เเบบทดสอบมากมายมารวมตัวกันเเล้ว

ลำดับตอนที่ #1 : มิตรภาพของเธอกับเพื่อน จะเป็นไปแบบไหน?

บางครั้งการใช้หลักจิตวิทยาก็สามารถช่วยวิเคราะห์ลักษณะนิสัย หรือทำนายไปถึงอนาคต ความน่าจะเป็นของคนเราได้เหมือนกัน ก่อนที่จะเลือก Choice ข้อใดข้อหนึ่งจึงควรตัดสินใจให้แน่ๆ ก่อน ซึ่งคำถามอาจจะดูบ้าๆ ฮาๆ เป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริงๆ ก็เถอะ แต่คำตอบก็ออกมาชัวร์ทุกข้อนะ

1.ถ้าเธอเป็นซินเดอเรลล่าในนิทาน เธอจะให้นางฟ้าเสกอะไรให้เป็นพาหนะ
1. เสกมะระให้เป็นรถลีมูซีน
2. เสกพริกให้เป็นจรวดขี่ได้

2.เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนต้องกลับบ้านเธอเลือกจะทำอะไรตกไว้ให้เจ้าชายเก็บ
1. รองเท้านักเรียนที่เปื้อนขี้หมา
2. รองเท้าฟองน้ำเลี่ยมทอง

3. ถ้าเธอเป็นสโนไวท์ เธอคิดว่าแม่มดจะปลอมตัวเป็นใครมาหาเธอ
1. แม่ของเธอที่เอาถ่านมาทาตัวจนดำปี๋
2. เชียร์-ทิฆัมพรแบบหนัก 190 กก.

4. เมื่อกินแอปเปิลอาบยาพิษตายแล้วเธออยากให้คนแคระทั้ง 7 นำเธอไปไว้ที่
1. โลงผีตายโหงแอร์เย็นฉ่ำ
2. โลงแก้วที่เต็มไปด้วยงูเห่า

*******************************เฉลยข้อ 1****************************************
วิเคราะห์ว่าเธอจะเป็นคนที่มีเพื่อนมากหรือน้อยแค่ไหน

1. ชีวิตเธอมักจะอยู่ท่ามกลางเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆไปไหนเป็นกองทัพเหมือนจะไปออกรบ เรียกว่ากลุ่มของเธอเหยียบย่างชีวิตไปไหนก็เจี๊ยวจ๊าวกันเมื่อนั้นแหละ ซึ่งปริมาณเพื่อนของเธอที่มีเนี่ยจะไม่จำกัดว่าเป็นเพื่อนเก่าหรือเพื่อนใหม่ เพื่อนในโรงเรียนหรือเพื่อนจากกิจกรรมที่ไปทำซ่ากันอยู่นอกรั้ว เผลอๆอาจมีแก๊งที่อยู่ละแวกบ้างเดียวกันอีกต่างหาก ไม่ว่าเธอจะย้ายไปอยู่ที่ไหน เธอก็จะไม่เคยขาดเพื่อน เพราะเธอเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ปรับสภาพตัวเองได้ไวเหมือนกับจิ้งจกน้อยๆและไม่ต้องสงสัยเลยว่าการมี DNA มนุษย์หลากหลายชนิดมาอยู่รวมกันเยอะๆความสนุกสนานก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว รวมทั้งปัญหาเรื่องการขัดแย้งก็อาจจะเกิดขึ้นง่ายไปด้วย ถึงบางครั้งมันจะน่าปวดหัว แต่เธอก็ยังชอบที่จะมีเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆอยู่เมือยเดิมล่ะ

2. ชีวิตเธอมักจะได้เพื่อนขาจรมากกว่าขาประจำ คือสนิทกันเป็นพักๆแล้วพอต้องแยกย้ายไปอยู่กันคนละห้องหรือคนละโรงเรียน ก็อาจจะห่างเหินลืมหน้ากันเป็นวัฏจักรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาชุมนุมศิษย์เก่าหรือบังเอิญไปเจอตามสถานที่ต่างๆเธอก็จะรู้สึกว่าไม่ค่อยซี้ปึ๊กเหมือนเดิม คล้ายจิ๊กซอว์ที่แหว่งไป คือพยายามต่อยังไงก็ไม่ลงล็อก กลุ่มเพื่อนของเธอที่มีในชีวิตประจำวันน่าจะไม่เกิน 5 คน แต่ในจำนวนประชากรกลุ่มที่น้อยๆก็ขอบอกว่ามีคุณภาพนะ เพราะทุกคนจะเข้าใจรู้ใส้รู้พุงกันมากกว่าการเป็เพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ที่อาจแบ่งพรรคพวกซอยปลีกอีกที ถ้าตอนนี้เธอมีเพื่อนที่ดีอยู่แล้ว หากไม่อยากให้ความผูกพันเปลี่ยนไปเมื่อต้องแยกจากกัน เธอต้องทำสัญญาณกันไว้แต่เนิ่นๆแล้วว่าควรจะนัดมาเจอกันบ่อยแค่ไหนนะ

