นายเรียกว่าขี้ขลาด”
“จริงๆฉันก็ไม่ชอบฟังใครเล่าเรื่องยาวหรอกนะ แต่แนจะฟังนายสักคนแล้วกัน”
“ฉันเห็นอนาคต อนาคตที่เลวร้ายเกินไปของฉันกับนาย”
แม้นายนี่จะไม่ใช่เด็กนักเรียนธรรมดาอย่างที่แจ็คสันคิด แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจแต่อย่างใด กลับดีใจด้วยซ้ำที่เขาเป็นพวกเดียวกัน พวกเดียวกันกับเพื่อนที่ชมรม
“นายไม่...” กลับเป็นยองแจที่เป็นฝ่ายแปลกใจกับท่าทางที่ดูเรียบเฉยนั่น
“เล่ามาเหอะน่า ฉันไม่คิดว่านายเป็นบ้าหรอก” ในใจของยองแจตอนนี้แจ็คสันคงเป็นคนที่น่าทึ่งมาก แม้เขาจะพูดสิ่งที่ดูโง่เกินไปสำหรับคนธรรมดา เรื่องเห็นอนาคตอะไรนั่นใครได้ฟังก็คงเอาแต่หัวเราะเยาะ
“เอ่อ มันอาจจะดูตลกไปหน่อยก็เถอะ ฉันสามารถเห็นอนาคตอันสั้นได้ เอ่อ..ก็อย่างเช่น รู้ว่าจะมีการสอบล่วงหน้า หรือไม่ก็อุบัติเหตุเล็กๆน้อยของคนรอบข้าง อย่างหกล้ม หรือตกบันได แล้วฉันก็สามารถแก้ไขและปกกันเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นได้ทุกครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นคือ โรงเรียนกำลังถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ และในเหตุการณ์นั้น ภาพที่ฉันเห็นคือ..... ฉันและนายยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ”
บรรยากาศตกอยู่ในความสงบเงียบ แจ็คสันไม่ได้มีท่าทีที่ตกใจ แต่ใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยคำถาม ฉันและนายยืนอยู่ในเหตุการณ์ (?) ทำไมต้องเป็นเขาทั้งคู่ หรือว่าโชคชะตากำหนดให้เขามาเจอกัน... ในวันนี้ แล้วอนาคตที่ยองแจเห็นล่ะ จะเกิดขึ้นได้ยังไงและ เมื่อไร (?)
“ฉันขอโทษ แต่ฉันจะกลับไปเรียนไม่ได้ ถ้าเหตุการณ์นั่นเกิดขึ้นจริง นายกับฉันจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในการวางเพลิงทันที”
“ไปเถอะ ถ้ามันคือเรื่องจริง ก็เลี่ยงไม่ได้”
บรรยากาศภายในห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง และเป็นเวลานานขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยจนบางทีแจ็คสันอาจจะลืมคนที่รอเขาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่จนพล่อยหลับไปแล้วก็ได้
######
ขอบคุณที่ยังติดตามกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ
ขอบคุณคอมเม้นท์ให้กำลังใจของทุกคนเล้ย ;D
ดีใจที่มีคนสนใจการ์ตูนที่เป็นพล็อตเรื่องของเรื่องนี้ด้วย ><
นี่เป็นหนังสือการ์ตูนที่เป็นแรงบันดาลใจของเรื่องนี้นะคะ ชื่อเรื่อง”ยามาดะ กับแม่มดทั้งเจ็ด” ที่ไรท์ปรับเปลี่ยนคาเล็กเตอร์ให้เข้ากับตัวละครผู้ชาย ฮ่าๆ หาอ่านได้ตามร้านการ์ตูนทั่วไปนะคะ
ติชมและให้กำลังใจไรท์กันเยอะๆนะคะ
ความคิดเห็น