ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นี่...จะบอกให้นะ ผมอ่ะเป็นเมะ (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ ๑ ถูกผู้ชายสารภาพรัก!!

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 62



    ตอนที่ ๑ เมื่อผมถูกสารภาพรัก

     


      “ผมชอบพี่ครับ!!” ร่างโปร่งผงะทันทีที่มีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักยื่นซองจดหมายสีชมพูหวานแหววมาตรงหน้า พวงแก้มขาวนวลของเด็กหนุ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ ดวงตากลมโตสุกใสสีน้ำตาลเข้มเหมือนลูกกวางตัวน้อยๆ เหลือบขึ้นมองหน้าเขา จนเกือบเผลอใจตกลงรับคำสารภาพรักนั้นไปแล้ว ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า…….


     
                  ไอ้หมอนี่เป็นผู้ชาย!!

     


    นายกานต์ กริตยสานนท์ บุคคลผู้ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ติดอันดับหนึ่งในสิบของมหาวิทยาลัย ด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร บวกกับฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดี ทำให้คว้าตำแหน่ง  ‘หนุ่มวายร้ายที่สาวๆอยากควงมากที่สุด’  มาจนได้ และด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องชื่อนี่เองทำให้มีสาวๆมากหน้าหลายตารุมล้อมมาสารภาพรักกับเขา และนายกานต์เองก็ไม่เคยปฏิเสธคนที่เข้ามาตามประสาคนเจ้าชู้

     


    แต่วันนี้มันกลับผิดคาด แทนที่จะเป็นสาวหน้าตาน่ารักอกโตมาสารภาพหากกลับกลายเป็นผู้ชายมาสารภาพรัก!!  แถมยังมาสารภาพกันกลางคณะทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองมากันตรึมพลางซุบซิบกันเสียยกใหญ่

     


    ขอปฏิเสธ!!” เขาบอกปัดคนตรงหน้าเสียงดังฟังชัด เดินฮึดฮัดๆ เข้าคณะไปโดยไม่หันกลับมามองเด็กหนุ่มน่ารักที่ถูกทิ้งเบื้องหลัง  

     

    วันนี้ต้องโดนล้อแน่ๆเลยว้อยยยย!!!  เขาคิดอย่างหงุดหงิด เพราะหางตาดันเหลือบไปเห็นหลังเพื่อนในกลุ่มวิ่งเข้าคณะไปแวบๆ

     

    วู้ๆ มาแล้วเว้ยเสียงผิวปากวี้ดวิ้วของบรรดาเพื่อนตัวแสบดังขึ้นทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้อง เขาเดินฉึบๆ ไม่สนใจเสียงแซวของเพื่อน ปากระเป๋าลงบนโต๊ะแล็คเชอร์ตัวสุดท้ายริมหน้าต่างของห้องเรียนแล้วนั่งฟุ่บทันที บรรดาเพื่อนทโมนทั้งหลายรีบกรูรุมกันเข้ามา


    อะไรเขาชักสีหน้าเซ็งๆ ใส่แล้วหันหนีสายตาอยากรู้อยากเห็นที่รุมล้อม


    ได้ข่าวว่าถูกเด็กผู้ชายสารภาพรักเสียงทะเล้นตามนิสัยเอ่ยขึ้นกลั้วหัวเราะ ดวงตาสีดำเข้มมีประกายขบขัน อย่างอารมณ์ดีทันทีที่เห็นคนตรงหน้าทำหน้าเซ็งสุดขีด

    เออเขาบอกเสียงเรียบๆ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปให้เพื่อนคนอื่น โทษฐานที่พวกมันยังไม่เลิกขำ


    แล้วนี่ใครบอกพวกมึงเนี่ยถามเสียงฮึดฮัดทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นตัวต้นที่คาบข่าวมาบอก


    นี่เลย ไอ้คุณทิวาเลยครับบรรดาเพื่อนทั้งหลายที่รุมล้อมพร้อมใจกันชี้ไปที่นายทิวา จันทวัฒนะ หรือทิน เด็กหนุ่มสัญชาติจีนแท้ ตาเล็กหยีเป็นเส้นเดียวควบคู่มากับผิวที่เหลืองจนนึกว่าเป็นดีซ่าน ผู้ถือคติที่ว่าเรื่องของเขาเราต้องเผือก


