คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 5
5
ภายในบ้านของสารวัตรจรัญ เขากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์วันนี้ที่พาดหัวข่าวว่า คุณหญิงนริศาลอบชู้กับบอดี้การ์ดของตนเอง
“ไม่น่าเชื่อว่าคนดีๆอย่างคุณหญิงนริศาจะกล้าทำได้”สารวัตรจรัญบอก
ในแวววงสังคม คุณหญิงนริศา และ คุณหญิงยุพิน เป็นคนดีในสายตาทุกคน เพราะทั้งสองเป็นต้นแบบในการเริ่มชีวิตหรือทำชีวิตให้ดีขึ้นของทุกคนในต่อหน้าเท่านั้น
สักพักเขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เขาจึงมองดูพบว่าเป็น บุ้งกี้ หญิงสาวในตำรวจสายลับในกรุงลอนดอน เพื่อนสาวของเขา ว่าแล้วเขาก็รับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ นี่บ้านจรัญครับ”สารวัตรจรัญบอก
“สารวัตรจรัญหรอ นี่บุ้งกี้เองนะ ตอนนี้สารวัตรว่างอยู่ไหม”บุ้งกี้ถาม
เอมมิกาแอบเข้าบ้านสารวัตรจรัญเธอปลอมตัวเป็นคนสวนหญิง สารวัตรจรัญเดินมาพร้อมโทรศัพท์ในมือ
“ว่างครับ สำหรับบุ้งกี้ผมว่างเสมอ”สารวัตรจรัญบอก
เอมมิกา ที่แอบมองดูที่หน้ากระจกได้ยินสิ่งที่สารวัตรจรัญพูดกบหญิงสวในโทรสัพท์ทุกอย่างโดยผ่านหูฟัง เพราะว่าตอนที่เธอใช้ตุ้มหูยาสลบ เธอใส่เครื่องติดสัญญาแบบที่ใครมองไม่เห็นให้สารวัตรจรัญ
“ผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด เจ้าชู้ไม่เลิก”เอมิกาบอก
“คือ เมื่อวานนี้เพียวโทรฝากคลิปเสียงให้สารวัตรด้วยค่ะ เดี๋ยวบุ้งกี้ส่งคลิปไปให้นะค่ะ”บุ้งกี้บอก แล้วก็ส่งคลิปเสียงที่เอมิกาส่งไปให้สารวัตรจรัญ เขาบอกดูพบว่าเป็นคลิปีเสียงไม่เปิดหน้าตาให้เขาเห็น
“ไง นายจรัญคิดว่าโยนหนามให้คนอื่นแล้วจะคลายคดีนาคฤทัยได้ไง ฝันไปเถอะต่อให้นายพลิกแผ่นดินตาหาร่องรอยนายก็ไม่มีวันรู้เรื่องนี้ นอกจาก.............”เอมมิกาบอก
“นอกจากอะไร”สารวัตรจรัญบอก
“ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้นายมาที่สำนักพิมพ์บารอนพร้อมเพื่อนของนาย ขอยำนะห้ามส่งเพื่อนตำรวจของนายมา ไม่งั้นนาย็จะถูกตราหน้าว่านายส่งคนมาตาย ถ้าไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นคนตราบาปสร้างความตายให้คนอื่นก็มาหาฉันที่สำนักพิมพ์บารอนตอนเที่ยวตรง”เอมมิกาบอก เมื่อพูดเสร็จเธอก็ตัดสาย
ภายในห้องทำงานของสารวัตรทั้งสามกำลังนึกคิดเกี่ยวกับแผนการที่สามสาวบอกตน นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้สารวัตรทั้งสามต้องวิตกกังวนจนเป็นอย่างมาก เพราะว่ามีหญิงสาวนิรนามไม่เอยชื่อ ไม่เอยอะไรเลยนอกจากสิ่ทงี่พวกเธอต้องการ
“ถ้าคุณอยากรู้คดีการตายของคุณนาคฤทัย คุณต้องช่วยฉันฉีกหน้ากากนายพลชอนออกมา”เอมมิกาบอก
“ฉันควรทำดีหรือไม่ทำดีเนี่ย”สารวัตรจรัญบอก
“แกว่าถ้าเราทำตามที่สาวๆบอกพวกเธอจะทำตามสัญญาหรือเปล่า”สารวัตรณรงค์บอก
“ฉันว่าสามสาวนี้เอาจริง แต่ฉันว่าเราไปสืบประวัติของสามสาวแล้วก็เจ้าของบริษัทและบริษัทดีกว่าไหม จะได้เหมือนสุภาษิตที่ว่า ไก่เห็นตีนงู งูเห็นตีนไก่”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“นี่แกว่าพวกเราเป็นไก่หรอ”สารวัตรณรงค์บอก
“อืม”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“พอแล้ว เลิกมีเรื่องกันสะที ฉันว่าที่ไอ้ก้องบอกมาก็ถูกถ้าจะทำงานให้กันก็ต้องรู้ข้อมูลของอีกฝ่าย”สารวัตรจรัญบอก
สักพักเขาเดินไปที่คอมพิวเตอร์ช่วยกันหาข้อมูลของสามสาว แล้วก็เปิดเจอเว็บไซด์หน้าหลักของบรัทบารอน เขามองไปที่สมาชิก
“เจอแล้ว”สารวัตรจรัญบอก
