ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บท เรไรร่ำร้อง 3
แม้จะทุลักทุเล แต่ในที่สุด ผมก็ขับรถมาถึงบ้านจนได้
บ้านเปิดไฟเอาไว้จนสว่างโร่ สงสัยเรไรคงจะอยู่ในบ้าน ผมเลยกดแตรเพื่อเรียกให้
เธอออกมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้หน่อย แตรส่งเสียงร้องสั้นๆ ผมรอเธออยู่ในรถ
เวลาผ่านไปนานพอควร เธอยังไม่ออกมาเลย สงสัยว่าคงจะไม่ได้ยินเสียงหรือไม่ก็
กำลังทำอะไรง่วนๆอยู่ ผมก็เลยลงจากรถเดินไปเปิดประตูรั้วเอง ขับรถเข้ามาจอดใน
บ้าน เมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้าน ผมไม่เห็นเรไรเลย ไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ผมเปิดตาม
ห้องต่างๆ เพื่อหาเธอ เราต้องรีบคุยกันถึงเรื่องพ่อของเธอโดยด่วน
เมื่อเปิดประตูห้องนอน ผมเห็นเธอนั่งหันหลังให้ กำลังค้นอะไรบางอย่างที่อยู่ในตู้
เก็บเอกสาร ผมเลยทักเธอ
"ทำอะไรอยู่ ?"
เธอตกใจสะดุ้งขึ้นรีบหันขวับมา
"ตกใจหมดเลย มาก็ให้สุ้มให้เสียงหน่อยสิ"
"ก็เพิ่งให้สุ้มให้เสียงเมื่อกี้ไง ว่าแต่ว่า กดแตรเรียกแล้วไม่ได้ยินเหรอ"
"เหรอ ไม่ได้ยินเลย กินข้าวมารึยังล่ะ ?"
"ยังเลย พอเคลียร์เรื่องเสร็จก็รีบกลับมา ว่าแต่ว่าพ่อของเรไรมีเรื่องอะไรเหรอ ?
ติดต่อเท่าไรก็ไม่ได้ซะที โทรไปเท่าไรก็ไม่ยอมรับสาย แกเป็นอะไรรึเปล่า ? "
"มะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยกันเลย เดี๋ยวลงไปทำกับ
ข้าวก่อน กินข้าวเสร็จแล้วค่อยคุยกันดีกว่า"
"เอางั้นก็ได้"
ผมตอบตกลง เราสองคนเดินแยกย้ายกันไป เธอเดินเข้าห้องครัว ส่วนผมเดินไปนั่ง
แหมะที่โซฟา แผ่ร่าง แขนขาเหยียดยาว ไร้เรี่ยวแรง
เหนื่อยจนไม่รู้จะเหนื่อยยังไง
งานการก็เกิดเรื่อง มิหนำซ้ำคนงานยังบาดเจ็บต้องส่งเข้าโรงพยาบาล ขับรถมาก็หวิด
เจออุบัติเหตุ อะไรมันจะย่ำแย่ได้ขนาดนี้ ชีวิต ด้วยเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดทำให้ร่างกาย
ของผมล้าอย่างถึงที่สุด อยากพักผ่อนมากแต่ตากลับแข็งไม่ยอมหลับ เรื่องราวมากมาย
ที่ชวนให้สงสัยยังค้างคาอยู่ในใจ แต่ผมในตอนนี้กลับคิดอะไรไม่ออก
หรือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันจะเกี่ยวข้องกับคำสาปของเจ้าพ่อเสือเขี่ยม ?
เพล้ง !
เสียงแก้วแตกดังมาให้ได้ยิน ผมตะโกนถามเธอ
"เป็นอะไรรึเปล่า ?"
