ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวยสังหาร

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 57


    2

     

    ณ สถานีตำรวจภูธรในจังหวัดสุโขทัย  อันเป็นสถานีตำรวจที่สำคัญในการคลี่คลายคดีใหญ่ในประเทศ ทุกๆคนกำลังตรึงหน้าเคลียด เพราะว่าพวกเขายังจับคนร้ายในคดีขายสารเสพติดยังไม่ได้เลย คดีสังหารคนของนายพลชอนก็มาอีกแล้ว  ทำให้จ่าพงษ์ ตำรวจผู้มีหน้าที่รับผิดชอบว่าใครจะทำคดีไหนต้องเรียกสารวัตรมือดีจากลอนดอนมาช่วย ซึ่งพวกเขาก็เป็นสารวัตรมือดีที่ประเทศไทย แต่ว่าพวกเขาไปทำงานที่นั่นและที่สำคัญพวกเขาเป็นคนไทย

    จ่า ที่ผมให้ตามพลตำรวจชื่อดังสามคนมาช่วยคดีสังหารลูกน้องของพลเมืองดีพลตำรวจชอนล่ะว่าไงจ่าพงษ์บอก

    คือ ตอนนี้รออยู่หน้าห้องของจ่าแล้วครับจ่าอีกคนบอก

    อ้าวแล้วจะมัวช้าอยู่ทำไมรีบตามเข้ามาสิจ่าพงษ์บอก

    แล้วจ่าอีกคนก็ไปตามสารวัตรทั้งสามเข้ามาที่ห้องของจ่าพงษ์ พวกเขาทั้งสมมีความหล่อ ความสูง และหน้าที่ที่คล้ายกัน เพียงแต่พวกเขามิใช่พี่น้องกัน

    สวัสดีครับ จ่าพงษ์สารวัตรจรัญกล่าวทักทาย

      สารวัตรจรัญ เป็น1ในสมาชิกตำรวจมือดีของลอนดอนกับไทยและเขายังกับเพื่อนอีกสองคนก็เป็นตำรวจสายลับที่ไม่ว่าจะทำคดีไหนก็สำเร็จในครั้งแรกเลยทีเดียว

    สวสัดีครับ สารวัตรจรัญจ่าวิชัยบอก

    มีงานอะไรครับถึงเรียกผมกับเพื่อนอีกสองคนสารวัตรจรัญบอก

    คือ ยังงี้ครับ คือตอนนี้พวกเรากำลังหาตัวคนร้ายที่บังอาจฆ่าลูกน้องพลเมืองดีของนายพลชอนครับ สารวัตรจรัญและสารวัตร……….”จ่าวิชัยอธิบาย

    อ่อ ผมลืมแนะนำเพื่อนของผม นี่สารวัตรณรงค์และสารวัตรก้องเกียรติครับสารวัตรจรัญบอก

    ภายในสำนักพิมพ์บารอน ห้องทำงานใหญ่ของบารอน ซึ่งอยู่ชั้นบนของสำนักพิมพ์หรือตึก

    แย่แล้วค่ะ บอกอยุวันดีวิ่งมาพร้อมหนังสือพิมพ์ในมือ

    มีอะไร ยัยดีสมายด์ถาม

    ดูนี่สิยุวันดีบอกพร้อมยื่นหนังสือพิมพ์ให้

    ประกาศจับผู้ต้องหาคดีฆ่าลูกน้องของพลเมืองดี นายพลชอน เอมมิกาอ่าน

    ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น แล้วเราจะเปลี่ยนแผนแบบไหนดีค่ะ บอกอสมายด์ถาม

    สำหรับเราไม่มีคำว่า ยอมแพ้ ทำตามแผนเดิม แค่ลัดเวลาให้เหลือน้อยลงไปเท่านั้นบารอนบอก

       เพราะถ้าเขาแพ้นั้นหมายถึงเขาต้องยอมให้คนอย่างนายพลชอน นายพลจอมลวงโลกทำลายคนดี คนบริสุทธิ์ ไปตลอดกาล และสังคมก็จะมีแต่คนตายอย่างไม่สิ้นสุด หากพวกเขาทั้งสี่ไม่ทำอะไรสักอย่างก็เท่ากับนั่งมองดูคนตายเป็นแสนๆคน

     สามสาวจึงรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เซ็กซี่ที่สุดที่สั่งให้ร้านตัดเสื้อทำมาให้ เมื่อสามสาวออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด บารอนก็เห็นสามสาวใส่ชุดคลุมข้างในจึงถามด้วยความสงสัย

