คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chepter3 - Fight 0.2
Chepter 2 – fight
Is not rude boy, Just a guy who loves to fight
“ใครใช้ให้นายไปท้าเขาลงสแปรริ่งเล่า โง่ชะมัด”
เสียงปลอบประโลมที่ดูเหมือนจะแทงเข้าหัวใจไปอีกหนึ่งดอก
“ก็ฉันไม่ชอบให้ใครมาดูถูกนี่นา ไม่เอาด้วยแล้ว ฉันไปกลับไปที่ชมรมนั่นเด็ดขาด”
หลังจากโดนน็อคจนต้องไปนอนพักผ่อนที่ห้องพยาบาลมาเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง ไม่รู้ว่าเรื่องน่าอายนี้จะรู้กันทั่วเกาหลีไปแล้วรึป่าว ยิ่งเป็น แจ็คสัน ตัวอันตรายที่ใครๆก็ต่างหมั่นไส้อยู่แล้วด้วยนั้น
“ไม่ได้ นายยังทำภารกิจของนายไม่เสร็จ เลิกไม่ได้” น้ำเสียงและแววตาที่ดูจริงจังกว่าปกติของมาร์คจอมเผด็จการ
“จะให้ฉันไปจูจุ๊บกับนายนั่น มันต่างอะไรกับการเอาหัวเข้าไปในปากจระเข้กันเล่า”
ขนาดยังไม่ได้ทำอะไรให้พ่อนักกีฬาคนเก่งนั่นต้องเจ็บช้ำ ผมยังโดนสั่งสอนจนแทบต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม นับประสาอะไรกับสิ่งที่มาร์คต้องการจะให้ทำ ถ้าจะให้เดาล่วงหน้าก็คงต้องกินนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ซักหนึ่ง หรืออาจจะสองอาทิตย์
“นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะรู้ว่านายนั่นใช่คนที่ฉันตามหารึป่าว”
ชมรมเทควันโด
บรรยากาศยังคงเป็นเหมือนเดิมเช่นทุกวัน นักกีฬาฝึกหัดและมืออาชีพยังคงตั้งใจกับการซ้อมอย่างขยันขันแข็ง เสียงการออกอาวุธที่ถูกฝึกสอนอย่างเป็นลำดับขั้น ยังเป็นตัวการสั่นประสาทผมได้เป็นอย่างดี
“เฮ้... คิดว่าจะหนีกลับฮ่องกงไปแล้วซะอีก ไงล่ะมานี้ลืมเอาปี๊บคลุมหัวมาด้วยรึป่าว”
คำทักทายที่ดูจะไม่เป็นมิตรจากชายคนเดิม คนที่ฝากรอยช้ำสีม่วงไว้ที่มุมปากและส่วนอื่นๆของร่างกายอีกนับไม่ถ้วน
“ตลกน่า ฉัน แจ็คสัน หวัง นะเว้ย ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องอายล่ะก็ ตัดไปได้เลย”
แม้ความมั่นใจจะลดฮวบลงไปก็ตาม แต่เรื่องภาพลักษณ์ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
หลังจากฝึกซ้อมอย่างทุลักทุเล เป็นเวลากว่าสองชั่วโมง ก็เป็นเวลาพักผ่อนร่างกายของนักกีฬาฝึกหัด
ตี๊ด ตี๊ด ! เสียงแอฟส่งข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้นรัวๆ วางขวดน้ำในมือก่อนจะหยิบมาเปิดอ่าน
“จูบหรือยัง นายควรทำให้สำเร็จภายในวันนี้ ไม่งั้นฉันฆ่านายตายแน่” อ่านออกเสียงตัวอักษรที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเบาๆ
“ฮึ๋ย !! กดดันชะมัด” พูดพลางใช้มือหนาขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาล จนยุ่งไม่เป็นทรงอย่างหัวเสีย “ถึงฉันจะเคยเสียจูบให้นายก็เถอะ แต่กับนายนั่นมันง่ายที่ไหนเล่า”
สบถกับตัวเอง ก่อนจะหยิบน้ำขวดเดิมที่ถูกวางไว้ ดื่มเข้าไปอึกใหญ่เพื่อหวังให้ความเย็นของน้ำช่วยบรรเทาจิตใจที่กำลังร้อนรนอยู่ ณ ตอนนี้
“นี่นาย ขอคุยอะไรด้วยหน่อยเด่ะ”
จำใจต้องเสียมารยาทขัดเวลาพักผ่อนของครูฝึกคนเก่ง คนตรงหน้าวางกล่องข้าวเล็กกะทัดรัดที่ได้จากร้านสะดวกซื้อลง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง
“มีไรก็ว่ามา หรือว่า จะท้าฉันแข่งอีกล่ะ ตอนนี้เลยก็ได้นะ”
“อย่าทำเก่งไปหน่อยเลยน่า”
ห้องเก็บอุปกรณ์สำหรับการฝึกซ้อมเทควันโด ผมมารอก่อนได้ไม่นาน อีกฝ่ายที่นัดไว้ก่อนหน้านี้ก็ก้าวเท้าเข้ามา
“มีอะไร ” คำกล่าวทักทายเชิงคำถามที่ดูไม่เป็นมิตรเช่นเคย
“ฉัน เอ่อ ออ อ ขอโทษแล้วกันนะ”
ไม่มีเวลาได้อธิบายอะไรให้มันยืดยาว สิ้นเสียงสนทนา ผมต้องกระทำการที่กล้าหาญพอสมควร มือหนาคว้าเข้าที่คอของร่างสูงกว่า แน่นอนว่าอีกฝ่ายขัดขืน “เห้ย ทำอะไรว่ะเนี่ย”
ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งตัวทัน ซึ่งจะเป็นอันตรายกับตัวผมเอง ผมชิงใช้ความรวดเร็วทาบริมฝีปากหนา กดจูบลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ดูเหมือนร่างสูงจะอยู่ในสภาวะอึ้งกิมกี่ จนนิ่งไปราวกับถูกสาปให้แช่แข็ง ถอนจูบออกอย่างรวดเร็วพลางหายใจอย่างเหนื่อยหอบ บ
“ไอ้บ้าเอ้ย !!”
