ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เจ้าชายน้ำแข็งแห้ง3
แล้วทั้งสามคนก็ยุรยาตรเข้ามานั่งคุยกันในห้องที่คาโนวาลจัดไว้
“คาโลนายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ที่ลาพักกลับมาคาโนวาลครั้งนี้ วันนั้นฉันขอมาเที่ยวที่นี่แกบอกว่ายังไม่ได้ มีเรื่องนิดหน่อย แต่แกก็เผ่นมาที่นี่ไม่บอกพวกเรา” เจ้าหมาน้อยที่นอนอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นถาม
“เอ้า เล่าก็เล่า” ดวงหน้าอันบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดทำให้หนึ่งหมากับอีกหนึ่งคน ทำท่าตั้งใจฟัง (ก็น่าจะตั้งใจนะ)
“พวกนายก็คงไม่รู้หรอกว่าทำไมฉันถึงเกลียดขโมย” แล้วก็เหลือบไปทางหมาน้อยตัวนั้น
“พูดมาดีๆนะ แง่ง เดี๋ยวกัด” ไอ้ตัวเล็กขู่ คาโลก็ไม่ได้สนใจและเล่าต่อไป
“10ปีก่อน ฉันออกมาท่องคาโนวาล แน่ละ ปลอมตัวออกมา”
“แล้วไง” คิลแทรกขึ้น
“ฉันเจอขโมย2คนพี่ชายน้องสาว ฉันหลงกลมันสองคน โดนมันเอาเงินไปหมดตัว” (หน้าแดงเพราะความอาย)
“กั๊กๆๆๆๆๆ โง่บรม ที่แท้เรื่องแค่นี้ ไอ้บ้า” แล้วไอ้เจ้าหมาตัวน้อยๆก็ล้มตัวลงไปขำต่อ
กึ๊งง หมาน้อยเฟรินแข็งในท่าหัวเราะ น่าดูมาก
“พวกแกเลิกกัดกันแล้วคาโลแกก็เล่าต่อไปสิ” คิลกล่าวออกมาอย่างเอือมระอา
“จากนั้นมา ฉันก็เลยเกลียดหัวขโมยเข้าไส้” แล้วก็ชำเลืองไปทางก้อนน้ำแข็งที่กระพริบตาปลกๆ เป็นเชิงว่า ปล่อยช้านนน!
“แต่พอแกมาเจอไอ้เฟรินแกก็ไม่เกลียดมันนี่นา” คิลท้วง
“ก็อยู่กับมันมานาน รู้เห็นกมลสันดานนิสัยมันดีแล้ว แกก็เห็น พวกเราเป็นเพื่อนจะเกลียดกันทำไม” คาโลทำหน้าฉุน
“ฉันหมายถึงแกน่ะรักมันบ้างไหม ในฐานะที่มันเป็นผู้หญิงแล้ว แล้วก็ บอกตรงๆถ้าไม่มีเรนอนฉันก็จะจีบมันว่ะ” คิลเอ่ยถาม
เมื่อเห็นเพื่อนรักทำท่าจะมารักคนของตนคาโลก็ทะลึ่งยืนพรวดขึ้นทันใด
“แกอย่าบังอาจเชียว มันเป็นของฉันคนเดียว!” คาโลตวาดลั่น
“เอ้าแกได้ยินรึยังเฟริน” คิลรู้สึกสะใจที่หลอกล้วงความในใจเพื่อนออกมาบอกแก่คนที่เพื่อนรักได้
แต่ไม่เป็นผลเสียแล้ว ทั้งขาดอากาศหายใจและช็อคจากคำของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเมื่อครู่ เฟรินก็หมดสติไปอีก
“เฮ้ย!” ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน
คาโลรีบแก้มนตร์ คิลรีบใช้เวทย์ไฟอุ่น หุ้มร่างน้อยไม่ให้หนาวยะเยือก ซึ่งก็ได้ผล
จากนั้นคาโลจึงเสกร่างของเฟรินให้กลับเป็นผู้หญิงแล้วช้อนหลังขึ้นเพื่อจะจ้องดูความผิดปกติของเธอ
