คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3
3
ภายในบ้านเวียงวลา ทุกคนกำลังวุ่นวายเพราะต้องจัดงานวันเกิดให้กับ ลูกศร ลูกสาวคนสุดท้องของบ้านเวียงวลาซึ่งเกิดจากคุณหญิงยุพินและพลตำรวจโทเวียง เวียงวลา โดยมีพลตำรำวจหญิงน้ำมนต์ เวียงวลา ลูกสาวคนรองของพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาเป็นคนจัดการทุกอย่าง
“นี่ค่อยๆวางของประเดี๋ยวของของแม่ฉันจะเสีย”พลตำรวจหญิงน้ำมนต์ เวียงวลาบอก
ทันใดนั้นก็มีร่างหญิงสาววัยสี่สิบปีออกมาพร้อมข้ารับใช้สาวคนสนิท เธอคือ คุณหญิงยุพิน มารดาของเธอนั่นเอง ส่วนข้ารับใช้คนสนิทก็คือ เหมย ทั้งสองก็คงออกมาดูความเรียบร้อยและการออกแบบงานอย่างที่ทำกันทุกวัน
“ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่อง ฉันบอกแกกี่ครั้งกี่หนแล้ว อีเหมย ลูกศรชอบดอกกุหลาบสีแดงไม่ใช่ลีลาวดี”คุณหญิงยุพินว่าเหมย สาวรับใช้คนสนิทของตน
“คุณแม่ค่ะ ศรเอาดอกไม้อะไรก็ได้ค่ะตามใจคุณแม่ คุณแม่อย่าว่าพี่เหมยแล้วนะค่ะ”ลูกศรบอกคุณหญิงยุพิน
“ไม่ได้หรอยัยศร คนพวกนี้จะต้องทำตามที่เราสั่ง เดี๋ยวจะผิดระเบียบของบ้านจ๊ะ”คุณหญิงยุพินบอก
“ผิดระเบียบบบ้านหรือผิดระเบียบคุณฮะ คุณหญิงยุพิน”พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาถาม
พลตำรวจโทเวียง เวียงวลา ทนเห็นลูกสาวโดนว่าไม่ได้ เพราะตลอดหลายปีที่คุณหญิงยุพินย้ายมาอยู่ที่นี้ตนเองไม่มีอำนาจสั่งใครเลย คุณหญิงยุพินสั่งหมด และหากใครไม่ยอมฟังเธอจะถูกตัดเงินเดือนทิ้งเดือนละ1 หมื่น ซึ่งก็ไม่มีใครกล้ากับเธอเลยสักคนนอกจากพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาเพียงผู้เดียว
“ผิดระเบียบบ้าน”คุณหญิงยุพินบอกอย่างเสียหน้า
ตั้งแต่พลตำรวจโทเวียง เวียงวลาไล่มาริสาและลูกสาวตัวน้อย ยุวันดีออกจากบ้านภายในบ้านนั้นไม่ได้อยู่ในการปกครองของเขาเลย แต่อยู่ในการปกครองอันเผด็จการของคุณหญิงยุพิน ภรรยาของเขา หลังจากที่เขาแต่งงานไม่นานคุณหญิงยุพินก็ตั้งท้องคลอดลูกสาวให้เขาถึงสองคนคือ พลตำรวจหญิงน้ำมนต์ เวียงวลา และลูกศร ลูกสาวที่คุณหญิงยุพินรักราวกับว่า ไข่ในหิน
“คุณลูกศรค่ะ”คนใช้คนหนึ่งบอก
“มีอะไรหรอกแยม”ลูกศรถาม
“คุณยุวันดีโทรมาหาค่ะ” แยมบอก
“พี่ดีโทรมาหรอก งั้นศรขอไปรับโทรศัพท์พี่ดีก่อนนะค่ะคุณพ่อ คุณแม่ พี่มนต์”ลูกศรบอกพร้อมวิ่งไปรับโทรศัพท์จากพี่สาวสุดที่รักของตน
หลังจากที่ลูกศรอายุได้เพียง 5 ปี ก็ได้แอบติดตามพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาไปที่บ้านของยุวันดีและหลังจากนั้นไม่กี่วันได้เห็นรูปภาพที่บิดาของตนถ่ายรูปกับพี่สาวของตนและภรรยาคนแรกของบิดาของเธอ เธอจึงส่งจดหมายไปหายุวันดี ผู้เป็นพี่สาว ฝ่ายยุวันดีนั้นก็รักน้องสาวดังน้องสาวแท้ๆจึงให้ของขวัญวันเกิดทุกปี แต่จะมีเอมมิกาและสมายด์เป็นตัวแทนให้ของขวัญแก่ลูกศร ซึ่งเธอก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะ พี่สาวมีอดีตอันโหดร้ายกับบิดาของเธอและบ้านหลังนี้โดยเฉพาะคุณแม่ของเธอที่ตั้งแง่เกลียดยุวันดีมากจนบางที่ก็จะแอบไปเผารูปของยุวันดีและมาริสาซึ่งอยู่ในห้องของสามีของเธอ
