ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ครั้งหนึ่งที่มีเธอ

    ลำดับตอนที่ #5 : part 5

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 50


    นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เวทได้ส่งยิ้มให้กับมีน นับแต่วันที่เขาไปส่งเธอย้ายบ้านแล้ว
    เวทไม่เคยได้พบหรือพูดคุยกับเธออีกเลย ความที่เด็กหนุ่มรู้เรื่องการย้ายบ้านของเธอกระชั้นชิดเกินไป   ทำให้เวทลืมขอที่อยู่ใหม่ของเธอ นอกจากรู้เพียงว่าเธอย้ายไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้นเองและเขาเองก็ยังลืมจดที่อยู่ของเขาให้กับมีนด้วย    เรื่องนี้ถ้าจะว่าไปมันก็เป็นผลกรรมของเวทเองที่โกหกว่าบ้านเขาอยู่ทางเดียวกับมีน ทั้งๆที่มันไม่ใช่
       เวทมาสำนึกถึงเรื่องนี้ได้เมื่อเด็กสาวได้จากไปแล้ว แต่ในเวลานั้นเวทก็ยังมีความหวังอยู่ว่า
    ผลบุญที่เขาเคยทำมา(เมื่อไหร่)จะทำให้มีนจำเบอร์โทรศัพท์ของเขาได้และคงโทรกลับมาหาเขาเองและเมื่อถึงตอนนั้นเขาก็คงมีโอกาสได้รู้ที่อยู่ใหม่และเบอร์โทรติดต่อของเธอ
    แต่ดูเหมือนฟ้าจะบันดาลให้เรื่องราวของเวทกับมีนต้องจบลงเพียงเท่านั้น เพราะเพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมาขณะที่เวทกำลังรอการติดต่อกลับมาของเพื่อนหญิง  ที่บ้านของเวทก็มีปัญหากับสายโทรศัพท์จนต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ ตอนนั้นเวทรู้สึกเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง  แม้ไม่ถึงกับร้องห่มร้องไห้(เปลี่ยนสายโทรศัพท์เนี่ยนะร้องไห้)ด้วยว่าไม่ใช่นิสัยที่เขาจะทำแบบนั้น
    แต่เด็กหนุ่มก็ซึมเศร้าอยู่นานจนกระทั่งเปิดเทอมชั้นมัธยมหก เมื่อเวทต้องเตรียมตัวเพื่อสอบเอนทรานซ์
    เด็กหนุ่มพยายามลืมเรื่องนี้ไปชั่วคราวเพื่อให้มีสมาธิกับการเตรียมตัวสอบอย่างเต็มที่และนานวันเข้าเรื่องราวของมีนก็ค่อยๆกลายเป็นความทรงจำที่ตกตะกอนไปในที่สุด จนย่างเข้าช่วงเวลาของการเป็นนักศึกษา มีเรื่องราวใหม่ๆมากมายรวมทั้งมิตรภาพและความรักที่เข้ามา(และจบไป)อีกหลายครั้ง จนทำให้ตะกอนนั้นสงบนิ่งอยู่ ณ  เบื้องลึกของหัวใจไป
       …"พี่ พี่ รถหมดระยะแล้วครับ" เสียงของกระเป๋ารถปลุกชายหนุ่มให้ออกจากเบื้องลึกของหัวใจ
    มาพบความจริงของชีวิต เวทมองรอบๆตัวก็พบว่ารถที่ตนนั่งมากำลังจอดอยู่ที่สถานีปลายทาง
    รอบข้างนั้นเงียบสงัด มีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายที่เหลืออยู่บนรถ
    ครู่ต่อมา เวทเดินออกมาจากอู่อย่างช้าๆ ในยามนี้สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของชายหนุ่มก็คือ
    " กูจะกลับยังไงวะเนี่ย"………….