    นี่หรอกเซ็กซี่บารอนถาม

    คือมันอยู่ข้างในค่ะบอกอยุวันดีบอก

    ถอดออกมาบารอนบอก

     สามสาวจึงถอดออกมา บารอนนิ่งมองดูชุดที่สามสาวใส่  สมายด์ใส่ชุดกระโปรงที่สั้นเพียงเอวของเธอ สีของชุดคือสีดำส้ม พร้อมที่ติดต่อบารอนที่หน้าอก ส่วนเอมมิกาใส่ชุดสีขาวโปร่งสั้นจนเห็นเอว สวมด้วยกางเกงเพียงครึ่งขาบน ส่วนยุวันดีนั้นใส่จนบารอนจำไม่ได้ เธอใส่ชุดสีชมพูสั้นเพียงเข่าเหมือนสมายด์แตกต่างตรงรองเท้า สองสาวใส่รองเท้าสั้นสูง แต่ยุวันดีจำเป็นต้องใส่รองเท้าที่ยาว สวย สีแดงยาวและหนาราวสิบ

    เพิ่มสิ่งประดิษฐ์อีกชิ้นของผมดีกว่านะบอกอบอกพร้อมส่งมันให้ยุวันดี

    “Philip is the scorpion ลิปติกแมงป่องยุวันดีอ่านชื่อของมัน

    บอกอจะให้เราทำอะไรกันแน่ค่ะยุวันดีถาม

    จากนั้นเราก็จะเริ่มจากตามท่านชอนไปที่แมสสา โจรน่าจะไปที่นั้นสารวัตรจรัญบอก

    ขอให้ทุกคนทำตามที่สารวัตรจรัญบอกจ่าวิชัยบอก

     ก่อนพานายทหารต่างๆออกไป

    จรัญ นี่นายไม่คิดแผนที่สองไว้เลยหรอกสารวัตรก่องเกียรติถาม

    คิดสิยุวันดีบอก

    คิดอะไรเอมมิกาถาม

    คิดว่าเราควรเตรียมแผนสำรองไว้เผื่อแผนแรกไม่สำเร็จยุวันดีบอก

               คืนนั้นสามสาวขับมอเตอร์ไซด์วิบากสีดำที่บารอนเลือกมาให้จากบริษัทรถยนต์ที่เพื่อนของตนทำงานอยู่   สมายด์นั้นใส่เสื้อคลุม เสื้อที่ใส่ รวมถึงรถเป็นสีส้มแสดงถึงความแค้นตามสีที่เธอนำมา  ส่วนเอมมิกาใส่เสื้อคลุมสีฟ้าเข้ม เสื้อสีขาว รถสีฟ้าเข้ม แสดงถึงความโกรธแค้นที่มีเพียงเล็กน้อยต่อชอน และยุวันดีใส่ชุดทุกอย่างสีแดง รวมทั้งรถของเธอด้วยรถของเธอเป็นสีแดง แสดงถึงความแค้นที่ชอนและสัตว์เลี้ยงของเขาทำกับแม่ของเธอ

    ตอนนี้เพิ่ง 2 ทุ่ม ชอนจะมาที่นี้ประมาณ 4 ทุ่ม ระหว่างนี้ ฉันและสมายด์จะดูต้นทางให้เธอก็เข้าไปดูสถานการณ์ข้างในนะเอมมิกาบอก

    เดี๋ยว ดี พยายามเก็บความแค้นไว้นะ หลอกให้มันตายใจก่อนนะแล้วค่อยจัดการมันนะสมายด์เตือนยุวันดี

      ด้วยเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปถึงสิบกว่าปี แต่ความแค้นของสามสาวยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน สมายด์เคยได้ยินฟังคำสนทนาของบิดาของยุวันดีและยุวันดีคุยกัน

    ตอนนี้แม่ของลูกก็ตายแล้ว แล้วลูกจะอยู่กับใครบิดาของยุวันดีบอก

    หนูจะอยู่อย่างไงมันก็เรื่องของหนู คุณเอาเวลาไปอยู่กับครอบครัวของคุณเถอะค่ะยุวันดีบอก

    แสดงว่า หลายปีที่ผ่านมาลูกไม่เคยนึกว่าพ่อเป็นพ่อของลูกเลยใช่ไหม ยุวันดีบิดาของเอบอก

