ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สวยสังหาร

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 57


                   8

     

     ภายในงานแฟชั่น ผู้คนที่มาร่วมงานล้วนแต่แต่งตัวเป็นแฟชั่นทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คุณกลินท์ ผู้บริหารมูลนิธีดีเพื่อดี ที่ในวันนี้มาในชุดแวมไพร ทางด้านสารวัตรทั้งสามได้ข่าวจากพลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลาว่า สามสาวที่พวกเขารู้จักจะมาในวันนี้ พวกเขาทั้งสามเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพลตำรวจเอกน้ำมนต์ เวียงวลา ผู้นี้จึงรู้จักกับสามสาวผู้ลึกลับด้วย หรือว่า พลตำรวจน้ำมนต์  เวียงวลา จะเป็นพวกเดียวกับสามสาวนั้น

    เพิ่งรู้นะว่ายัยทอมกับเพื่อนอีกสองคนจะมางานนี้ด้วยสารวัตรจรัญบอก

    สักพักหนึ่งยุวันดี สมายด์ และ เอมมิกา ก็เข้ามาในงานแฟชั่น โดย เอมมิกาใส่ชุดคนเสริฟอาหาร สมายด์ใส่ชุดแม่มด และยุวันดีใส่ชุดนางเงือกแต่ไม่มีหาง   สารวัตรทั้งสามบอกอย่างตะลึง

    โห นี่ยัยทอมสวยขนาดนี่เลยหรอเนี่ยสารวัตรจรัญรำพึงในใจ

    นี่คุณสวยขนาดนี่เลยหรอครับ คุณมายสารวัตรณรงค์บอกในใจ

    นี่ถ้าเราไม่สืบมาก่อนนะว่าเธอคือ ยุวันดี เวียงวลา  ล่ะก็ คงไม่ปล่อยให้ทำงานแบบนี้หรอสารวัตรก้องเกียรติ์บอกในใจ

    สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้กระผมในนามของผู้บริหารมูลนิธีดีเพื่อดีและผู้จัดงานนี้ขึ้นมา ขอบอกทุกคนเลยว่า กว่าพวกเราจะทำให้มีวันนี้ขึ้น พวกเราต้องลำบากลำบนคิดหาทางแก้ไข จนมีนายพลทหารคนหนึ่งซึ่งท่านก็มาในงานนี้ ขอเชิญนายพลชอนขึ้นมาบนเวทีด้วยครับคุณกลินเอ่ย

    เพียงได้ยินเสียงชื่อนายพลชอน ทุกคนก็ปรบมืออย่างดัง

    ขอบคุณครับ ขอบคุณ วันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่คุณกลินอุตส่าห์มาเชิญผมมาในงานนี้ ผมก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งซึ่งอยากให้ประเทศเรามีอะไรที่เหมือนเขานายพลชอนพูด

    ข้อแก้ตัวของคนเลวที่ทำความเลวไว้เยอะ นี่ถ้าไม่สืบความมาคงไม่รู้ยุวันดีบอก

    นี่คุณ อย่าไปกล่าวหาใครแบบไม่มีหลักฐานสิ แล้วที่คุณไปสืบคืออะไรสารวัตรก้องเกียรติบอกแล้วก้าวเข้ามาข้างซ้ายของยุวันดี

    อยากรู้มากหรอเลยหรอค่ะ คุณสารวัตรยุวันดีถาม

    ใช่ ผมอยากรู้จะทำไม....สารวัตรก้องเกียรติถาม

     ว่าแล้วยุวันดีก็ฝากกระเป๋าไว้ที่สมายด์ซึ่งกำลังตั้งใจมองที่เวที และดึงหูสารวัตรก้องเกียรติไปที่หน้าลิฟท์

    นี่คุณจะพาผมไปที่ไหนเนี่ยสารวัตรก้องเกียรติบอก

    เดี๋ยวคุณก็รู้

    ยุวันดีบอกพร้อมกดลิฟท์พาสารวัตรเข้าไปแล้วกดไปที่ชั้นที่ 5 เมื่อมาถึงชั้น 5 ยุวันดีก็ออกไปโดยไม่รอสารวัตรก้องเกียรติเพราะรู้ว่าเขาต้องตามออกมาแน่นอน เมื่อเห็นว่าสารวัตรก้องเกียรติอยู่ด้านหลังแล้ว ยุวันดีก็ไปที่ห้องหมายเลข 155 เพราะงานนี้จัดในโรงแรมใหญ่ๆ และเปิดห้อง เมื่อห้องถูกเปิดยุวันดีก็พาเขาเข้าไปในห้อง สารวัตรก้องเกียรติมองไปรอบๆภายในห้องถูกจัดให้สวยราวกับว่าคนที่มาพักเป็นคนสำคัญ เมื่อเขาเดินผ่านห้องนี้ไป เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนกอดหมอนร้องไห้อยู่บนเตียง