สารวัตรทั้งสองเดินมาแล้วมองที่ประวัติของสมาชิกในบริษัทบารอนรวมถึงตัวบารอนและตัวของแม่บ้านดรุณีด้วย
“เอมมิกา แดลลี่ ลูกสาวคนเดียวของคุณครูเดียว แดลลี่และนางสาวสุพรรษา แดลลี่ อาชีพ นักเข้าเล่ม อันดับหนึ่งของบริษัท ยุวันดี เวียงวลา ลูกสาวของมาริสา กิจการอาชีพนักวาดรูปปกอันดับหนึ่งประจำบริษัท และ สมายด์ แสนเล่ห์ ลูกสาวคนเดียวของนางสาวสุมาลี แสนเล่ห์”สารวัตรจรัญอ่าน
“แปลก”สารวัตรก้องเกียรติบอก
“แปลกยังไง”สารวัตรณรงค์บอก
“แปลกต้องข้อมูลประวัติ ตอนที่ฉันไปบ้านของพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาในห้องที่เรานั่งฉันเห็นรูปภาพของยุวันดี เวียงวลา”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“นามสกุลเดียวกับพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาเลยนะ”สารวัตรณรงค์บอก
“มันมีความเป็นได้ไหม ไอ้โลมที่คุณยุวันดีกับคุณอาเวียงเป็นพ่อลูกหรือหลานท่าน”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
แล้วสารวัตรจรัญเอาโทรศัพท์จดเรียกจ่าเพ็ง เข้ามา
“จ่าเพ็ง คุณช่วยหาประวัติของบารอน เจ้าของบริษัทบารอนได้ไหม”สารวัตรจรัญถาม
“ได้ครับ”จ่าเพ็งบอก
หลังเลิกงานเอมิกาขับรถกลับบ้านพร้อมคิดถึงเรื่องที่นัดสารวัตรจรัญมาเป็นตัวแปลสำคัญที่จะช่วยเธอในการแก้แค้นนายพลชอน
“พรุ่งนี้แล้วเอมิกาฝันจะเป็นจริง โทรบอกยัยดีกับมายด์ก่อนดีกว่า”เอมิกาบอก
“สวัสดีค่ะ นี่บ้านเต็มฟ้าค่ะ”ยุวันดีบอก
“สวัสดีจ๊ะดี นี่เอมเอง” เอมิกาบอก
“อ้าวเอม โทรหาดีทำไมหรอ”ยุวันดีถาม
“พรุ่งนี้ฉันเชิญคุณสารวัตรจรัญกับสารวัตรทั้งสองคนที่จัดการคดีของไอ้นายพลชอนมาที่สำนักพิมพ์เราตอนเที่ยงตรง ฉันอยากให้ดีช่วยเตรียมห้องรับแขกให้สมเกียรติ์คุณสารวัตรทั้งสามด้วยนะ”เอมมิกาบอก
“ได้สิ แล้วเอมจะทำอะไรกับพวกเขานะ”ยุวันดีถาม
รุ่งขึ้นสารวัตรก้องเกียรติ์และสารวัตรณรงค์มาที่บ้านของสารวัตรจรัญ ขณะนั้นสารวัตรจรัญกำลังใส่เสื้อนอกเครื่องแบบคือใส่เสื้อคอกลมคลุมด้วยเสื้อบางๆประจำหน่วยงานตำรวจสายลับ
“นายจะทำอะไรนะ โลม”สารวัตรก้องเกียรติ์ถาม
“ฉันจะไปหาคนที่ฆ่าคุณนาคฤทัยนะ เขานัดฉันกับพวกแกให้ไปหาที่สำนักพิมพ์บารอนนะ”สารวัตรจรัญบอก
“สำนักพิมพ์บารอน ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเลยนะ โลม”สารวัตรณรงค์บอก
“ฉันเปิดดูในคูเคิ้ลแล้ว สำนักพิมพ์บารอนเป็นสำนักพิมพ์หนังสือแบบปิด มีพนักงานไม่ถึงสิบคน เพราะว่าเงินเดือนสูง พนักงานต้องทำงานหนักนะ”สารวัตรจรัญบอก
“แล้วแกดูพิกัดรึยัง”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“ดูแล้ว อยู่แถวๆห้างที่คุณนาคฤทัยเป็นเจ้าของนะ”สารวัตรจรัญบอก
“ก่อนไปฉันมีอะไรขอแกบางอย่าง”สารวัตรจรัญบอก
ณ สำนักพิมพ์บารอน สามสาวนั่งมองภาพกล่องวงจรเปิดจากโทรทัศน์ในห้องตรวจสอบความปลอดภัยของบริษัท สมายด์เห็นว่ามีคนมาสามคน เธอจำหน้าของสารวัตรจรัญได้ ถึงแม้นว่าเขาและเพื่อนๆจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจเหมือนในทีวีจะตาม
“เอม มาดูนี้สิ นี้ใช่คุณสารวัตรจรัญกับเพื่อนๆของเขาหรือเปล่า”สมายด์บอก
เมื่อเอมมิกาได้ยินจึงหันไปมองดูภาพที่สามสารวัตรแต่งตัวแบบชาวบ้านธรรมดา
“คิดว่าแต่งตัวแบบนี้แล้ว เอมมิกาจะดูไม่ออกรึไง”เอมมิกาบอก
“ไปสาวๆ ไปต้อนรับคุณสารวัตรกันเถิด”เอมมิกาบอก
เมื่อได้ยินดำเชิญจากเอมมิกา ยุวันดีและสมายด์จะดำเนินตามแผนที่ทั้งสามตั้งไว้โดยสมายด์จะเป็นคนปิดไฟชั้นที่สอง ซึ่งเป็นชั้นทำงานของเธอ
“ขอให้สนุกนะค่ะ คุณสารวัตร”