    ดิฉันคงไม่อาจเอื้อมเป็นลูกของพลตำรวจเอกเวียง เวียงวลาหรอกค่ะยุวันดีบอก

     บังเอิญสมายเดินเข้ามาพอดีได้ยินดังนั้นก็รู้ว่า สิบปีที่ผ่านมายุวันดี เพื่อนรักของตนไม่เคยลืมการกระทำของบิดาที่ทำต่อเธอและแม่ของเธอได้เลย

    นั้นมันรถตำรวจนี้นะ หรือว่ามันจะมาคุมกันไอ้ชอนสมายด์บอกเอมมิกา

    แกเข้าไปเตือนดี ส่วนฉันจะให้บทเรียนกับคุณตำรวจเองเอมมิกาบอก

     เมื่อเห็นสมายด์เข้าที่แมสสาแล้ว เอมมิกาก็หยิบของในกระเป๋ากางเกง มันคือตะปู

    ตอน 4 ทุ่ม ท่านชอนจะมาเราจะต้องคุมกันท่านสารวัตรจรัญบอก

     คุมกันเอมมิกาบอก

    ไม่มีใครขัดขวางแผนการของเอมมิกาได้หรอกรู้เอาไว้ด้วยเอมมิกาบอกในใจ

     จากนั้นก็ทิมตะปูลงในล้อรถทั้งสามคันของสารวัตรทั้งสามได้แก่ สารวัตรจรัญ สารวัตรก้องเกียรติและสารวัตรณรงค์

    ระหว่างรอท่านฉันกับรงค์จะไปสำรวจเส้นทางปิดเพื่อคนร้ายบุกมาสารวัตรก้องเกียรติบอก

    ก็ดีเหมือนกัน คราวนี้มันเสร็จฉันแล้วสารวัตรจรัญบอก

     เพียงขับมอเตอร์ไซด์สองคัน สารวัตรก้องเกียรติและสารวัตรณรงค์ก็ล้มลงอย่างแรง สารวัตรจรัญรีบเข้ามาช่วยเพื่อนทั้งสอง

    เป็นไงบ้าง ก้อง รงค์สารวัตรจรัญบอก

    ก่อนจะหันไปดูที่รถของสารวัตรก้องเกียรติเห็นกระดาษติดไว้ที่เกียร์ของรถจึงหยิบมาอ่าน

    ขอให้สนุกกับการขับรถสารวัตรจรัญอ่านพร้อมขยับจดหมายทิ้งด้วยความโกรธ

     เมื่อสมายด์เข้ามาที่แมสสาก็เห็นยุวันดีกำลังมองดูสถานที่จึงเข้าไปเตือน

    อยู่นี้เองหาตั้งนานสมายด์บอก

    มีอะไรหรอ มายด์ยุวันดีบอก

    มีตำรวจมาป้องกันไอ้ชอน อ่อ   ท่านชอนที่นี้นะสมายด์บอก

    เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆยุวันดีบอก

    อะไรหรอสมายด์ถาม

    ก็พวกตำรวจต้องการจับสวยสังหารของพวกเราไงล่ะยุวันดีบอก

    มันแน่มากที่มากระตุกหนังเสือถึงถ้ำสมายด์บอก

    ใจเย็นๆนี้ใกล้เวลาแล้ว นู่นไงมากันแล้วยุวันดีบอก

     สิ่งที่เธอรอคอยก็มาถึง นายพลชอนมาพร้อมบอดี้การด์ที่มาคุมข้างหลัง พร้อมด้วยสารวัตรสามคนที่แต่งกายเหมือนคนปกติเข้ามาคุมกัน

    ฮัลโหล เอม ชอนเข้ามาแล้วทำตามแผนเลยสมายด์บอก

    โอเคเอมมิกาบอก

    พร้อมเตรียมอุปกรณ์ที่บารอนประดิษฐ์ให้ใหม่มันคือ ตุ้มหูยาสลบ และตุ้มหูควัน ข้างซ้ายคือยาสลบ ข้างขวาคือควัน เอมมิกาและเพื่อนๆถอดเสื้อคลุมกันออกมา  เอมมิกาใส่ชุดสายเดียวสีฟ้าเข้ม สมายด์ใส่ชุดสีส้มสั้นเพียงเอว  และยุวันดีใส่กระโปรงสีแดงสั้นเพียงครึ่งขาบน สร้างความดีใจแก่ชอน ชอนจึงเข้ามาทักทายยุวันดีตามแผน  แต่ครั้งนี้เหมือนสวรรค์เป็นใจบอร์ดี้การ์ดของชอนทั้งสองคนก็มาเต้นคู่กับสมายด์และเอมมิกา

    แย่แล้ว โลม บอดี้การ์ดของท่านชอนไปเต้นกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้เอาไงดีสารวัตรก้องเกียรติบอก

