ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ครั้งหนึ่งที่มีเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : part2

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 50


    …..ตอนสายๆของวัน สายฝนที่ตกแต่ก่อนสว่างและหยุดไปเมื่อหลังเจ็ดโมงเล็กน้อย ทำให้อากาศยังคงสดชื่น
    หลังจากจัดการกิจวัตรประจำวันเสร็จแล้ว
    วันนี้เวทตั้งใจว่าจะรื้อชั้นหนังสือเก่าออกมาเพื่อจัดหมวดหมู่ใหม่และรวบรวมของที่ไม่ใช้ใส่ลงลังกระดาษ
    หลังจากที่ไม่ได้หยิบจับเลยตั้งแต่ขึ้นปีสาม เวทย้ายมาอยู่ที่บ้านนี้ตอนอยู่ปีหนึ่ง
    เนื่องจากเอนท์ติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ พ่อของเขาซื้อบ้านนี้ไว้ตอนที่พี่ของเขามาเรียนที่นี่
    ก่อนที่เขาจะตามมาในปีต่อมา ตอนนี้บ้านค่อนข้างเงียบเนื่องจากพี่ของชายหนุ่มไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มต้องวางมือจากงานที่กองอยู่
    เวทซุกมือลงไปในกองผ้าอันเป็นที่สุดท้ายที่เขาจำได้ว่าโทรศัพท์ของเขาสถิตย์อยู่
    "สวัสดีครับ"เวทกรอกเสียงลงไป
    "สวัสดีค่ะ พี่เวท นี่กิ๊กพูดนะคะ" เสียงใสๆดังมาตามสาย
    เวทนึกไปถึงเด็กสาวที่เจอเมื่อวานนี้"อ้าว กิ๊ก ว่าไง โทรมามีอะไรเหรอ"
    "ตอนนี้พี่เวท อยู่ไหนเหรอคะ"
    "อยู่ที่บ้านครับ"
    อีกฝ่ายเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดต่อ"ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ นึกว่าพี่เวทอยู่มหาวิทยาลัย
    กิ๊กว่าจะชวนไปกินข้าวเที่ยงน่ะค่ะ"
    "พี่คงจะเข้าไปตอนบ่ายเกือบเย็นน่ะครับ พอดีมีงานที่บ้าน"เวทพูด
    "เหรอค่ะ ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ "อีกฝ่ายพูดเสียงเบาๆก่อนจะวางสายไป
    หลังจากอีกฝ่ายวางสายแล้ว เวทนั่งมองโทรศัพท์อย่างเงียบๆพร้อมกับนึกไปถึงคนที่เพิ่งวางสายไป
    เป็นเวลานานแล้วที่เรื่องราวระหว่างเขากับมีนจมลึกอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำ เหมือนตะกอนที่นอนก้น
    แต่หลังจากที่เขาพบกับน้องกิ๊ก ตะกอนนั้นก็กลับลอยฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง หลายวันมานี้
    เวทรู้สึกว่าอารมณ์ความคิดของเขาไม่สงบเหมือนอย่างที่เคย
    มันวุ่นวายผันแปรกลับไปกลับมาอย่างบอกไม่ถูก……..
