คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : lolijang @ mail.com & flouck_37 @ mail.com
บรรยากาศเย็นยะเยือกก็น่าขนหัวลุก บนฟ้าอันดำมืดมีแสงสว่างปรากฎออกมา เม็ดฝนหยดลงมาที่ใบหูของฉันที่อุ่นเพราะความร้อนจากโทรศัพท์ที่ผ่านการใช้ งานมาครึ่งวัน
“ดาวันนี้มีคนขอเพื่อนมึงกี่คน” เก็ตถามเพียงเพราะเขาจะShowว่าเค้ามีคนมาขอเป็นเพื่อนหลายคน
“อ๋อวันนี้อ่ะนะ! เดี๋ยวแป็บนึง . . . . 5คน” ดาตอบอย่างไม่แน่ใจ
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะ รู้ไหม๊วันนี้กูมีกี่คน” เก็ตหัวเราะแบบอวดโอ้
“อืมกี่คน” ดาตอบแบบเซ็งๆ
“23 คน โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ พอดีคนมันน่าตาดี และ มีเสน่ห์อ่ะนะ 555555”
“ฮึๆๆๆ.....แล้วมีใครบ้างล่ะ” ดาถามเพื่อเบี่ยงแบนประเด็น
“ไม่รู้สิจำไม่ได้ว่ะ........อ๋อๆๆๆๆๆๆ มีคนนึงชื่อโคตรเฟี้ยวอ่ะ”
“ชื่ออะไรล่ะ?” ดาเองเริ่มหงุดหงิด
“ชื่อ DerDeathgod” เก็ตพูดพลางออกสำนวนเสียงภาษาอังกฤษ
“เฟี้ยวยังไงว่ะแปลดิ๊มึงว่ากูเก่งภาษาอังกฤษหรอ?”
“แปลว่า แด่เทพเจ้าแห่งความตาย!!! 555555” เก็ตพูดอย่างสยดสยองราวกับเค้าคือเทพเจ้าแห่งความตาย
“โอ๊ะ!!!! ไร้สาระมึง” เป็นเพราะดาเป็นคนที่ไม่งมงายเกี่ยวดับเรื่องประเภทนี้เมื่อใดที่เพื่อนๆคุย กันถึงเรื่อง วิณญาน ความตาย ชีวิตหลังความตาย ดาจะเป็นคนแรกที่เดินออกจากกลุ่มเพื่อน
“กูหมายถึงชื่อมันเฟี้ยวเว้ย!!!! ”
“เออ......แล้วได้คุยบ้างม่ะ?”
“คุยอยู่นะแม่งหยิ่ง!!! ทักไปก็ไม่ตอบเหมือนใครก็ไม่รู๊ ^0^ ”เก็ตตอบแบบประชด
“อะไรๆๆๆๆๆๆ อะไร มึง”
“ป๊าวววว” เก็ตตอบเสียงสูงแสดงถึงความไม่เชื่อ
“เออๆๆๆๆๆๆ แค่นี้ก่อนแล้วกันเที่ยงคืนและง่วง” ดาพูดและ หาว ออกมาพลางๆ
“OK goodnight” เสียงนุ่มละมุนชวนให้งุนง่วงจริงๆ แต่กะนั้นเอง เวลาได้ฟัง คงจะนอนฝันร้ายเด็กร่าเริงอย่างฉันพูดออกไปไม่คิดอะไรมากเพียงเพราะต้องการ บันเทิงเพื่อนๆแต่ดาเองเป็นคนคิด
มาถึงภายนอกเองดูเป็นคนเฮฮา แต่ในใจแล้วเธอคนนี้เป็นคนที่เก็บเรื่องต่างๆไว้มามายเหลือเกิน คบเป็นเพื่อนมาก็นานแต่ทำไมกันเรายังรู้สึกเหมือนยังไม่สามารถเข้าถึงคนคน นี้ได้เสียทีนะ
ทำไมกัน...
เสียงเพลงเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์ เสียงเพลงเรียกเข้าของโทรศัพท์เปล่งเสียงแข่งกับเสียงเม็ดฝนที่หยดลงกระทบ กับเพิงพลาสติก
“รับช้านะ*ไอ้หำ” เสียงที่ดูอบอุ่นดังออกมาจากโทรศัพท์ที่เพิ่งจะหายร้อน(ไอ้หำ สรรพนามของฉันเอง)
“โห...อะไรล่ะ*แมว” ฉันเปล่งเสียงที่ดูดีใจแต่ฉันเองไม่ทราบเหมือนกันว่าคนที่ฟังจะสำผัสได้หรือไม่(แมว สรรพนามเรียกพี่ ฟลุค)
“ชิ....งอนแล้ว!!!*3*”
“โอ้ๆๆๆๆ ง้อๆๆๆๆ” เสียงพูดของฉันดูเป็นแกมประชดมากกว่าเป็นการยอมรับผิดแต่ที่ฉันพูดเพียงเพราะหวังคำตอบกลับมา
“โห...นี้เค้าไม่เรียกง้อแล้วนะ พูดดีๆให้มันอ่อนหวาน~” พี่ฟลุคพูดน้ำเสียงอ่อนหวานเพื่อให้เป็นตัวอย่าง
“อืมมมม ง้อคร๊าบบ” ฉันพูดแบบอ่อนโยนๆเพื่อให้พี่ฟลุคพอใจ
“เออ...มันต้องแบบนี้ดิ”
เวลาผ่านไปแล้วเท่าไหร่กันนะฉันเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาพลางหาวไปด้วย เวลา ณ ขณะนี้เป็นเวลาที่ใครหลายคนอาจกำลังนั้นอยู่หน้า โทรทัศน์ หรือไม่ก็อาจจะนั้งเชียร์ฟุตบอลอยู่ก็เป็นได้
“แมว” เสียงพูดออดอ้อนแบบนี้เป็นสำเนียงเสียงที่ฉันใช่คุยกับพี่ฟลุคและดา
“หาาา”
“ทำอะไรอยู่”
“คุยโทรศัพท์อยู่ไง” พี่ฟลุคตอบแบบกวนๆ
“อืม...ทีหลังจะไม่ถามและ”
“อืมแล้วหนังสือการ์ตูนพี่เมื่อไหร่จะคืนห๊าาาา”
“หนังสือการ์ตูนที่ยืมพี่ฟลุคตอนไปเที่ยวอ่ะนะ อืม.... ไม่รู้ดิ”
“งั้นพรุ่งนี้มาคืนพี่ที่บ้านแล้วกันกล้ารึเปล่า” พี่ฟลุคใช่คำพูดท้าทายฉันเค้าคงคิดว่าฉันไม่กล้าไปละมั้ง
“OK พรุ่งนี้นะ”
“เจอกันพรุ่งนี้....กี่โมงแล้วเนี่ย”
“เออ....ตี1ครึ่งและ”
“OK งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกันนะดึกและจะได้ไปนอน”
“ฝันดีนะพี่ฟลุค”
“ฝันดี” ทำไมกันทำไมน้ำเสียงของพี่ฟลุคเค้าถึงได้ดูเย็นชามันเหมือนกับเป็นคำพูด บอกลามากกว่าคำพูดอวยพร เอ...!! ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้
…........
นาฬิกาเรือนสีทองที่ไม่เคยหลับใหลกำลังกระซิบที่หูที่อุ่นของฉันเบาๆว่า “ไปนอนได้แล้วเด็กน้อย” หากเป็นคนอื่นพูดฉันอาจจะไม่เชื่อก็ได้แต่ทำไมกันแค่เสียงกระซิบเพียงไม่กี่ คำฉันถึงได้โอนอ่อน
ตามไปได้นะ
แปลือกตาบนกับแปลือกตาล่างกำลังจะปิดลงสนิท...
แปลือกตาของฉันก็กำลังจะปิดสนิท...