    ไม่เป็นไร ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เราจะต้องได้จับตัวไอ้คนที่ทำลายท่านชอนได้ให้ได้ สารวัตรจรัญบอก

    เธอชื่ออะไรนายพลชอนถาม

    ฉันชื่ออะไรไม่สำคัญหรอกท่านยุวันดีบอก

     ฉันคือ นายพลชอน ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนี้ชอนบอก

    ถ้าท่านยิ่งใหญ่จริง ท่านก็คงไม่มาทำลายประชาชนหรอกยุวันดีบอกในใจ

     เมื่อถึงเวลาลงมือ เอมมิกาและสมายด์ได้หลอกล่อให้บอร์ดี้การ์ดไปตามตนและจัดการกับบอดี้การ์ดโดยใช้อาวุธที่เธอเตรียมมา

    ดีนะที่พวกมันไม่มีใครสงสัย ไปกันเถอะ ยังเหลืออีกคนที่ราต้องจัดการและก็ไปจัดการบอร์ดี้การ์ดอีกคนที่อยู่หน้าทางออกเอมมิกาบอก

    ใครล่ะสมายด์บอก

    ก็สารวัตรไงแล้วก็เป้าหมายของเราด้วยเอมมิกาบอก

      แล้วก็ส่งสัญญาณให้ยุวันดี ที่กำลังถ่วงเวลานายพลชอนอยู่ ถ่วงเวลาต่อจนกว่าเธอจะสำเร็จ

    ฉันกำลังจัดการตำรวจกับเป้าหมายอยู่ทางนั้นแกจะถ่วงเวลาไอ้ชอนนะเอมมิกาบอก

    โอเคยุวันดีบอก

     ขณะที่สองสาวกำลังจัดการเป้าหมายสารวัตรจรัญและสารวัตรณรงค์เดินผ่านมาพอดี เอมมิกาจึงใช้อาวุธลับ คือ ตุ้มหูยาสลบ เอมมิกาจึงโยนลูกตุ้มหูกลมๆใส่สารวัตรทั้งสองจนสลบ แล้วจึงไปฆ่าเป้าหมายนั้นคือมือซ้ายของนายพลชอน เมื่อเสร็จจากการฆ่าก็เดินมาที่สารวัตรทั้งสองที่กำลังสลบอยู่

    เราจะเอาไงกับสองคนนี้ดีล่ะ เอมสมายด์ถาม

    ทิ้งเขาไว้ที่นี้แหละ เราไปช่วยดีก่อนดีกว่าเอมมิกาบอก

    เมื่อสองสาวเดินเข้ามาหายุวันดีเห็นชอนใส่ยาสลบให้ยุวันดีจึงแกล้งบอกกับนายพลชอนว่า

    ขอโทษนะค่ะ ท่านนายพล บังเอิญฉันและเพื่อนที่กำลังคุยกับท่านอยากกลับบ้านขอตัวนะค่ะเอมมิกาตัดบทและพายุวันดีเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

    นี่มันกล้าทำขนาดนี้เลยหรอกยุวันดีถาม

    ใช่มันกะจะทำเหมือนที่มันทำกับแม่ของฉันสมายด์บอก

    ไอ้ชอน ไอ้คนไม่ดี เมื่อไหร่มันจะเลิกทำร้ายเพศแม่อย่างพวกเราสักทีเอมมิกาบอก

    จนกว่ามันจะหยุดความต้องการบารอนบอก

       เพราะเขาไม่มั่นใจว่านายพลชอนว่าคนอย่างนายพลชอนจะเลิกทำร้ายและบังคับหญิงสาวและเด็กเมื่อไร ไม่แน่คำตอบที่เขาจะได้คงเป็นตอนที่นายพลชอนตายไปจากโลกนี้ละมั่ง

     ภายในบ้านของเอมมิกาเช้าวันต่อมา สุพรรษานั่งทำกับข้าวและอ่านหนังสือพิมพ์เธอพบข่าวลูกน้องของนายพลชอนถูกฆ่าเธอก็โกรธ เอมมิกาเข้ามาพอดี