คาโลเริ่มหน้าแดงเพราะดวงหน้าสวย ผมสีน้ำตาล ตา จมูก ปาก คิ้ว คางได้รูป เมื่อช้อนขึ้นในลักษณะนี้แล้วมันก็เหมือนกำลังตระคองกอดหญิงสาวอยู่
โดยที่ไม่เกรงใจคิลที่ยืนมองอยู่ คาโลก็โน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากของตนลงกับแก้มผ่องขาวนวลของเฟลิโอน่า
อาการของคิลที่ยืนมองตาปริบๆก็ยังสู้หน้าอายแดงๆของคนเพิ่งจะฟื้นไม่ได้
“คา..คาโล นะ..นาย”
“เออ ฉันเองทำไมเรอะ วันนี้แกสลบหลายรอบพอแล้ว นอนซะ พรุ่งนี้จะต้องบุกป่า อยากไปก็เก็บแรงซะ”
เจ้าชายแห่งคาโนวาลค่อยๆบรรจงวางร่างบางลงบนเตียง แล้วตนเองก็เดินไปหาคิลเพื่อจะเรียกมานั่งคุยกันต่อ
“นายเล่าค้างไว้น่ะ เล่าต่อซิ”
“ก็เมื่อวันก่อนนี้เอง อยู่ๆฉันฝันถึงไอ้สองหัวขโมยนั่น พอส่งข่าวมาที่นี่ก็ได้รู้ว่ามันลงมือขโมยของในวัง”
“ขโมยอะไรไปบ้าง”
“ของสำคัญ อาจดูไม่มีราคาในสายตาบางคน แต่สำคัญสำหรับเสด็จพ่อ ฉันต้องนำเอาคืนมาให้ได้” แล้วคาโลก็ซุบซิบกับคิลราวกับกลัวใครจะได้ยินว่าของชิ้นนั้นเป็นอะไร
“ว่าแต่แกจะช่วยไหม”
“เอาดิ อยากออกกำลังมานานแล้ว” แววตาของคิลบ่งบอกถึงความคะนองในงานฆ่าของเขาอย่างโชกโชนมาแล้ว
“เราจะต้องตื่นก่อนไอ้เจ้าเฟริน เรื่องของที่หายเป็นอะไรบอกมันไม่ได้เด็ดขาด”
“งั้นราตรีสวัสดิ์” คิลล้มตัวลงอีกด้านจากที่เฟรินหลับไปแล้ว คาโลจึงไปนอนริมอีกฝั่ง
“คาโลนายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ที่ลาพักกลับมาคาโนวาลครั้งนี้ วันนั้นฉันขอมาเที่ยวที่นี่แกบอกว่ายังไม่ได้ มีเรื่องนิดหน่อย แต่แกก็เผ่นมาที่นี่ไม่บอกพวกเรา” เจ้าหมาน้อยที่นอนอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นถาม
“เอ้า เล่าก็เล่า” ดวงหน้าอันบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดทำให้หนึ่งหมากับอีกหนึ่งคน ทำท่าตั้งใจฟัง (ก็น่าจะตั้งใจนะ)
“พวกนายก็คงไม่รู้หรอกว่าทำไมฉันถึงเกลียดขโมย” แล้วก็เหลือบไปทางหมาน้อยตัวนั้น
“พูดมาดีๆนะ แง่ง เดี๋ยวกัด” ไอ้ตัวเล็กขู่ คาโลก็ไม่ได้สนใจและเล่าต่อไป
“10ปีก่อน ฉันออกมาท่องคาโนวาล แน่ละ ปลอมตัวออกมา”
“แล้วไง” คิลแทรกขึ้น
“ฉันเจอขโมย2คนพี่ชายน้องสาว ฉันหลงกลมันสองคน โดนมันเอาเงินไปหมดตัว” (หน้าแดงเพราะความอาย)
“กั๊กๆๆๆๆๆ โง่บรม ที่แท้เรื่องแค่นี้ ไอ้บ้า” แล้วไอ้เจ้าหมาตัวน้อยๆก็ล้มตัวลงไปขำต่อ
กึ๊งง หมาน้อยเฟรินแข็งในท่าหัวเราะ น่าดูมาก
“พวกแกเลิกกัดกันแล้วคาโลแกก็เล่าต่อไปสิ” คิลกล่าวออกมาอย่างเอือมระอา
“จากนั้นมา ฉันก็เลยเกลียดหัวขโมยเข้าไส้” แล้วก็ชำเลืองไปทางก้อนน้ำแข็งที่กระพริบตาปลกๆ เป็นเชิงว่า ปล่อยช้านนน!