คร่อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ZzZz
เสียงโทรศัพท์ดังมาจากใต้หมอนฉันเอื่อมมือหยิบโทรศัพท์เพื่อจะหยุดเสียงที่ น่ารำคาญนี่เสียที.......เสียงโทรศัพท์หยุดแล้วอากาศตอนเช้าทำไมมันถึงได้ ผิดแปลกไปจากบรรยากาศยามค่ำเสีย
จริง บรรยากาศตอนนี้ช่างน่าสูดลมหายใจเสียจริง
ฟื๊ดดดดดดดดดดด
ฉันสูดลมหายใจราวกับสูดกลิ่นน้ำหอม ตอนนี้สิ่งที่อยู่บนใบหน้าของฉันคือรอยยิ้ม รอยยิ้มนี้มันมาจากไหนก็ไม่รู้สินะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“พี่ฟลุคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค” ฉันตะโกนเสียงดังอยู่หน้าบ้านพี่ฟลุคหากว่าใครกำลังนอนอยู่คงตื่นทันทีเลยเป็นแน่
“อ่าว...มาแล้วหรอ” พี่ฟลุคพูดพลางยิ้ม
“นี่ใจคอจะไม่ต้อนรับแล้วเอาน้ำมาให้กินเลยเร๊อะ” ใน ขณะ ที่ฉันพูด เหงื่อก็ใหลออกมาเหมือนน้ำที่กำลังใหลลงมาจากหัวจรดเท้า
“OK OK” พี่ฟลุคพูดพลางเปิดประตูรั้ว
"พี่ฟลุคทำไรอยู่เนี๊ย"
"อ๋อๆ พี่เล่นคอมอยู่ ออนเอ็ม เล่นเกมส์ บลาๆๆๆๆ"
พี่ฟลุคเดินไปหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วก็นั้ง Chat MSN
"พี่ฟลุค หนังสือกับ ซีดี นี้ เอาไว้ไหน" ฉันถามพลางยื่นถูงผ้าที่ภายในใส่หนังสือการ์ตูน ฮิกุราชิ 1 , 2 และ ซีดีการ์ตูน เรื่อง โคนัน
"เอาไว้ตรงตู้เก็บหนังสืออ่ะ เห็นรึเปล่า ส่วน ซีดี ก็เอามาไว้ตรงหน้าคอมฯนี้แหละ"
"อื้มๆ เห็นและๆ"
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปที่ตู้เก็บหนังสือก็มีเสียง ตื่อดึ๊ง!!! พร้อมกับคำอุทานว่า "ใครว่ะ" อะไรกันทำไมต้องอุทานเสียงดังขนาดนั้น หลังจากนั้นฉันก็เอาซีดีมาเก็บที่หน้าคอมฯที่กำลังเป็นสมรภูมิ MSN
อยู่ในขณะนี้
"ใครอ่ะพี่ฟลุค" ฉันถามด้วยความสงสัยพลางยื่นหน้าไปที่จอคอมฯ
"ใครก็ไม่รู้อ่ะดิพิมพ์ไรมาก็ไม่รู้"พี่ฟลุคตอบด้วยความรำคาญ
ฉันดูหน้าจอคอมฯ เอ๊ะ!! นี้มันไอ้ เทพความตายที่เรารับแอดมานี้หว่า
"อ๋อๆๆๆ ไอ้คนนี้อ่ะหรอ เก็ตเพิ่งรับแอดมาเมื่อวานนี้เอง ทักไปแม่งก็ไม่ตอบ"
"เออ ดูดิมันเขียนมาอีกและภาษา TAGALOG เป่าว่ะ"
"พี่ฟลุครู้จักหรอไอ้ตากาลงตากาล๊อคเนี่ย"
"ไม่รู้หรอก แต่เก็ตดูดิมันเหมือนไม่ใช่คนไทยเลยนะ ธรรมดาคนที่เค้าพิมพ์มั่วๆ มันก็จะดูไม่เป็นประโยคอ่ะ"
"อื้มนั้นดิ"
"เฮ๊อะ!! ช่างมันเหอะปล่อยให้แพล้มไป"
"เก็ต............ โอ๊ย!!!!!!!!!"
"เป็นไรพี่ฟลุค!!!!!"
"......"
อะไรกันทำมันนั้งคอตกอย่างนั้นแถมไม่พูดไม่จาอะไรอีก
"พี่ฟลุคๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ฉันเขย่าตัวพี่ฟลุคอย่างแรงแต่ดูเหมือนจะไม่มีผล
"อย่ามายุ่งกับกู!!!!"
"หุบปาก!!!!!!!"