กล่าวถึงสารวัตรจรัญและเพื่อนทั้งสองของเขา คือ สารวัตรก้องเกียรติ์และสารวัตรณรงค์ เดินมาที่บันไดเลื่อนของสำนักพิมพ์บารอน เขาหยิบหนังสือที่ยุวันดีจัดมาให้มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับคดีที่พวกเขาต้องการรู้ ยุวันดีรู้ว่าสารวัตรอยากรู้จึงวางไว้ สารวัตรจรัญพยายามเปิดหาข้อมูลที่เกี่ยวกับการสังหารคนของนายพลชอน แต่ไม่พบ
“สิ่งที่คุณต้องการอยู่นี้”
เสียงของบารอนดังขึ้นจากไมค์ประกาศที่มีลำโพงอยู่ใกล้ๆที่ที่สารวัตรทั้งสามนั่ง
“คุณนึกว่าผู้ร้ายจะบอกแผนการทุกอย่างกับตำรวจหรอกครับ คุณสารวัตร”บารอนบอก
“คุณเป็นใคร”สารวัตรก้องเกียรติ์ถาม
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ถ้าสารวัตรอยากรู้คดีสังหารคุณนาคฤทัยและคนของนายพลชอนก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”บารอนบอก
“ข้อแลกเปลี่ยน”สารวัตรณรงค์ทวนคำ
จากนั้นไฟที่บริษัทก็ดับลงมีควันออกมาจากทางขึ้นและลงบันไดเลื่อนทำให้สารวัตรทั้งสามสลบลงบนที่นั่ง แล้วสามสาวก็ออกมาพร้อมกับบารอน
“ บอกอค่ะ แล้วที่นี้เราจะเอายังไงกับสารวัตรสามคนนี้ล่ะค่ะ”สมายด์ถาม
“ค้นตัว แล้วก็เชิญแขกไปที่ห้องฉัน”บารอนบอก
สิ้นคำบารอนก็กลับขึ้นไปที่ห้องทำงานของเขา จากนั้นสามสาวก็เริ่มค้นตัวสารวัตรทั้งสาม สมายด์ค้นไปที่เสื้อของสารวัตรณรงค์ เห็นตุ๊กตาบาร์บี้ที่พ่อของเธอซื้อให้สมัยเด็กก็นกถึงอดีตของตนเอง
“แม่จ้า พ่อกลับมาแล้วจ๊ะ”
เสียงของเด็กหญิงสมายด์ดังขึ้น บิดาของเธอชื่อว่า นายมิตรภาพ วันจิต มีอาชีพเป็นปลัดของอำเภอในจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนมารดาของเธอชื่อว่า สุมาลี วันจิต เป็นคนขายขนมหวานเจ้าอร่อยประจำอำเภออยู่ที่สุพรรณบุรี เด็กหญิงสมายด์อออกนอกบ้านใส่รองท้าแล้ววิ่งไปหา มิตรภาพ ผู้เป็นบิดา
“ไง เจ้าหญิงน้อยของพ่อ”มิตรภาพบอกลูกสาวแล้วอุ้มลูกสาวไปหาภรรยาของเขาซึ่งรอเขาอยู่ที่หน้าบ้าน
“เดี๋ยว มาลีจะเอาน้ำมาให้พี่นะ”สุมาลีบอกมิตรภาพ
“พ่อมีของมาฝากลูกด้วย มายด์”มิตรภาพบอก
“อะไรค่ะ”สมายด์ถามบิดา
แล้วเขาก็เอาตุ๊กตาบาร์บี้ที่ซื้อมาระหว่างทางกลับบ้าน มันเป็นตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นใหม่ล่าสุด
สมายด์นึกถึงรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของมารดา ระหว่างที่สมายด์กำลังคิดถึงอดีต ได้มีเสียงของคนบางคนใกล้ๆเธอดังขึ้น
“มาย มาย”
เสียงของเพื่อนทั้งสองของเธอดังขึ้น
“มีอะไรหรอ”สมายด์ถามเพื่อนทั้งสอง
“แกเป็นอะไรเนี่ย ฉันเรียกกันตั้งหลายครั้ง”เอมมิกาบอก
“ก็แค่คิดถึงพ่อของฉันนะ”สมายด์บอก
“อืม พูดถึงพ่อแก เมื่อวานนี้ฉันได้ข่าวมาว่า พ่อแก คุณรุจ คุณอัง จะบินกลับมาที่ประเทศไทยวันพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงนะ”เอมมิกาบอก
“แล้วแกมาบอกฉันทำไม ฉันเกลียดผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ ”สมายด์บอก
ผู้ชายคนนั้นคงไม่รู้ว่ามารดาของเธอต้องเสียน้ำตาและช้ำใจมากเท่าไหร่ที่รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานใหม่ มันก็เหมือนความรู้สึกของมารดาของยุวันดีและยุวันดีในวันนั้น มารดาของเธอใจสลาย เมื่อรู้ว่าคนที่จะแต่งงานกับพ่อของเธอ คือ อังศุมาลิน น้องสาวต่างมารดาของเธอ อังศุมาลินคิดแก้แค้นสุมาลีที่ได้เป็นทั้งลูกคนโปรดของนริศรา มารดาของเธอ ยาของสมายด์ และยังไม่รวมความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกแม่ยายของเธอขายตัวและเป็นบ้าในปัจจุบัน