"เปล่า แค่ทำแก้วตกแตกเฉยๆ"
"ระวังๆ หน่อยสิ"
เสียงเธอเงียบไป คงกำลังทำกับข้าว ผมเลยเอนหลังเอาพิงพนักของโซฟา กลับมา
คิดถึงเรื่องคำสาปของเสือเขี่ยมต่อ จากที่ลุงชิดแกเล่าให้ฟัง คนที่โดนคำสาปทุกคน
จะต้องเกิดเภทภัยเกี่ยวกับไฟ รึว่าจะจริงอย่างที่ว่าแก เรื่องราวร้ายแรงเกี่ยวกับไฟ
ถึงได้เกิดขึ้นที่ไซด์ก่อสร้าง
เมื่อวานนี้ ตอนที่สั่งให้ลูกน้องย้ายศาลของเจ้าพ่อเขี่ยม พอย้ายเสร็จ สองคนนั่นก็ไปตัด
เหล็กต่อ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน อยู่ ๆ ไฟก็โหมคลอกทั้งคู่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดนเผาจน
เสื้อผ้าไหม้ ดิ้นพราด ๆ คนงานก็กรูกันเข้ามาช่วยดับไฟ ผมเองก็ต้องรีบบึ่งรถพา
คนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล งานการก็เลยต้องหยุดทำไว้ก่อน
ถ้านั่นเป็นคำสาปของเสือเขี่ยมจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าร้ายแรงเอาเรื่อง ส่งผลต่อ
ขวัญกำลังใจของคนงานเอามาก ๆ
แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักเมื่อเทียบกับปัญหาเรื่องเงิน
ตอนนี้ทางบริษัทไม่ยอมให้เบิกจ่ายเงินค่าวัสดุ แถมเครดิตด็หมดแล้ว บริษัทขายวัสดุ
ไม่ยอมให้เอาของออกมาก่อน การก่อสร้างเลยต้องหยุด ผมพยายามโทรติดต่อพ่อของ
เรไรเพื่อแจ้งเรื่อง เขาก็ไม่ยอมรับสาย โทรหาเสี่ยซ้ง เสี่ยซ้งก็ไม่ยอมรับสายเช่นเดียว
กัน แล้วแบบนี้จะทำงานต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินติดต่อไม่ได้ทั้ง
สองคน กำหนดส่งมอบงานก็กระชั้นเข้ามาทุกที ต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะ
เกิดความเสียหายจากการถูกปรับเพราะทำงานไม่เสร็จตามกำหนด
เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้
"โทรศัพท์ดังแน่ะ มีคนโทรเข้ามา "
กำลังคิดอะไรเครียด ๆ อยู่ จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเรไรก็ดังออกมาจากในห้อง
นอน ผมตะโกนบอกให้เธอรู้ สงสัยว่าคงจะวางลืมเอาไว้ที่นั่น
" รับให้หน่อยสิ มือไม่ว่าง กำลังทอดทอดมันอยู่ "
เธอตะโกนตอบกลับ ผมลุกขึ้น เดินไปที่ห้องนอน หยิบโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่บน
หัวเตียงขึ้นมาหมายจะกดรับสายแต่ทว่าไม่ทัน โทรศัพท์เงียบเสียงไปเสียก่อน หน้า
จอโทรศัพท์โชว์ว่า สายที่ไม่ได้รับ 1 สาย ผมละสายตาจากหน้าจอ มองดูตู้เก็บเอกสาร
มันถูกเปิดอ้าไว้ เอกสารมากมายที่เรไรรื้อออกมาก่อนหน้านี้ ถูกกองไว้นอกตู้ มีทั้ง
บัญชีธนาคาร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ออกมากองอยู่นอกซองเอกสาร
กรรมธรรพ์ประกันชีวิตถูกกางค้างเอาไว้
