คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เหตุผลกับหัวใจ
“ฮะ! แฮร์รี่กำลังไปที่กระทรวงอย่างนั้นหรือ เซเวอรัส ตกลง เราจะรีบส่งข่าวให้คนในภาคีรู้ทันที”ลูปินเงยหน้าขึ้นมองซีเรีนสที่ถือถ้วยกาแฟค้างไว้ในมือ “นายต้องอยู่ที่นี่ เท้าปุย ดัมเบิลดอร์ไม่อณุญาตให้นายออกไป”
“แต่ฉันเป็นพ่อทูนหัวของแฮร์รี่นะ ยังไงฉันก็จะไป รีมัสนายไม่ต้องมาห้ามฉันหรอก”
“นายต้องอยู่ที่นี่...”
“เกิดอะไรขึ้นหรอ รีมัส”ท็องส์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“แฮร์รี่กำลังตกอยู่ในอันตราย เขากำลังมุ่งหน้าไปที่กระทรวง”ลูปินพูด
“โอ้ตายแล้ว ฉันต้องไปรีบแจ้งข่าว”ท็องส์เสกผู้พิทักษ์ของเธอวิ่งโลดแล่นออกไป
“รีบไปกันเถอะท็องส์”ลูปินและท็องส์หายแวบไป ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาหยุดยั้งซีเรียสไว้ไม่ได้
ที่กระทรวงเวทมนตร์ เหล่าภาคีและผู้เสพความตายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
“สตูเปฟาย”ท็องส์ยิงคาถาใส่เบลลาทริกซ์
“เจ้าเด็กไม่รักดี แกใช่ไหมที่แอบเข้าไปในบ้านนาร์ซิสซาร์ กับเจ้าหมาป่าโสโครกนั่นน่ะ”
“อย่ามาเรียก รีมัสว่าหมาป่าโสโครกนะ” ท็องส์ เสกคาถาล้างปากใส่
“ฮึๆ...นางหลานสารเลว”เบลลาทริกซ์ส่งคำสาบชั่วร้ายมาที่ตัวเธอ
“ท็องส์!!ระวัง”ลูปินปัดคำสาปได้ทันควัน
ทั้งสองฝ่ายยังคงสู้กันอย่างดุเดือด
“อะวาดา เคดาฟ รา”ลำแสงสีแดงจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเบลลาทริกซ์พุ่งตรงถูกซีเรียสเข้าเต็ม
“ซีเรียส...ไม่นะ”แฮร์รี่กระโจนเข้า แต่ลูปินคว้าตัวไว้ได้ทันเสียก่อน
“แฮร์รี่ อย่า!”
“อัมฟาดามัวรันตี”ท็องส์ยิงคำสาปใส่เบลลาทริกซ์อีกครั้ง เธอปัดคำสาปออกไปได้ทันที
“แกอยากตายเหมือนญาติสุดที่รักของแกรึไง ดี งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้”ลำแสงสีดำพุ่งเข้ากระแทกร่างของท็องส์จนเธอหงายหลัง
ลูปินตกใจสุดขีด มือทั้งสองเลื่อนหลุดจากตัวแฮร์รี่ วิ่งฝ่าวงล้อมไปยังร่างบางที่บัดนี้ลงไปกองอยู่กับพื้น
“ท็องส์ๆ!”
