คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิงแห่งไคเรียว
เจ้าหญิงแห่งไคเรียว
หลังจากวิลเลียมออกจากอเล็กซานเดียร์เขาได้เดินทางไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย เขาไม่มีญาติมิตรที่ไหนจึงไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี จนมาถึงเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่อยู่ติดทะเล เขาคิดจะหาซื้อเสบียงและของจำเป็นแล้วจะออกเดินทางทันที ระหว่างกำลังขี่ม้าไปสายตาก็ไปเห็นกลุ่มชายหนุ่มห้าคนล้อมหญิงสาวคนหนึ่งอยู่
“ว่าไงสาวน้อยไปกับพวกพี่ไหม เดี่ยวพี่จะพาไปเที่ยวที่สนุกๆเอง?”ชายในกลุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น
“แต่ท่านพ่อสอนเอาไว้ว่าห้ามไปกับคนแปลกหน้า”เสียงหวานใสของหญิงสาวดังขึ้นจนวิลเลียมหันไปมอง เธอมีผมสีเทายาวสลวย ใบหน้ารูปไข่กับดวงตาสีแดงทำให้เธอยิ่งดูน่าจับตามองยิ่งขึ้น ใส่ชุดคลุมที่ดูราคาแพง มองดูแล้วเหมือนพวกลูกคุณหนูที่หนีออกจากบ้านมา
“อะไรกันนี่เธออายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”ชายอีกคนพูดขึ้นพร้อมมองหญิงสาวด้วยสายตาเหมือนนักล่าจะตะครุบเหยื่อ
“อายุ 18”หญิงสาวตอบ
“อายุขนาดนี้นะควรคิดเองได้แล้ว ไม่ต้องเชื่อฟังพ่อแม่มากนักหรอก”ชายคนเดิมพยายามกล่อมหญิงสาวตรงหน้าเพราะดูแล้วเป็นคนซื่อน่าจะหลอกได้ง่าย
“อืม งั้นก็...”หญิงสาวคิดไปพักใหญ่ก่อนจะเริ่มเอ่ยปาก
“ไม่ไป ฉันไม่ชอบไปกับพวกอัปลักษณ์”หญิงสาวพูดพร้อมรอยยิ้มแล้วเดินจากไปจนชายกลุ่มนั้นเงิบไปพักใหญ่
“ว่าไงนะยัยนี่”ชายคนหนึ่งจับแขนหญิงสาวไว้
“ปล่อยนะเจ้าพวกอับลักษณ์”หญิงสาวหันมามองหน้าด้วยสีหน้ารังเกียจสุดๆจนชายคนนั้นโมโหสุดๆเตรียมง้างหมัดชกหญิงสาว
“พอแค่นั้นแหละ”วิลเลียมจับหมัดของชายตรงหน้าไว้
“แกเป็นใคร”ชายคนนั้นกำลังโมโหจึงชกวิลเลียมอีกหมัดเตรียมระบายอารมณ์ แต่วิลเลียมแค่เอียงตัวนิดหน่อยหมัดนั้นก็ผ่านไปก่อนจะสกัดขาจนชายคนนั้นล้มลงกับพื้นเรียกเสียงหัวเราะจากคนแถวนั้นเป็นอย่างดี
“มาทำตัวเป็นพระเอกแถวนี้คิดว่าจะรอดเรอะ พวกเรารุม”ชายคนนั้นลุกขึ้นมาอย่างอายๆก่อนจะสั่งลูกน้องรุมวิลเลียมด้วยความแค้น
วิลเลียมที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งอเล็กซานเดียร์แน่นอนว่าตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือมีใครหนุนหลัง ถ้าเทียบกับพวกนักเลงที่คอยข่มเหงคนอ่อนแอไปวันๆฝีมือย่อมต่างกันราวฟ้ากับเหว ชายคนแรกพุ่งหมัดมาต่อยแต่วิลเลียมแค่เอียงตัวหลบพร้อมเอาเท้าเสยหน้ามันไปทีหนึ่งจนกระเด็นไปไกล คนที่สองเข้ามาจับวิลเลียมข้างหลังพร้อมกันกับคนที่สามเอาไม้หน้าสามมาเตรียมฟาดวิลเลียม