    เมื่อกี้เห็นหลังไวๆก็กะแล้วว่าต้องเป็นมึงเขาพูดก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย


    ฮ่าๆ กูอยู่ดูไม่จบหรอกมีมารยาทพอเด็กหนุ่มหน้าตี๋พูดพลางหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดี พลางเอามือเท้าโต๊ะเล็คเชอร์ก่อนจะถามต่อ


    แล้วตกลงรับรักป่ะ? ฝ่ามือแข็งตบผัวะแทบจะเป็นจังหวะเดียวกับคำถาม คนถูกตีหัวจนหน้าทิ่มได้แต่ทำปากบู้เล็กๆ ก่อนจะลูบหัวตัวเองป้อยๆ  


    รับรักกับผีน่ะสิ กูไม่ใช่เกย์เว้ยย!!” เขาว่าเสียงดังฟังชัด หันไปหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะทันทีที่เห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง เพื่อนที่รุมอยู่เริ่มเดินกลับที่ตัวเองอย่างรวดเร็วเพราะเกรงในความโหดของอาจารย์ประจำวิชา 


    ให้มันจริงเหอะระวังนะเกลียดอย่างไหนก็ได้อย่างนั้นชายหนุ่มกระซิบเสียงนุ่มก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นสายตาอาฆาต มือคว้าเอาหนังสือมาบังหัวตัวเองจนมิด


     “ห้ามตบ แผลเก่ากูยังไม่หายนะครับ!


     กานต์ทำเป็นไม่สนใจไอ้คนที่จงใจนั่งห่างจากเขาไปโต๊ะหนึ่งเพราะกลัวโดนเขาเพ่นกบาล ก่อนหันมาจ้องกระดานไวน์บอร์ดอย่างเบื่อๆ ปากก็หาววอดไปพลาง นี่ถ้าไม่ติดว่าเทอมนี้เขาโดดเรียนคาบนี้ครบสามครั้งแล้วล่ะก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะมาเข้าเรียน แถมวิชานี้อาจารย์ก็เคี่ยวมากจนเขาฝากเพื่อนเช็คชื่อไม่ได้อีก....ให้ตายสิ 

     


    เฮ้อออว่าแล้วเซ็ง


                 ......

     

    วันนี้ไปกินข้าวไหนดีเด็กหนุ่มหน้าติดหวานเอ่ยถามเสียงใส มือขาวล้วงหยิบกระจกบานพับอันเล็กขึ้นมาส่องตรวจสอบความเรียบร้อยของใบหน้าและทรงผม


    “ไอ้ไนท์ เมิงจะส่องอะไรทั้งวันห้ะ นี่กูชักสงสัยแล้วสิ ว่าเมิงเป็นผู้ชายหรือเป็นตุ๊ด” โจ อริยาพัตน์ พงศ์เพ็ญ หนุ่มขี้เล่นประจำกลุ่มพูดติดตลก


    ไนท์อมยิ้มขำขันน้อยๆเพราะรู้นิสัยคนตรงหน้าดีว่าชอบแหย่เล่น ทว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้พูดโต้ตอบอะไรเสียงหนึ่งก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน


    หึ! นี่มึงไม่รู้จริงๆเหรอวะไอ้โจว่ามันสำอางไปทำไมชายร่างสูงแค่นหัวเราะ หากแต่คนถูกพาดพิงกลับไม่ขำด้วย ร่างเพรียวผุดลุกขึ้นยืนและเผลอกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ก่อนจะรวบข้าวของกวาดใส่กระเป๋าเป้สีน้ำตาลและเดินออกไปนอกห้องทันที


    “เต้ย ทำไมมึงขอบไปแหย่ให้ไอ้ไนท์มันโกรธจังวะ!?” ทินปรามอย่างเบื่อหน่าย


    “หึ!” ร่างสูงเพียงแค่นยิ้มเป็นคำตอบก่อนจะเดินหนีออกไปจากห้อง


    “เออ...เอาเข้าไป เดินหนีกันเข้าไป แล้วอย่างนี้จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยวะเนี่ย แม่ง!!” หนุ่มหน้าตี๋ระบายอารมณ์อย่างเหลืออด


