ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแท้หรือจะเเพ้ความต่าง (ลูปินxท็องส์)

    ลำดับตอนที่ #6 : WEREWOLF

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 57


    ทั้งสองได้พบหน้ากันน้อยลง  ลูปินค่อนข้างจะหลบหน้าท็องส์อยู่บ่อยๆ  ท็องส์เองก็มีงานยุ่งที่กระทรวง และไม่ค่อยแวะมาที่กริมโมเพลชอย่างเช่นทุกที  ซีเรียสนั้นหยั่งรู้ และเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง  และเขาก็อยากให้เพื่อนรักสมหวังกับความรักในครั้งนี้ 

    นอกจากเวลางาน  ลูปินก็จะปลีกตัวมาหาเขาบ่อยขึ้นด้วยท่าทางเงียบเฉียบ ไม่ยิ้มแย้มเหมือนเก่า

    “นายฟังฉันอยู่ไม่เนี่ย  จันทร์เจ้า  ฉันไม่ได้มีเพื่อนเป็นตอไม้นะเฟ้ย”ซีเรยสทำหน้าบูดบึ้ง กับท่าทางเหม่อลอยของเพื่อน

    “ฉันเห็นด้วยกับนาย เท้าปุย”นับวันจะยิ่งเหมือนมันดังกัสเข้าไปทุกที แต่ผิดตรงที่เจ้านี่หัวใจมันด้านชา

    “นายเห็นด้วย  ใช่ มันก็สมควรแล้วที่นายจะเปิดใจรับใครเข้ามาบ้างเสียที  โดยเฉพาะคนที่เขาก็ยอมรับนายได้”

    “ซีเรียส  ฉันพูดกับนายกี่รอบแล้ว  ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับ...ฮือ”ลูปินดูขึงเครียดทุกครั้งงที่พูดเรื่องนี้

    “แต่ท่าทางของนายมันบอก  ไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่นาย...”

    “ก็เพราะฉันเป็นมนุษย์หมาป่า แก่ๆ จนๆ ที่ใครๆก็ไม่อยากจะคบหาสมาคมด้วย นี่แหละเหตุผล”ลูปินก้มหน้ามองมือตัวเอง

    “แต่ท็องส์ไม่ได้รังเกียจสิ่งที่นายพูดมาสักนิด”

    “เธอยังไม่ได้เห็นตอนฉันกลายร่างนะสิ  ฉันจะยินดีมาก  ถ้าเธอจะ...คนที่เพียบพร้อมกว่านี้  ไม่ใช่ฉัน”ลูปินลุกขึ้นเดินออกไปทางประตู

     

     

    “หวัดดีซีเรียส  รีมัส อยู่รึเปล่า”เย็นวันนั้น ท็องส์ก็มาที่กริมโมเพลช

    “เจ้าบ้านั่นออกจากบ้านไปตั้งแต่บ่าย  ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย”

    “แล้วเขาทานยารึยัง”ท็องส์ยิ้มเจื่อนๆ

    “ตายแล้วสงสัยมันจะลืมกินยา...กรรมแล้วไง  ไปเตร็ดเตร่ข้างนอก  เกิดกลายร่างขึ้นมาไม่เกิดโศกนาฏกรรมกลางกรุงหรอเนี่ย...ท็องส์เธอรออยู่ที่นี่ระหว่างฉันไปตามหา เผื่อรีมัสจะกลับมา”ซีเรียสควานหาขวดยาในกระเป๋าลูปิน

    “ฉันจะไปกับคุณ  รีมัสบอกไหมว่าจะไปไหน”ท็องส์ก้มดูนาฬิกา 5 โมง 45

    “มันไม่ได้บอก  เอางี้เราแยกกันหา  ท็องส์!เอายาไป  แล้วอีก10นาทีเจอกัน”

    “ตกลง”ซีเรียสแปลงร่างเป็นสุนัขสีดำวิ่งหายไป

    ท็องส์เริ่มออกตามหาด้วยหัวใจที่ประหวั่นวิตก  เธอขี่ไม้กวาดวนหาไปทั่วเมืองแต่ก็ไม่พบ

    พระอาทตย์ใกล้จะตกแล้ว  รีมัสคุณอยู่ที่ไหนแต่แล้วเธอก็พบเขาไนช่วงวินาทีสุดท้าย 

    เขาหลบอยู่ในซอกมืดๆเพราะรู้ตัวดีว่าใกล้จะกลายร่างแล้ว

    “รีมัส  คุณต้องกินยาเร็วเข้า”ท็องส์ส่งขวดยาให้รีมัส ลูปินกระดกเข้าไปจนหมดขวด

    “ท็องส์! หนีไป  เธอจะตกอยู่ในอันตราย หนีไป”ลูปินแทบจะพยุงตัวเองไว้ไม่ไหว  เนื้อตัวเริ่มสั่นเทา  เขาดูทรมานมากขวดยาหลุดจากมือ