“สวัสดีค่ะ พี่ดี”ลูกศรบอก
“สวัสดีเช่นกันจ๊ะ ลูกศร พี่ขอให้เรามีความสุขมากๆนะ”ยุวันดีบอกน้องสาวของตน
“แล้วปีนี้พี่จะมางานวันเกิดหนูที่บ้านไหมค่ะ พี่ดี”ลูกศรถาม
“พี่ก็ไม่แน่ใจจ๊ะ ถ้าพี่ไปไม่ได้พี่จะ.......................”ยุวันดีกำลังพูดแต่เอมมิกาแย่งโทรศัพท์เอาไว้
“ศรไม่ต้องกลัว ยัยดีจะไม่ไปนะจะเพราะมันต้องไปกับพวกเราแน่ๆ ศรเตรียมรอเลยจ๊ะ”เอมมิกาบอกพร้อมปิดเครื่องโทรศัพท์ แล้วหันไปคุยกับเพื่อนสาวทั้งสองคน
“นี่เอม ถ้าแกอยากไปนักแต่ก็ไปคนเดียวสิ”ยุวันดีบอก
“ใช่ฉันอยากไป แต่ยัยดีนี่มันงานเลี้ยงวันเกิดของน้องแกแล้วนะ ใจคอจะไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นแล้วมอบของขวัญให้น้องสาวเลยหรอก”เอมมิกาถาม
แม้ว่ายุวันดีจะไม่ชอบคนในบ้านเท่าไหร่ แต่หญิงสาวก็รักครอบครัวมากถึงแม้จะไม่ชอบบิดาที่เป็นสาเหตุที่มารดาเสียชีวิต และคุณหญิงยุพิน ที่โอ้อวดว่าลูกสาวของตนจะได้หมั้นหมายกับสารวัตรก้องเกียรติ์ สารวัตรมือดีของเมืองไทยและกรุงลอนดอนจนใครๆก็รู้ว่า สองครอบครัวนี้จะเป็นแผ่นทองเดียวกันในอีกไม่ช้า แต่เธอก็รัก ลูกศร น้องสาวต่างมารดาที่ไม่รู้ว่าเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอรวมถึงพลตำรวจน้ำมนต์ เวียงวลาที่ตั้งตัวเกลียดเธอและตั้งตัวเป็นศัตรูเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ลืมตาดูโลก
“ใช่ ฉันเกลียดคนในบ้านนั้น ยกเว้นลูกศรคนเดียว”ยุวันดีบอก
ตั้งแต่แรกเธอก็ไม่ได้โกรธน้ำมนต์สักเท่าไรแต่เพราะน้ำมนต์ชอบว่าแม่ของเธอว่า
“มาที่นี้อีกทำไม”น้ำมนต์ถาม
“พ่อของคุณนัดฉันให้มาหา”ยุวันดีบอก
“คิดว่าจะมาเรียกเงินพ่อเพราะไม่มีเงินใช้ แม่กับลูกนี้ไม่ต่างกันเลยนะ คนเป็นแม่เป็นหญิงสาวธรรมดาที่ใฝ่สูงง ส่วนลูกสาวก็เป็นลูกสาวที่ชอบเรียกเงินพ่อ ”น้ำมนต์บอก
ยุวันดีจำเหตุการณ์นี้ได้ขึ้นใจ เพราะพ่อของเธอแท้ๆถ้าเขาไม่ไล่แม่ของเธอ เธอก็ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ที่เธอมีชีวิตรอดมาได้ก็เพราะบารอนช่วยและฝึกวิชาให้เธอและเพื่อนๆของเธอ
“ศร รอใครนะน้องรัก”พลตำรวจหญิงน้ำมนต์ เวียงวลาถามน้องสาว
“รอพี่ดีค่ะ”ลูกศรบอกพร้อมเดินไปดูที่ประตูทางเข้าแต่ไม่พบวี่แวของยุวันดีและเพื่อนทั้งสองเลย เธอจึงกลับเข้าบ้านเมื่อเธอได้ยินเสียงคนออกมาจากรถเข้ามาที่บ้านของเธอ เธอก็วิ่งไปดูจนชนกับ สุริยะ ลูกชายของเจ้าของผลิตน้ำหอมชื่อดังของประเทศไทย
“โอย ขอโทษค่ะ คุณไม่เป็นไรมากใช่ไหมค่ะ คุณ…………….”ลูกศรบอก
เมื่อสุริยะหันหน้ามาลูกศรก็รีบปล่อยมือทันที่
“นายสุริยะ”ลูกศรบอก
“ใช่ฉันเอง ยัยตุ๊กตาผี”สุริยะบอก
“ฉันบอกนายหลายครั้งแล้วไงว่าฉันชื่อ ลูกศร ไม่ใช่ตุ๊กตาผี”ลูกศรบอก