    โธ่ใครกันนะกล้าทำกับท่านชอนได้ ท่านทำอะไรให้ถึงทำแบบนี้สุพรรษาถาม

    แม่จ๊ะ คนชั่วๆแบบนี้ตายไปก็ดีอยู่แล้ว จะไปเสียดายมันทำไมเอมมิกาบอก

    ทำไมพูดแบบนี้ล่ะลูก ท่านนายพลชอนเป็นคนดีนะลูก สุพรรษาบอกลูก

    ดีแต่หน้าตาล่ะสิแม่เอมมิกาบอก

      ก่อนที่เอมมิกาจะอารมณ์เสียและเดินออกไปจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว สุพรรษาพยายามเข้าใจลูกสาวของตน เพราะเหตุใดเอมมิกาถึงได้จงเกลียดจงชังนายพลชอนนักหนา เวลาที่ตนอ่านข่าวนายพลชอน ลูกสาวของตนก็จะออกไปโดยไม่ได้บอกสักคำว่าจะไปได้   หลังจากสิบปีที่ตนบวชลูกสาวของเธอเปลี่ยนไปมากจากเดิม มารดาของเอมมิกาไม่รู้หรอกว่า คนที่มารดาของเธอชมเชยจะเป็นคนคนเดียวกับที่เกือบทำให้เธอตาย 

                    สำหรับเอมมิกาและเพื่อนๆอีกสองคน คือ ยุวันดีและสมายด์ ถึงนายพลชอนจะถูกผู้คนชื่นชอบและเคารพมากเท่าไร แต่เธอทั้งสามไม่ใช่ 1 ในนั้นแน่นอนทั้งสามบอก นับตั้งแต่ที่เธอและเพื่อนทั้งสองได้เดินทางร่วมกับบารอนไปประเทศจีนเมื่อ 10 ปีก่อนเธอได้เริ่มชีวิตใหม่ที่นั้น ยิว ฟาง เอ่อ เจ้าสำนักชื่อดังของประเทศจีน น้องสาวของบารอนได้รับสามสาวมาดูแล บารอนได้ถ่ายทอดวิชาต่างๆให้สามสาวรวมถึงวิชาเอาตัวรอดและได้เอาวิชาของผู้หญิงมาสอนให้  ถ้าไม่มีบารอนในวันนั้นก็ไม่อาจมีสวยสังหารทั้งสามในวันนี้ก็เป็นได้

      ภายในนอกสำนักของ ยิว ฟาง เอ่อ สามสาวในวัยเด็กเดินเที่ยวตลาด บังเอิญไปเห็นชายคนหนึ่งตีลูกของตนเองราวกับทาส

    นี่ นางลูกไม่รักดีสั่งให้ไปซื้อเหล้ามาให้ก็ไม่ไปชาคนหนึ่งบอกแล้วใช้ไม้เรี่ยวตีลูกจนเจ็บ สาวอย่างเจ็บปวด

    ทำไมคนชอบทำร้ายลูกตนเองด้วยนะ ฉันเกลียดพวกที่ทำร้ายร่างกายของคนที่อ่ออนแอมากเลยเอมมิกาบอก

    ถ้าเธอเกลียดพวกนี้ เธอต้องทำให้โลกรู้ว่าการทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่าเป็นสิ่งที่ผิดและบาปมากบารอนบอก

                    บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่แถวๆทางไปบ้านของยุวันดี เธอจ้องมองที่ฝังศพของมารดาของตน มารดาของตนเป็นคนดี คนสวย ถ้ามารดาของเธอไม่ถูกพ่อของเธอใจร้ายแบบนั้น  มารดาของเธอก็คงไม่ต้องเสียชีวิตในวันนั้น แม้ว่า พลตำรวจเอกเวียง เวียงวลา จะมาหายุวันดีตั้งแต่รู้ข่าวการตายของภรรยาจากปากของลูกสาวของตน  ไม่ว่าเขาพยายามจะทำดีไหนยุวันดีไม่เคยใจอ่อนหรือยอมเรียกเขาว่า พ่อ แถมยังไล่เขาไปอีก สำหรับสิ่งที่เขาทำกับภรรยาคนแรกของเขาและลูกตัวน้อยของเขานั้นถือว่ามาก เพราะถ้าไม่ใช่เขา ลูกสาวคนแรกของเขาก็ไม่ต้องกำพร้าแม่ และไม่ต้องลำบากด้วย    ในวันต่อมายุวันดีได้ทำดอกไม้มาให้แม่ที่ฝังศพแม่ของเธอ เธอนำดอกไม้ที่มีชื่อว่า  ลีลาวดี ซึ่งเป็นดอกไม้โปรดของแม่ของเธอ   วิญญาณที่ไร้ร่างของมาริสารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของลูกสาว เธอเองก็เคยโกรธสามีของเธอที่ทำกับเธอและลูกสาวของเธอไว้ แต่เวิญญาณของเธอไม่เคยกลับไปหาสามีของเธอ ทุกเวลาทุกวินาทีเธอจะอยู่กับลูกสาวของเธอเสมอ เพราะเธออยากอยู่กับลูกสาวจนกว่าถึงเวลาที่เธอจะไปเกิดยังภพใหม่  แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของเธอ ยังมีอีกหลายสิ่งที่เธอจะต้องทำ สิ่งแรกที่เธอต้องทำ คือ ช่วยลูกสาวจากนายพล จอมหลอกลวงโลก เธอรู้ว่าเป้าหมายต่อไปของนายพลชอนคือใคร เธอพยายามไปหลอกชอนทุกคืนเพื่อให้ชอนยกเลิกความตั้งใจที่จะเอาลูกสาวของเธอไปเป็นภรรยาเก็บของเขา เพราะข่าวลึกลับของ นาคา ภรรยาเก็บคนล่าสุดของนายพลชอนได้เผยความชั่วช้าของสามีของตนเองให้กลุ่มสวยสังหารได้รู้

