ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมแฟนฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส

    ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าชายน้ำแข็งแห้ง2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 47


    ปิดเทอมจะไปเที่ยวไหนดีน้าา…  



    เด็กสาวเส้นผมสีน้ำตาลคนหนึ่งเดินทอดน่อง ที่ระเบียงชั้นสองของป้อมอัศวิน



    เฟรินผู้ที่บัดนี้ถูกบังคับจากไฮคิงให้อยู่ในร่างหญิงสาวตลอดเวลาเพื่อปรับตัวให้ชินกำลังครุ่นคิด



    เวนอลไปหาวิเวียน ไม่เอาๆ เดี๋ยวถูกจับแต่งหญิง ไปซาเรส บรื๋อส์ พ่อไอ้คิลถือมีดรออยู่



    อ่าฮ่า ที่นี่แหละเจ๋ง! ว่าแต่ไอ้เจ้าของบ้านมันไปไหนนะนี่



    ใกล้สอบแล้วก็คงต้องห้องสมุด อ๊ะ! แต่นี่เลยเวลานอนแล้วนี่นา ลองไปดูที่ห้องดีกว่า…



    ว่าแล้วหัวขโมยสาว ก็ออกวิ่งไปยังห้องของตนซึ่งเป็นห้องหัวหน้าชั้นปี



    แอ๊ดดด (โดยที่ไม่มีคาราบาวพ่วงท้าย) กริ๊ก! ประตูปิดลงแล้ว



    คนที่ต้องการพบนั่งฟุบหลับคาหนังสืออยู่บนโต๊ะเล็กสำหรับพวกเขาไว้ทำการบ้าน



    ร่างบางชะโงกหน้าเข้าไปใกล้



    “ฟรี้…ฟรี้” เจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาลหลับสนิท



    เวลาหลับช่างดูไร้พิษสง… แต่ดูไปดูมาก็น่าพิศดูภาพนั้นให้ตรึงใจ



    “ไว้ฉันบอกแผนการทีหลังนะ…คาโล” ร่างบางยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆที่หูของคนหลับ แม้ว่าจะไม่ตื่นแต่ก็ทำทีพยักหน้ารับรู้ดั่งคนละเมอ



    เฟลิโอน่า เกรเดเวล เจ้าหญิงแห่งบารามอสและเดมอส เปลี่ยนชุดนอนแล้ว เธอหยิบผ้าห่มจากเตียงของคนที่นั่งหลับอยู่ไปคลุมให้กับเขา



    เมื่อคาโลอุ่นสบายแล้วเธอก็สบายใจ ซุกตัวใต้ผ้าห่มเตียงตนเอง หลับไป…



    “อ๊าาาา” เจ้าชายแห่งคาโนวาลฝันร้ายสะดุ้งตื่นจากการหลับไหล เหงื่อผุดพรายตามใบหน้า พลอยทำให้อีกสองคนที่นอนอยู่สะดุ่งตื่นเช่นกัน



    “นายเป็นอะไรรึเปล่าคาโล” คิลฟิลมัส งัวเงียถามไป



    “ไม่เป็นอะไรมาก พวกนายนอนต่อเถอะ” แล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นมานอนที่เตียงตนเอง ก่อนที่จะหลับตาอีกครั้งก็ยังไม่ลืมที่จะกล่าวคำว่า’ขอบใจ’ แก่สาวน้อยผู้ที่กำลังนอนอยู่ที่เตียงข้างกาย



    ทำไมหนอ… เราถึงฝันถึงหัวขโมยน้อยสองคนนั่น… หรือว่าจะเป็นลาง…ช่างเถอะงีบเอาแรงพรุ่งนี้ค่อยคิดอีกที



    …รุ่งเช้า…



    คาโลส่งพิราบสื่อสารไปยังคาโนวาล ซึ่งก็ทำประจำอยู่แล้วเพื่อขอข่าวด้านการเมืองการทหารการทูต จากบ้านเกิดเมืองนอน



    “คาโลฉันมีอะไรจะถามนายหน่อยนะ”



    “มีอะไรหรอเฟริน” เนื่องจากเฟรินอยู่ในร่างหญิงสาว คาโลจึงไม่กล้าทำมาดน้ำแข้งใส่



    “ปิดเทอมนี้ฉันอยากไปคาโนวาล”



    “ไว้จะพาไปแต่ไม่ใช่ตอนนี้”



    “อือ จะรอ แต่แกอย่าให้ฉันรอเก้อนะเฟ้ย”