ที่มาของชื่อ ตุ๊กตาผี เนื่องจากพลตำรวจโทเวียง เวียงวลาได้ซื้อตุ๊กตาบาร์บี้จากประเทศอิตาลี ซึ่งบิดาของเธอประจำอยู่ที่สถานีตำรวจอิตาลี เขารู้ว่าลูกสาวชอบตุ๊กตาบาร์บี้จึงซื้อมาฝากลูกสาวของตน วันหนึ่งเด็กชายสุริยะได้เข้ามาหาลูกศร ที่ถูกผู้ใหญ่หมายหมั้นให้แต่งงานกัน เมื่อเขาเดินเข้ามาเห็นเด็กหญิงลูกศรซึ่งใส่ชุดนอนสีขาวผมสีดำกำลังเล่นตุ๊กตาเขาคิดว่าเป็นผีจึงเรียกเธอว่า ยัยตุ๊กตาผี ซึ่งเขาคิดว่าน้ำมนต์คือลูกศร ว่าที่พี่สะใภ้ของเขาเสมอจนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังคงคิดว่าน้ำมนต์คือคนที่พ่อและแม่ของเขาเลือกเป็นพี่สะใภ้
เมื่อพลตำรวจเอกนำมนต์ เวียงวลาเห็นน้องสาวทะเลาะกับสุริยะเหมือนเดิม เธอก็เดินไปที่ด้านหน้าของงานหรือทางเข้าของบ้านของเธอ หญิงสาวใส่ชุดกระโปรงสีขาวปล่อยผมเส้นตรงยาวถึงเอว เธอนั่งลงบนน้ำพุหน้าบ้าน นานแล้วที่เธอไม่เคยใส่ชุดแบบนี้ อาจเป็นเพราะหญิงสาวทำงานตำรวจซึ่งมีหน้าที่ปฏิบัติงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำให้หญิงสาวไม่มีเวลาพักเลย สักพักก็มีจรวดแล่นมาที่ในบ้านเวียงวลาบริเวณที่เธอนั่ง
“กระดาษอะไรลอยมาตรงนี้เนี่ย”พลตำรวจเอกน้ำมนต์บอก
เมื่อพลตำรวจเอกน้ำมนต์เปิดอ่านพบเห็นข้อความและของบางอย่างที่เธอคุ้นตา
“นานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน หวังว่าเธอคงสบายดีนะ นี่ฉันให้ของฝากแทนใจฉัน”น้ำมนต์บอกแล้วมองดูกล้องถ่ายรูปราคาแพงที่หญิงสาวเคยอยากได้สมัยเด็กเมื่อเธอายุสี่ขวบ เธอไม่รู้ว่าเขารู้ได้ไงว่าเธอต้องการมันมาก
“โตขึ้นแล้วสวยเหมือนกันนะเนี่ย”ชายหนุ่มคนหนึ่งบอก
เขายื่นมองดูพลตำรวจเอกน้ำมนต์ตั้งแต่นั่งที่น้ำพุ เจาเป็นเจ้าของจดหมาย เขาคือ สิงห์หรือนรสิงห์ พจน์มาร หลานชายของนายพลชอน บรรณารักษษืในห้องสมุด เขาเคยเป็นเพื่อนเล่นของพลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลา สมัยเด็ก
ย้อนกลับไปตอนที่น้ำมนต์ยังเด็ก พวกเขาชอบไปดูหนังสือและร้านกล้อง พวกเขาชอบอะไรเหมือนๆกัน ยิหวานั่งมองกล้องราคาแพงในร้านกล้อง มันมีสมบัติดีเพียงอย่างเดียวคือ ถ้าจมหรือหล่นพื้นจะไม่แตก ข้อมูลจะไม่หาย
“นี่ มนเธอมองอะไรอยู่นะ”สิงห์ในวัยเด็กถาม
“นี่ไงนายสิงโต กล้องที่ฉันบอกว่าอยากได้ สักวันหนึ่งฉันจะเข้าตำรวจและซื้อกล้องตัวนี้ให้ได้”น้ำมนต์บอก
เหมือนเขารู้ว่าหญิงสาวคนนนี้ต้องการกล้องตัวนี้มากจึงมัดจำด้วยกีตาร์ตัวโปรดของเขาเพื่อจับจ้องมันไว้ และเขาก็เริ่มทำงานเป็นบรรณารักษ์และเรียนหนังสือตั้งแต่มหาวทิยาลัย พอได้เงินมาเขาก็เอาเงินไปจ่ายค่ากล้องและเอากีตาร์ที่มัดจำไว้คืน กว่าจะได้กล้องตัวนี้ถึงมือสาวเจ้ามันช่างยากนัก
เขาเดินออกไปจากบริเวณบ้านเวียงวลา วันนี้เขาแค่อยากเข้ามาหาเพื่อนสาว แต่พอรู้จากสุริยะ เพื่อนชายของเขาที่เข้าใจผิดว่าน้ำมนต์คือลูกศรบอกเขาว่า เธอหมั้นและใกล้แต่งงานแล้ว เขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งเขาควรได้แต่มองเพื่อนสาวด้วยวามคิดถึง เพราะหญิงสาวเล่าว่ามารดาโหดมาก และถ้ารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรกับน้ำมนต์ เขาก็คงมองภาพนั้นไม่ออก
ความคิดเห็น