“นี่ผีตนไหนมันมาเข้าสิงเพื่อนฉันเนี่ย คนหนึ่งไม่มีแม่ มีพ่อก็เกลียด คนหนึ่งแม่เป็นบ้า ก็เกลียดพ่อ”เอมมิกาบ่น
“ก็แกไม่ใช่ฉันกับยัยมาย นี่ยัยเอม แกจะไปเข้าใจอะไร ผู้ชายก็เหมือนกันแหละเห็นผู้หญิงเป็นแค่เสื้อผ้าสวยๆวันไหนไม่สวยดั่งใจก็ไปใส่เสื้อที่สวยกว่า”ยุวันดีบอก
เมื่อค้นกระเป๋าสามหนุ่มเสร็จแล้วสามสาวก็เอาของของชายหนุ่มที่เป็นอันตราย เช่น ปืน ไม้ขีดไฟ เป็นต้นไปเก็บไว้ที่ที่ปลอดภัย และมัดมือสามหนุ่มไว้กับเก้าอี้ที่ข้างโต๊ะบารอนเมื่อเสร็จแล้วสามสาวก็กลับไปทำงานที่ชั้นของตัวเอง สักพักสามหนุ่มก็ฟื้นขึ้น บารอนรู้สึกจึงพูดไปว่า
“ฟื้นแล้วหรอครับ คุณสารวัตร”บารอนบอก
“คุณจับผมมาทำไม ต้องการอะไรจากผมและเพื่อนๆ”สารวัตรจรัญบอก
“ผมคือ บารอน เจ้าของสำนักพิมพ์บารอนที่คุณนั่งอยู่ตรงนี้ ผมจับคุณมาเพื่อจะมาเจรจากันเรื่องคดีสังหารคุณนาคฤทัยและคนของไอ้นายพลชอน”บารอนบอก
“กรุณาให้เกียรติ์ท่านนายพลชอน ท่านนายพลที่ดีของบ้านเมืองเราด้วยครับคุณบารอน”สารวัตรณรงค์บอก
“สำหรับคนโง่ที่โดนไอ้นายพลชอนหลอกอย่างพวกคุณและประชาชนคนอื่นผมไม่ถือสาคุณหรอที่จะให้เกียรติเรียกไอ้นายพลชอนว่านายพลชอน แต่สำหรับผมและเจ้าหน้าที่ที่นี้จำนวนห้าคนถือว่าเขาเป็นคนไม่ดี คนบาป คนร้ายกาจ พวกทารุณกรรมเด็กและผู้หญิง”บารอนบอก
“ ไม่จริงท่านเป็นคนดี ขนาดทหารที่ทำงานพลาดอย่างมากก็แค่โดนสก๊อตจ้ำยี่สิบ”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“ก็พวกคุณมองแค่เบื้องหน้าไม่มองเบื้องหลัง ลองคิดดูสิภรรยาของท่านายพลชอนแต่ละคนมีไหมคนไหนที่ชอบไอ้นายพลชอน”บารอนบอก
“นี่ตกลงคุณต้องการให้พวกเรารู้อะไรจากคุณกันแน่ คุณบารอน คุณคงไม่ใช่แค่เจ้าของสำนักพิมพ์บารอนอย่างเดียวใช่ไหมครับ”สารวัตรจรัญบอก
“หนึ่งผมต้องการให้คุณรู้ว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใคร สองผมคือเจ้าของสำนักพิมพ์นี่ แล้วผมก็เป็นศาลชั้นสูงสุดที่จะมาพิจารณาคนเลวอย่างไอ้นายพลชอน”บารอนบอก
“คุณไม่ได้ทำงานคนเดียวแน่ คุณทำงานกันเป็นกลุ่มใช่ไหมคุณบารอน”สารวัตรณรงค์บอก
“ใช่ ผมทำงานกันเป็นกลุ่ม และที่แน่ๆคุณจะไม่มีวันรู้คดีการตายของคุณนาคฤทัยหรือคนอื่นๆเลย ยกเว้นแต่………………”บารอนกำลังบอก
สามสาวเปิดประตูเข้ามาเห็นสามสารวัตรตื่นมาก็เตรียมอาวุธสำรองไว้ที่ตัว
“อย่าบอกนะว่าสามสาวที่ยืนตรงนี้เป็นคนที่ทำงานให้คุณนะ คุณบารอน”สารวัตรจรัญบอก
“ใช่”บารอนบอก
สารวัตรทั้งสามได้ยินคำตอบก็ขำกัน เอมมิกาเห็นอย่างนั้นก็ชกไปที่หน้าโดนสารวัตรจรัญเต็มๆ มัดของเอมมิกาหนักกว่ามัดตำรวจทั่วไป
“ถ้าคุณอยากรู้คดีการตายคุณนาคฤทัยและอยากเจอลูกคุณนาคฤทัย คุณต้องร่วมมือกับเราฉีกหน้ากากของไอ้นายพลชอนออกมา”บารอนบอก
นับเป็นข้อเสนอที่ดีมาก เเต่เขาเป็นข้าราชการที่ทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน เมื่อประชาชนอย่างท่านนายพลชอนมาขอความช่วยเหลือเขาต้องช่วย เขาไม่อาจละทิ้งหน้าที่นี้ได้ เพราะจะถูกประขาขนตราหน้าว่า คนใจบาป
“ไม่ครับ ถึงเราจะอยากจะรู้เรื่องคดีการตายของคุณนาคฤทัย แต่เราเป็นตำรวจ มีหน้าที่ที่ถูกมอบหมายที่สำคัญ ถึงผมไม่รู้จากคุณ เดี๋ยวคนอื่นก็ต้องเอาหลักฐานหรือชี้คนที่ฆ่าคุณนาคฤทัยและจับลูกชายของเธอได้อยู่ดี ”สารวัตรจรัญบอก
“ก็จริง อีกอย่างหนึ่งถ้าคุณไม่ปล่อยเรา เราแจ้งตำรวจจับคุณแน่”สารวัตรณรงค์บอก
“พวกเราไม่เคยกลัวตำรวจอย่างพวกคุณ เอาแต่ใช้กำลังบีบคั้นให้ศัตรูต้องทรมาน เข้าข้างคนไม่ดี ทำคนบริสุทธิ์ต้องตาย เนี่ยหรอ ผู้พิทักษ์สันติภาพมนุษย์”เอมมิกาบอกด้วยความโมโห