หาอะไรของเธอ
ผมเดินออกจากห้องนอน มุ่งหน้าไปห้องครัว หาวหวอดแหวดไปตลอดทั้งทาง รู้สึก
มึนหัวและล้ามาก ๆ พอเดินไปถึงห้องครัว เรไรกำลังจัดสำรับข้าวอยู่ กับข้าวที่เธอ
เพิ่งทำเสร็จวางอยู่บนโต๊ะ เมนูวันนี้ก็มี แกงจืดผักกาดหมูสับและทอดมัน
เสียงโทรศัพท์มือถือของเรไรก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง มีคนโทรเข้ามา ผมยื่นให้เธอ
" กินไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวคุยโทรศัพท์ก่อน "
เรไรรับโทรศัพท์จากผมไปพร้อมกับบอกให้ผมทานข้าวไปก่อน เธอเดินออกไปคุย
โทรศัพท์นอกห้องครัว
ผมทิ้งร่างลงบนเก้าอี้ หยิบช้อนมาเกลี่ยข้าวในจาน ใช้มืออีกข้างนวดขมับทั้งสอง
หลับตาลงแล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งนวดคลึกเปลือกตา ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ความมึนหัวค่อยบรรเทาลงได้บ้าง ก่อนจะตักแกงจืดขึ้นมาซด
รสชาดมันแปร่ง ๆ
ผมตักข้าวใส่ปาก บิทอดมันขึ้นมากิน เคี้ยวมันอย่างช้า ๆ แทบจะไม่รู้สึกถึงรสชาด
อีกเช่นกัน ผมกินอย่างไม่รู้สึกถึงความเอร็ดอร่อย
กึก แกรบ ๆ
" ซื้ด ! "
ผมกระตุกพร้อมกับสูดปากเพราะความเจ็บ ในทอดมันที่เพิ่งกินไปเหมือนกับมีอะไร
แข็ง ๆ เล็ก ๆ ผสมอยู่ ผมเคี้ยวโดนมันกรอบแกรบ แถมเจ้าสิ่งนั้นบาดปากผมด้วย
ผมใช้นิ้วชี้ล้วงเข้าไปในปาก ควานเอาเจ้าสิ่งนั้นออกมา
ผลึกแข็งใสชิ้นเล็ก ๆ หลายชิ้น ที่มีคราบเลือดแดง ๆ ติดอยู่
ผมทดลองใช้นิ้วโป้งคลึง ๆ ดู ก็รู้สึกเสียวแปล๊บขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะโดนเจ้าผลึกนั่น
บาดเอา ผมรีบหยิบทิชชู่จากกล่องใส่ทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะทานอาหาร คายเศษออกใส่
ทิชชู่ เช็ดนิ้วที่เปื้อนพร้อมกับห่อให้เป็นก้อน
เรไร เธอใส่อะไรลงไปในทอดมัน ?
ผมลุกขึ้นยืน เดินไปที่ถังขยะเพื่อเอาก้อนทิชชู่ไปทิ้ง แต่จู่ ๆ ภาพทั้งหลายก็ดับหายไป
จากสายตา ผมหน้ามืด เซไปเตะถังขยะล้มกลิ้ง ผมหยุดนิ่ง หายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่
พักหนึ่ง สมองจึงมีเลือดไปเลี้ยงเพียงพอ ภาพต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง
ถังขยะถูกชนล้มไปกับพื้น ขยะข้างในกระเด็นออกมาเกลื่อนกลาดที่พื้น ผมยกมือขึ้น
มาลูบหน้า เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงหน้ามืดได้
พอตั้งสติได้มั่น ผมก็ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืนมองขยะที่กระจายอยู่กับพื้น ความฉงน
สงสัยก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมา เพราะขยะที่เกลื่อนออกมานั้นคือเศษแก้วน้ำที่เรไรทำแตก