    “รีมัส”ท็องส์จ้องมองลูปินซึ่งเริ่มมีเล็บเขี้ยวงอกออกมา   ขนรุงรังสีน้ำตาลงอกจนคลุมเต็มตัว  นัยน์ตากลายเป็นสีแดงเกรี้ยวกราดดูน่ากลัว  จ้องมองมาทางเธอ   เสียงเห่าหอนดังก้องออกมา

    ลูปินในร่างหมาป่าไม่สามารถควบคุมร่างตัวเองได้ สัญชาตญาณสั่งให้เขากระโจนเข้าใส่เธอ  เล็บแหลมคมขูดโดนผิวเนื้อส่วนแขนและเสื้อคลุมของท็องส์  เธอตัวสั่นเทาด้วยความกลัวร่างหนักๆของมนุษย์หมาป่ายังคงค่อมร่างเธอไว้  ไม่ปล่อยให้หลุดไปไหน  ท็องส์จ้องมองลึกเข้าไปในตามัน  สิ่งที่เห็นคือน้ำใสๆ

    แต่ก่อนที่มันจะได้ฝังเขี้ยวลึกลงไปยังซอกคอขาว  สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็กระโจนเข้ากระแทกมันเต็มแรง  ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน  ก่อนยาจะเริ่มออกฤทธิ์แล้วมนุษย์หมาป่าค่อยๆสงบลง

    “เกือบไปแล้วไหมล่ะ”สุนัขสีดำแปลงกลับไปเป็นซีเรียส “ถ้าฉันมาช้าอีกนิด เธอคงตกเป็นเหยื่ออันโอชะของมันแน่

    ท็องส์”

    “รีมัสๆ คุณเป็นอะไรรึเปล่า”ท็องส์วิ่งตรงไปยังร่างมนุษย์หมาป่าที่นอนแน่นิ่งอย่างไม่นึกเกรงกลัว

    “ให้ตายเถอะ  เราล่ะอุตส่าห์ช่วยชีวิตไว้  แต่กลับไปห่วงมนุษย์หมา.ป่า..มันไม่เป็นไรหรอกท็องส์  แค่สลบไปเท่านั้นเอง”ซีเรียสทำท่าน้อยอกน้อยใจ

    “ขอบคุณซีเรียส”

    “รีบพามันกลับเถอะ  ก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า”

     

     

    พวกเขาพาลูปินในร่างมนุษย์หมามาไว้ในห้องรับแขก  ท็องส์ยังคงยืนยันที่จะอยู่เฝ้าลูปินไม่ว่าซีเรียสจะไล่เท่าไรก็ตาม ก็ไม่ยอมกลับ

    “ถ้าฉันมีแฟนอย่างเธอนะท็องส์  ป่านนี้รักตายเลย  เจ้าโง่รีมัสนี่สิ  ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย  ฉันยังสงสัยว่ามันมีหัวใจรึเปล่า”

    “ฮึๆ ฉันก็ทำในฐานะเพื่อนเท่านั้นแหละ  รีบไปนอนเถอะซีเรียส  คุณเองก็เหนื่อยมามากแล้ว ขอบคุณนะ”ท็องส์ยิ้มให้ด้วยใบหน้าอิดโรย

    “ฝากดูแลเจ้าโง่เง่านี่ด้วยแล้วกัน”

    ซีเรียสออกไปจากห้อง  เหลือเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่กับมนุษย์หมาป่าตามลำพัง

    “รีมัส...อย่าทิ้งฉันไปนะ...ฉันต้องการคุณ”ท็องส์กอดแผงคอของมนุษย์หมาไว้ แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า

     

    ลูปินตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนเช้าตรู่  ความรู้สึกแรกที่รับรู้ คือเขาไม่ได้อยู่ในร่างเจ้าตัวมีขนแล้ว  ความรู้สึกที่สองคือใครบางคนนอนพิงอยู่ที่อกของเขาอยู่  ลูปินก้มลงมองร่างเล็กนุ่มนิ่มที่นอนซุกอยู่ที่อกของเขา

    แล้วหัวใจก็เกิดอาการชักกระตุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ  เขาจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เลย  เกิดอะไรขึ้นกับเขา  เกิดอะไรขึ้นกับท็องส์  เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น