“ไม่จริงตำรวจอย่างเราไม่เคยเข้าข้างคนผิด”สารวัตรก้องกียรติ์บอก
สักพักมีสายแจ้งเตือนภัยดังขึ้น
“มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุก”
“แย่แล้ว ดี มาย เธอสองคนไปจัดการ รู้นะต้องทำเช่นไร เอม เธอเฝ้าคุณสารวัตรเอาไว้อย่าให้หลุดรอดสายตานะ ส่วนฉัน ฉันจะไปดูนาคีที่ห้อง ไปล่ะ ”
สิ้นคำสั่งบารอนก็เข้าไปดู นาคี ลูกสาวของนาคฤทัย ที่ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาย สมายด์และยุวันดีเปิดประตูออกนอกห้องเพื่อไปสังหารคนที่บุกรุก เพราะรู้ว่าคนที่บุกรุกคือใคร
ภายในห้องทำงานของบารอน สามหนุ่มพยายามเกี้ยวกล่อมเอมมิกาที่กำลังชงกาแฟให้ปล่อยตน
“คุณคนสวยครับ คุณปล่อยเราสามคนไปเถอะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้แล้วก็จะไม่แจ้งตำรวจ”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“ไอ้โลม ช่วยกันหน่อยสิว่ะ”สารวัตรก้องเกียรติ์บอก
“ถ้าเขาไม่ปล่อยก็ไม่ต้องไปขอร้อง ถึงให้ขอร้องไปจนตายคนอย่างยัยทอมไม่มีวันช่วยเราหรอก”สารวัตรจรัญยั่วเอมมิกา
เอมมิกาได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงต่อกลับไปว่า
“ถ้าคนรู้จักพูดดีๆ อาจปล่อยก็ได้นะนายขยันกวน”เอมมิกาบอก
เมื่อสารวัตรจรัญฟังก็โกรธ จึงหาเรื่องเอมมิกา
“ถึงฉันจะกวน แต่ฉันก็หล่อเลือกได้ล่ะกัน”สารวัตรจรัญบอก
เอมมิกาได้ยินอย่างนั้นก็แกล้งทำเป็นอ้วก แล้วพูดต่อว่า
“ตรงแป๊ะเลย ทั้งหล่อ ปากมาก มารยาทดี ”เอมมิกาบอก
“สเป๊กเธอหรอก”สารวัตรจรัญบอก
“ไม่ใช่ แต่เป็นสเป๊กของ…………….”เอมมิกาบอก
“ของใคร”สารวัตรจรัญบอก
แล้วเอมมิกาก็เอากาแฟวางไว้ที่โต๊ะทำงานของบารอนแล้วก็กำลังนั่งหารูปบิกกี้ น้องหมาแถวๆบ้านเธอ แต่มีใครไม่รู้เปิดประตูห้องเข้ามา คนนั้นคือ ทหารของนายพลชอนที่นายพลชอนส่งมาฆ่าบารอน
“มีใครเคยบอกนายไม่ว่า ให้เคาะประตูก่อนเปิด มันไม่ดีรู้ไหม”เอมมิกาบอก
พร้อมหยิบช้อนที่ค้นกาแฟขว้างไปทะลุหัวของนายทหารคนนั้นพอดี ทำให้ขาดใจตาย สารวัตรทั้งสามมองด้วยความทึ่ง เพราะอาวุธที่เธอเลือกใช้หรือทักษะการต่อสู่กันแน่ที่ทำให้พวกเขาอึ่งและทึ่ง
“ถึงกับอึ่งไปเลยหรอกค่ะ คุณสารวัตร นี่แค่โชว์ชุดแรกนะค่ะ”เอมมิกาบอก
หลังจากที่สมายด์และยุวันดีสังหารตำรวจและนำไปฝังที่วัดแถวๆสำนักพิมพ์แห่งนี้เสร็จก็กลับมาที่ห้องทำงานบารอนเห็นนายทหารถูกแทงด้วยช้อนตายหน้าห้องก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเอมมิกา
“แล้วบอกอล่ะ”ยุวันดีถาม
“ไปดูนาคี ”เอมมิกาบอก
“เอม เราควรพาคุณสารวัตรไปในที่ที่ปลอดภัยนะ”สมายด์บอก
“ใช่ ฉันจะปล่อยคุณสารวัตรขยันกวนและเพื่อนๆของเขาไป ถ้าพวกเขาทำตามที่บารอนเสนอ คือ ช่วยพวกเราฉีกหน้ากากของไอ้นายพลชอน หรือไม่ต้องพบลูกชายของคุณนาคฤทัยและคดีการตายของเธอ”เอมมิกาบอก
“เอาไงดีว่ะ ไอ้โลม”สารวัตรณรงค์ถาม
“ตกลงเราจะช่วยคุณ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไงว่าคุณจะทำตามที่สัญญา”สารวัตรจรัญบอก
“นี่คุณคิดว่า ฉันหลอกใครเป็นหรอ ได้ฉันจะเปิดคลิปที่คุณนาคฤทัยคุยกับฉันเรื่องไอ้นายพลชอนก่อนเธอจะสิ้นลมหายใจ แต่รู้ไว้ด้วยไม่ว่าคุณจะทำอะไรเรารู้หมด”เอมมิกาบอก
พร้อมเปิดคลิปที่นาคฤทัยคุยกับสามสาว แต่เธอเลื่อนไปตอนที่เธอเล่าเรื่องราวต่างๆให้สารวัตขยันกวนที่เธอตั้งให้และก็เพื่อนของเขา