หลายชิ้นกับขวดยาสีชาอันหนึ่ง
ผมค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ อีกครั้ง เอื้อมมือไปคว้าขวดยานั่นขึ้นมา พลิกหมุนไปมา
เพื่อหาชื่อยา
Valium 2 mg
ผมเอาขวดยาอันนั้นใส่กระเป๋ากางเกง ตั้งถังขยะให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เก็บกวาดเศษ
แก้วที่กระจายอยู่ตามพื้น พอเสร็จเรียบร้อย ผมก็ล้างมือให้สะอาด เดินไปที่โต๊ะอาหาร
หยิบทอดมันขึ้นมาขยี้
" โอ้ย ! "
ผมอุทานขึ้นพร้อมกับสะบัดมือ ทอดมันชิ้นที่กำลังขยี้หลุดร่วงบนจาน ผมหงายหัวแม่
มือมาดู มันมีจุดแดง ๆ และเลือดเริ่มซึมออกมา
ผมผละออกจากจากโต๊ะทานอาหาร มุ่งหน้าไปหาเรไร เดินไปได้สักหน่อย ผมก็รู้สึก
มึนหัวมาก สิ่งของรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยวผิดเพี้ยน ผมจึงสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกสติให้
กลับมาคืน
เศษแก้ว ผลึกแข็ง ๆ ที่อยู่ในทอดมัน
ยานอนหลับ อาการมึนหัวและวูบ
จิ๊กซอว์ยังเหลืออยู่อีกชิ้น
" ต้องตายเพราะอุบัติเหตุเท่านั้นเหรอค่ะ ถึงจะได้เงินสิบล้าน "
" อืม ... เข้าใจแล้วค่ะ แล้วถ้าเกิดเพิ่มวงเงินกรมธรรพ์จะได้สินไหมทดแทนเพิ่มขึ้น
ไหมคะ ? "
" งั้นเหรอคะ งั้นสะดวกเมื่อไรก็นัดมาอีกทีนะคะ "
" ค่ะ "
" ได้ค่ะ "
" งั้นเดี๋ยวเจอกันอีกทีนะคะ "
" ค่า หวัดดี ค่า "
พอเรไรคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็รีบถอยหลังให้ห่างออกมา ยืนรอให้เธอเดินออกมาเจอ
เศษแก้ว ยานอนหลับ ประกันชีวิต
ภาพปรากฎขึ้นมาแล้ว
บ้านเปิดไฟเอาไว้จนสว่างโร่ สงสัยเรไรคงจะอยู่ในบ้าน ผมเลยกดแตรเพื่อเรียกให้
เธอออกมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้หน่อย แตรส่งเสียงร้องสั้นๆ ผมรอเธออยู่ในรถ
เวลาผ่านไปนานพอควร เธอยังไม่ออกมาเลย สงสัยว่าคงจะไม่ได้ยินเสียงหรือไม่ก็
กำลังทำอะไรง่วนๆอยู่ ผมก็เลยลงจากรถเดินไปเปิดประตูรั้วเอง ขับรถเข้ามาจอดใน
บ้าน เมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้าน ผมไม่เห็นเรไรเลย ไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ผมเปิดตาม
ห้องต่างๆ เพื่อหาเธอ เราต้องรีบคุยกันถึงเรื่องพ่อของเธอโดยด่วน
เมื่อเปิดประตูห้องนอน ผมเห็นเธอนั่งหันหลังให้ กำลังค้นอะไรบางอย่างที่อยู่ในตู้
เก็บเอกสาร ผมเลยทักเธอ
"ทำอะไรอยู่ ?"
เธอตกใจสะดุ้งขึ้นรีบหันขวับมา
"ตกใจหมดเลย มาก็ให้สุ้มให้เสียงหน่อยสิ"
"ก็เพิ่งให้สุ้มให้เสียงเมื่อกี้ไง ว่าแต่ว่า กดแตรเรียกแล้วไม่ได้ยินเหรอ"
"เหรอ ไม่ได้ยินเลย กินข้าวมารึยังล่ะ ?"
"ยังเลย พอเคลียร์เรื่องเสร็จก็รีบกลับมา ว่าแต่ว่าพ่อของเรไรมีเรื่องอะไรเหรอ ?