    “พวกมันเพิ่งมาทะเลาะกันตอนต้นปีเองใช่ป่าววะ กูจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วที่เข้ามาเรียนใหม่ๆมันยังญาติดีกันอยู่เลย แถมสนิทกันจนพวกมึงก็ล้อมันอยู่บ่อยๆว่าพวกมันเป็นผัวเมียกัน” กานต์เอ่ยเสียงถาม เขาจำได้ว่าปีที่แล้วว่าพวกมันสนิทกันมาก เรียกได้ว่า ที่ไหนมีเต้ย ที่นั่นมีไนท์


    “เออ...กูจำได้ กูล้อพวกมันทุกวันแหละ ตอนนั้นพวกมันก็ชอบด่ากูกลับนะ แต่ก็แค่ด่าแบบเล่นๆ” หนุ่มขี้เล่นเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาสีดำผลุบต่ำอย่างครุ่นคิด “ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเกินอะไรขึ้นกันแน่วะ”


    “มึงอยากรู้มึงก็ไปถามสิวะไอ้โจ” ทินเปรยขึ้นมาเบาๆ


    “แล้วทำไมเมิงไม่ถามมันเองวะ มึงสนิทกับพวกมันที่สุดนี่หว่า“


    หนุ่มหน้าตี๋ส่ายหัวน้อยๆ “กูเคยไปถามมาไอ้ไนท์มาครั้งนึงแล้ว แต่มันก็เลี่ยง เหมือนไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ถามไอ้เต้ยมันก็บอกว่าไม่มีอะไร”


    “ขนาดมึงเป็นคนที่พวกมันสนิทที่สุดมันยังไม่บอกมึงเลย แล้วให้กูไปถามมันจะยอมบอกกูเหรอวะ” ทั้งคู่ถอนหายใจออกมาพร้อมกันก่อนที่โจจะเปรยขึ้นมาอีกรอบ


    “ตกลงพวกมันเป็นอะไรกันแน่วะ”



              …….

     


    หน้ารายการอาหารในมือถูกพลิกไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเพื่อนอีกสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะเริ่มทำหน้าตาไม่สู้ดีนัก แกล้งเคาะนิ้วเป็นจังหวะกลองลงบนโต๊ะหมายจะเรียกสติไอ้คนเหม่อลอยที่นั่งตรงข้ามให้วิญญาณกลับร่างก็แล้ว ลองเป่าข้างหูก็แล้ว แต่ก็ยังไร้ผลเหมือนคนตรงข้ามสติลอยออกจากร่างไปไกลจนกู่ไม่กลับ


    ฮะแฮ่มไอ้คุณชายกานต์ครับหนุ่มหน้าตี๋เริ่มทนไม่ไหวจึงส่งเสียงกระแอมเรียกสติไอ้คนที่นั่งพลิกเมนูเล่นข้างตัว แต่ดูท่าสติยังไม่กลับเข้าร่าง เป็นผลให้ต้องตะโกนสุดเสียงใส่หูคนสติลอยละลิ่วข้างตัวอย่างเสียไม่ได้


    ไอ้คุณชายกานต์ครับ!! มึงจะสั่งได้รึยังครับ!!ได้ผล คนที่ราวกับวิญญาณออกจากร่างสะดุ้งโหยงสุดตัวขึ้นมาทันที เอามือมาป้องหูที่ดูท่าจะอื้อไปชั่วขณะก่อนจะสบถออกมาอย่างขัดใจ


    เล่นเหี้ยไรวะ!


    มึงน่ะสั่งสักที.. สาดด เห็นไหมว่าน้องเขายืนรอรับออเดอร์นานแล้วคนต้นเหตุทำเขาหูอื้อพยักพเยิดให้หันไปมองพนักงานสาวหน้าตาน่ารักที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ข้างโต๊ะ กานต์ส่งยิ้มน่ารักให้พนักงานสาวเป็นเชิงขอโทษเป็นผลให้พนักงานหน้าตาน่ารักแก้มขึ้นสีเลือดจางๆด้วยความเคอะเขิน