“ดอร่าจ๊ะ ลูกเป็นยังไงบ้าง”ใบหน้าแรกที่เธอเห็นคือ เเม่ของเธอ อันโดรเมดา
“ลูกสลบไปวันหนึ่งเต็มๆเลยรู้ไหม”พ่อเดินตรงเข้ามาหาเธอ
ท็องส์มองไปทั่วห้องแต่กลับไม่มีวี่แววของเขาคนนั้นเลย
“รีมัสล่ะค่ะ เขาสบายดีรึเปล่า”แม่ทำปากเบ้
“รีมัสกำลังยุ่งอยู่กับภาคี เขาพึ่งจะกลับไปเมื่อกี่นี้เอง”
ท็องส์เฝ้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ด้วยความหวังว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมเธออีก
เช้าวันต่อมา อาเธอร์ มอลลี่ และบิล เป็นแขกกลุ่มแรกของเธอ และช่วงบ่าย คิงสลีย์ก็มาพร้อมกับเพื่อนๆมือปราบมารของเธอ ท็องส์รอจนถึงเย็น แต่ลูปินก็ยังไม่มาสักทีจนเธอแทบจะหมดหวัง
แต่แล้วประตูก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมเดินทางเก่าๆปุๆ เดินตรงเข้ามาหาเธอ พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น
“หายดีแล้วหรอ ท็องส์”ลูปินเอ่ยทัก
“ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”
“ฉันไม่ได้เอาอะไรมาเยี่ยมเธอเลย”ลูปินมองของเยี่ยมบนโต๊ะแล้วยิ้มเจื่อนๆ
“ไม่จำเป็นหรอก แค่คุณมาฉันก็ดีใจแล้ว”
อะแฮ่ม! เสียงกระแอมกระไอมาจากเตียงข้างๆที่กำลังพยายามหลับ
“ว่าแต่ที่ภาคีเป็นยังไงบ้าง”ท็องส์ลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ
“ยุ่งมากเลยล่ะ เราพึ่งจะย้ายของออกจากกริมโมเพลชเสร็จเมื่อวานนี้เอง”ท็องส์มีสีหน้าตกใจ “มันไม่ถูกใช่เป็นกองบัญชาการอีกแล้ว ตั้งเต่ ซีเรียส...”ลูปินลดเสียงลงจนหายไปในท่อนสุดท้าย
น้ำตาท็องส์เอ่อคลอ
“ฉันเข้าใจ ท็องส์ ฉันเองก็เสียใจเหมือนกัน ที่ต้องเสียเพื่อนที่รักอย่างซีเรียสไป”ลูปินใช้นิ้วมือป้ายน้ำตาออกจากดวงแก้มเธอ
“ดอร่าจ๊ะ...คุณหมอบอกว่าพรุ่งนี้ลูกกลับบ้านได้แล้ว”คุณนายท็องส์เข้ามาในห้อง มีสีหน้าไม่ชอบใจเท่าไรที่เห็นแขกคนนี้ของเธอ โดยเฉพาะท่าทางที่เขากำลังทำกับลูกสาวเธอด้วย
“สวัสดีครับคุณนายท็องส์ ผมแค่มาเยี่ยมท็องส์นะครับ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”
“ทำไมรีบไปนักล่ะรีมัส”ท็องส์พูด
“ฉันต้องไปทำธุระให้ภาคีน่ะ เอ้อ อาทิตย์หน้าเราจะไปรับแฮร์รี่กัน เธอจะไปกับเราไหม”
“ไปสิ ไม่พลาดอยู่แล้ว”ท็องส์ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเมื่อเช้า
“แล้วไว้เจอกันนะท็องส์...ลาก่อนครับคุณนายท็องส์”ลูปินรีบรุดออกไปจากห้องผู้ป่วย
“บาย”ท็องส์โบกมือน้อยๆใบหน้าเปื้อนยิ้มกลับมาหมองเศร้าอีกครั้ง ‘นี่เขาจะไม่สนใจดูแลเธอเลยหรอ แล้วเธอจะเอาอะไรมากล่ะท็องส์...แฟนก็ไม่ใช่ แค่เขาปลีกเวลามาเยี่ยมเธอได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว'
ท็องส์เดินทางมาถึงคริงครอสก่อนเวลาได้ครึ่งชั่วโมง เธอพบลูปินนั่งอ่านเดลี่พรอเฟ็ตอยู่ที่ม้านั่งระหว่างชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่
“หวัดดีคนแปลกหน้า”ท็องส์นั่งลงข้างๆ ลูปินหันมามองหญิงสาวผมสีชมพูแปร๊ดคุ้นตา
“หวัดดี ท็องส์”ลูปินหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ต่อ