    "ตกลงเรื่องก็มีเท่านี้หรือ"
    ชายหนุ่มผิวค่อนข้างขาวสวมแว่นพูดขึ้นหลังจากฟังเรื่องของเวทจบ
    เวทพยักหน้า หลังจากฟุ้งซ่านอยู่หลายวัน
    ชายหนุ่มจึงตัดสินใจนัดเพื่อนสนิทรุ่นพี่มาเพื่อขอคำปรึกษาหรือบางทีอาจจะแค่หาคนมารับฟังความไม่สบายใจขอ
    งตน
    "เท่าที่ฟังมา ดูเหมือนปัญหาจะมาจากความคิดของเอ็งนะ เวท"ต่อพูด
    เวทพยักหน้าอย่างยอมรับ ขณะที่สายตาจับจ้องเกี๊ยวกุ้งที่อยู่ในหม้อสุกี้
    อีกฝ่ายอ่านสายตาของชายหนุ่มรุ่นน้องออก ต่อ จึงยื่นช้อนในมือของตนตักลงไปในหม้อสุกี้เป็นการดักหน้า
    พร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเป็นเชิงว่า ..เด็กน้อยอย่าเพิ่งใจร้อน
    เวทมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทันเล็กน้อย ชายหนุ่มกินข้าวกับรุ่นพี่มานานพอจนรู้ชั้นเชิงกันดี
    "พอเอ็งเห็นหน้าน้องเค้า เอ็งก็เลยนึกไปถึงพี่ของเค้า"ต่อพูดสรุปเรื่องที่อีกฝ่ายเล่า
    "อืม..แบบนี้ก็แสดงว่าจริงๆแล้ว เอ็งยังไม่เคยลืมผู้หญิงคนนั้นน่ะสิ"
    เวทพยักหน้าอีกครั้ง พร้อมกับมองอีกฝ่ายเป็นเชิงขอความเห็น
    "ที่จริงมันก็ไม่แปลกอะไรหรอกที่เอ็งจะยังไม่ลืมเขา"ต่อพูดขึ้นช้าๆ"
    เอ็งกับผู้หญิงคนนั้น..ชื่ออะไรนะ..เออ ชื่อมีน..ใช่ไหม"ท้ายประโยค ต่อพูดเป็นเชิงถาม
    เวทพยักหน้ารับอีกฝ่าย
    "เอ็งกับเขา คบกันมาหลายปี ตลอดเวลาก็มีแต่เรื่องดีๆต่อกัน แม้ตอนนี้ มันจะจบไปแล้ว
    แต่ความรู้สึกดีๆก็ยังเหลืออยู่ มันอาจจะอยู่ในส่วนลึกของจิตใจโดยที่ตัวของเอ็งก็อาจจะไม่รู้"
    ต่อหยุดถอนหายใจเบาๆเพื่อให้ดูมีมาดสุขุมแบบนักปราชญ์ (แม้ว่าจริงๆจะไม่ใช่ก็ตาม) ก่อนจะพูดต่อ"
    รู้อะไรไหม น้องเวท บางทีนะ การที่เอ็งไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่ มันก็เหมือนตะกอนนั่นแหละ
    น้องเอ๋ย เราไม่รู้หรอกว่า มันมีอยู่ตราบจนมีบางอย่างไปแกว่งมันนั่นแหละ"
    เวทมองอีกฝ่ายอย่างนับถือ อย่างน้อย พี่ต่อก็เป็นรุ่นพี่ที่เข้าใจความคิดของเขามากที่สุด
    "ว่าแต่.."ต่อนิ่งไปครู่หนึ่ง คล้ายจะนึกขึ้นได้ สายตามองบนโต๊ะอาหารก่อนจะมองดูอีกฝ่าย
    "มึงน่ะ อย่าเอาแต่กินซีโว้ย หลอกให้พี่พูดอยู่คนเดียว"……..
    หลังแยกจากรุ่นพี่แล้ว เวทนั่งรถกลับบ้าน ท้องฟ้ามืดสนิทในยามค่ำ สายฝนตกพรำๆ
    ชายหนุ่มนั่งมองผ่านหน้าต่างรถออกไปภายนอก ขณะที่คิดถึงเรื่องที่เขาได้คุยกับพี่ต่อ
    ชายหนุ่มรู้สึกว่าความเห็นของรุ่นพี่นั้นค่อนข้างถูก
    เหตุแห่งความฟุ้งซ่านที่เขาเป็นอยู่นี้ก็เพียงเพราะเขายังไม่เคยลืมเธอได้จริงๆ ที่ผ่านมา
    การที่เขาตัดขาดการติดต่อกับเธอ มันทำให้เขาคิดไปเองว่าเขาสามารถลืมเธอและเรื่องราวทั้งหมดได้จริงๆ
    เวทยิ้มเมื่อนึกไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับมีน
    ความคิดคำนึงของชายหนุ่มย้อนไปถึงวันเวลาเหล่านั้น……….