    หลังจากนั้นสองวัน…



    พิราบสื่อสาร กลับมาส่งข่าวสารแล้ว



        คาโลลูกพ่อ

    สิ่งที่เจ้าสังหรณ์ใจถูกต้องแล้ว มีโจรสองคนเข้ามาโขมยของในวัง รีบกลับมา จับมันมาลงโทษซะ…

                                            คิงบาโร



    “เป็นมัน ไอ้สองคนนั่น” คาโลฉุนกึกทิ้งมาดเจ้าชายสบถพรืด



    “มีอะไรเรอะคาโล” เฟรินผู้ที่ชอบยื่นหน้าเข้าไปสอดเรื่องชาวบ้านเอ่ยถาม



    “นิดหน่อย มีเรื่องที่คาโนวาล ต้องกลับไปสะสาง นายไปไม่ได้อันตราย” คาโลทำหน้าขรึมใส่

    “ปัดโธ่เอ๊ย คอยดูนะชั้นจะตามแกไป”



    “ที่เตือนน่ะมันหวังดี หรือแกลืมฝันร้ายจากพ่อมันแล้ว” คิลแทรกขึ้น



    “เออนั่นสินะ ไม่ไปดีกว่าเดี๋ยวถูกจับหักคอ เพราะฉานม่ายช่ายไก่”



    คาโลเดินทางด้วยรถม้า หลังจากได้ใบอนุญาตออกนอกโรงเรียนจากทางเลโมธี



    ระหว่างที่รถม้ากำลังเคลื่อนอยู่ เขารู้สึกเหมือนกับว่าในรถม้าไม่ได้มีเขาคนเดียวซะแล้วในตอนนี้



    คาโลหน้านิ่วตวาดลั่น



    “รู้นะว่าพวกแกอยู่นี่ ตามมาทำไม เผยตัวซะ”



    เสียงขยุกขยิกเบาลง และเงียบไป



    “ไม่ยอมออกมาก็นั่งอยู่ในนี้แหละ เพราะมันถึงแล้ว” ว่าพลางก็เดินลงจากรถม้าปิดประตูดังปัง



    ฉับพลันเกิดเสียงโขยกเขยกภายในรถม้าของคาโนวาล



    ประตูเปิดผึง มีอะไรบางอย่างซึ่งกำลังล่องหนวิ่งตึงๆตามกันลงมา



    “แง่ง ปล่อยฉันนะ”



    “โอ๊ย เจ็บนะเว้ยอยู่นิ่งๆสิวะ”



    คาโลหยิบคฑาขึ้นชี้ไปข้างหน้าฉับพลันร่างที่คุ้นเคยสองร่างก็ปรากฏ



    “คิล เฟริน จะตามมาทำ…” คาโลกล่าวออกมาด้วยความฉุนแต่สายตาก็สะดุดกับอะไรบางอย่าง



    “ทำไมอยู่ในร่างหมา ฮึเฟริน ไฮคิงสั่งให้อยุ่ในร่างผู้หญิงลืมแล้วเรอะ” คาโลส่งสายตาดุพร้อมเดินเข้าไปอุ้มเจ้าสี่ขาจากพื้นก่อนที่มันจะแว้งไปกัดคิล



    “ก็เลโมธีบอกว่าพวกเรานอนห้องเดียวกันไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นเจ้านี่ ตอนอยู่คาโนวาลเลยร่ายเวทย์ให้มันเป็นหมา อีกอย่างมันกลัวพ่อนาย” คิลชิงตอบซะยืดยาว



    เจ้าตัวที่ถูกพูดถึงทำเป็นไม่สนใจ แต่ดันเอาขาหลังมาจะเกาหู ขายังไม่ทันถึงหูก็สะดุ้งสุดตัว



    เผียะ “อย่าทำอะไรที่มันเสียชาติคนได้ไหม” เมื่อเห็นสายตาเย็นชาแห่งคาโนวาล เจ้าสี่ขาจึงทำเสียงออดอ้อน



    “ก็เกาให้ฉันซี่ แต่เบาๆน้า เดี๋ยวหูฉันไม่สวย (^^)” ได้ยินดังนั้น คาโลจึงอุ้มหมาน้อยไว้ด้วยมือหนึ่งอีกมือก็เกาให้อย่างที่เรียกว่าลูบขนหมาก็เรียกได้ ทำเอาเจ้าตัวดีเคลิ้มจะหลับ



    “ตามมา คิล”