เสียงสุดท้ายที่จำได้ดังก้องอยู่ในหัว ก่อนภาพที่เห็นตรงหน้า จะดับลงไปอีกครั้ง.......
โอ้ยย !!!! เสียงอุทานจากความเจ็บแปลบที่เกิดจากการกดสำลีชุบน้ำยาสีเหลืองเข้ามาที่เบ้าตาซ้ำๆ ปลุกให้ผมขึ้นมาจากความมืดมิด
“อย่ามาอ่อนแอไปหน่อยเลยน่า”
หลังจากเหตุการณ์ที่ห้องเก็บอุปกรณ์ ผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งลืมตาขึ้นมา ร่างอันฟกช้ำก็มาปรากฏที่ห้องชมรมจิตวิทยาที่ถูกทิ้งร้างไปที่เมื่อหลายปีมาแล้ว กับอีกร่างปรากฏอยู่ตรงหน้า ซึ่งขณะนี้กำลังกลายเป็นพยายาลจำเป็น
“เฮ้ เพราะนายนั่นแหละ ฉันเลยมีสภาพแบบเนี่ย” ส่งเสียงโวยวายพลางคว้าข้อมือบางให้หยุดการกระทำ ที่ดูจะส่งผลให้ร่างกายบอบช้ำมากกว่าการรักษาซะอีก
“ช่วยไม่ได้ ว่าแต่จูบกับอิม แจบอมแล้วนายรู้สึกยังไงบ้าง”
“รู้สึกดีมั้ง สยองชะมัด” ยกชายแขนเสื้อขึ้นมาถูกที่ริมฝีปากซ้ำๆ เพื่อหวังให้รสสัมผัสอันสุดสะพรึงก่อนหน้านี้หายไป
“ไม่ใช่แบบนั้นดิ หมายถึงความสามารถพิเศษของนายนั่นหน่ะ”
ถ้าทบทวนดูแล้วจากเหตุการณ์ณีที่เกิดขึ้น ระหว่างมาร์คกับนายอิมแจบอมอะไรนั่น ดูจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้าที่ผมจูบกับมาร์ค ดูเหมือนสิ่งที่ถูกเรียกว่าความสามารถพิเศษในการสลับร่าง จะปรากฏขึ้นทันที ในครั้งนี้ผมก็ยังเป็นตัวเอง แถมยังไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไปจากเดิม หรือว่า หมอนั่น จะไม่ใช่คนที่มาร์คตามหา
“เจอกันหลังเลิกเรียนพิเศษ แล้วหวังว่านายจะไม่ใช่ร่างของฉันไปทำเรื่องหน้าอาย”
เมื่อทำสิ่งที่มาร์คต้องการแล้วนั่น การแลกเปลี่ยนตามข้อสัญญาก็เกิดขึ้น เราสลับร่างกันอีกครั้งเพื่อให้มาร์คไปทำหน้าที่แทนสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ การเรียน แน่นอนว่าตอนนี้ผมอยู่ในร่างของมาร์ค ร่างที่ดูบางและน่าถะนุถนอมกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีก
“จะว่าไปนายนี่ก็น่าสนใจเหมือนกันนี่ ฮิฮิ”
อุทานออกมา เมื่อกำลังหมุนซ้ายทีขวาที่ ดูร่างที่ตัวเองครอบครองอยู่ในกระจกห้องน้ำ เมื่อพอใจกับกับการชื่นชมเรือนร่าง (?) ผมพาร่างแสนบอบบาง มานั่งอยู่สวนปลอดผู้คนหลังโรงเรียน ที่มักจะหลบมานอนฟังเพลงอยู่เป็นประจำ
“หลบมาอยู่คนเดียวไม่เหงาแย่หรอ คนสวย (?)”