    วันต่อมา ที่มหาวิทยาลัย ขณะที่เวทกำลังเดินไปที่คณะ  ก็พบน้องกิ๊กกับกลุ่มเพื่อนหญิงกำลังเดินสวนทางมา
    "พี่เวท "กิ๊กทักด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนจะแยกจากลุ่มเพื่อนตรงเข้ามาหาเขา "สวัสดีค่ะ
    ไม่เจอพี่ตั้งหลายวันเลยนะค่ะ"
    เวทยิ้มรับ เพราะยังไม่รู้จะพูดอะไรดี เนื่องจากยังตั้งตัวไม่ติด
    "กิ๊กกับเพื่อนกำลังจะไปทานไอศครีมกัน พี่เวทไปด้วยกันนะคะ จะได้คุยกัน ตั้งแต่เจอกัน
    กิ๊กยังไม่มีโอกาสคุยกับพี่จริงๆเลย" เด็กสาวชวนด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
    เวทอดนึกเทียบเด็กสาวตรงหน้ากับมีนไม่ได้ ถ้าเป็นมีน เวลาเธอจะชวนเขาไปกินไอศครีมหรือไปไหนก็ตาม  เธอจะไม่ใช้วิธีอ้อนแต่เธอจะสั่งเป็นคำขาดให้เขาไป ซึ่งเขาก็ไม่เคยขัดเธอได้สักครั้ง
    ชายหนุ่มหันไปมองดูกลุ่มเพื่อนของเด็กสาวที่ยืนจ้องเขาเป็นตาเดียวกันพร้อมกับนับจำนวนเด็กๆได้หกหัว   เวทคำนวณตังค์ในกระเป๋าว่างานนี้หากต้องเลี้ยง(ซึ่งมีเปอร์เซนต์เป็นไปได้สูง)มีหวังคงไม่พอ เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือไม่ถึงห้าสิบบาท
    ชายหนุ่มทำฟอร์มว่ากำลังรีบโดยก้มลงดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนทั้งที่มันถึงแก่กรรมไปแล้วเพราะถ่านหมด(ยังไม่มีตังค์เปลี่ยนถ่าน แต่คาดเอาไว้โก้ๆ)ก่อนจะพูดว่า "ไว้วันหลัง จะเหมาะกว่านะครับ   พอดีวันนี้พี่ต้องรีบเข้าห้องเรียนด้วย"
    กิ๊กมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย  ซึ่งเวทไม่แน่ใจว่าที่สลดเนี่ยเพราะมื้อนี้ไม่มีเขาเป็นเจ้ามือเลี้ยงไอศครีมหรือเปล่า
    "ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นกิ๊กไปก่อนนะคะ" เด็กสาวพูดเบาๆก่อนเดินออกไป
    เวทยืนมองตามกลุ่มของเด็กสาวจนลับสายตา
    "ใครน่ะ เวท"เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มหันไปมอง ก็เห็นฟ้าเพื่อนหญิงร่วมรุ่น
    ยืนอยู่ "น้องคนเมื่อกี้ ใครเหรอ"ฟ้าถามพร้อมกับทำตาใสแจ๋ว
    "รุ่นน้องน่ะ"เวทตอบสั้นๆเพราะรู้ว่าถึงไง อีกเดี๋ยวเพื่อนต้องถามต่อ
    "รุ่นน้องเหรอ" ฟ้ายิ้มมีเลศนัย ดวงตาสวยหวานแฝงแววอยากรู้" คนพิเศษหรือเปล่า"
    "เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักหน่อย ฟ้า"เวทรีบปฏิเสธ
    "เหรอ" สาวสวยทำเสียงสูง" แต่เราว่า น้องคนนั้นน่ะเค้าคิดกับเธอนะ"
    "รู้ได้ไง" เวทถามด้วยความสงสัยว่าเพื่อนสาวของตนน่ากลัวจะเป็นเชอร์ลอคโฮล์มกลับมาเกิดใหม่
    "ก็แหม ผู้หญิงน่ะเค้าดูกันออกนะ"ฟ้าพูด"ตอนน้องคนนั้นเขาพูดกับเธอ
    ตาน้องเค้าจ้องที่หน้าเธอตลอดเลย แถมเมื่อกี้ตอนที่เธอปฏิเสธน้องเค้านะ
    ท่าทางน้องเค้าผิดหวังด้วย"ฟ้าสาธยาย
    "นี่เธอเห็นตลอดเลยเหรอ"เวทถามอย่างคาดไม่ถึง  ไม่ใช่ในความเห็นอันชาญฉลาดของอีกฝ่ายแต่เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของตนจะชอบสอดรู้สอดเห็นขนาดนี้
    "ใช่แล้ว"ฟ้าพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม
    เวทถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านี้ ในบรรดาเพื่อนที่เรียนปริญญาโทนั้น