      ในวันที่ข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ในโรงแรมซึ่งเป็นโรงแรมที่สามีของข้าพเจ้า เมียหลวงและเมียเก็บของเขาอาศัยอยู่ สวัสดีสวยสังหารทั้งหลาย ฉันรู้ว่าเธอมีตัวตน ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบสามีของฉัน แต่เขาเป็นคนไม่ดีอย่างที่เธอพูดจริง ตอนแรกเขาทำดีต่อฉัน แต่เวลาที่เขาพาฉันเข้าที่นี้เหมือนพาฉันไปนรกเลย เขาไม่เคยหันกลับมาหาฉันเลย เขาเอาแต่ตบตีฉันจนฉันเกือบแท้งลูกของเขา ใช่ฉันกำลังท้องลูกของเขา เมียหลวงของเขาตอนแรกฉันไม่ชอบเธอเลย แต่พอได้รู้จักกันจริงๆฉันกลับรู้สึกว่าอยากให้เธอเป็นสามีของฉันแทนมากกว่า โรงแรมของเขาอยู่ที่ใกล้ๆศูนย์บัญชาการนายร้อยของจังหวัด ฉันคงต้องไปแล้ว เดี๋ยวสามีของฉันจะสงสัยนาคาบอก

      เข้าใจแล้วนะ รู้ไหมว่าต้องทำอย่างไงบารอนถามสามสาว

    แม่ค่ะ หนูขอไปจัดการคนที่มันฆ่าแม่ก่อนนะค่ะยุวันดีบอกแม่

    ด้วยความคิดถึงมารดาทำให้ยุวันดีได้พลังพิเศษคือ สามารถสื่อสารกับผีและสัตว์ชนิดต่างๆได้ดี

    แม่ขอได้ไหมลูกอย่าไปเลย มันอันตรายมาริสาบอกลูก

    อันตรายแค่ไหนหนูก็ต้องไปค่ะแม่ยุวันดีบอก

    งั้นแม่ขอให้ลูกจงปลอดภัยกลับมานะลูกมาริสาบอก

    จ๊ะแม่ยุวันดีบอก

    ฝ่ายสมายด์มาหามารดาที่โรงพยาบาลคนบ้าของจังหวัดหรือโรงพยาบาลจิตเวชน์  มารดาของเธอนั่งรถเข็นมองดูสภาพต่างด้วยสีหน้าที่เศร้า หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นไป มารดาของเธอก็เป็นอาการแบบนี้  ไม่น่าเชื่อว่ามารดาของเธอเคยเป็นโรคหัวใจมาก่อนเธอเพิ่งทราบเมื่อหลายวันที่ผ่านมา ว่าแล้วเธอก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ที่ทำให้มารดาต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้  จึงออกไปเตรียมตัว ฝ่ายเอมมิกานั่งมองดูมารดาและน้าสาวทำอาหารแล้วจึงเอากุญแจรถมอเตอร์ไซด์ออกไป สามสาวไปเจอกันที่หน้าศูนย์บัญชาการซึ่งเป็นที่ทำงานราชการลับของสารวัตรทั้งสาม

    แย่แล้ว มีตำรวจเอาไงดีสมายด์บอก

    คนอย่างเอมมิกาเคยกลัวใครเป็นที่ไหน ไหนเมื่อมีคนมาขว้างทางเรา เราจะต้องให้บทเรียนเอมมิกาบอกพร้อมถอดเสื้อคลุมออก