    เอ่องั้นพี่เอาสปาเก็ตตี้ไก่ผัดพริกไทดำแล้วกันครับ ขอโทษนะครับที่ทำให้เสียเวลาเขากวาดสายตามองเมนูลวกๆ สั่งอาหารก่อนจะยื่นเมนูส่งคืนให้กับพนักงานสาวคนเดิม พนักงานสาวเพียงส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรพลางส่งยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกจากโต๊ะเพื่อนำออเดอร์ไปส่งให้กับคนครัว สาวร่างเล็กแอบเหลือบมองทางโต๊ะที่เพิ่งรับออเดอร์มาด้วยสายตามีความหมาย โต๊ะที่เธอเพิ่งไปยื้อแย่งรับออเดอร์มาจากเพื่อนพนักงานคนอื่น ด้วยเพราะรูปร่างหน้าตาของหนุ่มแต่ละคนที่ราวกับกลุ่มเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน


    ไอ้สัดกานต์ ม่ออีกแล้วนะมึงหนุ่มขี้เล่นพูดติดหัวเราะ


    กูไปม่อใครตอนไหนฟระ!?” เขาได้รับคำตอบเป็นการบุ้ยปากไปทางพนักงานสาวหน้าตาน่ารักที่เพิ่งมารับออเดอร์โต๊ะเขาไป หนุ่มร่างโปร่งทำหน้างุนงงก่อนจะเลิกคิ้วเป็นคำถามอย่างไม่เข้าใจ


    ไอ้โจมันหมายถึงว่ามึงไปให้ความหวังน้องพนักงานคนนั้นไง” ทินตอบคำถามแทน


    แล้วกูไปให้ความหวังยังไงล่ะเขาถามต่ออย่างสงสัย


    โอ๊ยยหล่อซะเปล่าแต่เสือกโง่ชิบหายโจส่ายหัวอย่างเซ็งบรมกับไอ้คนตรงข้าม


    ก็รอยยิ้มมึงไง แจกยิ้มให้เค้าไปทั่วยังกะแจกใบปลิวว่าแล้วก็แกล้งเอื้อมมือไปดีดหน้าผากคนตรงข้ามที่เริ่มทำหน้างงซะเต็มแรงจนคนโดนร้องเสียงระงม


    สัด! เจ็บนะ..เล่นเหี้ยๆว่าแล้วเอามือลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ

     

    แสบชิบหายย!!


    จะว่าไปไม่ได้ยินเสียงไอ้ไนท์กับไอ้เต้ยเลยว่ะหนุ่มหน้าตี๋เปรยขึ้นลอยๆ เสตาไปมองคนตรงข้ามที่เสียบหูฟังไว้ในหู มือก็กดซัมซุงกาแล็กซี่โน๊ตสองของตัวเองไปพลาง ก่อนจะเหลือบไปมองอีกคนที่ทำหน้าบูดเอามือเท้าคางหันไปมองนอกร้านผ่านกระจกบานใส


    ไอ้คู่นี้ท่าจะคืนดีกันยากว่ะทินหันกลับมามองเพื่อนอีกสองคน ทั้งสองได้แต่ถอนหายใจเบาๆกับอาการต่างฝ่ายต่างเมินของไอ้เพื่อนสองตัว


    ว่าแต่เมื่อกี้มึงเหม่อไรวะคนตรงข้ามถามด้วยเขาน้ำเสียงปนสงสัย กานต์สะดุ้งเฮือกก่อนจะอึกอักไม่ยอมตอบคำถาม

     

    ก็จะให้เขาตอบไปได้ไงเล่าว่านึกถึงไอ้เด็กคนที่มาสารภาพรักกับเขาน่ะ!!

     

    นั่นแน่ลับลมคมในนะมึง ให้กูเดานะอืมมม…” หนุ่มขี้เล่นเดาะลิ้น แอบเหลือบมองท่าทีเลิ่กลั่กของเพื่อนไปพลาง


     มึงนึกถึงคนที่สารภาพรักกับมึงใช่ม้าา…” ว่าแล้วก็หลุดขำพรืดออกมากับอาการหน้าแดงระเรื่อที่ถูกจี้ใจดำของคนตรงข้าม


    มันก็ไม่แปลกหรอกว่ะที่ไอ้เชี่ยกานต์มันจะใจเต้น ก็น้องเขาน่ารักซะขนาดนั้นหนุ่มหน้าตี๋เอ่ยยิ้มๆ ตาเป็นประกายกับอากัปกริยาคนข้างตัวที่นานๆจะได้เห็นสักที


