ตอนที่ 6 : เรื่องบางเรื่อง 100%
“นี่คุณ ปล่อยได้แล้ว” ลลนาที่โดนคนตัวโตลากมาจนระยะหนึ่งที่เธอคิดว่าน่าจะพ้นจากสายตาแม่สองสาวนั่นแล้ว จึงหันไปสะกิดคนข้างๆ โชคดีที่เขายอมปล่อยมือเธอแต่โดยดี มือหนาทั้งสองเปลี่ยนเป็นเท้าอยู่แถวเข็มขัด เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา เบื่อจะแย่
“ทำไมไม่บอกสองคนนั้นว่าฉันเป็นน้องสาว” พอหลุดออกมาได้ ร่างบางเริ่มแหวใส่ทันที
“วู้ น้องสาวบ้าบออะไรของเธอ เธอบ๊องหรือเปล่ายัยแก้มยุ้ย ตระกูลฉันดังนะเฟ้ย ใครๆ เขาก็รู้จักครอบครัวฉันไปถึงต้นตระกูลแล้ว” เขาตอบกลับมา ไม่วายพ่นลมหายใจซ้ำอีกรอบ
เออ!! รู้ก็ได้ แต่นายควรจะพูดอย่างนี้กับผู้หญิงเหรอ..ฟะ
“แต่คุณทำอย่างนี้ ไม่เสียดายเหรอไง หายทั้งสองคนเลยนะนั่น” ลลนาพยายามปัดความไม่พอใจลอยหน้าลอยตาพูดต่อไปอีกครั้ง ภัทรพลปรายตากลับมามองนิดหน่อย ส่ายหน้าให้กับความคิดของคนตรงหน้า โบกไม้โบกมือประกอบซ้ำอีกรอบ เลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อไปอีก
เหอะ ยัยนี่ท่าจะเสพติดข่าวจนเกินเหตุ เลยมองเขาเจ้าชู้ตัวพ่อ เห็นผู้หญิงที่ไหนไม่ได้เป็นจะต้องเอาไว้ซะหมด
แต่ขอโทษนะครับ คนอย่างผม หล่อเลือกได้และมีศักดิ์ศรี ถ้าผู้หญิงที่เสนอมาไม่ถูกใจ ผมก็เลือกที่จะไม่สนองตอบกลับไป และนั่นมันก็เป็นแค่ความสุขตามแบบฉบับผู้ชาย เสนอมาสนองไป เท่านั้นก็จบ ไม่มีอะไรติดค้าง อิสระด้วยกันทั้งสองฝ่าย
สำหรับเขาแล้ว ถ้าคิดจะคบใครยาวๆ และจริงจังสักคน มันคงเป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่เคยคิดว่าการมีความรักและดูแลจิตใจของคนที่รักเป็นเรื่องล้อเล่น ผู้หญิงคนนั้นต้องมีคุณค่าและคู่ควรแก่การโดนทะนุถนอม และสำหรับเธอคนนั้นเขาจะใช้หัวใจของตัวเองเป็นตัวตัดสิน
เฮ้อ แต่ก็ช่างเถอะ ยัยนี่คงไม่มีวันเข้าใจ ก็ปักใจเชื่อไปอย่างนั้นแล้วนี่เขาได้แต่คิดอย่างฉุนๆ พอดีกับเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาพอดี ใบหน้าคมอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมานั้นเป็นใคร
ผู้หญิงอีกคนที่ควรค่าแก่การเอาใจใส่ น้องสาวคนใหม่ของเขานั่นเอง
“ว่าไงคะเกด” พอเห็นภัทรพลยกโทรศัพท์ขึ้นมารับ กรอกเสียงลงไปเป็นชื่อเพื่อนตัวเองเท่านั้น เจ้าของตารียาวแต่ก็กลมแบ๊วได้ใจต่างจากอาหมวยทั่วไปเป็นอันต้องหันมาจ้องตาโตทันที
ให้มันได้อย่างนี้สิ
“อ้อ ได้ค่ะได้ เกดอยู่ไหนคะ เดี๋ยวพี่ไปรับ” คนตัวเล็กยังคงอยู่ในอาการจ้องแบบไม่วางตา ถ้าเขาเดาไม่ผิด แววตาที่ส่งมาเหมือนแอบข่มขู่อะไรเขาบางอย่างซะด้วย
“โอเค เกดเดินเล่นไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปถึงแล้วพี่โทรหา” เขาว่าแล้วก็วางสายไป หันกลับมามองก็เห็นสายตาของยัยแก้มยุ้ยยังจ้องอยู่ไม่เลิก
“สงสัยนายภีมคงจะติดคนไข้ เพื่อนเธอเลยติดต่อไม่ได้ แต่อยากไปจองโต๊ะที่ร้านอาหารแถวๆ ทองหล่อก่อนเพราะกลัวว่าถ้าเย็นมันจะเต็ม เธอคงรู้ดีนะว่าเพื่อนเธอเป็นคนไม่ชอบรออะไรนานๆ ” เขาพูดออกมาเป็นชุด โดยไม่รอให้อีกฝ่ายถามก่อน
ก็รู้จุดประสงค์ของเธอดีอยู่แล้วนี่
“งั้น..” เธอหยุดคิดไปนิดหนึ่ง ประเมินผลได้ผลเสียที่จะตามมา
ปล่อยไอ้พี่ภัทรไปกับยัยเกดสองคนคงไม่เหมาะ เกิดเสียดายยัยสองคนนั่น แล้วไปตีท้ายครัวน้องชายจีบน้องสะใภ้ตัวเองขึ้นมาแล้วมันจะยุ่ง
“งั้นฉัน…ฉันไปด้วย” เธอตอบออกไปทันทีที่คิดได้
“อืม อยากไปก็ไปสิ” เขาเลิกคิ้วตอบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ควงพวงกุญแจรถในมือเล่นฆ่าเวลา ระหว่างมองขาสั้นๆ ของตัวเจ้าปัญหารีบวิ่งกลับไปเอากระเป๋าตัวเองอย่างกลัวว่าถ้าชักช้าอีกแค่วินาทีเดียว เขาอาจวิ่งหนีไปไหน
เฮ้อ ใครมันจะไปคิดอกุศลได้อย่างเธอวะ ยัยแก้มยุ้ย
Talk มันก็จะแบ่งตอนแปลกๆ หน่อยนะก๊ะ คนเขียนโก๊ะๆ กังๆ 5555555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