ค่อยๆแย้มเปลือกตาขึ้น ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือชายหนุ่มรูปร่างมาดแมน หน้าตาหล่อเหลา กำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย ดีดตัวลุกขึ้นมายืนเต็มความสูงเมื่อใบหน้านั้นค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้จนมีระยะไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด ตกใจเข้าไปอีกเมื่อเห็นกลุ่มชายที่คาดว่าน่าจะมาด้วยกันยืนอยู่ด้านหลังอีกสามคน
“เห้ย ทำอะไรว่ะเนี่ย”
“เฮ้... พูดไม่เพราะเอาซะเลย มันขัดกับใบหน้าสวยๆของน้องนะ รู้ป่าว” มือหนา หยาบคายถือวิสาสะเข้ามาสัมผัสแก้มนุ่ม
“ชิบหายแล้ว นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย สวย (?) พูดบ้าอะไรของมัน ถึงมาร์คจะโมเอร้ขนาดนี้แต่ก็ยังเป็นผู้ชายนะโว้ยย โลกนี้แม่มอยู่ยากขึ้นทุกวัน”
คิดในใจ นี่ขนาดผมอยู่ในร่างมาร์คแค่ไม่ถึงชั่วโมง ยังเจอเรื่องบ้าๆแบบนี้ ไม่รู้ทั้งชีวิตของการเป็นผู้ชาย หน้า, หุ่น, ผิว จริงๆก็สวยไปซะทุกอย่างนั่นแหละ มาร์คจะเจอเรื่องอันตรายอะไรบ้างนะ
“นี่เอามือหยาบออกไปจากแก้มฉันเดี๋ยวนี้” ปัดมือหนาออกอย่างไม่ใยดี
“เล่นตัวนี่หว่า รู้มั้ยว่าพี่เป็นใคร รู้จักมั้ย แทคยอน คนป็อปที่ใครๆก็อยากได้น่ะ ” ยังไม่วายทำตัวลุ่มล่าม มือปลาหมึกตรงเข้ามาลูบไล้กลุ่มผมสลวยสีน้ำตาลเข้ม
“เห้ยนี่มันจะมากไปแล้วนะเว้ย” ความโกรธ หงุดหงิด รำคาน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้รู้สึกเหม็นขี้หน้าไอ้หื่นนี่สุดๆ จงใจผลักเข้าที่อกแกร่งจนเซล้มลงไม่เป็นท่า
“ปล้ำซะดีมั้ย” รุ่นพี่จอมหื่นกาม เมื่อลุกขึ้นมาได้จากการประคองของเพื่อนที่เหลือ ตรงเข้ามาบีบแขนบางจนเกิดเป็นรอยแดง แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ผมในร่างมาร์คถูกลอบล้อมไปด้วยชายฉกรรจ์สี่คนซะแล้ว
“เฮ้ย จับไว้ เดี๋ยวกูจัดการเอง”
สิ้นสุดการออกคำสั่ง มือแกร่งที่ผมไม่สามารถนับจำนวนได้ ตรงเข้ามาล็อคเข้าที่ส่วนต่างๆของร่างกาย ความแข็งแรงนั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ สมองเริ่มพล่ามัวด้วยโกรธพลุ้งพล่านจนถึงขีดสุด คล้ายว่าร่างกายกำลังปลุกจิตวิญญาณสัตว์ป่าขึ้นมา ก่อนที่มันจะระเบิดดดดด
โอ้ย !!!! เสียงร้องครวญด้วยความเจ็บปวดของชายหนุ่มสี่คนดังประสานกันจนฟังไม่ได้ศัพท์ เกิดอะไรขึ้นกับภาพที่ผมเห็นคือ กลุ่มคนพวกนั้นลงไปกองกับพื้น สะบักสะบอมจนดูสภาพไม่ได้
“เห้ยย เพ่นเหอะ นี่มันต้องไม่ใช่คน ปีศาจแน่ๆ ปีศาจ” รุ่นพี่มือปลาหมึกกล่าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว พลางประคองร่างที่ยับเยินวิ่งแน่บหายไปราวกับควัน
“หรือว่า..... นี่คือความสามารถของนายนั่นงั้นหรอ (?) ”
############################
ขอบคุณทุกคนที่ยังตามอ่านมาถึงตอนนี้นะคะ
สุดท้ายเราก็ได้รู้ความสามารถของตัวละครที่สามกันแล้ว อย่าลืมติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะคะ
ถ้าอยากให้กำลังใจไรท์เตอร์ แวะไปสกรีมกันได้ที่แท็ก #โรงเรียนเวทมนต์ ในทวิตเตอร์ กันด้วยนะคะ ;D
ความคิดเห็น