    กูยังไม่ได้บอกสักคำว่ากูคิดถึงเรื่องเมื่อเช้า!” กานต์ตะคอกเสียงดังเถียงข้างๆคูๆทั้งที่สีหน้าแสดงความจริงออกมาจนหมด จนคนนั่งข้างๆอดไม่ได้ที่จะตบกะโหลกไปเต็มเหนี่ยว


    อย่ามาสตอร์หน้ามึงออกซะขนาดนั้นว่าแต่ มึงหวั่นไหวกับผู้ชายเหรอวะ!? มึงเชี่ยวผู้หญิงจริงป่าวเนี่ยยยยหนุ่มหน้าตี๋ยิงคำถามใส่กานต์ที่เอามือคลำหัวตัวเองป้อยๆ ก่อนเงื้อมือตบหัวเจ้าของคำถามคืนดังป๊าบใหญ่เป็นคำตอบแทน


    กานต์นี่มึงจะเป็นเกย์เหรอวะอยู่ดีๆคนนั่งหัวโต๊ะที่เงียบมานานก็เอ่ยขึ้นมา สีหน้าจริงจังของเต้ยทำเอาเขารีบแก้ตัวเป็นพัลวัน


    เอาเชี่ยไรมาพูด!!”


    ก็ดีกูยังไม่อยากมีเพื่อนผิดเพศเพิ่มพูดจบก็หันไปจ้องกระจกบานใสเหมือนเดิม ทิ้งให้เพื่อนที่เหลือมีเครื่องหมายเควชชั่นมาร์กลอยมาเต็มหัว


    อ้อ! ยกเว้นคนนึง รายนั้นนอกจากจะใส่หูฟังแล้วยังกดเล่นเกมยิกๆไม่ได้สนใจโลกภายนอกเล้ยยยยย


    ว่าแต่ตกลงมึงกำลังนึกถึงน้องคนเมื่อเช้าใช่ป่าวหลังจากที่เลิกมึนกับประโยคบอกเล่าลอยๆเมื่อครู่ หนุ่มหน้าตี๋ก็หันขวับกลับมาถามคำถามเดิมที่ยังไม่ได้รับคำตอบ


    กานต์ยักไหล่ไหวๆเอามือเกาต้นคอตัวเองเล่นๆก่อนจะตอบกลับไปส่งๆ เสียงอ่อย เออก็นิดหน่อย…”


    จริงเหรอวะเป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่มึงคิดถึงคนอื่นนอกจากตัวเองโอ๊ยย!!พูดยังไม่ทันจบดีก็ได้ฝ่ามือหนักๆฟาดผัวะเข้าที่หัว โจยกมือขึ้นลูบๆผมสีน้ำตาลทองของตัวเองก่อนจะรัวยิงคำถามใส่เด็กหนุ่มหน้าตี๋ที่กำลังอมยิ้มน้อยๆอย่างอารมณ์ดี


    แล้วน่ารักมากป่ะวะสูงกว่ารึเตี้ยกว่าไอ้กานต์มันหน้าตาเป็นไงอ่ะ


    กูเห็นแวบหนึ่ง สูงพอๆกับไอ้กานต์มันเนี่ยทินตอบพลางทำท่าคิด


    กานต์ก้มลงดูดเป๊ปซี่ตรงหน้าเสียงดัง ยกหน้าที่ตอบคำถามทั้งหลายไปให้ไอ้สปายชอบเผือกหมายเลขหนึ่งประจำกลุ่ม แน่นอนว่าหมายเลขสองหนีไม่พ้นไอ้คนผมทองที่กำลังทำตาวาวระยับรอคำตอบ


    หน้าตาน่ารักนะ หน้าตาเหมือน…” พูดยังไม่ทันจบเสียงของโมบายเปลือกหอยตรงประตูหน้าร้านก็ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งเรียกสายตาของพวกเขาให้หันไปมองผู้มาเยือนคนใหม่ ร้านนี้จัดว่าเป็นร้านที่มีบรรยากาศและรสชาติอาหารดีทีเดียว แต่ด้วยความที่สถานที่ตั้งของร้านไกลจากตัวมหาวิทยาลัย บวกกับวันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้ไม่มีลูกค้าคนอื่นนั่งอยู่ภายในร้านเลยนอกจากโต๊ะพวกเขา


