อย่างนี้ก็มีด้วย ธรรมเนียมแต่งงานเพี้ยน ๆ ที่คุณไม่เคยรู้ - อย่างนี้ก็มีด้วย ธรรมเนียมแต่งงานเพี้ยน ๆ ที่คุณไม่เคยรู้ นิยาย อย่างนี้ก็มีด้วย ธรรมเนียมแต่งงานเพี้ยน ๆ ที่คุณไม่เคยรู้ : Dek-D.com - Writer

    อย่างนี้ก็มีด้วย ธรรมเนียมแต่งงานเพี้ยน ๆ ที่คุณไม่เคยรู้

    ไม่ว่าที่ใดในโลกก็มีจะมีหลักใหญ่ใจความสำคัญของงานคล้ายๆกันอยู่ แต่รายละเอียดเล็ก ๆ ก็แตกต่างกันไปตามแต่เชื้อชาติ โดยแต่ละข้อที่เราเอามาฝากกันคงทำเอาคุณทำหน้าฉงนอยู่ไม่น้อย

    ผู้เข้าชมรวม

    214

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    214

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ย. 54 / 18:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       


      เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

      ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

                 วันนี้กระปุกดอทคอมนำเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เรื่องธรรมเนียมปฏิบัติในงานแต่งงานมาฝากกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหากพูดถึงงานแต่งงาน ไม่ว่าที่ใดในโลกก็มีจะมีหลักใหญ่ใจความสำคัญของงานคล้าย ๆ กันอยู่ แต่เรื่องรายละเอียดเล็ก ๆ ก็จะมีที่แตกต่างกันไปตามแต่เชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ โดยแต่ละข้อที่เราเอามาฝากกันคงทำเอาคุณทำหน้าฉงนอยู่ไม่น้อย แต่ขอบอกว่ามันมีอยู่จริง ๆ นะ เจ้ากฏแปลก ๆ ที่ว่าจะมีอะไรบ้างลองมาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

      1. ห้ามบ่าวสาวเข้าห้องน้ำ 3 วัน

                 ท่าทางคู่รักจากหมู่บ้านทิดอง ในประเทศมาเลเซีย คงจะทุกข์ทรมานจากการอั้นฉี่อยู่ไม่น้อย เมื่อมีกฏห้ามบ่าวสาวเข้าห้องน้ำหลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานนาน 3 วัน!! โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีแต่งงาน ทั้งคู่ต้องอยู่ร่วมกันในเรือนหอ พร้อมอาหารจำนวนหนึ่ง และน้ำอีกนิดหน่อย โดยมีญาติ ๆ เฝ้าคุมตลอด 72 ชั่วโมง เพื่อดูแลไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งคนในหมู่บ้านนี้มีความเชื่อกันว่า หากคู่บ่าวสาวสามารถอดทนได้ไม่เข้าห้องน้ำเลยจนครบ 3 วัน แล้วล่ะก็ จะเป็นนิมิตรหมายอันดีว่า ชีวิตคู่จะดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

      2. เจ้าบ่าวนักล่า

                 ในเมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าทรูโร รัฐแมสซาซูเซตส์ ของอเมริกา หนุ่ม ๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว จะต้องกระทำภารกิจอันสำคัญ นั่นคือการถือปืนเข้าป่า ออกล่านกดำ 6 ตัว และอีกาอีก 3 ตัว ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ดีได้

      3. ชายผู้มีความสามารถรอบด้าน

                 ฟังแล้วรู้สึกแสนจะพิลึกพิลั่น เมื่อเจ้าบ่าวจากหมู่บ้านอ็อบลอง รัฐอิลลินอยส์ อเมริกา จะต้องมีเซ็กส์กับเจ้าสาวไปพร้อม ๆ กับเล่นเกมออกล่าหรือว่าตกปลาในวันแต่งงานของตัวเอง ก็ไม่รู้ว่จะเป็นบทพิสูจน์ของอะไร หรืออาจจะต้องการดูว่าเจ้าบ่าวคนนี้มีคุณสมบัติครบพร้อมแบบมัลติสกิล ที่สามารถทำหลาย ๆ อย่างไปได้พร้อมกันได้หรือไม่