ติดต่อเท่าไรก็ไม่ได้ซะที โทรไปเท่าไรก็ไม่ยอมรับสาย แกเป็นอะไรรึเปล่า ? "
"มะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยกันเลย เดี๋ยวลงไปทำกับ
ข้าวก่อน กินข้าวเสร็จแล้วค่อยคุยกันดีกว่า"
"เอางั้นก็ได้"
ผมตอบตกลง เราสองคนเดินแยกย้ายกันไป เธอเดินเข้าห้องครัว ส่วนผมเดินไปนั่ง
แหมะที่โซฟา แผ่ร่าง แขนขาเหยียดยาว ไร้เรี่ยวแรง
เหนื่อยจนไม่รู้จะเหนื่อยยังไง
งานการก็เกิดเรื่อง มิหนำซ้ำคนงานยังบาดเจ็บต้องส่งเข้าโรงพยาบาล ขับรถมาก็หวิด
เจออุบัติเหตุ อะไรมันจะย่ำแย่ได้ขนาดนี้ ชีวิต ด้วยเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดทำให้ร่างกาย
ของผมล้าอย่างถึงที่สุด อยากพักผ่อนมากแต่ตากลับแข็งไม่ยอมหลับ เรื่องราวมากมาย
ที่ชวนให้สงสัยยังค้างคาอยู่ในใจ แต่ผมในตอนนี้กลับคิดอะไรไม่ออก
หรือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันจะเกี่ยวข้องกับคำสาปของเจ้าพ่อเสือเขี่ยม ?
เพล้ง !
เสียงแก้วแตกดังมาให้ได้ยิน ผมตะโกนถามเธอ
"เป็นอะไรรึเปล่า ?"
"เปล่า แค่ทำแก้วตกแตกเฉยๆ"
"ระวังๆ หน่อยสิ"
เสียงเธอเงียบไป คงกำลังทำกับข้าว ผมเลยเอนหลังเอาพิงพนักของโซฟา กลับมา
คิดถึงเรื่องคำสาปของเสือเขี่ยมต่อ จากที่ลุงชิดแกเล่าให้ฟัง คนที่โดนคำสาปทุกคน
จะต้องเกิดเภทภัยเกี่ยวกับไฟ รึว่าจะจริงอย่างที่ว่าแก เรื่องราวร้ายแรงเกี่ยวกับไฟ
ถึงได้เกิดขึ้นที่ไซด์ก่อสร้าง
เมื่อวานนี้ ตอนที่สั่งให้ลูกน้องย้ายศาลของเจ้าพ่อเขี่ยม พอย้ายเสร็จ สองคนนั่นก็ไปตัด
เหล็กต่อ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน อยู่ ๆ ไฟก็โหมคลอกทั้งคู่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดนเผาจน
เสื้อผ้าไหม้ ดิ้นพราด ๆ คนงานก็กรูกันเข้ามาช่วยดับไฟ ผมเองก็ต้องรีบบึ่งรถพา
คนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล งานการก็เลยต้องหยุดทำไว้ก่อน
ถ้านั่นเป็นคำสาปของเสือเขี่ยมจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าร้ายแรงเอาเรื่อง ส่งผลต่อ
ขวัญกำลังใจของคนงานเอามาก ๆ
แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักเมื่อเทียบกับปัญหาเรื่องเงิน
ตอนนี้ทางบริษัทไม่ยอมให้เบิกจ่ายเงินค่าวัสดุ แถมเครดิตด็หมดแล้ว บริษัทขายวัสดุ
ไม่ยอมให้เอาของออกมาก่อน การก่อสร้างเลยต้องหยุด ผมพยายามโทรติดต่อพ่อของ
เรไรเพื่อแจ้งเรื่อง เขาก็ไม่ยอมรับสาย โทรหาเสี่ยซ้ง เสี่ยซ้งก็ไม่ยอมรับสายเช่นเดียว
กัน แล้วแบบนี้จะทำงานต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินติดต่อไม่ได้ทั้ง
สองคน กำหนดส่งมอบงานก็กระชั้นเข้ามาทุกที ต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะ
เกิดความเสียหายจากการถูกปรับเพราะทำงานไม่เสร็จตามกำหนด
เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้
"โทรศัพท์ดังแน่ะ มีคนโทรเข้ามา "
กำลังคิดอะไรเครียด ๆ อยู่ จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเรไรก็ดังออกมาจากในห้อง
นอน ผมตะโกนบอกให้เธอรู้ สงสัยว่าคงจะวางลืมเอาไว้ที่นั่น
" รับให้หน่อยสิ มือไม่ว่าง กำลังทอดทอดมันอยู่ "
เธอตะโกนตอบกลับ ผมลุกขึ้น เดินไปที่ห้องนอน หยิบโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่บน
หัวเตียงขึ้นมาหมายจะกดรับสายแต่ทว่าไม่ทัน โทรศัพท์เงียบเสียงไปเสียก่อน หน้า
จอโทรศัพท์โชว์ว่า สายที่ไม่ได้รับ 1 สาย ผมละสายตาจากหน้าจอ มองดูตู้เก็บเอกสาร
มันถูกเปิดอ้าไว้ เอกสารมากมายที่เรไรรื้อออกมาก่อนหน้านี้ ถูกกองไว้นอกตู้ มีทั้ง
บัญชีธนาคาร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ออกมากองอยู่นอกซองเอกสาร
กรรมธรรพ์ประกันชีวิตถูกกางค้างเอาไว้
หาอะไรของเธอ
ผมเดินออกจากห้องนอน มุ่งหน้าไปห้องครัว หาวหวอดแหวดไปตลอดทั้งทาง รู้สึก
มึนหัวและล้ามาก ๆ พอเดินไปถึงห้องครัว เรไรกำลังจัดสำรับข้าวอยู่ กับข้าวที่เธอ
เพิ่งทำเสร็จวางอยู่บนโต๊ะ เมนูวันนี้ก็มี แกงจืดผักกาดหมูสับและทอดมัน
เสียงโทรศัพท์มือถือของเรไรก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง มีคนโทรเข้ามา ผมยื่นให้เธอ
" กินไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวคุยโทรศัพท์ก่อน "
เรไรรับโทรศัพท์จากผมไปพร้อมกับบอกให้ผมทานข้าวไปก่อน เธอเดินออกไปคุย
โทรศัพท์นอกห้องครัว
ผมทิ้งร่างลงบนเก้าอี้ หยิบช้อนมาเกลี่ยข้าวในจาน ใช้มืออีกข้างนวดขมับทั้งสอง
หลับตาลงแล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งนวดคลึกเปลือกตา ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ความมึนหัวค่อยบรรเทาลงได้บ้าง ก่อนจะตักแกงจืดขึ้นมาซด
รสชาดมันแปร่ง ๆ
ผมตักข้าวใส่ปาก บิทอดมันขึ้นมากิน เคี้ยวมันอย่างช้า ๆ แทบจะไม่รู้สึกถึงรสชาด
อีกเช่นกัน ผมกินอย่างไม่รู้สึกถึงความเอร็ดอร่อย
กึก แกรบ ๆ
" ซื้ด ! "
ผมกระตุกพร้อมกับสูดปากเพราะความเจ็บ ในทอดมันที่เพิ่งกินไปเหมือนกับมีอะไร
แข็ง ๆ เล็ก ๆ ผสมอยู่ ผมเคี้ยวโดนมันกรอบแกรบ แถมเจ้าสิ่งนั้นบาดปากผมด้วย
ผมใช้นิ้วชี้ล้วงเข้าไปในปาก ควานเอาเจ้าสิ่งนั้นออกมา
ผลึกแข็งใสชิ้นเล็ก ๆ หลายชิ้น ที่มีคราบเลือดแดง ๆ ติดอยู่
ผมทดลองใช้นิ้วโป้งคลึง ๆ ดู ก็รู้สึกเสียวแปล๊บขึ้นมา ดูเหมือนว่าจะโดนเจ้าผลึกนั่น
บาดเอา ผมรีบหยิบทิชชู่จากกล่องใส่ทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะทานอาหาร คายเศษออกใส่
ทิชชู่ เช็ดนิ้วที่เปื้อนพร้อมกับห่อให้เป็นก้อน
เรไร เธอใส่อะไรลงไปในทอดมัน ?