    ตอนเช้า เวทกับมีนกำลังเดินคู่กันบนทางเดินริมถนน
    เนื่องจากวันนี้เด็กสาวอยากเดินไปโรงเรียนแทนการนั่งรถบ้าง
    ทั้งสองจึงลงรถก่อนถึงโรงเรียนประมาณครึ่งทางและเดินต่อ ตอนนี้ทั้งสองขึ้นมอสี่แล้ว
    มีนได้ขอกับทางบ้านว่าจะขึ้นรถไปเรียนเองซึ่งทางบ้านของเด็กสาวก็ไม่ขัดข้องด้วยเห็นว่าโรงเรียนก็ไม่ไกลน
    ัก ทุกเช้าเวทกับมีนจะนัดเจอกันที่ปากทางหน้าบ้านของมีน
    แม้เวทจะต้องตื่นแต่เช้ามืดทุกวันเพื่อมาดักรอเธอแต่ชายหนุ่มก็ทำด้วยความเต็มใจและนั่นก็เลยกลายเป็นเหตุ
    ให้ชายหนุ่มมีนิสัยตื่นแต่เช้ามืดในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม จนบัดนี้
    เวทก็ยังไม่ได้บอกเด็กสาวว่าจริงๆแล้ว บ้านของเขาอยู่คนละทางกับบ้านของเธอ
    เด็กหนุ่มยอมลำบากทั้งขาไปและขากลับจากโรงเรียนถ้ามันจะทำให้เขามีเวลาอยู่กับมีนมากขึ้น
    " เช้าๆนี่สดชื่นดีจังเลยนะ" มีนพูดพร้อมกับสูดอากาศยามเช้า"เวท
    ว่าไหม"เด็กสาวหันมาถามคนที่เดินด้วย ก็เห็นอีกฝ่ายอ้าปากหาวด้วยท่าทางที่ยังง่วงนอนอยู่
    "เวท!" มีนเรียกเสียงดังพร้อมกับตีที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม ทำเอาเวทสะดุ้ง
    "ขี้เซา จังเลย มีชีวิตชีวาหน่อยสิ ตอนเช้าแบบนี้สดชื่นจะตาย"มีนว่า
    จะไม่ง่วงได้ไง ก็ตื่นตั้งแต่ตีสี่..เวทคิด ก่อนจะพูดว่า" เมื่อคืนเรานอนดึกไปหน่อยน่ะ"
    """"
    "ทำอะไร ดึกๆดื่นๆ ไม่หลับไม่นอน"มีนว่า" มัวแต่คิดถึงสาวที่ไหนหรือเปล่า"
    "คิดถึงสาวข้างๆนี่มั้ง"เวทแกล้งพูดพร้อมกับลอบสังเกตท่าทางของอีกฝ่าย
    ก็เห็นมีนก้มหน้าอมยิ้มแก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อ
    "พูดเป็นเล่นไปได้"เด็กสาวพูดพร้อมกับใช้กระเป๋าเหวี่ยงใส่
    เวทกระโดดหลบพร้อมกับหัวเราะ "แน่จริง ตีให้โดนสิ"เด็กหนุ่มพูด
    "แน่จริงอย่าหลบสิ"มีนว่า ก่อนจะหยุดเดินและมองไปยังต้นไม้ข้างทาง
    ดอกไม้สีสวยสดชูช่องามอยู่" เวท ดูสิดอกไม้สวยจัง เราอยากได้ "มีนพูด
    "เธอขึ้นไปเด็ดให้เราทีสิ"เด็กสาวขอร้อง
    เวทแหงนมองตาม ดอกไม้ช่อนั้นอยู่สูงขึ้นไปราวสามเมตร เด็กหนุ่มคิดว่า
    ถ้าเขาปีนขึ้นไปแล้วพลัดตกลงมาคงไม่เข้าท่าแน่ๆ แต่เมื่อเธอขอร้อง แบบนี้ ต่อให้สูงเสียดฟ้า
    ปานภูผาหิมาลัย เขาก็จะปีน
    เวทส่งกระเป๋าให้เด็กสาวถือไว้
    ดึงแขนเสื้อขึ้นเพื่อความทะมัดทะแมงก่อนจะปีนขึ้นไปจนถึงคบไม้และเด็ดดอกไม้ลงมา