    นี่มันอะไรกันนะคุณสารวัตรก้องเกียรติถามบอก

    นี่ไงสาเหตุที่ทำให้นายพลชอนยอมช่วยงานนี้ยุวันดีบอก

      สาเหตุที่นายพลชอนยอมช่วยงานนี้เพราะ บุญเลิศ เลขาฯส่วนตัวของคุณกลิน เจ้าของงาน นำเงินไปเล่นการพนันจนหมด พอวันหนึ่งเขาได้เจอนายพลชอน และนายพลคนนี้ก็ได้ยืนข้อเสนอที่คุณบุญเลิศพร้อมให้นั่นคือ กานนำตัวลูกสาวคนแรกของคุณกลินไปให้นายพลชอน  ลูกสาวคนที่สองของคุณกลินมีชื่อว่า ดอกเหมย เธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    นี่แกพูดจริงเหรอที่คุณดอกเหมยถูกบุญเลิศ เลขาฯส่วนตัวของพ่อเธอขายตัวให้นายพลชอนสารวัตรณรงค์ถาม

    จริงสารวัตรก้องเกียรติตอบอย่างสั้นๆ

    ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะกล้าทำขนาดนี้ แล้วนี่คุณดอกเหมยเป็นไงบ้างล่ะสารวัตรจรัญถาม

    ก็เห็นคุณยุวันดีเขาบอกว่าได้พาเธอกลับไปที่ศูนย์บำบัดจิตใจนะสารวัตรก้องเกียรติ์บอก

       ย้อนกลับไปตอนที่สารวัตรก้องเกียรติไปพบดอกเหมยในสภาพของผู้หญิงที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น

    คุณดอกเหมยค่ะ กลับบ้านกันเถอะค่ะยุวันดีบอก

    ฉันจะกลับได้อย่างไง ถ้าพ่อฉันรู้ท่านต้องโกรธฉันมากแน่ๆเลยดอกเหมยบอก

    คุณดอกเหมยไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องนั้นผมจะอธิบายให้พ่อคุณฟังเองสารวัตรก้องเกียรติบอก

    คือ พี่สาวค่ะหนูมีเรื่องจะคุยกับพี่สาวตามลำพังค่ะดอกเหมยบอก

    ว่าแล้วสารวัตรก้องเกียรติจำใจออกไปเฝ้าที่หน้าห้อง

    พี่สาวค่ะ คือ หนูไม่อยากกลับบ้านดอกเหมยบอก

    ได้สิ แต่หนูต้องไปศูนย์บำบัดจิตใจกับพี่นะยุวันดีบอก

    ค่ะ แต่ไปพรุ่งนี้ได้ไหมค่ะ ไปพร้อมกับแฟนสุดหล่อของพี่ไงค่ะดอกเหมยบอก

    อืมยุวันดีบอก

    แล้วแกก็เลยให้น้องเขาเรียกสารวัตรก้องเกียรติเป็นแฟนกับแก ทั้งๆที่แกเกลียดผู้ชายเนี่ยนะเอมมิกาบอก

    ใช่  แต่ที่ฉันทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้น้องเขาเสียใจหรือผิดหวังยุวันดีบอก

    งั้นน้องเขาคงไม่ผิดหวังแล้วล่ะสมายด์บอกพร้อมชี้ไปทางด้านล่างของบริษัทบารอน สารวัตรก้องเกียรติซึ่งตอนนี้ไม่ได้อยู่ในราชการแล้วเพราะบังเอิญว่าวันนี้เป็นหยุดของเขาพอดี แท้จริงแล้วเขามีวันหยุดถึง 2 เดือน แต่เพราะเขาไม่หยุด จึงทำให้ตอนนี้วันหยุดเหลือเพียง 1 เดือน