     คนที่เดินนำหน้าเข้าร้านมาคนแรกสวมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวสะอาดติดกระดุมจนชิดคอ เนคไทมหาลัยสีกรมท่าถูกผูกอย่างเรียบร้อย พวงหน้าขาวจัดแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อยจากไอแดดด้านนอก ผมสีน้ำตาลอมแดงเปียกชื้นจากเหงื่อที่ซึมผุดออกมาบริเวณไรผม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มหลุบต่ำลงมองพื้นกระเบื้องสีฟ้าสวยด้านหน้า หยุดยืนรออีกคนด้านหลังที่เหงื่อโทรมไม่แพ้กันเดินตามเข้ามาในร้าน


    เหมือนคนนั้นคนนั้นเลย!เด็กหนุ่มหน้าตี๋โพล่งขึ้นมาเสียงดังลั่นอย่างยั้งไม่อยู่ เรียกให้คนถูกพาดพิงเหลือบมองมาทางโต๊ะพวกเขา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสะดุดกึกจับจ้องอยู่ที่ดวงตาเรียวคมสีดำที่มองมาอยู่ก่อน เรียวปากบางสีชมพูใสส่งยิ้มน่ารักกลับมาให้ กานต์ผลุบสายตาหลบต่ำก้มลงมองพื้นกระเบื้องสีฟ้าใสเบื้องล่างแทนการสบดวงตาคู่สวยกับรอยยิ้มชวนหลงใหล พวงหน้าขาวอมชมพูของเขาขึ้นสีแดงระเรื่อจางๆ เผลอกัดริมฝีปากสีแดงจัดรูปกระจับของตัวเองซะจนแทบช้ำ นึกก่นด่าในความคิดอกุศลของตัวเองที่นึกอยากจะฉวยริมฝีปากสีชมพูนั้นมาบดจูบเสียให้หนำใจ เขาสะบัดหัวแรงๆให้กับความคิดที่แล่นปราด


     

     ไม่ได้ๆ ไอ้หมอนั่นมันผู้ชายเว้ยยยย!! ไอ้กานต์ตื่นๆ

     


     “ขอโทษค่ะ อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะเขาสะดุ้งตื่นจากความคิดทันทีที่อาหารหอมฉุยถูกยกมาวางเบื้องหน้า บรรดาเพื่อนๆร่วมโต๊ะของเขาต่างละสายตาจากผู้มาเยือนสองคนที่ตอนนี้ไปนั่งโต๊ะฝั่งตรงข้ามพวกเขา กานต์หยิบส้อมขึ้นม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ไก่พริกไทดำของตัวเองเข้าปากคำโต ก่อนเสียงอู้อี้ๆน่าหนวกหูจะดังขึ้นจากคนผมสีน้ำตาลทองที่นั่งฝั่งตรงข้าม


    แอ่งอ่าอั้กอิงอิงอ้วยอ่ะโจพูดเสียงอู้อี้ๆ มือก็ตักไข่ดาวฟองโตเข้าปากไม่หยุด


    เขาหม่นคิ้วด่าคนตรงข้ามที่พูดไม่รู้เรื่อง


    พูดส้นตีนไรไม่รู้เรื่องแดกให้หมดก่อนได้มั้ยวะด่าจบก็ตักสปาเก็ตตี้เข้าปากพอดีกับที่คนตรงข้ามกลืนไข่ดาวลงคอดังเอื้อกพอดี


    กูบอกว่าแม่งน่ารักจริงๆด้วยเด็กหนุ่มพูดก่อนจะหันมาคว้าแก้วดูดเป๊ปซี่อึกใหญ่ไล่ไข่ดาวที่ค้างเติ่งตรงคอให้ลงไปในกระเพาะ


    เขาเลิกคิ้วพร้อมทั้งแกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าหมายถึงใคร


    มึงหมายถึงใคร


    หูยยยอย่ามาเสือกแกล้งเขางอกตอนนี้ว่ะ กูหมายถึงน้องจดหมายหวานสะดิ้งเมื่อเช้าไงว่าแล้วก็เอามือป้องปากกระซิบกระซาบเหล่ตาไปมองทางโต๊ะฝั่งตรงข้าม