“ในวันที่ข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ในโรงแรมซึ่งเป็นโรงแรมที่สามีของข้าพเจ้า เมียหลวงและเมียเก็บของเขาอาศัยอยู่ สวัสดี ฉันรู้ว่าเธอมีตัวตน ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบสามีของฉัน แต่เขาเป็นคนไม่ดีอย่างที่เธอพูดจริง ตอนแรกเขาทำดีต่อฉัน แต่เวลาที่เขาพาฉันเข้าที่นี้เหมือนพาฉันไปนรกเลย เขาไม่เคยหันกลับมาหาฉันเลย เขาเอาแต่ตบตีฉันจนฉันเกือบแท้งลูกของเขา ใช่ฉันกำลังท้องลูกของเขา เมียหลวงของเขาตอนแรกฉันไม่ชอบเอเลย แต่พอได้รู้จักกันจริงๆแนกลับรู้สึกว่าอยากให้เธอเป็นสามีของฉันแทนมากกว่า โรงแรมของเขาอยู่ที่ใกล้ๆศูนย์บัชชาการนายร้อยของจังหวัด ฉันคงต้องไปแล้ว เดี๋ยวสามีของฉันจะสงสัย”นาคาบอก
เมื่อคลิปจบลง สามหนุ่มก็อึ่งถึงสิ่งที่นาคฤทัยบอกกับสามสาว มันแตกต่างจากตอนที่นายพลชอนบอกสื่อเลย แต่ยังไงเขาก็ไม่เชื่อ แต่เพราะเขาเป็นตำรวจมอบความยุติธรรมให้แก่ทุกคนจึงต้องจำใจช่วยสามสาวฉีกหน้ากากของนายพลชอน
“แล้วเราต้องทำอย่างไรต่อ ยัยทอม”สารวัตรจรัญบอก
“ยัยทอม”สมายด์และยุวันดีบอก
“อืม ฉายาฉันเอง”เอมมิกาบอก
หลังจากที่สามสาวทำงานเสร็จก็ล่อยสารวัตรทั้งสามออกไป สมายด์เดินไปซื้อบัวลอยของโปรดของมารดาของเธอและแวะไปซื้อหนังสือพิมพ์ที่ร้านใกล้ๆโรงพยาบาลที่มารดาของเธออยู่ ปรากฏว่า มีหัวข้อพาดข่าวว่า พวกใจร้าย-ฆ่าวิมล-ภรรยาลำดับที่สิบ-ของท่านนายพลดี
“อ่านต่อหน้าที่สิบสี่ ”สมายด์บอก
แล้วเปิดหนังสือพิมพ์ไปหน้าที่สิบสี่เจอเนื้อหาว่า เมื่อวานตอนเที่ยงคืนมีกลุ่มใจร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในห้องของนางวิมล ดวงเด่น และฆ่าเธอ จากรายงานสดจากท่านนายพลชอนทราบว่าเป็นพวกที่สังหารคุณนาคฤทัย ภรรยาของท่านนายพลชอน สมายด์อ่านหนังสือพิมพ์ก็แค้นใจ
“ป้าจ๊ะ หนังสือเล่มนี้ราคาเท่าไหร่ค่ะ”สมายด์บอก
“สิบบาทจ๊ะ”แม่ค้าตอบ
แล้วสมายด์ก็ควังเงินในกระเป๋ามาให้แม้ค้าขายของ แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ เดินทางไปหามารดาที่โรงพยาบาล เมื่อขึ้นถึงห้องที่แม่อยู่ ปรากฏว่าเธอเห็นมารดากำลังอยู่กับมิตรภาพ บิดาของเธอ อังศุมาลิน ภรรยาคนใหม่ของบิดาและ รุจจี ลูกชายของบิดาของเธอ
“พี่ต้องขอโทษแทนแม่พี่ด้วยนะ มาลี”มิตรภาพบอกอดีตภรรยา
“ขอโทษแล้วฉันหายไหม ” สุมาลีบอก
“ฉัน พี่มิตรแล้วก็เจ้ารุจ อยากขอโทษคุณจริงๆนะค่ะ คุณสุมาลี” อังศุมาลินบอก
“ถ้าคุณอยากขอโทษแม่ฉันจริงๆคุณช่วยออกไปจากที่นี้ อย่ากลับมาให้เราสองคนเห็นหน้าอีกต่อไป”สมายด์เปิดประตูเดินเข้ามา
“สวัสดีครับ คุณมาย”รุจจีทักทาย
“สวัสดีเช่นกันค่ะ คุณรุจ”สมายด์บอก
เมื่อพูดกับสมายด์และสุมาลีเสร็จแล้ว มิตรภาพก็พาอังศุมาลินและภวังค์กลับบ้าน ภายในบ้านของมิตรภายนั้นเป็นบ้านหลังใหญ่เป็นบ้านไม้ มีต้นไม้และสัตว์เลี้ยงเยอะ เพราะทุกคนชอบธรรมชาติและรักสัตว์มาก
“คุณพ่อกลับมาแล้ว”กิ่งบอก
กิ่งฉัตร อรุณศรี เป็นลูกสาวอีกคนของมิตรภาพและอังศุมาลิน อรุณศรี หลังจากที่สุมาลีได้รู้ข่าวการแต่งงานใหม่ของสามีก็ช็อกทำอะไรไม่ถูก แก้วตา มารดาของมิตรภาพแสนสงสารสุมาลีและสมายด์ ลูกสะใภ้และหลานสาวของตัวเอง จึงสร้างบ้านให้อยู่กันที่สุพรรณบุรี วันหนึ่งสุมาลีไปตลาดซื้อของใช้มาที่บ้าน นายพลชอนเห็นความงามของสุมาลีจึงอยากได้เป็นภรรยาจึงไปขอจากแก้วตา แก้วตาอยากให้สุมาลีและสมายด์เริ่มต้นชีวิตใหม่จึงให้ โดยหารู้ไม่ว่ามันเป็นแผนของนายพลชอน เมื่อมิตรภาพรู้ข่าวภรรยาเป็นบ้าก็เริ่มออกตามหาทันที่แต่ก็ไม่พบ จึงจ้างนักสืบส่วนตัวไปหาจนรู้ว่าสมายด์ได้ให้สุมาลีรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชแถวๆทางออกจากกรุงเทพ และได้ให้ แซลมอน หรือ นาคี ลูกสาววัยสิบขวบของนาคฤทัยเฝ้าไว้