      4. เจ้าสาวเท้าเงิน-ทอง

      ธรรมเนียมปฏิบัติจากประเทศสวีเดนเชื่อกันว่า เจ้าสาวจะต้องใส่เหรียญทองที่ได้มาจากแม่ไว้ในรองเท้าข้างขวา และเหรียญเงินจากพ่อไว้ในรองเท้าข้างซ้าย และสวมรองเท้าคู่นั้นเข้าพิธีแต่งงาน นี่ดูไม่ใช่เรื่องน่ายุ่งยากลำบากใจเท่าไหร่ ตราบใดที่รองเท้าเจ้าสาวใส่สบาย ไม่คับ ไม่กัด (และอยางที่รู้ ๆ กันว่า รองเท้าสวย ๆ มักใส่ไม่ค่อยสบาย ถ้ารองเท้าคับอยู่แล้วจะให้เอาเหรียญใส่ลงไปด้วย เจ้าสาวคงมีเดินกะเผลกกันบ้างล่ะ)




      5. โหวกเหวกในคืนเข้าหอ

                 มาดูธรรมเนียมแต่งงานจากเมืองน้ำหอมอย่างฝรั่งเศสกันบ้าง ที่นี่ไม่มีอะไรรุนแรง แค่ให้บรรดาครอบครัวและเพื่อน ๆ ของคู่บ่าวสาว ไปพร้อมกันที่หน้าห้องหอของคู่รักในคืนส่งตัว พร้อมตีหม้อและกระทะในมือให้โหวกเหวกน่าหนวกหูที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคู่บ่าวสาว (แม้จะแสนรำคาญ) ก็ต้องเปิดประตูออกมาต้อนรับ พร้อมกับนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ ในฐานะขอบคุณที่อุตส่าห์เหนื่อยมาแสดงความยินดีเสียงดัง ๆ ที่หน้าห้อง ก็ไม่แน่ใจว่านี่เป็นแค่ธรรมเนียมสนุก ๆ หรือว่าเป็นกุศโลบายการคุมกำเนิดของชาวเมืองน้ำหอมกันแน่นะ !?

      6. ละเลงเละรับขวัญเจ้าสาว

                 เนเธอร์แลนด์แดนกังหัน มีธรรมเนียมรับขวัญเจ้าสาวในวันก่อนแต่งงาน โดยทำเซอร์ไพรส์โผล่ไปดึงตัวเธอมาแบบไม่ต้องบอกกล่าวกันล่วงหน้า จากนั้นบรรดาเพื่อน ๆ มือฉุดก็จะช่วยกันละเลงตัวเจ้าสาวด้วย ไข่ ซอสปรุงรส แป้ง ขนนก หรืออะไรก็ตามที่เหนียวหนืด และชวนแหวะ เมื่อว่าที่เจ้าสาวเละตุ้มเป๊ะได้อย่างใจแล้ว ก็จะแห่เธอไปรอบ ๆ เมือง ถือว่าเป็นการแสดงความยินดีอยางสุดซึ้งเลยล่ะ

      7. บ่าวสาวร่วมใจตัดฟืน

                 เจ้าบ่าวเจ้าสาวชาวเยอรมัน แต่งงานเสร็จแล้วก็ใช่ว่าจะไปมีความสุขกันได้ง่าย ๆ เมื่อทั้งคู่จะต้องไปปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่งร่วมกันก่อน นั่นก็คือการตัดฟืนนั่นเอง ตั้งแต่เลื่อยไม้ออกเป็นท่อนยาวพอเหมาะ และจามแบ่งออกเป็นซีกขนาดพอดี ๆ บางทีนี่อาจสอนให้คู่บ่าวสาวรู้จักแบ่งเบาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหมือนกันชีวิตคู่ที่ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปอีกยาวนาน หรือว่าอาจะเป็นกลเม็ดเด็ดพรายของโรงแรม ที่อยากจะมีฟืนใช้อย่างพอเพียงไปตลอดทั้งหน้าหนาวก็เป็นได้ อิอิ

                 อ่านแล้วก็แอบคิดว่าถ้าต้องแต่งงานแบบประเทศนั้นจริง ๆ สู้อยู่เป็นโสดอาจจะดีกว่า...เนอะ ;P

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×