    เมื่อประตูปราสาทแห่งคาโนวาลเปิดออก ก็พบกับการตั้งแถวรอรับเสด็จของเจ้าชาย จากทหารเลวชั้นปลายแถวไปยังเสนาบดีชั้นสูง คนปลายสุดแถวที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสองแถว คนที่มีผิวสีทองแดง หน้าบากเป็นทางยาว ทรงชุดกษัตริย์ออกรบ ราวกับว่าจะไปรบกับใครยืนอยู่



    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ” คาโลกล่าวพร้อมกับค้อมหัวนิดๆ ให้ผู้เป็นพ่อ



    กษัตริย์แห่งคาโนวาลพยักหน้าตอบเป็นพิธี เมื่อเห็นผิดสังเกตจึงเอ่ยถาม



    “คาโลเดี๋ยวนี้โรงเรียนให้เลี้ยงสัตว์หน้าขนแบบนั้นได้รึ แล้วทำไมมันถึงตัวสั่น”



    เมื่อได้ฟังคำกษัตริย์บาโร ไอ้เจ้าตัวที่ขดอยู่ในวงแขนของคาโลยิ่งสั่นหนัก



    “นี่เป็นแม่พันธุ์ เพื่อมาผสมกับลาบาดอร์เดอะเกรทที่สี่ของเรา แต่มันคงจะเมารถม้า ท่านพ่อโปรดอย่าใส่ใจ”



    “ฮื่อ อย่าให้มันป่วยจงดูแล” กษัตริย์บาโรเมื่อทรงคุยถึงเรื่องสัตว์เลี้ยง พระสุรเสียงก็จะอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด



    “เอาละ เรามาคุยเรื่องงานกันเถิด เอ๊ะนั่น คนของซาเรส” แววพระสุรเสียงแข็งขึ้น



    “ถวายบังคม พะย่ะค่ะ” คิลก้มหัวให้และตั้งตัวตรงแทบจะในทันที



    “ผลงานของนักฆ่าแห่งซาเรสประทับใจข้าเสมอ”



    “ขอบพระทัย กระแสพระรับสั่งของพระองค์ กระหม่อมจะนำไปให้พ่อฟังเอง”



    “แล้วธิดาแห่งความมืดเล่าคาโล ใยไม่พามา”

    เสียงที่ดุจจะเหมือนประชดกังวานทำเอาเจ้าตัวยุ่งสั่นหนักขึ้นๆและคิงบาโรก็จับความผิดปกตินั้นได้ด้วยเพียงไม่ปริปาก



    “ลูกสั่งห้ามมาเอง มันยุ่งยาก” คาโลกลบเกลื่อนด้วยน้ำเสียงธรรมดาที่สุด



    “เอาละไปพักผ่อนกันซะ มหาดเล็กจัดห้องใหญ่ให้เจ้าชายและสหาย”



    “พระเจ้าค่ะ”



    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.



    “อูยพ่อนายทำฉันใจเต้น กลัวจริงๆเลย” หมาน้อยกล่าวเมื่อหายจากอาการสั่นหลังจากได้ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม



    “ไม่รู้พ่อนายจะจับได้รึเปล่า” คิลเสริม



    “คงไม่” คาดลตอบสีหน้าเรียบเฉย ทิ้งตัวลงบนเตียงเอาเฟรินเป็นหมอน



    “แกออกไปนะคาดล อย่าแตะตัวฉัน” ว่าพลางก็ถีบกระโจนตัวเองลงจากเตียงไปหลบหลังคิล



    “อะไรกันอีกพวกนาย” คิลมองซ้ายทีขวาทีเหมือนสำรวจห้อง



    “คาโล แกมันไม่เคยรับผิดชอบ จะทิ้งฉันให้เป็นเมียไอ้หมาเดอะเกรทนั่น”



    “ก็แค่กลบเกลื่อนไปก่อนม่ายงั้นแกคงต้องนอนข้างนอก มานี่มา อย่าทำงอน”



    เมื่อเจ้าตัวยุ่งไม่เดินไปหาซ้ำยังมีแววตาโกรธเกรี้ยว คาโลจึง เอาหมอนอื่นมาหนุนแทน



    “งอนก็งอนไป เอ้อลืมบอกไป อยู่ที่นี่แกต้องอยู่ร่างหมาเท่านั้นเข้าใจไว้ด้วย” แล้วก็หลับตาไป



    “เอางั้นก็ได้เมื่อแกไม่ต้องการฉัน” น้ำตารื้นๆเอ่อขึ้นขอบตาหมาน้อย



    “ฮือ แง แง” เจ้าหมาน้อยกระโจนพรวดเดียววิ่งหนีหายออกจากห้องไม่หันกลับมามองท่ามกลางความตกตะลึงของคาโลและคิล



    “แกไปหาทางซ้ายฉันจะไปหาทางขวา” คาโลออกคำสั่งหลังจากวิ่งหากันมาครึ่งชั่วโมงแล้ว



    “ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที ฉันยังไม่อยากเป็นเมียไอ้หมาบ้านี่ช่วยด้วย” ไม่ว่าจะขืนตัวยังไงก็โดนเจ้าลาบาดอร์

    เดอะเกรทที่สี่ล็อคตัวเอาไว้เตรียมจับผสมพันธุ์



    ในขณะคับขันนั้นเอง เจ้าหมาน้อยก็หมดสติไปปล่อยให้ร่างของตัวเองถูกเจ้าหมาใหญ่จับด้านหลังหันให้กับตัวมันเอง



    “เฟริน เฟริน” ไม่มีเสียงตอบรับ



    “แย่แล้วทางนี้มันทางไป…”



    แล้วบุรุษแห่งคาโนวาลก็วิ่งเร็วปร๋อไปยังบ้านหมาของลาบาดอรืเดอะเกรทที่สี่



    “หยุดนะ เดอะเกรท” คาโลร้องสั่งเสียงดัง เพราะภาพที่เห็นทำให้ตกใจและโกรธจัด



    เจ้าหมาใหญ่อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน ไม่สนใจคำสั่งของเจ้านาย ซ้ำยังค่อยๆเขยิบตัวจะขึ้นคร่อมเจ้าหมาน้อย



    ชักไม่ทันการ เป็นไงเป็นกัน รักษาชีวิต และความบริสุทธิ์ของไอ้บ้านี่ไว้ก่อน



    เปรี้ยง! “เอ๋งงง เอ๋งงง” เจ้าหมาใหญ่ลาบาดอร์ลอยละลิ่วลงไปนอนเลียส่วนที่เจ็บ เนื่องจากลูกเตะมหากาฬของผู้เป็นนาย



    ร่างสูงช้อนร่างอ่อนปวกเปียกของเจ้าหมาน้อยขึ้นมาเขย่า



    เงียบบ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจ… หรือว่าเจ้าหมาน้อยสิ้นลมซะแล้ว



    “ไม่นะ เฟริน แกจะต้องไม่ตาย” ไม่พูดเปล่าอุ้มเฟรินไว้แนบอกวิ่งไปยังห้องสัตวแพทย์หลวง



    “รักษาชีวิตเจ้านี่โดยเร็วที่สุด ยาที่จำเป็นใช้มีเท่าไรใช้ได้เลยไม่ต้องขออนุญาต รักษาชีวิตมันไว้ให้ได้ ถ้ามันไม่ฟื้น พวกนายตายแน่!” น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดุดันของเจ้าชายทำให้เหล่าสัตวแพทย์หลวงลนลานรีบนำตัวหมาน้อยเฟรินเข้าห้อง ICU ทันที…



    ร่างของหมาน้อยถูกนำส่งมาพักฟื้นในห้องของคาโลหลังจากนั้นค่อนคืน…



    “ไม่เป็นอะไรมากแล้ว แค่สลบไปเพราะตกใจสุดขีด ทรงวางพระทัยได้”



    น้ำคำของสัตวแพทย์หลวงทำให้ชายหนุ่มทั้งสองเบาใจลงได้



    “ไปเบิกเงินจากพระคลัง10,000คราวน์ นั่นเป็นรางวัลของท่านออกไปได้ เรียกนางกำนัลเข้ามาหนึ่งคนด้วย”



    แล้วหมอก็ออกไป สักครู่ใหญ่นางกำนัลก็เข้ามา



    “จงไปจัดชุดของเสด็จแม่มาซัก4-5ชุด ด่วน เร็วที่สุด”



    เมื่อนางกำนัลวิ่งออกไปแล้ว คาโลและคิลก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่



    “เกือบไปแล้วไหมล่ะ เพราะงอนนายแท้ๆ เกือบจะได้เป็นเมียไอ้ลาบาดอร์นั่นซะแล้ว”



    “ฉันผิดจริงๆนั่นละ” ว่าพลางร่ายมนตร์ให้เฟรินกลับร่างเป็นหญิงสาวตามเดิม



    “ไม่ให้อยู่ในร่างนี้ก็เห็นจะดูแลลำบาก แล้วแต่นายละคาโล หุหุ” คิลยักไหล่ส่งยิมแห้งๆให้



    ตามเนื้อตัวของเฟรินมีรอยขีดข่วนและฟกช้ำ คาโลสั่งให้คิลคอยควบคุมเวลาที่ตื่นขึ้นมา และสั่งให้นางกำนัลเข้ามาแต่งตัวและทำแผลทั้งหมดให้



    “ฉันต้องไปหาเสด็จพ่อ นายดูแลมันด้วย ถ้าตื่นมาบอกว่าให้รอที่นี่แหละ” สิ้นคำของคาดล ประตูก็ปิดลง



    กลางดึก…



    “อื้อ อื้อ อ๊า อย่า ช่วยด้วย ช่วยด้วย อย่า” คนนอนละเมอเพราะฝันร้ายผุดขึ้นนั่ง ร่างของเธอกลับเป็นหญิงสาวแล้ว จะเหลือร่องรอยต่อสู้ก็แค่ตามตัว เมื่อสำรวจตามตัวเสร็จ คำแรกที่เอ่ยก็คือ



    “คิล คาโลไปไหน” ดวงตามีรอยรื้นเมื่อคนที่อยากพบไม่ได้อยู่ในห้อง



    “หึ แกวิ่งหนีไอ้คาโลมันเอง แล้วทีนี้มาทำเป็นถามหา”



    “มันไปหาพ่อมัน”



    “แล้ว ฉันรอดเงื้อมมือไอ้หมานรกนั่นอะเปล่า”



    “เฉียดฉิวทีเดียว ก่อนที่แกจะโดนไอ้หมาบ้านั่นทำอะไรเอา คาโลก็มาช่วยแก”



    “ไม่รู้มันบ้ามาจากไหนเตะไอ้หมานั่นกระเด็นไปนอนจุกเสียหมา”



    เฟลิโอน่าหัวเราะคิก กับอารมณ์ขันของเพื่อนสนิท



    “แล้วมันไปไหนซะล่ะ”



    “ประชุมลับของคาโนวาลมั้ง” คิลว่าพลางยักไหล่



    “คนตระกูลนี้ประชุมกันเก่งจึงเนอะคิลแกว่าไหม”



    คิลไม่ตอบแต่กลับถามกลับมาว่า



    “ทำไมแกถึงวิ่งไปหาไอ้หมายักษ์นั่น” คนดวงตาสีม่วงทำหน้าเครียด



    “ก้อ ฉันกำลังน้อยใจ เลยอยากไปไหนก็ได้ พอดีไปเจอเอากรงของไอ้บ้านั่น แล้วใครก็ไม่รู้ มันนึกว่าฉันหลุดออกจากรงมา จับฉันเข้าไปหาไอ้หมานรกนั่น จนฉันเกือบตายห่า”



    แววตาของเธอแค้นใจมาก



    “เอาเถอะนะลืมมันเสีย แกนอนซะ คาโลมันสั่งไว้”



    “ไม่ง่วงแล้ว จะไปหามันด้วย”



    “งั้น ไปด้วยสิ” คิลลุกขึ้นยืนพร้อมออกเดินไปพร้อมๆกับเฟลิโอน่า



    “เอาละทำตามแผนที่วางไว้ พรุ่งนี้เช้าเริ่มปฏิบัติงาน” เสียงของคิงบาดรลอยแว่วมากระทบโสต ทำให้หัวขโมยสาวน้อยรู้ทิศทาง



    ทั้งสองยืนรอจนคิงบาโรพูดจบ เสียงคนเดินออกจากห้องมาคนเดียวมาทางนี้ซะด้วย ส่วนเสียงฝีเท้าอื่นไปทางอื่นหมดแล้ว



    “นี่ พวกแกทำไมไม่อยู่ที่ห้อง” เสียงลากยาวๆยานคางอย่างเหนื่อยๆดังขึ้น



    ฉับพลันร่างบางก็วิ่งเข้าไปกอดเช้าที่ตัวคนพูด และเอ่ย



    “ขอบใจที่ช่วย ทีหลังอย่าพูดนะว่าจะทิ้งฉันไปให้ไอ้หมานั่น”



    “อือ ไม่แล้วละ”



    “แต่ปล่อยฉันก่อน ที่ใครจะมาเห็นเข้า ไม่ดี”



    ร่างบางที่สวมกอดหน้าเศร้านิดๆแต่ก็เข้าใจ จึงคลายวงแขนลงอย่างช้าๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×