    ฟ้าเป็นคนที่เขาสนิทมากที่สุด แต่เวทก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อน ขณะที่ฟ้าเองก็มีแฟนอยู่แล้ว  ฟ้าเป็นคนช่างสังเกต  จนบางครั้งเหมือนจะมากเกินไป(ถ้าพูดแบบตรงๆก็คือชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านนั่นเอง)   จนเวทเองยังอดนึกไม่ได้ว่าขนาดเป็นเพื่อนกัน ฟ้ายังสังเกตละเอียดขนาดนี้   คนที่เป็นแฟนฟ้าคงไม่มีทางทำอะไรโดยที่เธอไม่รู้ได้แน่
    เมื่อคิดถึงแบบนี้แล้วเวทก็อดนึกสงสารบุรุษคนนั้นไม่ได้
    …….คืนนั้น เวทกลับค่อนข้างดึกเนื่องจากหลับนั่งเลยป้าย แถมไม่มีเงินค่าแท็กซี่เลยต้องนั่งรถเมล์ย้อนกลับมาอีก  นับแต่เจอหน้าน้องกิ๊กและทำให้ความทรงจำถึงมีนกลับขึ้นมาใหม่นั้น
    ดูเหมือนว่าเขามักจะขาดสมาธิเหม่อลอยบ่อยครั้ง(โดยเฉพาะเวลานั่งรถกลับบ้าน)ทำให้เผลอหลับและนั่งเลยป้ายบ่อยๆจนเขาอยากย้ายไปนอนที่อู่รถเมล์เสียเลย
    เวทย้อนนึกไปถึงสมัยที่เขากับมีนนั่งรถไปโรงเรียนด้วยกันตอนเช้า ถ้าวันไหนที่เขาเผลอหลับล่ะก้อ  มีนมักจะแกล้งไม่ปลุกและปล่อยให้เขานั่งเลยโรงเรียนไปเสมอ  โชคดีที่อู่รถอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนเท่าไหร่(แค่กิโลกว่าๆเท่านั้น)
    แต่ถ้าวันไหนหามอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือรถย้อนกลับมาไม่ได้ก็ทำเอาเขาลิ้นห้อยเหมือนกัน
    "โห มีน ใจร้ายจังเลยปลุกหน่อยก็ไม่ได้ เนี่ยวันนี้เวทหารถย้อนกลับมาไม่ได้ต้องวิ่งมาตั้งไกล
    แถมมาไม่ทันอีกโดนอาจารย์เรียกไปเทศน์ตั้งนานแน่ะ"วันหนึ่งเวทโอดครวญเพื่อเรียกร้องความสนใจแบบเผื่อฟลุ้ค
    "อยากเอาแต่หลับไม่ยอมคุย ปล่อยให้มีนนั่งเหงาคนเดียวนี่  ต้องแกล้งเสียให้เข็ด"มีนทำเสียงงอนนิดๆ แต่ก็ยังน่ารัก
    "โธ่ มีน ก็คนมันง่วงนี่นา"เวทแก้ตัว "ไม่รู้ล่ะ ถ้าคราวหลังเวทหลับอีกล่ะก้อ  มีนจะหาหมามุ่ยมาโรยให้คันไปทั้งตัวเลย"มีนขู่ด้วยหน้าตาขึงขัง
    ทำเอานับแต่นั้นมาเวทไม่กล้านั่งหลับทุกครั้งที่นั่งรถมากับมีน
    ด้วยกลัวว่าขืนเธอทำอย่างที่พูดจริงๆมีหวังเขาต้องกลายเป็นลิงเพราะเกาไปทั้งตัวแหงๆ
    เวทเผลอยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆ ก่อนที่จะเข้าบ้าน
    ครู่ต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเวทกำลังจะสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิพักหลังชายหนุ่มห่างหายการนั่งสมาธิไปนาน สาเหตุเพราะมักถึงบ้านดึกบ่อย(นั่งรถเลยป้าย) สำหรับเรื่องสวดมนต์นั้น  ชายหนุ่มเคยทำมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแต่เริ่มจะทำเป็นกิจวัตรประจำวันก็ตั้งแต่ตอนที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวนี่แหละ  เรื่องของเรื่องคือการอยู่บ้านคนเดียวนั้นมันทำให้วังเวงกลัวว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญ(ประเภทลาง  หลอก หลอน )มาอยู่ด้วย จึงต้องหาคุณพระคุณเจ้ามาทำให้อุ่นใจ  ยังไม่ทันเริ่มตั้งท่าจะสวดนะโมจบที่หนึ่ง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
    เวทเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดดูก็เห็นชื่อน้องกิ๊กปรากฏที่หน้าจอ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะกดรับ
    "สวัสดีครับ น้องกิ๊ก" เวททักทาย
    "รู้ได้ไงคะ ว่าเป็นกิ๊ก"อีกฝ่ายพูดเสียงใส