    มันจะทำอะไรของมัน เธอรู้ไหมดีสมายด์ถาม

    ทำแบบที่พวกเราทำกับพวกของชอนไงยุวันดีบอก

    สวัสดีค่ะ คุณสารวัตรเอมมิกาบอก

    สวัสดีครับคุณผู้หญิง มีอะไรให้เราช่วยไหมครับสารวัตรจรัญถาม

    ไอ้ มีนะมีแน่เอมมิกาบอกในใจ

    อ่อ คือว่า ตอนนี้แถวบ้านของฉันมีคนเลวอยู่คนหนึ่งค่ะเอมมิกาบอก

    ใครล่ะครับสารวัตรจรัญบอก

    สารวัตรจำคดีใหญ่ที่บอกว่า กลุ่มสวยสังหารที่ฆ่าลูกน้องของนายพลชอนและก็วางยาสลบคุณสารวัตรทั้งสามได้ไหมค่ะเอมมิกาถาม

    จำไครับ ทำไมหรอกครับสารวัตรจรัญบอก

    คือ ฉันทราบข่าวมาว่าคืนนี้สวยสังหารจะบุกที่โรงแรมท่านชอนเอมมิกาบอก

    คุณรู้ได้ไงสารวัตรจรัญถาม

    เอาเป็นว่าฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสวยสังหารค่ะ แล้วรู้ด้วยว่า…………………”เอมมิกากำลังบอก

    สารวัตรครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับจ่าคนหนึ่งวิ่งมาบอก

    เกิดอะไรขึ้นสารวัตรจรัญถาม

    คือว่า มีคนเผามอเตอร์ไซด์ของเราครับจ่าบอก

    รีบให้คนของเราดับไฟนะสารวัตรจรัญบอก

    ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นครับสารวัตรจรัญบอก

    ฉันรู้แค่ว่า ถ้าคุณตำรวจไม่บุกไปที่โรงแรมที่พักของนายพลชอน อาจจะมีคนตายอีกหลายคนหรือไม่ก็ตายหมดที่นี้เลยก็ได้นะค่ะเอมมิกาบอก

     จ่า สารัวตรจรัญเรียก

    ครับ สารวัตรจ่าคนหนึ่งถาม

    เตรียมคนออกไปที่โรงแรมบ้านพักของท่านชอน ไม่ต้องถามว่าเพราะอะไร ถ้าเพื่อนฉันกลับมาแล้วก็ให้รีบตามไปทันที่สารวัตรจรัญบอกพร้อมมองหน้าเอมมิกา

                    เมื่อเป็นไปตามแผนเอมมิกาก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ตามยุวันดีและสมายด์ไปโดยคราวนี้พวกเธอเตรียมชุดกระโปรงไป เอมมิการู้ว่าสารวัตรจรัญจะต้องมาจึงสร้างเกมส์ให้สารวัตรจรัญเล่นกับทหารคนอื่น

    นี่ไงห้องของคุณนาคายุวันดีบอก

    ลองเปิดเข้าไปสิสมายด์บอก

    เมื่อเปิดไปพบหญิงสาวเจ้าของชื่อนอนตายจมกองเลือดพร้อมลูกที่เพิ่งเกิดมาใหม่ที่นอนร้องไห้อยู่

    คุณนาคาทั้งสามบอก

     “เด็กทารก สมายด์บอก

    มันใจร้ายถึงขนาดฆ่าเด็กเลยหรอกเนี่ย

    ฉันว่าเราอย่ามัวพิจารณานายพลชอนเลย ดูทางนี้ก่อนไหมยุวันดีบอก

     ยุวันดีให้เอมมิกาและสมายด์ดูว่าทางเข้าโรงแรมมีตำรวจมา

    เดี๋ยวฉันกับสมายด์จะต้อนรับแขก เอมรออยู่กับเด็กคนนี้นะ คราวนี้พวกคุณตำรวจได้สนุกแน่ยุวันดีบอกพร้อมหยิบอุปกรณ์ส่วนตัวของตนเองออกมามันคือ ขลุ่ยมอดม้วย  ข้างนอกจะเป็นเหมือนเครื่องดนตรีขลุ่ย ข้างในจะเป็นยาสลบซึ่งบารอนได้ประดิษฐ์คิดค้นให้ยุวันดีเมื่อครั้งที่เธอเดินทางมาที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก

    สารวัตรครับ แล้วเราจะทำอย่างไงต่อครับจ่าวิชัยถาม

    ก็เข้าไปตรวจความเรียบร้อยของโรงแรม ผมก็อยากจะรู้ว่าเป้าหมายของคนร้ายคือใครสารวัตรก้องเกียรติบอก