    ฉันขอตัวก่อนนะแกยุวันดีบอก

    อืม ไปนานๆเลยนะแกไปพิชิตรักกับสารวัตรก้องเกียรตินะเอมมิกาบอก

    รอฉันนานไหมคุณยุวันดีบอก

    นานแค่ไหนผมก็รอคุณได้สารวัตรก้องเกียรติ

     คุณแล้วดอกเหมยล่ะยุวันดีบอก

    น้องเขานั่งรออยู่ในรถแล้วคุณสารวัตรก้องเกียรติบอก

     เมื่อพาดอกเหมยไปฝากไว้ที่ศูนย์บำบัดจิตใจเรียบร้อยแล้ว สารวัตรก้องเกียรติก็พายุวันดีไปส่งที่บริษัทบารอน เพื่อนๆของยุวันดีมานั่งรอกันที่บริษัท เพราะถ้าขืนกลับก่อนมีหวังสารวัตรก้องเกียรติจะรู้ความจริงบางอย่างที่พวกเธอซ่อนไว้

    ขอบคุณนะค่ะที่มาส่งยุวันดีบอก

    ไม่เป็นไรครับสารวัตรก้องเกียรติบอก

    แล้วพบกันใหม่นะค่ะคุณสารวัตรยุวันดีบอก

    เพียงยุวันดีก้าวเข้ามาในบริษัทบารอน เอมิกาและสมายด์ก็เข้ามาถามเธอเรื่องสารวัตรก้องเกียรติ โดยเฉพาะแม่บ้านดรุณี แม่นมของเธอ ดูจะชอบสารวัตรก้องเกียรติเป็นอย่างมาก แต่เธอจะหวั่นไหวกับคำพูดของสารวัตรก้องเกียรติไม่ได้ เพราะผู้ชายมันเจ้าชู้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่บิดาผู้ให้กำเนิดของเธอ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาเอ่ยบอกว่ารักมารดาของเธอเพียงผู้เดียว  แต่สุดท้ายพ่อของเธอก็ไปแต่งงานใหม่ ไล่มารดาของเธอและเธอไปอย่างเยือกเย็ฯราวกับว่าเธอไม่ใช่ลูกไม่ใช่เชื้อสายของเขาอะไรอีกแล้ว และสิ่งที่พ่อของเธอทำไม่ใช่แค่ทำให้หญิงสาวโกรธแต่ยังมีมารดา ภรรยาที่เทิดทูนบิดาจนสิ้นใจเพราะจระเข้กัดตาย

    ยังไงแก ไหนว่าเกลียดผู้ชายแล้วทำไมกลับมา หกโมงเนี่ย ไปทำอะไรมาหรือเปล่าเอมิกาแซ๋วเพื่อนสาวของเธอ

    เปล่า ฉันไม่เคยคิดอะไรอย่างที่แกคิด แล้วอีกอย่างไม่มีผู้ชายคนไหนดีจนทำให้ฉันรักได้หรอ รู้ไว้ด้วยยุวันดีบอกแล้วเตรียมตัวกลับบ้าน

    ภายในห้องนอนในโรงแรมที่อลิช พี่สาวของแลนด์อยู่ด้วยคือ อลิซ หรือลิซ  เธอเปิดดูละครเวทีเรื่อง รักเธอนิรัน ที่นาคเพื่อนของเธอแสดงเป็น ดอกแก้ว สาวชาวบ้านดอยคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากไปเป็นนักเรียนศึกษาที่อเมริกา บังเอิญเธอได้เจอกับ คริส อาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยนานาชาติที่เธอเรียนรู้ เขาและเธอรักกันมาก แต่ชายหนุ่มมีลูกสาวติดจากภรรยาคนแรก ซึ่งลูกสาวคนแรกนี้ไม่ชอบหน้าแก้วมาก  ตอนจบของเรื่องจบด้วยแก้วเรียนจบและกลับมาเมืองไทยทำงานเป็นหมอ ต่อมา  2 ปี คริสกลายเป็นโรคซึมเศร้าเพราะคิดถึงดอกแก้วและลูกสาวที่ด่วนจากไปด้วยเชื้อโรคร้ายแรง ทำให้แก้วเป็นหมอรักษาคริสจนหาย และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันมีลูกสาวหนึ่งคนซึ่งเป็นลูกสาวของคริสมาเกิดใหม่

    เราจะอยู่คู่กันจนถึงวันจากกาน…………..”นาคฤทัยบอก

    ไหนบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนวันตายไงล่ะลิช ทำไมเธอถึงฆ่าเราล่ะ เพราะไอ้ชอนนั้นใช่ไหม

