ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแท้หรือจะเเพ้ความต่าง (ลูปินxท็องส์)

    ลำดับตอนที่ #7 : เหตุผลกับหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 57


    “ฮะ! แฮร์รี่กำลังไปที่กระทรวงอย่างนั้นหรือ เซเวอรัส  ตกลง เราจะรีบส่งข่าวให้คนในภาคีรู้ทันที”ลูปินเงยหน้าขึ้นมองซีเรีนสที่ถือถ้วยกาแฟค้างไว้ในมือ “นายต้องอยู่ที่นี่ เท้าปุย ดัมเบิลดอร์ไม่อณุญาตให้นายออกไป”

    “แต่ฉันเป็นพ่อทูนหัวของแฮร์รี่นะ  ยังไงฉันก็จะไป รีมัสนายไม่ต้องมาห้ามฉันหรอก”

    “นายต้องอยู่ที่นี่...”

    “เกิดอะไรขึ้นหรอ รีมัส”ท็องส์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

    “แฮร์รี่กำลังตกอยู่ในอันตราย  เขากำลังมุ่งหน้าไปที่กระทรวง”ลูปินพูด

    “โอ้ตายแล้ว  ฉันต้องไปรีบแจ้งข่าว”ท็องส์เสกผู้พิทักษ์ของเธอวิ่งโลดแล่นออกไป

    “รีบไปกันเถอะท็องส์”ลูปินและท็องส์หายแวบไป  ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาหยุดยั้งซีเรียสไว้ไม่ได้

     

    ที่กระทรวงเวทมนตร์  เหล่าภาคีและผู้เสพความตายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

    “สตูเปฟาย”ท็องส์ยิงคาถาใส่เบลลาทริกซ์

    “เจ้าเด็กไม่รักดี   แกใช่ไหมที่แอบเข้าไปในบ้านนาร์ซิสซาร์ กับเจ้าหมาป่าโสโครกนั่นน่ะ”

    “อย่ามาเรียก รีมัสว่าหมาป่าโสโครกนะ” ท็องส์ เสกคาถาล้างปากใส่

    “ฮึๆ...นางหลานสารเลว”เบลลาทริกซ์ส่งคำสาบชั่วร้ายมาที่ตัวเธอ

    “ท็องส์!!ระวัง”ลูปินปัดคำสาปได้ทันควัน

    ทั้งสองฝ่ายยังคงสู้กันอย่างดุเดือด

    “อะวาดา เคดาฟ รา”ลำแสงสีแดงจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเบลลาทริกซ์พุ่งตรงถูกซีเรียสเข้าเต็ม

    “ซีเรียส...ไม่นะ”แฮร์รี่กระโจนเข้า  แต่ลูปินคว้าตัวไว้ได้ทันเสียก่อน

    “แฮร์รี่ อย่า!

    “อัมฟาดามัวรันตี”ท็องส์ยิงคำสาปใส่เบลลาทริกซ์อีกครั้ง เธอปัดคำสาปออกไปได้ทันที

    “แกอยากตายเหมือนญาติสุดที่รักของแกรึไง  ดี งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้”ลำแสงสีดำพุ่งเข้ากระแทกร่างของท็องส์จนเธอหงายหลัง

    ลูปินตกใจสุดขีด  มือทั้งสองเลื่อนหลุดจากตัวแฮร์รี่   วิ่งฝ่าวงล้อมไปยังร่างบางที่บัดนี้ลงไปกองอยู่กับพื้น

    “ท็องส์ๆ!

     

     

    “ดอร่าจ๊ะ  ลูกเป็นยังไงบ้าง”ใบหน้าแรกที่เธอเห็นคือ เเม่ของเธอ อันโดรเมดา

    “ลูกสลบไปวันหนึ่งเต็มๆเลยรู้ไหม”พ่อเดินตรงเข้ามาหาเธอ 

    ท็องส์มองไปทั่วห้องแต่กลับไม่มีวี่แววของเขาคนนั้นเลย

    “รีมัสล่ะค่ะ  เขาสบายดีรึเปล่า”แม่ทำปากเบ้

    “รีมัสกำลังยุ่งอยู่กับภาคี  เขาพึ่งจะกลับไปเมื่อกี่นี้เอง”
     

    ท็องส์เฝ้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ด้วยความหวังว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมเธออีก

    เช้าวันต่อมา  อาเธอร์ มอลลี่ และบิล เป็นแขกกลุ่มแรกของเธอ  และช่วงบ่าย คิงสลีย์ก็มาพร้อมกับเพื่อนๆมือปราบมารของเธอ  ท็องส์รอจนถึงเย็น  แต่ลูปินก็ยังไม่มาสักทีจนเธอแทบจะหมดหวัง

    แต่แล้วประตูก็เปิดออก  ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมเดินทางเก่าๆปุๆ เดินตรงเข้ามาหาเธอ พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

    “หายดีแล้วหรอ ท็องส์”ลูปินเอ่ยทัก

    “ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”

    “ฉันไม่ได้เอาอะไรมาเยี่ยมเธอเลย”ลูปินมองของเยี่ยมบนโต๊ะแล้วยิ้มเจื่อนๆ

    “ไม่จำเป็นหรอก  แค่คุณมาฉันก็ดีใจแล้ว”

    อะแฮ่ม! เสียงกระแอมกระไอมาจากเตียงข้างๆที่กำลังพยายามหลับ

    “ว่าแต่ที่ภาคีเป็นยังไงบ้าง”ท็องส์ลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ

    “ยุ่งมากเลยล่ะ  เราพึ่งจะย้ายของออกจากกริมโมเพลชเสร็จเมื่อวานนี้เอง”ท็องส์มีสีหน้าตกใจ “มันไม่ถูกใช่เป็นกองบัญชาการอีกแล้ว ตั้งเต่ ซีเรียส...”ลูปินลดเสียงลงจนหายไปในท่อนสุดท้าย

    น้ำตาท็องส์เอ่อคลอ

    “ฉันเข้าใจ ท็องส์ ฉันเองก็เสียใจเหมือนกัน ที่ต้องเสียเพื่อนที่รักอย่างซีเรียสไป”ลูปินใช้นิ้วมือป้ายน้ำตาออกจากดวงแก้มเธอ

    “ดอร่าจ๊ะ...คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้ลูกกลับบ้านได้แล้ว”คุณนายท็องส์เข้ามาในห้อง มีสีหน้าไม่ชอบใจเท่าไรที่เห็นแขกคนนี้ของเธอ   โดยเฉพาะท่าทางที่เขากำลังทำกับลูกสาวเธอด้วย

    “สวัสดีครับคุณนายท็องส์  ผมแค่มาเยี่ยมท็องส์นะครับ  เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”

    “ทำไมรีบไปนักล่ะรีมัส”ท็องส์พูด

    “ฉันต้องไปทำธุระให้ภาคีน่ะ  เอ้อ อาทิตย์หน้าเราจะไปรับแฮร์รี่กัน  เธอจะไปกับเราไหม”

    “ไปสิ  ไม่พลาดอยู่แล้ว”ท็องส์ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเมื่อเช้า

    “แล้วไว้เจอกันนะท็องส์...ลาก่อนครับคุณนายท็องส์”ลูปินรีบรุดออกไปจากห้องผู้ป่วย

     

    “บาย”ท็องส์โบกมือน้อยๆใบหน้าเปื้อนยิ้มกลับมาหมองเศร้าอีกครั้ง นี่เขาจะไม่สนใจดูแลเธอเลยหรอ  แล้วเธอจะเอาอะไรมากล่ะท็องส์...แฟนก็ไม่ใช่  แค่เขาปลีกเวลามาเยี่ยมเธอได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว'

     

    ท็องส์เดินทางมาถึงคริงครอสก่อนเวลาได้ครึ่งชั่วโมง  เธอพบลูปินนั่งอ่านเดลี่พรอเฟ็ตอยู่ที่ม้านั่งระหว่างชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่

    “หวัดดีคนแปลกหน้า”ท็องส์นั่งลงข้างๆ  ลูปินหันมามองหญิงสาวผมสีชมพูแปร๊ดคุ้นตา

    “หวัดดี ท็องส์”ลูปินหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ต่อ

    “ทำไมคุณมาถึงเร็วจัง”ท็องส์ถาม  มองสำรวสผมสีเทาๆและเสื้อคลุมปุๆเก่าๆของลูปิน

    “ฉันต้องมาตรวจสถานที่ก่อน”

    “รีมัส  ฉันได้ข่าวมาว่าดัมเบิลดอร์ใช้ให้คุณทำธุระบางอย่าง  บอกฉันได้ไหมว่าคืออะไร”

    “เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”