    มึงว่าน้องเขามากับใครวะ


    ไม่รู้ดิแฟนน้องเขามั้งเขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่สายตาก็แอบเหลือบไปมองโต๊ะฝั่งตรงข้ามอยู่ดี ไล่สายตาสำรวจเค้าโครงหน้าตั้งแต่หน้าผากหม่นลงมาจนถึงปลายคางเรียว เขายอมรับจริงๆว่าน้องคนนั้นเป็นคนหน้าตาน่ารักมาก ถ้าบอกว่าเป็นผู้หญิงปลอมตัวเป็นผู้ชายเขาคงเชื่ออย่างสนิทใจไม่ยาก กานต์ละสายตาจากคนน่ารักไปมองชายอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกัน ผมสีดำสนิทรับกับคิ้วเข้มที่พาดตรง ดวงตาคมเข้มสีดำบ่งบอกได้ว่าเป็นคนจริงจัง


    กูว่าคงไม่ใช่แฟนหรอก ก็น้องเขาเพิ่งบอกรักมึงเมื่อเช้าเองนี่ทินเอ่ยก่อนจะกวาดเอาข้าวขาหมูคำสุดท้ายใส่ปากเคี้ยวตุ้ย


    โจดีดนิ้วเป๊าะอย่างคิดได้ ฮ่าๆ ถ้าน้องเขาชอบมึงจริงนะน้องเขาต้องรู้ว่ามึงชอบกินบัวลอยหลังกินข้…” ยังพูดไม่ทันจบเสียงพนักงานเสริ์ฟก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน


    ขอโทษค่ะขออนุญาตเสิร์ฟของหวานค่ะว่าแล้วก็จัดแจงวางถ้วยกระเบื้องสีขาวมุกขนาดกระทัดรัดที่ภายในถ้วยบรรจุไปด้วยน้ำกะทิข้นหวานกับแป้งนิ่มๆสีขาวเนียนลงตรงหน้าหนุ่มร่างโปร่งที่กระพริบตาปริบๆ เขามองบัวลอยตรงหน้าอย่างงุนงง เพื่อนทั้งโต๊ะหันมามองถ้วยบัวลอยกันอย่างพร้อมเพรียง เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองรีบท้วงพนักงานเสิร์ฟที่กำลังจะเดินกลับออกไปอย่างร้อนรน


    น้องครับ โต๊ะพี่ไม่ได้สั่งนิ้วชี้ไปยังถ้วยบัวลอยตรงหน้าเพื่อน


    อ๋อพอดีโต๊ะนู้นสั่งมาให้ค่ะพนักงานส่งยิ้มน่ารัก พยักพเยิดไปทางโต๊ะฝั่งตรงข้ามที่มองมาอยู่ ก่อนจะขอตัวกลับเข้าไปในครัว กานต์หันหน้าไปมองโต๊ะฝั่งตรงข้ามจนสบเข้ากับพวงหน้าขาวนวลเนียนของเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย ริมฝีปากบางสีชมพูคลี่ยิ้มน่ารักมาให้ กานต์มองตาค้างก่อนจะรีบผลุบตาลงต่ำเมื่อเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผะผ่าว

     


     ไอ้กานต์เอ้ยยย!! ผ่านหญิงมาก็เยอะทำไมมาเขินผู้ชายด้วยกันวะ!

     


     “เอาแล้วไงสงสัยกานต์คงได้เมียไวๆนี้แหละโจหัวเราะร่าก่อนเดาะลิ้นระรัวเล่น ส่งผลให้โดนทิชชู่ก้อนกลมปาผัวะเข้าที่หน้าผากเต็มแรง


    กูไม่ใช่เกย์ไอ้เวรเขาส่งเสียงรอดไรฟันอย่างหัวเสีย

     

    แต่ก็ยอมรับว่าแอบเทใจให้กับความน่ารักไปนิดนึงแล้วล่ะ


    กูวางพนันสามร้อยคนนี้ไอ้กานต์เอาชัวร์เด็กหนุ่มหน้าตี๋เอามือตบโต๊ะดังปึง ก่อนที่เสียงสรวลหัวเราะของเพื่อนๆอีกสามคนจะดังขึ้นมา


     กูให้สี่เลยสัดกานต์เสร็จน้องเขาชัวร์ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเอานิ้วเคาะรัวบนโต๊ะเป็นจังหวะอย่างอารมณ์ดี