    เสียงของนาคฤทัยดังขึ้นมา เธอนั่งข้างๆอลิซ ซึ่งกำลังดูละครเวทีเรื่องแรกในชีวิตของเธอและนาคฤทัย แต่คราวนี้นาคฤทัยไม่ได้อยู่ในชุดกระโปรงสีขาว เธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีชมพูใส่สไบสีน้ำตาล ซึ่งเป็นเสื้อที่เธอใช้แสดงเป็นดอกแก้วในละครเวทีเรื่อง รักเธอนิรัน

    ลิช ขอโทษนะนาค ลิชไม่ได้ตั้งใจ ถ้านาคไม่บอกใครในวันนั้นเธอคงไม่ต้องจบชีวิตแบบนั้นอลิชบอก

    ขณะที่อลิชกำลังพูด นายพลชอนเดินเข้ามาที่ด้านหลัง แล้วบอกเธอว่า

    เธอจะคิดถึงนาคฤทัยอยู่ทำไม ไหนเมื่อยัยนั้นก็ตายไปแล้วตั้งหนึ่งเดือนนายพลชอนถาม

    ท่านอาจจะลืมเหตุการณ์วันนั้นได้ แต่ฉัน ฉันเป็นเพื่อนกับนาคมาตั้งแต่เด็ก คุณคิดว่าฉันจะเสียใจมากแค่ไหนอลิชบอก

      ภาพเหตุการณ์การถูกฆ่าของนาคฤทัยยังก้องอยู่ในหัวของอลิชตลอดเวลา หากวันนั้นเธอไม่บอกนายพลชอนว่านาคฤทัยไปบอกความลับเรื่องของนายพลชอนว่าเป็นคนอย่างไงให้คนอื่นฟัง นาคฤทัยอาจไม่ต้องจบชีวิต

    ปล่อยฉันไปเถิดนะท่านนาคฤทัยร้องขอชีวิต ก่อนที่เธอจะตาย เธอได้เอาลูกไปซ่อนไว้ข้างเตียง

    ฮืม ถ้าฉันปล่อยแก แกก็จะเอาความลับไปบอกคนอื่นล่ะสินายพลชอนบอก

    แล้วหยิบมืดมาแทงเข้าที่หัวใจของนาคฤทัย ทำให้นาคฤทัยเสียชีวิตเข้าทันที่ บังเอิญอลิชเข้ามาพอดีเห็นภาพเหล่านั้นเข้า เธอร้องว่า

    นาคคคคคอลิชร้อง

    เมื่อนายพลชอน เห็นเขาก็พาอลิชออกจากห้องแล้วบังคับให้อลิชปิดบังเรื่องนี้แล้วบอกเหตุผลที่ต้องฆ่านาคฤทัย

    ที่ฉันต้องฆ่านาค เพราะมันจะบอกความลับของเราอย่างที่เธอเคยบอกฉันไงจำไม่ได้หรอนายพลชอนบอก

    ถึงขนาดต้องฆ่ายัยนาคเลยหรอค่ะท่าน เสียแรงที่ยัยนาคเคารพเทิดทูนท่าน อลิชบอก

    เอาน่า อย่าไปคิดมากเลยเรื่องก็จบแล้วนายพลชอนบอก

      ในห้องทำงานของเอมิกา เธอกำลังนั่งเข้าเล่มหนังสือเล่มใหม่ของบริษัท มีข้อความส่งมาเธอจึงหยิบมาอ่าน

    สวัสดีคุณเอม คืนนี้คุณว่างไหม ที่สำนักงานตำรวจมีงานเลี้ยงผมอยากชวนคุณไปงานด้วย ถ้าว่างเจอกันตอนหนึ่งทุ่มตรงที่ที่เราเจอกันที่สำนักงานตำรวจนะครับ จากสารวัตรจรัญเอมิกาอ่าน

    คนอะไรเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แล้วเราจะไปดีไหมเนี่ยเอมมิกาเอมิกาบอกกับตัวเอง

    ว่าแล้วเธอก็นั่งทำงานต่อพร้อมดูโทรศัพท์ว่าเมื่อไหร่เจ้าของเบอร์เมื่อกี้จะโทรมาหาอีกครั้ง

    นี่คืนนี้เอมจะไปงานเลี้ยงที่สำนักงานตำรวจจริงๆหรอสมายด์ถาม

    อืม คุณหน้าหนวดเข้าเชิญมาเอมิกาบอก

    อืม ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะกันสมายด์บอก

    อืม แล้วนี่ยัยดีไปไหนล่ะเอมิกาบอก

    เห็นว่าจะไปไหว้ศพของแม่ของดีนะสมายด์บอก

     เอมิกาคคิดแล้วก็สงสารชีวิตของยุวันดีกับสมายด์เพราะชีวิตของทั้งคู่เคยเติบโตโดยบิดาและมารดา แต่มาถึงตอนนี้เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