    “ทำไมล่ะ  ฉันก็เป็นหนึ่งในภาคีนะ”ท็องส์ขึ้นเสียง

    “เบาหน่อยท็องส์...เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนนะ”ลูปินส่งสายตาดุๆมาเตือน

    “โทษที  ฉันลืมตัว”ท็องส์ลดเสียงลงเป็นปกติ  “คุณจะบอกฉันไม่ได้เลยหรอ  เราเป็น...เพื่อนกันนะ”

    ใช่ ฉันก็เป็นได้แค่เพื่อนคุณเท่านั้นแหละ  ไม่สำคัญพอที่คุณจะพูดกับฉันหรอก

    “เฮ้! รีมัส ท็องส์ มานานรึยัง”มู้ดดี้เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามาหาพวกเขา  ตาวิเศษมองสำรวจสองหนุ่มสาว

    “หวัดดีอลาสเตอร์”ท็องส์และลูปินพูดพร้อมกัน

     “พวกเราพึ่งมาถึงได้สักครู่นี้เอง”ลูปินเป็นคนตอบ

    “คุณสบายดีไหม”ท็องส์กลับมาตีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

    “ก็ไม่แย่นักหรอก...ครอบครัววีสลีย์อยู่ตรงนู้นแหนะ” มอลลี่กำลังโบกมือมาให้ท็องส์และลูปิน 

    ท็องส์ยิ้มแล้วโบกมือตอบ

     

    หลังจากเอ่ยลาแฮร์รี่แล้ว ลูปินก็รีบรุดออกไปทันที  ไม่อยู่รอให้เธอได้มีโอกาสถามอะไรอีก

    รีมัสงี่เง่า ฉันโกรธคุณจริงๆแล้วด้วย

     

    “ฉันได้ข่าวมาว่า  รีมัสถูกส่งให้ไปเป็นสายสืบในกลุ่มมนุษย์หมาป่านิ”คิงสลีย์เอ่ยขึ้นมาลอยๆเหมือนชวนคุย

    “ไม่เห็นจะต้องไปสนคนพันธุ์นั้น...”ท็องส์หยุดเดิน “คิงสลีย์ เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”

    “ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอก  แต่ดัมเบิลดอร์คงต้องการให้เขาไปสืบข่าวพวกนั้น”

    “ไม่จำเป็นเลยสักนิด  ฉันไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นแน่”คิงสลีย์หยุดจ้องหน้าอย่างจับผิด

    ท็องส์แสร้งเดินต่อ “ไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นห่วงเขานะ...ฉันแค่คิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะไปผูกมิตรกับ...”

    “พวกป่าเถื่อน”คิงสลีย์ตอบให้

    “พวกเขาไม่ได้ป่าเถื่อนซะหน่อย”ท็องส์แย้งทันที

    คิงสลีย์ยิ้มอย่างคนผ่านนโลกมาก่อน “เธอมีอะไรข้องใจเกี่ยวกับรีมัสรึเปล่า”

    หญิงสาวพลันหน้าขึ้นสีเรื่อ

    “คิงสลีย์!!”ท็องส์ค้อนควับรู้ตัวว่าถูกแซว

    “ก็ได้ๆ” นึกอยู่แล้วเชียว

    “ฉันต้องไปคุยกับดัมเบิลดอร์”

    “มันไม่สมควรเลยนะ  ดับเบิดดอร์คงคิดไว้ดีแล้ว ถึงได้มอบหมายภารกิจนั้นให้รีมัสทำ”คิงสลีย์พูดเหมือนปราม

    “แต่...แต่นั้น...ยังไงฉันก็ต้องไปพูดกับเขา”ท็องส์รีบรุดออกไปในทันที

     

    ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอก็มานั่งรอใครบางคนที่บ้านโพรงกระต่าย   แทนที่จะเป็นฮอกวอร์ต   ใครบางคนที่วันนี้จะมาร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัววีสลีย์ในค่ำวันนี้

    “รีมัส”ลูปินยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตูด้วยซ้ำ  เขาห่อหุ้มร่างกายด้วยเสื้อคลุมเดินทางตัวใหญ่  ใบหน้าอิดโรยและดูเหนื่อยล้า

    “หวัดดีท็องส์  ฉันไม่นึกว่าเธอจะมาทานอาหารค่ำด้วย  มอลลี่ไม่เห็นบอกเลย”