"......" อะไรกันทำไมต้องตะคอกกันด้วย
ทันใดนั้นพี่ฟลุคก็ค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะหายไปในห้องน้ำ
ฉันได้แต่นั้งอึ้งอยู่บนพื้นหน้าจอคอมฯ "นี้มันอะไรว่ะเนี่ย" เหตุการณ์ที่เกิดเมื่อกี้นี้มันคืออะไรกัน
มันคืออะไรกัน มันคืออะไรกัน มันคืออะไรกัน มันคืออะไรกัน
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแต่คนคนนั้นยังไม่ออกจากห้องน้ำเลยมันเกิดอะไรขึ้น
เวลาผ่านไปอีก 10 นาที ฉันตัดสินใจเค้าประตูเรียก แต่กลับไม่มีเสียงขานรับกลับมาเลย
"อย่าล้อกันเล่นแบบนี้สิ ...... ถ้าไม่ออกมาจะพังประตูแล้วนะ" ฉันพูดในขณะที่มือทั้งสองข้างจับค้อน ปอนด์ ที่ได้จาหลังบ้านพี่ฟลุค แน่น จนเหงื่อ ออกตามซอกมือ
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง โผล๊ะ!!!!!!!
ฉันเอามือเอื้มบิดลูกบิดประตูทางด้านในผ่านรูที่เกิดจากการทุบประตูแต่ภาพที่อยู่ตรงหน้ามัน......
กึ๊ก!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
"เฮ้ย!!!!! ไอ้เหี้ยนี้มันอะไรกันว่ะ "
ฉันตะโกนออกมาอย่างดังเพราะภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ ศพ ของเด็กหนุ่ม ที่แขวนขอจากท่อน้ำที่อยู่ด้านบนของห้องน้ำ
สภาพศพ อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ปากปิดสนิท มีเลือดไหลออกจากทางปาก มีตัวอักษร "N" อยู่บนฝาผนังด้านหลังของศพ
เด็กหนุ่มที่ว่าคือ "พี่ฟลุค!!!!!"
ฉันรีบวิ่งออกจากบ้านหลังนั้นทันที พอกลับถึงบ้าน ก็มีโทรศัพท์เข้ามา
"ฮัลโหลดา " ฉันพูดเสียงสั้นคลอน
"เฮ้ยมึงเป็นไรป่ะเนี่ยเสียงสั่นเชียว "
"ฮือๆๆ ... เค้าตายแล้วดาเค้าตายแล้ว"
"ใจเย็นๆกูรู้แล้วแหละ" ดาพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยนเพื่อให้เพื่อนใจเย็นลง
"หา ... มึงรู้แล้วหรอรู้ได้ยังไง ใครบอกมึง " ฉันถามแบบลุกลี้ลุกลน
"ก็ตำรวจเค้ามาบ้านพี่เค้าน่ะสิวันนั้นมึงมาบ้านพี่เค้ารึเปล่า" ดาถาม
"อืมๆ ... แต่กูไม่ได้ทำไรพี่เค้านะ เค้าเป็นพี่กูๆไม่ทำอะไรเค้า กูไม่ได้ฆ่าเค้านะ"
"อื้มๆๆๆ กูเชื่อมึงนะ ไม่ต้องกลัวนะ ใจเย็นๆ"
"อื้มๆๆ .... ฮัลโหลๆ!! มึง...อย่าเพิ่งวางสิ ฮือๆๆๆๆๆๆ"
กรี๊งๆๆๆๆๆๆ!!!!
"ใครมาว่ะ" ฉันปาดน้ำตาที่อยู่บนแก้มก่อนที่จะไปเปิดประตูรั่ว
กึก!!!!!!!!!
.
.
.
"สวัสดีครับนี้คุณ เก็ต ที่เป็นเพื่อน กับฟลุคที่เป็นผู้ตายในคดี ฆ่าตกรรม หรือเปล่าวครับ" ผู้ชายใส่ชุดเครื่องแบบตำรวจกำลังยืนถามฉันอยู่หน้าประตูพร้อมด้วยลูกน้องอีก
3-4 คน
"ช...ใช่ มีอะไร"น้ำเสียงห้วนๆหลุดออกจากปากของฉันด้วยความกลัว
"งั้นเราขอเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ"
"ปะ.ไป โรงพัก ปะ...ไปทำไม ชั้นไม่ได้ทำอะไรซัดหน่อย ไม่..ไม่ไปชั้นไม่ไป" ความหวาดระแวงเริ่มออกจากแววตาฉันของเหลวที่เรียกกันว่าน้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากตาของฉัน
" งั้นผมคงต้องเพิ่ม คดี ขัดขืนการทำงานของเจ้าหน้าที่นะครับ " ผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าของฉันพูดขึ้นมาน้ำเสียงเป็นการข่มขู่
ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวหรือเปล่าทำให้ฉันเปิดประตู ยอมให้ใส่กุญแจแต่โดยดี และยอมขึ้นรถไปกับชายแปลกหน้า ที่ได้ชื่อว่า "ตำรวจ" และมีรถอีกคันตามมาด้วย
โดยมีชาวบ้านระแวกนั้นที่เปิดประตูรั้วออกมาจากบ้านและจ้องมองจนตาเป็นมันวาวพลางพูดอุบอิบกับตัวเอง
'รถคันนี้มันก็ไม่ได้อึดอัดอะไรทำไม่เหงื่อถึงได้ออกมาเยอะขนาดนี้นะ'
"ผู้กองสวัสดีครับ! .... มีอะไรให้รับใช้ไหมครับ" ตำรวจผู้น้อยทำความเคารพตำรวจคนที่ไปพาตัวฉันมา
"ไม่มีหรอกจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ"
"ครับผ๊ม!!!" เขาทำความเคารพอีกครั้งก่อนที่จะหอบเอาแฟ้มหนาสีดำเดินออกไปจากหน้าห้องสืบสวน
ปังงงงงง!!!!
.
.
.
.
.
"เอาหล่ะต่อไปเป็นเรื่องของกูกับมึงแล้วหล่ะ" ผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าฉันพูดขึ้นมาก่อนที่จะถอดหมวกออกและวางบนโต๊ะสีขาวดัง ปัง!!
"คุณไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้น"
"หลังไหนครับ" ฉันพูดเสียงอ่อยตอนนั้นความกลัวเริ่มมาหาฉัน น้ำตามันเริ่มไหลออกมาเป็นครั้งที่3
ปังงงงงงง!!!
"ปัดโธ่เว้ย!!!! มึงไม่รู้รึไงว่ากูถามถึงเรื่องอะไร" เขาตะโกนเสียงดังก่อนที่จะเอามือทัง2ข้างตีลงบนโต๊ะจนเสียงดัง
"ผม....แค่เอาหนังสือการ์ตูนไปคืนพี่เค้าเฉยๆน่ะครับ" ฉันดูตัวเล็กลงมากในขณะที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าตัวกลับใหญ่จนเกือบจะคับห้องสี่เหลี่ยมนี้อยู้แล้ว
"มึงแน่ใจนะ ว่ามึงไปแค่นั้น"
ฉันไม่กล้าจะสบตาคู่นั้นของเค้าเลยสายตาดูอำมหิตอย่างน่าขนลุกเป็นที่สุดเหมือนปีศาจที่กำลังเจอเหยื่ออันโอชะอย่างไงอย่างงั้น
"ครับแน่ใจครับ...พี่เค้าโทรหาผมตอนประมาณ 2 ทุ่ม หลังจากนั้นเราก็คุยกันจนถึงประมาณเที่ยงคืน พอวันรุ่งขึ้น
ผมก็ไปหาพี่เค้าตามนัด พอเข้าไปในบ้านพี่เค้า อาหนังสือคืนเรียบร้อย แล้วก็มีคนบ้าใน M มันทักพี่เค้ามาเป็นภาษาแปลกประหลาด
จู่ๆพี่เค้าก็ลุกขึ้นมาพูดอะไรแปลกๆประมาณว่า 'อย่ามายุ่งกับกู' แล้วพี่เค้าก็เดินเข้าห้องน้ำไป แล้วพี่เค้าก็......."
น้ำตาของฉันไหลลงมาเป็นครั้งที่ 4 นี้ไม่ได้เกิดจากความกลัวแต่มันเกิดจากความคิดถึงพี่ชายที่สนิทที่สุดที่เพิ่งเสียไปโดยไม่มีสาเหตุ
"อืม OK ขอบใจมาก แต่ยังไงก็ต้องขังมึงไว้ก่อน รอจนคดีจะสรุปได้ว่าใครเป็นคนฆ่า" ตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันไม่ได้เป็นยักษีที่น่ากลัวแต่ดูอ่อนโยนลงมาขนัดตา
.