“ทำไมคุณมาถึงเร็วจัง”ท็องส์ถาม มองสำรวสผมสีเทาๆและเสื้อคลุมปุๆเก่าๆของลูปิน
“ฉันต้องมาตรวจสถานที่ก่อน”
“รีมัส ฉันได้ข่าวมาว่าดัมเบิลดอร์ใช้ให้คุณทำธุระบางอย่าง บอกฉันได้ไหมว่าคืออะไร”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
“ทำไมล่ะ ฉันก็เป็นหนึ่งในภาคีนะ”ท็องส์ขึ้นเสียง
“เบาหน่อยท็องส์...เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคนนะ”ลูปินส่งสายตาดุๆมาเตือน
“โทษที ฉันลืมตัว”ท็องส์ลดเสียงลงเป็นปกติ “คุณจะบอกฉันไม่ได้เลยหรอ เราเป็น...เพื่อนกันนะ”
‘ใช่ ฉันก็เป็นได้แค่เพื่อนคุณเท่านั้นแหละ ไม่สำคัญพอที่คุณจะพูดกับฉันหรอก’
“เฮ้! รีมัส ท็องส์ มานานรึยัง”มู้ดดี้เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามาหาพวกเขา ตาวิเศษมองสำรวจสองหนุ่มสาว
“หวัดดีอลาสเตอร์”ท็องส์และลูปินพูดพร้อมกัน
“พวกเราพึ่งมาถึงได้สักครู่นี้เอง”ลูปินเป็นคนตอบ
“คุณสบายดีไหม”ท็องส์กลับมาตีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ก็ไม่แย่นักหรอก...ครอบครัววีสลีย์อยู่ตรงนู้นแหนะ” มอลลี่กำลังโบกมือมาให้ท็องส์และลูปิน
ท็องส์ยิ้มแล้วโบกมือตอบ
หลังจากเอ่ยลาแฮร์รี่แล้ว ลูปินก็รีบรุดออกไปทันที ไม่อยู่รอให้เธอได้มีโอกาสถามอะไรอีก
‘รีมัสงี่เง่า ฉันโกรธคุณจริงๆแล้วด้วย’
“ฉันได้ข่าวมาว่า รีมัสถูกส่งให้ไปเป็นสายสืบในกลุ่มมนุษย์หมาป่านิ”คิงสลีย์เอ่ยขึ้นมาลอยๆเหมือนชวนคุย
“ไม่เห็นจะต้องไปสนคนพันธุ์นั้น...”ท็องส์หยุดเดิน “คิงสลีย์ เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ”
“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอก แต่ดัมเบิลดอร์คงต้องการให้เขาไปสืบข่าวพวกนั้น”
“ไม่จำเป็นเลยสักนิด ฉันไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นแน่”คิงสลีย์หยุดจ้องหน้าอย่างจับผิด
ท็องส์แสร้งเดินต่อ “ไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นห่วงเขานะ...ฉันแค่คิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะไปผูกมิตรกับ...”
“พวกป่าเถื่อน”คิงสลีย์ตอบให้
“พวกเขาไม่ได้ป่าเถื่อนซะหน่อย”ท็องส์แย้งทันที
คิงสลีย์ยิ้มอย่างคนผ่านนโลกมาก่อน “เธอมีอะไรข้องใจเกี่ยวกับรีมัสรึเปล่า”
หญิงสาวพลันหน้าขึ้นสีเรื่อ
“คิงสลีย์!!”ท็องส์ค้อนควับรู้ตัวว่าถูกแซว
“ก็ได้ๆ” นึกอยู่แล้วเชียว
“ฉันต้องไปคุยกับดัมเบิลดอร์”
“มันไม่สมควรเลยนะ ดับเบิดดอร์คงคิดไว้ดีแล้ว ถึงได้มอบหมายภารกิจนั้นให้รีมัสทำ”คิงสลีย์พูดเหมือนปราม
“แต่...แต่นั้น...ยังไงฉันก็ต้องไปพูดกับเขา”ท็องส์รีบรุดออกไปในทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอก็มานั่งรอใครบางคนที่บ้านโพรงกระต่าย แทนที่จะเป็นฮอกวอร์ต ใครบางคนที่วันนี้จะมาร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัววีสลีย์ในค่ำวันนี้
“รีมัส”ลูปินยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตูด้วยซ้ำ เขาห่อหุ้มร่างกายด้วยเสื้อคลุมเดินทางตัวใหญ่ ใบหน้าอิดโรยและดูเหนื่อยล้า