    “ฉันตั้งใจมาคุยกับคุณต่างหาก”ลูปินมีสีหน้าฉงน  เขาจ้องมองผมของท็องส์ที่บัดนี้มีสีน้ำตาลอ่อน  แล้วก็ตีความว่าหมายถึงเรื่องของซีเรียส

    “มันคงช็อคมากสินะ”ลูปินพูดเศร้าๆ

    “ใช่! ฉันช็อคมากเลย  แล้วๆร่างกายของฉันก็ผิดปกติ  มันเปลี่ยนรูปไม่ได้อย่างเก่าอีกแล้ว”ท็องส์คิดว่าลูปินเข้าใจเรื่องเดียวกับเธอ

    “มันเป็นอาการหนึ่งของคนที่ช็อคอย่างหนัก  เมื่อต้องสูญเสียของสำคัญ  หรือ...ของรักไป   แต่เธอต้องทำใจให้ได้ท็องส์”เสียงพูดคุยของทั้งคู่เรียกความสนใจจากครอบครัววีสลีย์ให้โผล่หน้าออกมาดู “สักวันพวกเราก็ต้องจากกันไป  มันจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง”

    “แต่ทำไมต้องเป็น...โธ่รีมัส”ลูปินสังเกตเห็นครอบครัววีสลีย์จึงดึงเธอออกมาคุยข้างนอก

    “เธอคงเสียใจ เรื่องซีเรียสมากสินะ”ลูปินตบบ่าปลอบเธอ

    “คุณพูดเรื่องอะไร”ท็องส์สลัดมือนั้นออก “ฉันหมายถึงเรื่องงานของคุณต่างหาก  ทำไมคุณไม่เคยบอกฉันเลย”ลูปินพึ่งเข้าใจ

    “มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจำเป็นต้องรู้...มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะทำเพื่อภาคี”

    “ภาคีๆ ในใจคุณมันก็มีแต่ภาคคีนั้นแหละ  ไม่แต่งงานกับภาคีไปเลยล่ะ”ท็องส์เดือดปุดๆ

    “เธอเองก็ควรรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง”ลูปินเดินเลี่ยงผ่านท็องส์ที่กำลังประจันหน้ากับเขา

    “รีมัส! ฉันสุดจะทนแล้ว”ท็องส์กระชากคอเสื้อลูปินให้โน้มลงมาด้วยโทสะ  “ผู้หญิงคนนี้เคยอยู่ในสายตาคุณบ้างไหม   คุณเคยคิดสนใจเขาบ้างรึเปล่า  ว่าเขาจะเจ็บ  จะป่วยตาย  หรือเขาจะต้องการ...”

    “ท็องส์!”ลูปินบีบข้อมือเธอที่กำคอเสื้อเขาไว้  สายตาดุๆส่งมาเป็นสัญญาณเตือน “เลิกทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเสียที  ฉันไม่มีเวลามาสนใจชีวิตเธอหรือชีวิตใครๆหรอกนะ”

    หญิงสาวปล่อยมือจากคอเสื้อ  ข้อมือเธอปวดร้าวจากแรงบีบของอีกฝ่าย  แต่ก็เจ็บปวดไม่เท่าหัวใจที่ถูกฉีกไม่เหลือชิ้นดี

    “ถึงคุณจะไม่เห็นแก่ฉัน  ก็เห็นแก่ตัวเองบ้างเถอะ  ชีวิตคุณไม่ใช่เครื่องมือหรือตัวเลือกของใครหรอกนะ”ท็องส์เก็บกลั่นน้ำตาเอาไว้

    “ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร  ไม่ต้องให้เธอมาสอน  นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันจะตอบแทนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ดัมเบิลดอร์มอบให้ฉันมาตลอด  ถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตฉันก็ยอม  เพราะนั่นแหละคือหน้าที่ ที่มนุษย์หมาป่าไร้ค่าอย่างฉันเป็นเกียรติที่ได้ทำ”ลูปินเดินห่างออกไป

    “ฉันอยากให้คุณรู้ไว้”ท็องส์พูดขึ้น “คุณมีค่าเสมอสำหรับฉัน เพราะรักเดียวของฉันคือเจ้าตัวมีขนที่ชื่อ รีมัส ลูปิน”

    ลูปินสะดุดลมหายใจตัวเอง

    ท็องส์พลันอันตราธานหายไปจากตรงนั้น

    ท็องส์  เธอกำลังทำให้ฉันลำบากใจมากขึ้นรู้ไหม                                                     
                                 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×