.
.
.
.
.
แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่างลูกกรงนี้ถ้าฉันไม่ร้องให้จนหมดแรงไปคงไม่หลับลงแน่ความคิดแรกที่แวบขึ้นมาคือเตียงนอนนุ่มๆที่เคยนอนเปิดเพลงฟังยิ่งคิดน้ำตายิ่งเอ่อล้นออกมา
“มึง มึงนั้นแหละออกมา ผู้กองต้องการพบ”
ตำรวจหนวดยาวตัวอ้วนพูดเรียกฉันด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“นั่งลง”
ผู้กองที่เคยสอบสวนฉันเมื่อวานพูดกับฉันน้ำเสียไม่ค่อยน่ากลัวเหมือนเมื่อวานเลย
“กูถามมึงครั้งสุดท้ายนะ มึง... ฆ่า... ไอ้... คนนั้น... ใช่ไหม ?”
เขาย้ำทุกคำพูดตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าเขาถามฉันเพราะเรื่องอะไร
“ไม่คับ ผมไม่ฆ่าพี่เค้าแน่นอน ไม่มีวัน”
ตอนนี้ฉันคิดว่าเขาคงถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นฉันจึงตอบไปอย่างมันใจว่านี้คือความจริง
โบ๊ะ!!!!
“ผมทำอะไรผิดๆมาตบหน้าผมทำไม”
ฉันสับสนไปหมดนี้มันอะไรกันมาตบหน้าเราทำไม
“มึงรู้ไหมว่าหลักฐานที่เจอ มันคือสิ่งที่จะมัดตัวมึงได้ ทั้งรอยนิ้วมือที่ประตูด้านใน และที่คอของศพ แล้วมึงก็อยู่กับผู้ตายตอนเกิดเหตุด้วย มึงยังจะปากแข็งอีกหรอ”
“ไม่จริง ไม่จริง ผมไม่ได้ทำฮืออออไม่ได้ทามมมมมมมมมมมมมมมมมม”
“จ่าเอาตัวมันไป”
“ครับ”
“พรุ่งนี้ตอนเช้ามึงต้องไปสถานพินิจบ้านเมตาไปดัดสันดาร”
“กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ กูไม่ได้ทำ”
ฉันพูดอย่างเบาๆเพราะฉันไม่ได้ทำ
ปึ้งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!
“เฮ่ย!! มึงทำอะไรของมึง เอาหัวโขกโต๊ะเดี๋ยวก็ตายหาหรอกมึง จ่าจับมับออกมา เวรเอ๊ย!!!”
ปึ้งงงงง!!!
“ลาก่อน...”
“เฮ่ย!!! ฉิบหายและ ”
“ทำยังไงดีครับเนี่ย”
“เรียกรถพยาบาลซิว่ะ!!!”
ฉันไม่รู้ ฉันเป็นคนทำยังงั้นหรอ ฉันชั่วถึงขนาดฆ่าคนได้เลยหรอ ถ้าฉันทำจริง ครั้งนี้คงเป็นการไถ่บาปได้ ลาก่อน เพื่อนรัก
ลาก่อนพ่อแม่ ลาก่อนพี่ชาย
แต่ฉันเองก็ดีใจ . . . . . . เก็ตจะไปเจอพี่แล้วนะพี่ฟลุคจะได้ไปคุยกันอีก เล่าเรื่อง ไฮสคูลออฟเดอะเดท ให้ฟังด้วยนะ
“คุณหมอค่ะคนไข้หยุดหายใจไปแล้วค่ะ”
“เอาความดันแรงสุด 1 2 3 เคลียร์”
.
.
.
.
.
.
.
.
คนไข้เสียแล้วครับหมอทำเต็มที่แล้ว
“เก็ต แกยังตายไม่ได้นะเก็ตแล้วฉันจะโทรศัพ?หาใคร ใครจะคอยคุยเรื่อง M หล่ะ แกตื่นมาซิ ฮือๆๆๆๆ”
“เฮ่ย ดา แกยังมีชั้งไง จุอ่ะ ไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
ความคิดเห็น