     ภายในหลุมศพของมาริสา มารดาของยุวันดี ซึ่งอยู่ในหลังบ้านของเธอ เพราะเธอไม่อยากมารดาจากเธอไปถึงแม้ว่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม แต่ถูกครั้งที่เธอเหงาหรือเศร้าใจ วิญญาณของแม่ของเธอก็จะมาปรากฏให้เธอเห็นชัดๆ โดยเฉพาะวันเกิดของเธอที่ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือน

    แม่จ้า ไอ้คนชั่วที่มันฆ่าแม่มันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทำยุวันดีบอก

     ภายในงานเลี้ยงของสำนักงานตำรวจ เอมิกาใส่ชุดสีฟ้าราตรีมาเข้างาน บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยญาติผู้ใหญ่ของผู้การของสำนักงานตำรวจแห่งนี้  ขณะที่เธอกำลังสำรวจงานมีผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงสีส้มคนหนึ่งทักมาว่า

    รอคุณหน้าหนวดอยู่หรอเอม

    เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งทัก เอมมิกาตกใจมาก พอหันมาเห็น สมายด์ เพื่อนสาวของหล่อนใส่ชุดราตรีสีส้มมาในงาน

    เธอมางานนี้ได้ไงนะมาย งานนี้ต้องมีคนเชิญไม่ใช่หรอพูดอย่างงุนงง

    ก็ สารวัตรณรงค์ชวนฉันมาไง ฉันเลยเข้างานมาได้ ว่าไงรอคุณหน้าหนวดอยู่หรือเปล่าเอมสมายด์ถาม

    ไม่ทันได้ฟังคำตอบก็มีชายหนุ่มสองคนในชุดสูทเดินเข้ามาและทักว่า

    อยู่ที่นี้เอง ผมหาพวกคุณแทบแย่สารวัตรณรงค์บอก

    อืม ฉันอยู่นี้ ว่าแต่พวกคุณชวนเราสองคนมาที่นี้ทำไมเอมิกาถาม

    ก็เห็นว่าพวกคุณชอบงานอะไรพวกนี้เลยชวนมาสารวัตรจรัญแก้ตัว

    เอาความจริงค่ะเอมิกาถาม

    อยากรู้ว่าพวกคุณสืบไปถึงไหนแล้วสารวัตรจรัญตอบ

    ฉันสืบถึงฉากจบของคดีแล้วค่ะคุณสารวัตร เดี๋ยวคุณก็จะได้รู้ฉากจบของเรื่องว่ามันจบอย่างไงเอมิกาบอก

     ทั้งสองงงกับคำตอบของสองสาว แล้วพวกเขาก็อยู่ร่วมงานแฟชั่นกันจนดึก มันคงเป็นเวลาที่พวกเขาทั้งสองคนมีความสุข

    ภายในสถานีตำรวจที่สารวัตรทั้งสามทำงานอยู่ สารวัตรจรัญนั่งเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับลอนดอน จริงๆเขาไม่ได้อยากกลับ แต่เพื่องานตำรวจที่ต้องการข้อมูล เขาจำเป็นต้องทำตามที่เอมมิกา หรือ ยัยทอมที่เขาเรียกบอก

    สักพักก็มีเสียงโทรศัทพ์ดังขึ้น สารวัตรจรัญจึงหยิบมาดู พบว่าเป็นเบอร์ของยัยทอม ซึ่งเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องบินกลับลอนดอนเป็นเวลาหนึ่งปี

    นี่คุณไม่ต้องโทรมาย้ำ ผมกำลังกลับลอนดอนสารวัตรจรัญบอก

    ฉันไม่ได้โทรมาย้ำ แค่จะบอกคุณว่าฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถ้าคุณยอมมาหาฉันที่อัมพวาตอนนี้ ฉันจะยอมให้ข้อมูลนาย แค่นี้นะ นายหน้าหนวดเอมมิกาบอกก่อนวางสาย

    นี่เห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย นึกว่าจะให้ไปไหนก็ได้ไงสารวัตรจรัญบอก