    ทำไมจะไม่รู้ ก็มีชื่อโชว์อยู่บนเครื่องแบบเนี้ย  เวทคิดก่อนจะถามต่อ"แล้วน้องกิ๊ก  โทรมามีธุระอะไรกับพี่เหรอครับ"
    "ต้องมีธุระถึงโทรมาได้เหรอคะ" เสียงอีกฝ่ายตัดพ้อนิดๆ
    "อ๋อ ไม่ใช่หรอกครับ พอดีพี่เห็นว่านี่มันจะห้าทุ่มแล้ว พี่ก็เลยสงสัยว่าทำไม โทรมาดึกจัง"
    อีกฝ่ายเงียบเสียงไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า"พอดีกิ๊กเพิ่งชาร์จแบตเสร็จน่ะค่ะ
    เลยโทรมาดึกไปหน่อย เอ่อนี่กิ๊กรบกวนเวลานอนของพี่เวทหรือเปล่าคะ"
    "อ๋อไม่หรอก พอดีพี่เพิ่งมาถึงบ้านเมื่อกี้เองน่ะ"เวทตอบ
    "ทำไมพี่เวท กลับช้าจังล่ะค่ะ วันนี้ปริญญาโทเลิกสองทุ่มครึ่งไม่ใช่เหรอ"กิ๊กถาม
    "เออ คือพอดี พี่ต้องคุยธุระเรื่องรายงานน่ะเลยกลับช้า"
    เวทยอมผิดศีลข้อมุสาทั้งๆที่อยู่หน้าพระ เพราะไม่อยากบอกความจริงว่านั่งรถเลยป้าย ด้วยกลัวเสียฟอร์ม แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกแปลกใจที่น้องกิ๊กรู้ตารางเรียนของเขาด้วย
    "แล้วนี่ กิ๊กมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ"เวทรีบเข้าเรื่อง
    เพราะตั้งใจว่าคุยเสร็จจะได้รีบวางหูไปสวดมนต์ อันที่จริงแล้วเวลาแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นโทรมาล่ะก้อ ชายหนุ่มไม่รับสายเด็ดขาดเพราะถือว่าหมดเวลางานแล้ว แต่สำหรับน้องกิ๊ก ชายหนุ่มถือเป็นกรณีพิเศษ ยอมให้ครั้งหนึ่ง(เห็นแก่ความงาม)
    "กิ๊กเบื่อๆน่ะค่ะ อยากหาเพื่อนคุย"น้ำเสียงดูออดอ้อน ทำเอาหัวใจชายหนุ่มชักจะละลาย
    "เบื่ออะไรเหรอครับ"เวทถาม……
    คืนนั้น กว่าที่น้องกิ๊กจะหาย"เบื่อ" ก็เกือบตีสอง เนื่องจากน้องกิ๊กใช้โปรโมชั่นโทรฟรี
    จึงคุยยาวได้โดยไม่ต้องห่วงค่าโทร และจนกระทั่งวางหูไปแล้ว
    เวทก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าน้องกิ๊ก"เบื่อ"เรื่องอะไร มีแต่เวทเท่านั้นที่นอกจากจะต้องนอนดึกและ
    ไม่ได้สวดมนต์ก่อนนอนแล้วยังตื่นสายอดวิ่งจ็อกกิ้งตอนเช้ามืดด้วย(อ้อ แล้วก็อดเข้าส้วมตอนตีสามอีกต่างหาก) แต่เวทก็ถือว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของน้องกิ๊ก เพราะชายหนุ่มยังยึดถือในคติเดิมของตนที่ว่า ความงามนั้นไม่เคยผิด(มีความมั่นคงน่านับถือมาก  สมควรที่บุรุษทั้งหลายต้องดูไว้ แต่อย่าเอาอย่าง)
    หลายสัปดาห์ต่อจากนั้น น้องกิ๊กมักโทรมาหาเวทบ่อยๆเฉลี่ยราวสองวันครั้ง
    เพียงแต่ช่วงหลังๆไม่โทรยาวแบบมาราธอนเหมือนครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งเวทสันนิษฐานว่าคงเป็นเพราะโทรศัพท์หมดโปรโมชั่นแล้วนั่นเอง เรื่องที่คุยนั้นส่วนใหญ่ก็สัพเพเหระไม่ใช่ธุระสำคัญ
    ดูเหมือนว่าน้องกิ๊กเพียงแค่อยากจะคุยกับเขาเท่านั้น นอกจากนี้ พักหลังที่เวทมักเจอน้องกิ๊กที่คณะบ่อยๆ  จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วนั้น บางวันน้องกิ๊กก็ซื้อขนมมาฝากเขา
    ทำให้ช่วงนี้เวทประหยัดเงินค่าอาหารไปได้มาก(มีขนมกินฟรี)
    บางทีน้องกิ๊กก็ชวนชายหนุ่มไปหาอะไรกินแถวมหาวิทยาลัยกันสองต่อสอง
    พฤติกรรมของน้องกิ๊กทำให้เวทชักเริ่มสงสัยแล้วว่าข้อสันนิษฐานของฟ้าอาจจะถูกก็ได้
    (มีต่อ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×