    งั้นกูวางพนันด้วยสามร้อย ไอ้กานต์ไม่เอาเต้ยที่นั่งเงียบอยู่นานโพล่งขึ้น ควักแบงก์ร้อยสามใบจากกระเป๋าตังค์ลาคอสต์สีดำมาวางป๊าบลงบนโต๊ะ เรียกเสียงหัวเราะกร๊ากจากตัวต้นคิด


    แล้วมึงอ่ะไนท์ไม่เอาหรอโจหันไปถามคนที่นั่งเงียบไปพูดไม่จามาพักใหญ่


    มึงก็รู้ว่าบ้านกูไม่ได้รวยเด็กหนุ่มผลุบสายตาลงต่ำพลางส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อน


    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองยื่นมือไปตบบ่าเบาๆ ส่งยิ้มเย็นให้ ถ้าบ้านมึงไม่รวยนะกูลูกแม่ค้าแล้วสัด! ไอ้ลูกชายเจ้าของบริษัทประกันว่าจบก็ขยี้ผมสีแดงของไอ้คนข้างตัวจนยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง


    นี่พวกมึงจะพนันส้นตีนไรกันอีกนานมั้ย! กูอายคนอื่นจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดลงรูไหนแล้ว!กานต์ตะโกนเสียงดังก่อนเอาฝ่ามือขาวๆทั้งสองข้างมาปิดหน้าที่แดงฉ่าเอาไว้  

     


    ไอ้ห่าคุยกันเสียงยังกะปรอทแตก น้องเขาได้ยินไปถึงไหนต่อไปไหนแล้ว!! หัดมองรอบตัวมั่งว้อยยย!! พนักงานทั้งร้านหันมามองหมดแล้ว!! แสรดด!!

     

    ฮ่าๆ โทษทีพวกกูลืมตัวนี่มึงแดกไวๆดิเดี๋ยวเข้าเรียนตอนบ่ายสองไม่ทันโจหันมายิ้มแหยๆเกาหัวแกรกๆหลังจากพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร


    ห่าทียังงี้มาเร่ง! เขาส่ายหัวอย่างระอา

     

     

    มือเรียวหันไปตักบัวลอยตรงหน้าเข้าปาก รสชุ่มช่ำของกะทิแทรกซึมไปทั่วลิ้นทำเอาเขายิ้มแก้มปริ

     


    เวลากินของที่ชอบก็มีความสุขยังงี้แหละ 


    กินไปจนเกือบหมดถ้วยท่ามกลางสายตาที่มองมาของเพื่อนๆทั้งโต๊ะ ทำเอาเขาเกือบจะกินไม่ลง

     

    ก็แม่งคนจะกินใครเขาสอนให้มองวะ!

     

    เขาละสายตาจากถ้วยขนมตรงหน้าเหลือบไปมองตรงฝั่งตรงข้ามจนสบเข้ากับพวงหน้าขาวที่นั่งเท้าคางมองมาที่เขาอยู่ก่อน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมีแววขบขันเล็กน้อยกับท่าทีเลิ่กลั่กของเขา ริมฝีปากสีชมพูส่งรอยยิ้มแสนหวานมาให้ เขารีบหลบสายตาก้มลงมองถ้วยขนมตรงหน้า ใบหน้าของเขาเริ่มร้อนผะผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง….

     

    นายกานต์ กริตยสานนท์ บุคคลผู้ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ติดอันดับหนึ่งในสิบของมหาวิทยาลัย ด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร บวกกับฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดี ทำให้คว้าตำแหน่งหนุ่มวายร้ายที่สาวๆอยากควงมากที่สุดมาจนได้ และด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องชื่อนี่เองทำให้มีสาวๆมากหน้าหลายตารุมล้อมมาสารภาพรักกับเขา และนายกานต์เองก็ไม่เคยปฏิเสธคนที่เข้าหา และไม่รั้งคนที่ออกไป ตามประสาคนเจ้าชู้

     

    กิตติศัพท์อันเลื่องชื่อ ไม่ปฏิเสธคนที่เข้าหา แต่เกิดมายี่สิบสองปีเพิ่งเคยโดนผู้ชายบอกรัก แถมไอ้อาการใจเต้นระรัว กับใบหน้าแดงเรื่อตอนสบตากันเนี่ย มันทำให้เขาคิดไม่ตก

     


              นี่ตกลงกู
    หลงเสน่ห์ผู้ชายเหรอวะ!!


    …............
               ......
    ....


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×