    ลูปินมองสำรวจร่างเธอให้เต็มตา  เสื้อคลุมบางส่วนมีรอยขีดข่วน  นัยน์ตาสีดำมองเรื่อยลงมาจนถึงต้นแขนที่มีผ้าพันแผลพันอยู่  อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นปนเปในจิตใจ  ทั้งโกรธตัวเอง  ทั้งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปกับท็องส์  และความรู้สึกแปลกๆที่ซ่อนลึกอยู่ในจิตใจ

    ลูปินถกแขนเสื้อท็องส์ขึ้น  ค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก

    ท็องส์สะดุ้งตื่นขึ้น “รีมัส!”เธอดึงแขนข้างที่เจ็บออกจากการเกาะกุมเขยิบตัวออกห่างอย่างเขินอาย  “คุณยังเจ็บอยู่รึเปล่า”

    “ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ”เสียงของลูปินกราดเกรี้ยวจนท็องส์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง  ถึงแม้นัยน์ตาจะกลับเป็นสีดำสนิทแล้วแต่ทำไมมันช่างดูน่ากลัวกว่าเมื่อคืนนี้อีก “ท็องส์  ฉันบอกให้เธอหนีไป ทำไมไม่หนี  เกิดถูกฉันกัดขึ้นมาแล้วจะทำไง”

    “ถ้าฉันโดนกัด ฉันก็จะได้เป็นแบบคุณงะ...”ท็องส์พุดติดตลกแต่ยังไม่ทันจบประโยคดี 

    เพี้ย!!เร็วกว่าจะยั้งไว้ได้  ฝ่ามือของชายหนุ่มก็ฟาดลงบนแก้มของหญิงสาว  ส่งผลให้เธอถึงกับหันไปตามแรงมือ

    ลูปินเองก็ตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป  ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นลงไป  เขาไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนี้นิ   แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา  ไม่สิมันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจเขาต่างหาก

    ความเจ็บบนใบหน้าไม่เท่ากับในหัวใจ  น้ำตาหยดใสๆค่อยๆเอ่อคลออยู่ในดวงตาของท็องส์

    “เธอไม่เข้าใจ...ท็องส์”ลูปินหันมองไปทางอื่น  เขาไม่อยากเห็นเธอร้องไห้  โดยเฉพาะเขาเป็นคนทำให้เธอร้อง

    “ไม่เข้าใจงั้นเหรอ...ที่ฉันทำไปทั้งหมดเนี่ยยังเรียกว่าไม่เข้าใจอีกหรอ  อย่างไหนล่ะที่คุณเรียกว่าเข้าใจ  ฉันเป็นห่วงคุณมาก  จนแทบบ้า”ท็องส์ระเบิดออกมา

     “คุณต่างหากที่ไม่เคยเข้าใจอะไรฉันเลย...คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันต้องการอะไร...ฉันต้องการคุณ  ได้ยินไหมรีมัส ฉันต้องการคุ...”เธอคงพูดได้เพียงแค่นั้น  เพราะลูปินใช้ริมฝีปากปิดปากเธอเสียแล้ว  ชายหนุ่มบดจูบรุนแรงด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นในจิตใจ 

    เขาไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้อีกแล้ว  โกรธร่างมนุษย์หมาป่าที่ทำร้ายเธอ  โกรธท็องส์ที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกจริงๆของเขา  โกรธฟ้าที่มอบชีวิตน่ารังเกียจอีกด้านมาให้เขา  และเกลียดใจตัวเองที่ไม่อาจทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองได้

    ท็องส์พยายามจะขัดขืน  แต่เธอก็ทำได้แค่เพียงยึดหัวไหล่ของลูปินไว้  ท็องส์สั่นเทิ้มไปทั้งกาย  ไม่เคยคิดว่าการจูบจะทำร้ายเธอได้มากขนาดนี้  ร่างทั้งร่างพันอ่อนยวบไม่มีแรง  ปล่อยให้อีกฝ่ายรุกล้ำอยู่ฝ่ายเดียว  ใจเจ้ากรรมก็เต้นซะโครมครามอย่างกับจะหลุดออกมาให้ได้  กลัวเขาจะไม่รู้รึไงว่าเธอหลงใหลเขามากแค่ไหน

    ผ่านไปกี่นาทีไม่มีใครรู้  อารมณ์ในใจค่อยๆอ่อนลง  และรสจูบก็แปลเปลี่ยนเป็นความหอมหวาน หยิบยื่นให้กับเธอ แทนคำว่าขอบคุณ