“พี่มายว่าไงบ้างค่ะ พ่อ”กิ่งถามบิดา
“เหมือนเดิม ไล่พ่อกลับมา”มิตรภาพบอก
ภายในห้องผู้ป่วย สุมาลีใส่ชุดคนไข้จิตเวช สมายด์กำลังแกะบัวลอยที่ซื้อมาให้มารดา สุมาลีเห็นหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ในโต๊ะจึงหยิบมาอ่านเห็นการพาดข่าวเรื่องการตายของวิมล ก็พอรู้ว่าเป็นฝีมือของลูกสาวตน เมื่อสมายด์แกะบัวลอยเสร็จก็ยกมาให้มารดา
“มายด์ นี่ฝีมือลูกใช่ไหม”สุมาลีถาม
แล้วส่งข่าวที่เธอเพิ่งอ่านไปไม่กี่นาทีนี้มาให้เธอ
“ไม่ใช่จ๊ะแม่”สมายด์บอก
“ถ้าไม่ใช่ลูกแล้วใคร”สุมาลีบอก
“แม่ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอกค่ะ เดี๋ยวทางตำรวจจัดการเอง”สมายด์บอก
“แม่รู้นะว่าลูกทำงานให้กับบารอนทำงานล้างแค้น ลูกจะจองเวรพวกนั้นไปถึงไหนไหนเมื่อเรื่องนี้มันจบไปตั้งนานแล้ว”สุมาลีบอก
“สำหรับแม่มันอาจจะจบ แต่มายไม่มีวันจบ มายจะทำทุกทางให้คนชั่วอย่างนายพลชอนถูกลงโทษสักวันหนึ่ง”สมายด์บอกก่อนจะพูดต่อว่า “แล้วแม่รู้ไว้ด้วยว่าคนที่สังหารภรรยาคนต่างๆของนายพลชอนไม่ใช่ฝีมือของมาย”
พูดจบสมายด์ก็หยิบหนังสือพิมพ์กลับบ้าน สุมาลีกังวนใจเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้กลัวนายพลชอนจะบาดเจ็บแต่กลัวว่าลูกสาวก็พลอยเป็นแพะรับบาปจากการกระทำของนายพลชอน สุมาลีไม่ยอมให้คนชั่วทำร้ายลูกสาวของเธอแม้แต่ปลายเล็บ เธอกดเรียกพยาบาลมาที่ห้อง
“คุณสุมาลีต้องการอะไรหรือเปล่าค่ะ”พยาบาลบอก
“ช่วยต่อสายไปที่ศูนย์บัญชาการตำรวจหน่อยค่ะ”สุมาลีบอก
พยาบาลจึงนำโทรศัพท์โทรหาพลตำรวจโทเวียง เวียงวลา แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงไปทำงานพลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลาจึงรับสายแทน
“สวัสดีค่ะ บ้านเวียงวลาค่ะ”น้ำมนต์บอก
“ขอสายพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาได้ไหมค่ะ”สุมาลีบอก
“คือ คุณพ่อท่านไม่อยู่ค่ะ มีอะไรฝากบอกดิฉันได้นะค่ะ ดิฉันพลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลาค่ะ”น้ำมนต์บอก
สุมาลีพยายามนึกแล้วก็นึกออกว่าพลตำรวจเอกน้ำมนต์ผู้นี้เป็นน้องสาวของยุวันดี เพื่อนสาวของสมายด์
“ค่ะ คือ ดิฉันเป็นแม่ของสมายด์ เพื่อนของพี่สาวคุณน้ำมนต์ค่ะ จะมาบอกคลายคดีคุณนาคฤทัยและคุณวิมลค่ะ”สุมาลีบอก
พอเสร็จงานพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาก็กลับมาที่บ้าน พลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลาจึงบอกบิดาเรื่องที่สุมาลีฝากบอก
“พ่อค่ะ เมื่อเช้าคุณอาสุมาลี แม่ของพี่สมายด์เพื่อนของพี่ เอ้ย คุณยุวันดี ท่านฝากบอกว่า ท่านจะบอกคดีคุณนาคฤทัยและคุณวิมลทั้งหมดค่ะ”น้ำมนต์บอก
“แล้วคุณสุมาลีท่านได้บอกลูกหรือเปล่าว่าจะคุยกันได้เมื่อไหร่”พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาบอก
“ยังค่ะ ท่านบอกแค่นี้ค่ะ คุณพ่อ”น้ำมนต์บอก
“คุยอะไรกันนะ”คุณหญิงยุพินบอก
เธอแอบฟังพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาและน้ำมนต์คุยกันนานแล้ว บังเอิญลูกศรกำลังเดินลงมาเห็นมารดาจองมองใครจึงถามว่า
“คุณแม่มาทำอะไรตรงนี้ค่ะ”ลูกศรบอก
สักพักพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาก็รู้ว่าคุณหญิงยุพิน ภรรยาของตนแอบฟังตนอยู่
“น้ำมนต์ ลูกไปอาบน้ำเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย วันนี้พ่อมีแขกคนสำคัญที่ต้องชวนมากินข้าวที่บ้านหลังเล็ก”พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาบอก
บ้านหลังเล็กนั้นเป็นบ้านที่ยุวันดีและมาริสาเคยอยู่อาศัย หลังจากที่มาริสาเสียชีวิตเขาไม่เคยคิดที่จะรื้อบ้านหลังนี้เลย แต่เอาเป็นบ้านพักผ่อนของเขา หลายปีที่ใช้ชีวิตกับคุณหญิงยุพิน ทำให้เขาได้รู้ว่า เขาไม่เคยมีความสุขเลยที่ต้องอยู่กินกับผู้หยิงที่ชอบเอาแต่ใจ เห็นแก่ตน เขาจึงย้ายห้องนอนมาอยู่ที่บ้านหลังเล็กตั้งแต่ลูกศรเกิด
ภายในบรรยากาศอาหารเย็นของบ้านเล็กอาหารถูกว่างอย่างเป็นระเบียบโดยฝีมือของน้ำมนต์ น้ำมนต์ได้เชิญสุมาลีมากินข้าวโดยที่สมายด์ไม่รู้ ทั้งสามคือ พลตำรวจโทเวียง เวียงวลา พลตำรวจเอกน้ำมนต์และสุมาลี ร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นที่รู้กันว่า คุณหญิงยุพินเป็นคนถือตัวไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ที่ด้อยกว่าเธอ ส่วนลูกศรไม่ได้เป็นเหมือนมารดาของเธอ แต่จำเป็นต้องนั่งรับประทานอาหารกับมารดา
“ตกลง คุณสุมาลีมีอะไรจะบอกผมเกี่ยวกับคดีการตายของคุณนาคฤทัยและคุณวิมลเหรอครับ”พลตำรวจโทเวียง เวียงวลา
“คือ การตายของสองคนนี้ คุณเวียงนะจะรู้นะค่ะรอยตรวจแผลต่างๆของทั้งสองมีรอยที่ถูกปืนยิงตรงส่วนสำคัญนั้นคือ หัวใจ สิ่งที่ฉันจะบอกคุณคือ อย่ามองข้ามสิ่งที่เล็ก ”สุมาลีบอก
“สิ่งที่เล็ก แล้วสิ่งที่เล็กที่คุณว่าคืออะไร”พลตำรวจเวียงถาม
“คุณเวียงลองคิดดูให้ดีสิค่ะ ทั้งสองไม่เคยมีเรื่องปาดหมางกับใคร ถ้าก็มีแต่กับสามีเธอเอง ฉันได้ข่าวว่าก่อนหน้าที่ทั้งสองจะตายมีการทะเลาะกันไม่ใช่หรอค่ะ”สุมาลีบอก
“ส่วนนั้นก็ใช่นะครับ แต่การทะเลาะกันก็ไม่ถึงขนาดฆ่ากันตายนะครับ”พลตำรวจเวียงบอก
“แต่ก็จริงอย่างที่คุณอาสุมาลีบอกนะค่ะคุณพ่อ สามีที่ทะเลาะกับภรรยาจนฆ่ากันตายมีตั้งเยอะ”พลตำรวจเอกน้ำมนต์บอก
“แต่ท่านนายพลชอนเป็นคนดี ท่านไม่ฆ่าคนอย่างที่แกใส่ความหรอ ยัยมนต์ ยัยตัวอิจฉรา”คุณหญิงยุพินบอก แล้วเดินเข้ามาตรงหน้าการสนทนาของทั้งสาม
“ไม่ทราบว่าใครเชิญคุณหญิงมาที่นี้”พลตำรวจเวียงถาม
“ไม่มีใครเชิญฉันหรอกค่ะ แต่คุณคงลืมไปว่าที่นี้บ้านของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะไปที่ไหนก็ได้”คุณหญิงยุพินบอก
“ใช่คุณมีสิทธิ์อยู่ที่นี้ น้ำมนต์”พลตำรวจเวียงบอก
“ค่ะ คุณพ่อ”น้ำมนต์บอก
“พาคุณสุมาลีไปพักบนห้องลูกก่อน ”พลตำรวจเวียงบอก
พอได้รับคำสั่งน้ำมนต์ก็พาสุมาลีไปพักที่ห้องของตน
“คุณให้ คนนอกมาพักบ้านเราได้ไงค่ะ คุณเวียง”คุณหญิงยุพินบอก
“ที่คุณยังให้นายสุเมธมาพักได้เลย อีกอย่างรู้ไว้ด้วยคุณสุมาลีไม่ใช่คนอื่นท่านเป็นแม่ของสมายด์ เพื่อนของลูกสาวผม”พลตำรวจโทเวียงบอก
“คุณไม่ต้องมาอ้าง พี่สุเมธเลย เขาเป็นพี่ชายของฉัน ส่วนสุมาลีไม่ใช่ อ้อ ที่คุณไม่ยอมให้อะไรยัยศรเลยเพราะคุณเก็บเอาไว้ให้แม่ลูกสาวตัวดีทั้งสองคนของคุณหรอค่ะ”คุณหญิงยุพินบอก
“คนอย่างพลตำรวจโทเวียง เวียงวลารักลูกเท่ากัน คุณต่างหากรักลูกไม่เท่ากัน คุณหญิงยุพิน”พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาบอก
“ใช่ ฉันรักลูกไม่เท่ากัน แต่ไม่ใช่เพราะคุณเลี้ยงอีกาฝากไว้อย่างยัยมนต์หรอค่ะ ฉันถึงต้องกลายเป็นคนใจร้ายใจยักษ์”คุณหญิงยุพินบอก
สักพักแม้บ้านณาราเดินเข้ามา พลตำรวจโทเวียงเห็นจึงบอกว่า
“อ้าว แม่บ้านมาพอดีช่วยเก็บข้าวด้วยนะแล้วก็อัญเชิญคุณหญิงกลับบ้านด้วย”
พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาบอกแล้วเดินขึ้นไปที่ห้อง แม่บ้านณาราก็เก็บข้าวและพาคุณหญิงยุพินกลับบ้าน
ความคิดเห็น