“เฮ้อ”เขาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะเอาหัวโขกชายที่จับตัวไว้พร้อมทั้งจับเขวี้ยงไปหาคนถืออาวุธจนล้มลงไปด้วยกัน
“พวกแกทำบ้าอะไรกันเนี่ย”ชายที่คาดว่าเป็นหัวหน้าตะโกนลั่น
“พอกันแค่นี้ไม่ดีกว่ารึ”วิลเลียมบอกแต่ชายคนนั้นไม่ฟังพร้อมพุ่งเข้ามากับลูกน้องที่เหลือ
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ”วิลเลียมเอ่ยเบาๆมองพวกนักเลงอาวุธครบมือพุ่งมาหา
“ตาย”พวกนักเลงพูดพร้อมกับฟาดอาวุธลงไป
“เคร้ง”ฉับพลันนั่นก็ปรากฏอาวุธหลายหลายชนิดสกัดอาวุธพวกนักเลงไว้
“เอาคืนไปซะให้หมด”พูดจบอาวุธหลากหลายชนิดพุ่งไปหาพวกนักเลงจนบาดเจ็บไปตามๆกัน
“อัก นะนี่แกใช้พลังออร่าได้ด้วยรึ”หัวหน้านักเลงมองวิลเลียมอย่างแปลกใจเพราะผู้ที่มีพลังออร่านั้นช่างน้อยนิด
พลังออร่าคือพลังที่แฝงอยู่ในตัวมนุษย์โดยแบ่งได้เป็นสี่สายคือออร่าสายพลังธาตุที่สามารถเรียกใช้พลังของธาตุประจำตัวได้และอาจใช้ได้มากว่าหนึ่งธาตุ ออร่าสายควบคุมคือพลังที่สะกดจิตคน หรือใช้ในการควบคุมตุ๊กตาและสิ่งของ รวมทั้งการติดต่อแบบเทเลพาทีด้วย ออร่าสายเปลี่ยนแปลงคือพลังที่สามารถเปลี่ยนสภาพร่างกายตนเองหรือสิ่งของได้ และสายสุดท้ายคือออร่าสายพิเศษคือพลังเฉพาะตัวของคนๆนั้นเช่นพลังในการสร้างอาวุธจากออร่า พลังในการทำนายอนาคตเป็นต้น
“รีบไปซะก่อนฉันจะเปลี่ยนใจฆ่าพวกแกทิ้งให้หมด”วิลเลียมมองพวกนักเลงพร้อมปล่อยจิตสังหารมาจนพวกนักเลงหน้าซีดไปตามๆกัน พวกมันบางคนถึงกับกลัวมากจนฉี่แตกเลอะกางเกง เป็นที่หัวเราะของพวกชาวบ้านไปทั่ว
“ไป!”วิลเลียมตะโกนลั่นจนพวกมันตกใจและต้องรีบวิ่งหนีไปแบบไม่รอช้า
“เยี่ยมมายเลยพ่อหนุ่ม”
“เก่งจริงๆเลย”
“สุดยอดเลยพี่ชาย”พวกชาวบ้านต่างมารุมล้อมวิลเลียมแถมชมไม่ขาดปากเพราะนักเลงพวกนั้นชอบก่อเรื่องไว้มากแต่ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องด้วย แต่วันนี้มีคนช่วยจัดการแทนจึงดีใจหันมาขอบคุณวิลเลียมกันยกใหญ่
“ขอทางด้วย”วิลเลียมไม่สนใจอะไรเขาแหวกฝูงคนแล้วเดินออกมาพวกชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจอีกกลับไปแยกย้ายทำงานกันตามเดิม
พวกชาวบ้านเมื้อกี้นี้ทั้งที่เห็นพวกนักเลงมารุมเขากลับไม่มีใครคิดมาช่วย แต่พอชนะกลับมาพูดจาดีกันใหญ่นี่แหละคือมนุษย์ขอให้ตัวเองปลอดภัยคนอื่นจะเป็นไงก็ช่างมัน พอคิดได้อย่างนั้นเขาก็ถอนหายใจพลางคิดถึงพวกขุนนางในวังที่หวังแต่ผลประโยชน์แต่ไม่ใส่ใจงานราชการกันเลย