    ลูปินถอนจูบออก  เขาหายใจรุนแรง เลือดสูบฉีดแดงซ่านขึ้นมาบนใบหน้า

    “แอกซีโอ  กล่องปฐมพยาบาล”ลูปินโบกไม้กายสิทธิ์  แล้วสิ่งของที่ต้องการก็บินหวือเข้ามาในห้อง

    ชายหนุ่มจัดการทำแผลให้เธอ 

    ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ  จนกระทั้งลูปินพูดขึ้นในที่สุด “เธอโดนฉันกัดรึป่าว”ท็องส์เพียงแต่ส่ายหน้าน้อยๆ  “แล้วเจ็บตรงไหนอีกไหม”

    เธออยากจะพูดออกไปว่าตรงหัวใจนี่ไง  แต่ก็ทำได้แค่ส่ายหน้า

    “ฉันเสียใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นท็องส์  ทั้งที่เธออุตส่าห์ช่วยฉันไว้แท้ๆ  ฉันนี่มันแย่จริงๆ”ลูปินเสกเรียกถุงน้ำแข็งให้เธอเอามาประคบแก้มที่บัดนี้มีรอยแดงบวมๆ

    “ใช่!...คุณนี่มันแย่บรมโคตรเลยรู้ไหม”ท็องส์แอบประชด  แต่มันก็ทำให้อีกฝ่ายแอบลอบยิ้ม เพราะอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เย็นชาใส่อย่างที่เขากลัวว่าจะเป็น

    “ฉันแค่ไม่อยากให้เธอตกอยู่ในอันตราย  แล้วทีหน้าทีหลังก็หัดฟังซะบ้าง”ลูปินกลับมาใช้น้ำเสียงธรรมดา

    “เป็นห่วงฉันก็พูดออกมาตรงๆดีกว่า”ท็องส์เชิดปากขึ้นแอบยิ้มนิดๆ

    “ใช่  เพราะเธอก็เป็นส่วนหนึ่งในภาคี  ฉันถึงต้องห่วง”ท็องส์หุบยิ้ม

    “ภาคีๆ  พูดเป็นอยู่แค่เรื่องเดียวรึไง  รีมัสงี่เง่า”เธอเน้นเสียงหนักตรงคำสุดท้ายก่อนลุกขึ้นเดินออกจากห้อง

    “แล้วจะไปไหนน่ะ”ลูปินลุกเดินตาม

    “หมดธุระแล้วนิ  จะอยู่ให้รกหูรกตาคุณทำไม”มีท่าทางน้อยใจนิดๆเจือมาในน้ำเสียง

    ลูปินเดินตามไปส่งที่ประตู

    “ขอบคุณนะท็องส์”ลูปินยิ้ม

    รอยยิ้มของคนๆนี้ส่งผลต่อหัวใจเธอทุกที  พลันเต้นแรงผิดปกติ  ท็องส์ออกจากกริมโมเพลชไปด้วยอาการกลั่นยิ้ม  ถึงคุณจะบอกว่าห่วงเพราะฉันเป็นหนึ่งในภาคี  แต่ริมฝีปากนั้นคุณคงไม่ได้มอบให้ฉันเพื่อภาคีใช่ไหม

     

    ลูปินเดินกลับเข้ามาในห้องครัวด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นอีกครั้ง   เขาไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน  ไม่เคยโกรธใครได้มากขนาดนี้  ไม่เคยห่วงใครได้มากขนาดนี้  และไม่เคยลงโทษใครด้วยการจูบ

    “เขาเรียกว่า ความรักไงล่ะ...รีมัส  เหมือนอ่านใจเขาออก  ซีเรียสเดินมาในห้องครัวแล้วเปรยออกมาดังๆ

    “นายจะเป็นห่วงคนๆนั้นจนเป็นบ้าเป็นหลัง  โกรธตัวเองที่ทำให้เธอเจ็บ  หวั่นไหวกับคำพูดหรือท่าทาง  และอยากจะปกป้องเธอเหมือนเป็นเจ้าของ”

    “ฉันก็แค่เอ็นดูท็องส์เท่านั้นแหละ”ลูปินใช้ประโยคเดิมๆปิดกลั้นใจตัวเอง  แต่มันกลับก้องสะท้อนในหัวของหญิงสาวที่เผอิญเดินกลับมาเอาของ  รอยยิ้มเมื่อครู่พลันหายไป  คุณก็แค่เอ็นดูฉันเท่านั้นแหละ...จูบอ่อนหวานเมื่อกี่  ก็คงจะเป็นความเอ็นดูของคุณด้วยซินะ...รีมัส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×