    ว่าแล้วสารวัตรจรัญก็ต้องออกรถไปอัมพวา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเอมมิกาต้องพาเขาไปถึงอัมพวา หรือว่าเธอต้องใจทิ้งเขาไว้ที่นั่น ไม่มีทางเขาจะไม่ยอมหลงกลหญิงสาวอย่างเอมมิกาแน่นอน พอสารวัตรมาถึงอัมพวา ก็เห็นเอมมิกานั่งรออยู่ตรงป้ายทางไปอัมพวา เขาไม่เข้าใจถ้าเธอจะนัดเขามาที่กรุงเทพมหานครก็ได้ ทำไมต้องเป็นอัมพวา

    นี่เธอบอกฉันได้ไหมว่าให้ฉันขับรถมาจากกรุงเทพมาอัมพวาทำไมมันเปลื้องน้ำมันนะสารวัตรจรัญบอก

    อะ เอาไป จะได้เสร็จเสร็จกันสักทีเอมมิกาบอก

    นัดผมมาแค่ให้เอกสารเนี่ยนะ ผมว่าคุณไปให้ผมที่สำนักงานตำรวจก็ได้สารวัตรจรัญบอกแล้วเปิดดูมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ มันคือ จดหมายของนาคฤทัย ภรรยาผู้ล่วงลับของนายพลชอนที่เขียนมาหาสวยสังหารถึงเจ็ดฉบับ

    คราวนี้เข้าใจยังว่าทำไมฉันต้องให้คุณมาที่อัมพวาสารวัตรจรัญบอก

    เข้าใจแล้วสารวัตรจรัญบอก

    และเอมมิกา ก็กลับบ้านโดยมอเตอร์ไซด์วิบาก เธอนัดชายหนุ่มาที่นี้เพราะบารอนขอเธอไว้ ไม่งั้นเธอไม่ยอมลงทุนขี่มาอัมพวาขนาดนี้หรอก

    อะไรนะค่ะ เอมฟังไม่ผิดใช่ไหมที่บอกอบอกว่าหลังจากทำภารกิจนี้เสร็จแล้วจะยอมเปิดเผยเรื่องสวยสังหารเอมมิกกาบอก

    ใช่ คุณฟังไม่ผิดหรอก ในๆเรื่องก็บั้นปลายแล้ว ผมต้องการให้คุณเอาข้อมูลจดหมายของคุณนาคฤทัยไปให้สารวัตรจรัญ บารอนบอก

    ได้ค่ะ แล้วจะให้เอมนัดเขาที่ไหนล่ะค่ะเอมมิกาบอก

    ที่ไหนก็ได้ที่คุณคิดว่าพวกของนายพลชอนไม่กล้าตามคุณไปบารอนบอก

            เอมมิกาจึงตัดสินใจนัดชายหนุ่มมาที่อัมพวา เพราะอัมพวา นายพลชอนไม่กล้าไป เพราะที่อัมพวาแห่งนี้เป็นจังหวัดบ้านเกิดอันโหดร้ายของนายพลชอนในวัยเด็ก ซึ่งบารอนดันสืบไป

       เรื่องมีอยู่ว่า ตอนที่บารอนมาอยู่ที่อัมพวา เขาต้องเจอกับข่าวร้ายอย่างมาก คือ พ่อและแม่ของเขาทะเลาะและฆ่ากันตาย และเป็นเหมือนอาถรรพ์ หลังจากพ่อและแม่ของายพลชอนตายเพียงนายพลชอนก้าวมาที่อัมพวาก็ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายต่างๆ เพราะชายหนุ่มไปบอกกับิดาเรื่องที่มารดามีชู้ ทำให้บิดาโกรธและฆ่ามารดาตายก่อนตายมารดาของนายพลชอนจึงสาปแช่งเขาว่า

    ไอ้ลูกทรยศ  ข้าเลี้ยงแกมารักแกเหมือนลูก แกทำอย่างนี้กับฉันได้อย่างไง ขอขอสาปแช่งว่าขอให้แกโตขึ้นมีงานการทำ แกจะต้องทุกข์ทรมาน ไม่มีใครเข้าใจ ต้องได้รับแต่ความไม่ดี เหมือนที่แกทำกับแม่ผู้บังเกิดเกล้าของแก

         สิ้นเสียงมารดาของนายพลชอนก็ตายไปต่อหน้าต่อตา นายพลชอนในวัยเด็กนั่งหน้าเคลียดเมื่อเห็นมารดาและบิดานอนตายต่อหน้าต่อตาโดยฝีมือของเขา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×