“แต่พอแกมาเจอไอ้เฟรินแกก็ไม่เกลียดมันนี่นา” คิลท้วง
“ก็อยู่กับมันมานาน รู้เห็นกมลสันดานนิสัยมันดีแล้ว แกก็เห็น พวกเราเป็นเพื่อนจะเกลียดกันทำไม” คาโลทำหน้าฉุน
“ฉันหมายถึงแกน่ะรักมันบ้างไหม ในฐานะที่มันเป็นผู้หญิงแล้ว แล้วก็ บอกตรงๆถ้าไม่มีเรนอนฉันก็จะจีบมันว่ะ” คิลเอ่ยถาม
เมื่อเห็นเพื่อนรักทำท่าจะมารักคนของตนคาโลก็ทะลึ่งยืนพรวดขึ้นทันใด
“แกอย่าบังอาจเชียว มันเป็นของฉันคนเดียว!” คาโลตวาดลั่น
“เอ้าแกได้ยินรึยังเฟริน” คิลรู้สึกสะใจที่หลอกล้วงความในใจเพื่อนออกมาบอกแก่คนที่เพื่อนรักได้
แต่ไม่เป็นผลเสียแล้ว ทั้งขาดอากาศหายใจและช็อคจากคำของเจ้าชายแห่งคาโนวาลเมื่อครู่ เฟรินก็หมดสติไปอีก
“เฮ้ย!” ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน
คาโลรีบแก้มนตร์ คิลรีบใช้เวทย์ไฟอุ่น หุ้มร่างน้อยไม่ให้หนาวยะเยือก ซึ่งก็ได้ผล
จากนั้นคาโลจึงเสกร่างของเฟรินให้กลับเป็นผู้หญิงแล้วช้อนหลังขึ้นเพื่อจะจ้องดูความผิดปกติของเธอ
คาโลเริ่มหน้าแดงเพราะดวงหน้าสวย ผมสีน้ำตาล ตา จมูก ปาก คิ้ว คางได้รูป เมื่อช้อนขึ้นในลักษณะนี้แล้วมันก็เหมือนกำลังตระคองกอดหญิงสาวอยู่
โดยที่ไม่เกรงใจคิลที่ยืนมองอยู่ คาโลก็โน้มตัวลงไปประทับริมฝีปากของตนลงกับแก้มผ่องขาวนวลของเฟลิโอน่า
อาการของคิลที่ยืนมองตาปริบๆก็ยังสู้หน้าอายแดงๆของคนเพิ่งจะฟื้นไม่ได้
“คา..คาโล นะ..นาย”
“เออ ฉันเองทำไมเรอะ วันนี้แกสลบหลายรอบพอแล้ว นอนซะ พรุ่งนี้จะต้องบุกป่า อยากไปก็เก็บแรงซะ”
เจ้าชายแห่งคาโนวาลค่อยๆบรรจงวางร่างบางลงบนเตียง แล้วตนเองก็เดินไปหาคิลเพื่อจะเรียกมานั่งคุยกันต่อ
“นายเล่าค้างไว้น่ะ เล่าต่อซิ”
“ก็เมื่อวันก่อนนี้เอง อยู่ๆฉันฝันถึงไอ้สองหัวขโมยนั่น พอส่งข่าวมาที่นี่ก็ได้รู้ว่ามันลงมือขโมยของในวัง”
“ขโมยอะไรไปบ้าง”
“ของสำคัญ อาจดูไม่มีราคาในสายตาบางคน แต่สำคัญสำหรับเสด็จพ่อ ฉันต้องนำเอาคืนมาให้ได้” แล้วคาโลก็ซุบซิบกับคิลราวกับกลัวใครจะได้ยินว่าของชิ้นนั้นเป็นอะไร
“ว่าแต่แกจะช่วยไหม”
“เอาดิ อยากออกกำลังมานานแล้ว” แววตาของคิลบ่งบอกถึงความคะนองในงานฆ่าของเขาอย่างโชกโชนมาแล้ว
“เราจะต้องตื่นก่อนไอ้เจ้าเฟริน เรื่องของที่หายเป็นอะไรบอกมันไม่ได้เด็ดขาด”
“งั้นราตรีสวัสดิ์” คิลล้มตัวลงอีกด้านจากที่เฟรินหลับไปแล้ว คาโลจึงไปนอนริมอีกฝั่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น