“หวัดดีท็องส์ ฉันไม่นึกว่าเธอจะมาทานอาหารค่ำด้วย มอลลี่ไม่เห็นบอกเลย”
“ฉันตั้งใจมาคุยกับคุณต่างหาก”ลูปินมีสีหน้าฉงน เขาจ้องมองผมของท็องส์ที่บัดนี้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วก็ตีความว่าหมายถึงเรื่องของซีเรียส
“มันคงช็อคมากสินะ”ลูปินพูดเศร้าๆ
“ใช่! ฉันช็อคมากเลย แล้วๆร่างกายของฉันก็ผิดปกติ มันเปลี่ยนรูปไม่ได้อย่างเก่าอีกแล้ว”ท็องส์คิดว่าลูปินเข้าใจเรื่องเดียวกับเธอ
“มันเป็นอาการหนึ่งของคนที่ช็อคอย่างหนัก เมื่อต้องสูญเสียของสำคัญ หรือ...ของรักไป แต่เธอต้องทำใจให้ได้ท็องส์”เสียงพูดคุยของทั้งคู่เรียกความสนใจจากครอบครัววีสลีย์ให้โผล่หน้าออกมาดู “สักวันพวกเราก็ต้องจากกันไป มันจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง”
“แต่ทำไมต้องเป็น...โธ่รีมัส”ลูปินสังเกตเห็นครอบครัววีสลีย์จึงดึงเธอออกมาคุยข้างนอก
“เธอคงเสียใจ เรื่องซีเรียสมากสินะ”ลูปินตบบ่าปลอบเธอ
“คุณพูดเรื่องอะไร”ท็องส์สลัดมือนั้นออก “ฉันหมายถึงเรื่องงานของคุณต่างหาก ทำไมคุณไม่เคยบอกฉันเลย”ลูปินพึ่งเข้าใจ
“มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจำเป็นต้องรู้...มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะทำเพื่อภาคี”
“ภาคีๆ ในใจคุณมันก็มีแต่ภาคคีนั้นแหละ ไม่แต่งงานกับภาคีไปเลยล่ะ”ท็องส์เดือดปุดๆ
“เธอเองก็ควรรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง”ลูปินเดินเลี่ยงผ่านท็องส์ที่กำลังประจันหน้ากับเขา
“รีมัส! ฉันสุดจะทนแล้ว”ท็องส์กระชากคอเสื้อลูปินให้โน้มลงมาด้วยโทสะ “ผู้หญิงคนนี้เคยอยู่ในสายตาคุณบ้างไหม คุณเคยคิดสนใจเขาบ้างรึเปล่า ว่าเขาจะเจ็บ จะป่วยตาย หรือเขาจะต้องการ...”
“ท็องส์!”ลูปินบีบข้อมือเธอที่กำคอเสื้อเขาไว้ สายตาดุๆส่งมาเป็นสัญญาณเตือน “เลิกทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเสียที ฉันไม่มีเวลามาสนใจชีวิตเธอหรือชีวิตใครๆหรอกนะ”
หญิงสาวปล่อยมือจากคอเสื้อ ข้อมือเธอปวดร้าวจากแรงบีบของอีกฝ่าย แต่ก็เจ็บปวดไม่เท่าหัวใจที่ถูกฉีกไม่เหลือชิ้นดี
“ถึงคุณจะไม่เห็นแก่ฉัน ก็เห็นแก่ตัวเองบ้างเถอะ ชีวิตคุณไม่ใช่เครื่องมือหรือตัวเลือกของใครหรอกนะ”ท็องส์เก็บกลั่นน้ำตาเอาไว้
“ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร ไม่ต้องให้เธอมาสอน นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันจะตอบแทนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ดัมเบิลดอร์มอบให้ฉันมาตลอด ถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตฉันก็ยอม เพราะนั่นแหละคือหน้าที่ ที่มนุษย์หมาป่าไร้ค่าอย่างฉันเป็นเกียรติที่ได้ทำ”ลูปินเดินห่างออกไป
“ฉันอยากให้คุณรู้ไว้”ท็องส์พูดขึ้น “คุณมีค่าเสมอสำหรับฉัน เพราะรักเดียวของฉันคือเจ้าตัวมีขนที่ชื่อ รีมัส ลูปิน”
ลูปินสะดุดลมหายใจตัวเอง
ท็องส์พลันอันตราธานหายไปจากตรงนั้น
‘ท็องส์ เธอกำลังทำให้ฉันลำบากใจมากขึ้นรู้ไหม’
ความคิดเห็น