ผมลุกขึ้นยืน เดินไปที่ถังขยะเพื่อเอาก้อนทิชชู่ไปทิ้ง แต่จู่ ๆ ภาพทั้งหลายก็ดับหายไป
จากสายตา ผมหน้ามืด เซไปเตะถังขยะล้มกลิ้ง ผมหยุดนิ่ง หายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่
พักหนึ่ง สมองจึงมีเลือดไปเลี้ยงเพียงพอ ภาพต่าง ๆ ค่อย ๆ ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง
ถังขยะถูกชนล้มไปกับพื้น ขยะข้างในกระเด็นออกมาเกลื่อนกลาดที่พื้น ผมยกมือขึ้น
มาลูบหน้า เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงหน้ามืดได้
พอตั้งสติได้มั่น ผมก็ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืนมองขยะที่กระจายอยู่กับพื้น ความฉงน
สงสัยก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมา เพราะขยะที่เกลื่อนออกมานั้นคือเศษแก้วน้ำที่เรไรทำแตก
หลายชิ้นกับขวดยาสีชาอันหนึ่ง
ผมค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ อีกครั้ง เอื้อมมือไปคว้าขวดยานั่นขึ้นมา พลิกหมุนไปมา
เพื่อหาชื่อยา
Valium 2 mg
ผมเอาขวดยาอันนั้นใส่กระเป๋ากางเกง ตั้งถังขยะให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เก็บกวาดเศษ
แก้วที่กระจายอยู่ตามพื้น พอเสร็จเรียบร้อย ผมก็ล้างมือให้สะอาด เดินไปที่โต๊ะอาหาร
หยิบทอดมันขึ้นมาขยี้
" โอ้ย ! "
ผมอุทานขึ้นพร้อมกับสะบัดมือ ทอดมันชิ้นที่กำลังขยี้หลุดร่วงบนจาน ผมหงายหัวแม่
มือมาดู มันมีจุดแดง ๆ และเลือดเริ่มซึมออกมา
ผมผละออกจากจากโต๊ะทานอาหาร มุ่งหน้าไปหาเรไร เดินไปได้สักหน่อย ผมก็รู้สึก
มึนหัวมาก สิ่งของรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยวผิดเพี้ยน ผมจึงสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกสติให้
กลับมาคืน
เศษแก้ว ผลึกแข็ง ๆ ที่อยู่ในทอดมัน
ยานอนหลับ อาการมึนหัวและวูบ
จิ๊กซอว์ยังเหลืออยู่อีกชิ้น
" ต้องตายเพราะอุบัติเหตุเท่านั้นเหรอค่ะ ถึงจะได้เงินสิบล้าน "
" อืม ... เข้าใจแล้วค่ะ แล้วถ้าเกิดเพิ่มวงเงินกรมธรรพ์จะได้สินไหมทดแทนเพิ่มขึ้น
ไหมคะ ? "
" งั้นเหรอคะ งั้นสะดวกเมื่อไรก็นัดมาอีกทีนะคะ "
" ค่ะ "
" ได้ค่ะ "
" งั้นเดี๋ยวเจอกันอีกทีนะคะ "
" ค่า หวัดดี ค่า "
พอเรไรคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็รีบถอยหลังให้ห่างออกมา ยืนรอให้เธอเดินออกมาเจอ
เศษแก้ว ยานอนหลับ ประกันชีวิต
ภาพปรากฎขึ้นมาแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น