“เฮ้ นายนะ”เสียงหวานเรียกวิลเลียมจนหันไปมอง
“ขอบใจนะที่ช่วย”หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ถ้าเป็นชายทั่วไปนี่คงใจเต้นหน้าแดงไปแล้วแต่ไม่ใช่กับวิลเลียม
“ไม่เป็นไร”วิลเลียมพูดสั้นๆก่อนจะเดินต่อแต่โดนหญิงสาวคว้าแขนไว้
“ถ้าจะช่วยแล้วก็ช่วยให้ถึงที่สุดสิ”หญิงสาวพูดอย่างอายๆจนวิลเลียมมึนงงกับคำพูดเธอ
“จ๊อกกกกก”เสียงท้องร้องดังขึ้นเป็นคำตอบ
“ก็ไปหาซื้ออะไรกินสิ”วิลเลียมบอกแต่หญิงสาวส่ายหน้า
“ฉันไม่มีเงิน”หญิงสาวพูดพร้อมล้วงกระเป๋าซึ่งไม่มีอะไรเลย
“ถ้านายเลี้ยงอาหารฉันสักมื้อฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลย”เธอพูดพร้อมเกาะแขนแน่นเหมือนกลัววิลเลียมจะหนีไป
“ไม่กลัวฉันเป็นเหมือนนักเลงพวกนั้นรึไง?”เขาถามกลับ
“ไม่หรอกนายช่วยฉันไว้แสดงว่าเป็นคนดี อีกอย่างหน้าตานายก็พอได้เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก”หญิงสาวตอบอย่างยิ้มแย้มให้ตายสิเขาไม่เข้าใจเกณฑ์ในการดูคนของหญิงสาวจริงๆ แต่จะปฎิเสธพอเห็นสายตาของหญิงสาวที่จ้องมองมาเหมือนอ้อนวอนทำให้เขาปฎิเสธไม่ลงจริงๆ
“ก็ได้ จากนั้นก็ต่างคนต่างไปล่ะกัน”เขาตอบอย่างเซ็งๆ
“งั้นเรารีบไปกันเถอะ”พอได้รับคำตอบหญิงสาวก็ฉุดกระชากวิลเลียมตรงดิ่งไปยังร้านอาหารทันที จนเขาคิดว่าร่างบางๆนั่นเอาแรงมาจากไหนเยอะเเยะ
หญิงสาวเมื่อไปถึงร้านอาหารเสร็จก่อนสั่งอาหารอย่างหรูมาเต็มโต๊ะแบบไม่เกรงใจคนเลี้ยง จนวิลเลียมมองดูอาหารบนจานมากขนาดนี้จะกินไปหมดได้ไงแต่เขาคิดผิดเพราะร่างบางๆนั่นแม้จะกินแบบสุภาพตามแบบฉบับลูกคุณหนูแต่เธอกินจุและเร็วมาก เพียงไม่นานอาหารบนโต๊ะก็ทยอยหายไปในท้องหญิงสาวจนหมด จนเขาคิดว่าเธอเอาอาหารพวกนั้นไปไว้ส่วนไหนของร่างกาย
“แล้วนายชื่ออะไรล่ะ ทำงานอะไรล่ะ”หลังกินเสร็จเธอก็เอาผ้าเช็ดปากก่อนถามวิลเลียมที่ยังอึ้งกับการกินของหญิงสาวอยู่
“ฉันวิลเลียม เซเฟียส เป็น..นักเดินทาง”เขาลังเลก่อนตอบไปตามจริงแต่ดูแล้วหญิงสาวไม่ตกใจกับชื่อเขาเลยแม้แต่น้อยทั้งที่เขาเคยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของอเล็กซานเดียร์ แต่ก็ดีเพราะเขาก็ไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะวิลเลียม”หญิงสาวยิ้มหวานก่อนจะเริ่มแนะนำตัว
“ฉันชื่อแคโรไลน์ ไคออสเรียกฉันว่าแคลร์ก็ได้นะวิล”แคลร์บอกแต่วิลเลียมไม่สนใจมาเขายกน้ำมาดื่ม“เป็นเจ้าหญิงแห่งไคเรียวจ๊ะ”
“พรวด”วิลเลียมถึงกับสำลักน้ำก่อนจะมองหญิงสาวอีกครั้ง
“เธอว่าไงนะ”
ความคิดเห็น