    ครับจ่าวิชัยบอก

     สารวัตรก้องเกียรติเป็นมือดีของสถานีตำรวจของประเทศไทย ซึ่งทำราชการลับให้กับองค์กรลับของสถานีตำรวจของประเทศอังฤกษ ซึ่งเขาได้ถูกหมายหมั้นกับลูกศร ลูกสาวคนที่สองของพลตำรวจเวียง เวียงวลากับคุณหญิงยุพิน เวียงวลา  ถ้าพูดถึงครอบครัวนี้แล้วถือว่าตระกูลนี้เป็นครอบครัวที่เป็นหน้าเป็นตาของสังคมเนื่องจากคุณหญิงยุพินเป็นถึงลูกสาวของนักการเมืองชื่อดังของประเทศไทยขณะนี้และคุณแม่ของคุณหญิงยุพินก็เป็นนางสาวศรีสยามที่มีผู้คนนับถือและรักมาก 

    นั้นไงพวกตำรวจสมายด์บอกยุวันดี

    ฉันว่านะเรานะจะจับสารวัตรสามคนนั้นนะยุวันดีบอก

    ฉันก็คิดเหมือนแกนั้นแหละดี ต่อไปเราจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างเสี่ยงๆถ้าเราฉีดยาลืมโลกของบอกอ สารวัตรสามคนนี้ก็จะจำเราไม่ได้สมายด์บอก

     ยาลืมโลกเป็นยาที่บารอน ครูของทั้งสามสั่งให้นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของอิตาลีผลิตให้ ยานี้ถ้าใครโดนฉีดจะจดจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลยจำได้เพียงชื่อของตนเอง

    จากนั้นสองสาวก็มุ่งตรงเข้าไปหาสารวัตรทั้งสามโดยเดินไปทางหลังคา เมื่อเข้าไปใกล้จุดที่สารวัตรทั้งสามยื่นสมายด์และยุวันดีก็หันมาคุยกัน

    ฉันก็ไปวางเพลิงล่อพวกตำรวจที่เหลือ ทางนี้แกจัดการสารวัตรทั้งสามเลยนะสมายด์บอกพร้อมเดินไปตามทางไปที่ป้อมของโรงแรมนี้แล้วจุดเพลิงใส่ นายทหารคนหนึ่งที่กำลังตรวจความเรียบร้อยของอาคารได้กลิ่นควันมาทางหน้าต่างจึงออกไปดูเห็นป้อมของโรงแรมไฟไหม้จึงเรียกทหารคนอื่นไปดับไฟที่ป้อม

    แย่แล้วไฟไหม้ ใครก็ได้ช่วยกันไปเอาน้ำดับไฟทีทหารคนหนึ่งบอกพร้อมวิ่งไปเปิดประตูห้องของวราภา ซึ่งเป็นหนึ่งในภรรยาเก็บของนายพลชอน เธอเป็นลูกสาวของนายยกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของประเทศไทยและคุณหญิงดารา นักร้องชื่อดังของอังฤกษ ฝ่ายวราภาเห็นทหารเข้ามาก็ตกใจรีบหยิบปืนออกมาเตรียมต่อสู้ แต่ทหารคนนั้นไม่สนใจเขารีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำซึ่งวราภาเปิดน้ำทึ้งไว้เพื่อรอ มังกร ลูกชายคนแรกกลับมาจากการสอบมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของอังฤกษ นายทหารคนนั้นเอาขันราดน้ำทั่วร่างกายเพื่อดับไฟในป้อม เมื่อเขาออกมาเห็นวราภาหายไปจึงหยิบกุญแจห้องวราภาออกไปด้วย ฝ่ายวราภาเห็นนายทหารออกไปแล้วก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องแล้วบอกลูกชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้

    ฉันสัญญานะว่า ฉันกับเพื่อนๆก็ดูแลเจ้าหนูคนนี้เอง เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะนาคาเอมมิกาบอกกับร่างนาคา

     เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงที่บริสุทธิ์อย่างนาคาหรือคนอื่นๆมาตายฟรีเพราะนายพลชอนอีก เขาจะต้องได้รับบทลงโทษจากสิ่งที่เขาทำ พวกเธอทั้งสามคนจะขอเป็น มัจจุราช เอาชีวิตของนายพลชอนไปลงโทษในสิ่งที่เขากระทำไว้ทั้งแม่ของเธอ คนรักของเธอ และคนอื่นๆที่ถูกกระทำด้วย

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×