    ทว่าเมื่อไปถึงคบไม้เขาพบว่าตรงนั้นมีรังมดแดงอยู่ และพวกมันก็กรูกันออกมาต้อนรับเขาอย่างเต็มที่
    หลังเด็ดดอกไม้ได้แล้ว เวทต้องปัดมดออกจากตัวเขาเป็นพัลวัน จนเท้าข้างหนึ่งลื่นจากกิ่งที่เหยียบอยู่
    ทำให้ร่างของเด็กหนุ่มหล่นลงพื้นข้างล่าง เสียงดัง พลั่ก
    แม้จะเจ็บตัวแต่เวทก็ปลื้มใจที่เห็นมีนวิ่งมาหาพร้อมกับถามอย่างห่วงใย"เป็นอะไร หรือเปล่า"
    "เราไม่เป็นอะไรมากหรอก"เวทรีบตอบ
    "เปล่า เราหมายถึงดอกไม้น่ะ"……….
    ดอกไม้ของมีน สมบูรณ์ทุกประการสมดังใจของเธอ
    ขณะที่คนที่ปีนขึ้นไปเก็บนั้นนอกจากจะถูกมดกันจนคันคะเยอแล้วยังขาแผลง สะโพกครากจากการตกต้นไม้ด้วย
    ทีแรกเวทนึกน้อยใจเล็กๆที่มีนพูดห่วงดอกไม้มากกว่าตัวเขา
    แต่ความน้อยใจก็หายไปสิ้นเมื่อเด็กสาวเข้ามาช่วยประคองเขาเดินจนไปถึงโรงเรียน
    ทำเอาเด็กหนุ่มลืมเจ็บลืมคันจนหมด
    ในตอนอยู่ มอสี่ มีหนุ่มๆจากห้องอื่นๆทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่มาติดพันเธอหลายคน
    อันที่จริงเรื่องคนมาชอบมีนนั้นก็มีมาแล้วตั้งแต่ มอสาม แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว
    แต่มีนก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจใครเป็นพิเศษ ในเทอมสองตอนมอสี่
    โรงเรียนที่ทั้งสองเรียนอยู่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับจังหวัด
    มีนถูกเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน ซึ่งเวทเห็นว่าไม่แปลกอะไรที่สวยอย่างเธอจะถูกเลือก
    "เวท วันนี้ เรามีซ้อมเชียร์
    ตอนเย็น"มีนบอกกับเขาในบ่ายวันหนึ่งหลังจากเธอรู้ว่าเธอถูกเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
    "เหรอ แล้วมีนกลับยังไงล่ะ
    ให้พ่อมารับล่ะสิ"เวทถามขณะในใจผิดหวังนิดๆที่วันนี้ไม่ได้กลับกับเธอ
    "เปล่าหรอก"เด็กสาวสั่นศรีษะ"เรามีคนไปส่งแล้วล่ะ"
    หัวใจของเวทหายวูบ เมื่อได้ยิน ใครกัน
    หรือจะเป็นรุ่นพี่รูปหล่อนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียนที่เขาเคยเห็นมาส่งดอกไม้ให้เธอบ่อยๆ
    "ใคร.. เหรอ"เวทพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด แม้ในใจจะไม่ปกติแล้วก็ตาม
    เด็กสาวมองหน้าอีกฝ่าย"ก็เธอน่ะแหละ เย็นนี้รอเราด้วย อย่าหนีกลับก่อนล่ะ เราไม่ยอมด้วย"….
    (มีต่อ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×