******************************เฉลยข้อ 2******************************
คำถามข้อนี้วิเคราะห์ว่า เพื่อนส่วนใหญ่ของเธอจะมีนิสัยแบบไหน

ถ้าเธอเลือกข้อ ก*** เพื่อนส่วนใหญ่ของเธอที่คบหา จะมีนิสัยค่อนข้างซนๆแสบๆปากจัดจ้านเข้าขั้นปานกลางถึงรุนแรงมาก (ซึ่งนิสัยก็คล้ายๆเธอนั่นแหละ) และที่สำคัญจะชอบเที่ยวบุกตะลุยไปกันไก้ทุกหนทุกแห่งที่มีในแผนที่โลก ชอบทีจะผจญภัยไปด้วยกันมากกว่าจะตัดช่องน้อยไปหนุกหนานอยู่คนเดียว กิจกรรมที่ชอบทำค่อนข้างบ้าๆบอๆ ไร้สาระมีอุดมการณ์เดียวกันคือ เน้นความมันและประหยัดไว้ก่อน ถ้ามีโอกาสจะผลัดเปลี่ยนกันไปค้างบ้านของกันและกัน หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งใกล้และไกล ยิ่งเธอโตขึ้นก็ยิ่งจะใช้ชีวิตโลดโผนกับเพื่อนมากขึ้นเรื่อยๆ บ่อยเลยล่ะที่จะโดนพ่อแม่บ่นหรือเบรคเรื่องการคบหาเพื่อน แต่ก็ไม่ค่อยจะมีผลอะไรกับเธออยู่แล้วล่ะ

ถ้าเธอเลือกข้อ ข*** นิสัยของเพื่อนๆเธอส่วนใหญ่อาจจะเรียกว่าหน้าไหว้หลังหลอกก็พอได้ เพราะจะเหมือนกับว่ามีการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันเล็กๆอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่ต่อหน้าแสดงความยินดีเป็นปลื้มไปด้วยนี่แหละ ลองว่าถ้าใครมีอะไรใหม่ๆเข้ามาอีกหลายคนที่เหลือก็อยากจะมีให้ดีกว่าโดยอัตโนมัติ เป็นความรู้สึกที่เป็นคล้ายๆกันหมดเลยว่ากันไม่ได้ (ซึ่งจะดีมากถ้าการชิงดีชิงเด่นเหล่านั้นรวมเรื่องการเรียนอยู่ด้วยนะ) จะสังเกตว่าบางอารมณ์เธอกับเพื่อนจะเกิดอาการหมั่นไส้กันเอง มีฤดูกาลงอนกันบ่อยครั้งในรอบปี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงจนถึงขึ้นต้องตัดขาดความเป็นเพื่อนกันหรอก เพราะความผูกพันและสิ่งดีๆมันก็มีอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ถึงจะมีผู้ไม่ประสงค์ดีมายุให้แตกกันก็ไม่มีทางสำเร็จได้ง่ายๆ

******************************เฉลยข้อ 3******************************
วิเคราะห์ว่า : ความสำคัญของเธอในกลุ่มเพื่อนจะมีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าเธอเลือกข้อ 1. เพื่อนจะให้ความสำคัญกับเธอมากเลยล่ะ แต่ในเฉพาะในสถานการณ์ที่เธอมีประโยชน์บางอย่างกับกลุ่มเท่านั้นนะ เช่น ถ้าเธอมีสมองที่เปี่ยมล้นด้วยคุณภาพกว่าประชากรในกลุ่ม ช่วงที่มีการสอบเธอจะป็อปปูล่าเป็นที่ต้องการของทุกคนทันที หรือถ้าเธอมี’เป๋าตุงในขณะที่คนอื่น’เป๋าแฟบเพื่อนๆอาจจะมองเธอเป็นนางฟ้าเดินดินเลย ส่วนสถานการณ์อื่นๆก็จะมีการยกความสำคัญไปให้คนอื่นแทน หรือถ้าไม่มีสถานการณ์อะไรก็จะแชร์ความสำคัญให้อยู่ในระดับเท่ากันหมดไปก่อน เป็นไปได้ว่าตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มของเธอ ก็คงจะไม่ตายตัวเพราะแบบนี้นี่แหละ ถ้าบังเอิญเธอถูกยกให้เป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่ตอนนี้ก็อาจจะเป็นแค่ในนาม หรือเพราะเธอมีความรับผิดชอบโดยรวมดีกว่าใครก็ได้

ถ้าเธอเลือกข้อ 2. เพื่อนเธอจะให้ความสำคัญกับเธออย่างท่วมท้น และเป็นเกือบทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันซะด้วย เพราะคุณสมบัติโดยรวมเธอจะมีความกล้าแสดงออก มีความฉลาด หรือมีบุคลิกที่โดดเด่นได้ใจเพื่อนๆมาแต่แรก ความคิดเห็นของเธอจะเป็นเหมือนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ประมาณว่าชูมือข้างเดียวแต่นับเป็น 15 คะแนนอะไรประมาณนั้น เมื่อเธอสรุปแล้วยากที่ใครจะไม่พยักหน้าด้วย หลายๆเหตุการณ์เธออาจต้องเป็นหน่วยกล้าตายเสี่ยงทำอะไรให้เพื่อนดูเป็นตัวอย่างซะก่อน ถ้าสำเร็จพวกท่านเหล่านั้นถึงจะกล้าทำตาม การฝากความหวังของเพื่อนๆนี่แหละอาจทำให้เธอใจฝ่อเป็นบางที ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาจทำให้เธอกลายเป็นคนบ้าอำนาจโดยไม่รู้ตัวก็ได้

******************************เฉลยข้อ 4******************************
วิเคราะห์ว่าเธอมีโอกาสที่จะโดนเพื่อนหักหลังมากน้อยแค่ไหน

ถ้าเธอเลือกข้อ 1. โอกาสที่เพื่อนๆจะทรยศหักหลังเธอเป็นไปได้ยากมาก เพราะเธอกับเพื่อนๆส่วนใหญ่จะคบกันแบบเพื่อนตายมากกว่าเพื่อนกิน เป็นเพื่อนแท้ไว้แสดงน้ำใจมากกว่าเพื่อนเทียมเอาไว้ดูเล่น ยิ่งโดยเฉาพะในเรื่องสำคัญๆในชีวิตที่ต้องอาศัยความไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างแรง เธอจะไม่ต้องเสียเวลาเอาเท้าก่ายหน้าผากระแวงว่าจะโดนเพื่อนทรยศหักหลังเลย ซึ่งแม้แต่ตังเพื่อนๆเองก็คิดกับเธอแบบนั้นเหมือนกัน หรือหากมีเพื่อนบางคนที่ทรยศหักหลังเธอ นั่นก็ต้องหมายถึงเป็นเรื่องที่เข้าตาจนไม่มีทางออกจริงๆซึ่งเขาอาจจะหาทางไถ่โทษอันนั้นกับเธอทันทีที่มีโอกาส สรุปโดยรวมแล้วก็คือ เธอสามารถสบายใจได้เกิน 90% ว่าทุ่มเทความจริงใจไปแล้วจะไม่สูญเปล่าแน่

ถ้าเธอเลือกข้อ 2. โอกาสที่จะมีเพื่อนบางคนจะหักหลังเธอมีอยู่เยอะเลย เพราะธาตุแท้ของเธอเป็นคนหัวอ่อนยอมคนง่ายติดอันดับประเทศซะขนาดนี้อย่างน้อยในเพื่อน 10 คนก็ต้องมีซัก 1-2 คนแหละที่พร้อมจะหักหลังเธอทันทีที่มีโอกาส แม้ตอนที่คบกันใหม่ๆจะแสดงออกว่าจริงใจ โปร่งใสซะเหลือเกิน แต่พอนานๆไปเธอก็จะเห็นว่ามีความร้ายกาจแฝงอยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งอาจจะโดนแบบนี้อยู่บ่อยอย่างไม่น่าเชื่อด้วย จนอาจโดนหลานคนมอง่วาโง่ด้วยซ้ำ แต่การเป็นคนมองโลกในแง่ดีของเธอก็มีข้อดีตรงที่ จะมีคนอยากเข้ามาอยู่ใกล้ๆมากกว่าคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวนะ