ตอนที่ 53 : จดหมายน้อยถึงเฮีย 120%
“นี่ไอ้ยุ้ย แกทำอย่างนี้ได้ไงวะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมแกไม่บอกฉัน ต้องให้ฉันซึ่งเป็นเพื่อนสุดที่รักของแก ไปรู้จากปากเฮียแกเนี่ยนะ” เมื่อลากเพื่อนออกมาจนลับหูลับตาคนได้ นริศราก็เอาแต่โวยวายยกใหญ่
มันน่าน้อยใจไหมล่ะ เรื่องใหญ่ระดับชาติของยัยแพนด้าขนาดนี้ แต่เธอดันพลาด รู้เรื่องกับเขาช้าที่สุด โกรธนะจะบอกให้
“โธ่ นริศราเพื่อนรัก แกจะโวยวายให้ได้อะไรขึ้นมาวะ เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน คนเรามันก็ต้องตั้งตัวไม่ทันกันบ้าง จะให้ปุบปับมาบอกแกเลยได้ไง” เธอว่า สายตากลับยังไม่ได้ละความสนใจจากนิยายตรงหน้า คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้ ไอ้เรื่องแค่นี้ไม่รู้เฮียบ้าจะไปป่าวประกาศทำไม คิดไม่ทันจบเสียงจิ๊จ๊ะประชดประชันว่าตัวเองไม่สำคัญของยัยลูกองุ่นอบ เธอต้องรีบหันกลับมาง้ออย่างเสียไม่ได้
“โธ่ ลูกเกดน้อย ฉันผิดไปแล้ว แกออกจะเป็นคนที่แสนดี แฟนก็หล๊อหล่อ ยกโทษให้ฉันเถอะนะ นะๆๆ ” จากนั้น เธอได้ยินคลับคล้ายคลับคลาเหมือนยัยเกดจะเหน็บแนมประมาณว่า‘แฟนฉันก็หน้าตาเหมือนๆ กับแฟนแกนั่นแหละ’ ไม่พอยังยื่นข้อเสนอที่เธออยากล้มลงนอนพับอยู่ตรงนั้น
“ก็ได้ ฉันไม่โกรธแกก็ได้ แต่แกจะต้องตอบทุกคำถามที่ฉันอยากรู้ให้หมด!! ”
มัน เอ้ย ยัยลูกองุ่นอบแห้งเพื่อนรักย้ำคำว่า‘ทั้งหมด’ ชัดๆ แถมทำหน้าตาจริงจังราวกับมันเป็นเรื่องระดับชาติไม่เลิก เจ้าเล่ห์จริงนะยัยนี่ ไม่รู้ไปติดนิสัยนี้มาจากใคร
“เออๆ ก็ได้” แล้วคนมีความผิดติดตัวอย่างเธอจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากพยักหน้ารับหงึกๆ ออกไปอย่างเดียว
และนั่นก็ทำให้คนแสร้งตีหน้าขรึมหันมายิ้มสมใจราวเด็กได้ของเล่นใหม่ถูกอกถูกใจทันที
“งั้นเล่ามาว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เรื่องทุกอย่างถูกเล่าออกไป ถึงแม้จะพยายามปิดอยู่บ้างแต่ก็ปิดไม่มิด ยัยนี่รู้บ้างหรือเปล่าว่าเรื่องบางเรื่องมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว เฮ้อ เธอกำลังรู้สึกเหมือนกรรมตามสนอง
“เรื่องมันก็เป็นไปตามที่ฉันเล่านั่นแหละ” นริศราพยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ แต่ไม่วายสมองยังพาให้ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
เรื่องที่ยัยแพนด้าเล่ามาก็ถือว่า excusive ใช้ได้ แต่เธอว่ามันยังดูเหมือนขาดๆ อะไรไปบางอย่าง
“น่าแปลก” นริศราพึมพำกับตัวเองเบาๆ ทำท่าทาง (เหมือน ) คิดหนักซะเต็มที่ ก่อนยื่นหน้าเจ้าเล่ห์เข้ามาให้อีกคนอดระแวงไม่ได้ และก็คิดไม่ผิด เพราะคำถามที่ภรรยาคุณหมองัดมาช่างตรงและชาญฉลาดเล่นเอาลลนาแทบเป็นลม
“แล้วเมื่อวานเขาบอกรักแกยังไง”
อดคิดไม่ได้ว่ายัยนี่กำลังแก้แค้นเธอใช่ไหม มันคงเป็นกรรมของเธอที่ไปยุ่งวุ่นวายความรักของยัยเกดและคุณหมอพี่ภีม ตอนนี้คงถึงวันต้องชดใช้ กรรมตามสนอง และเจ้ากรรมนายเวรของเธอคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเพื่อนรักตรงหน้านั่นเอง
“เขาเอ่อ…แกเคยได้ยินไหมว่า เอ่อ…” เธอกระซิบบอกในบางประโยคที่พูดเองยังถึงกับขนลุก แต่ยัยเกดพอได้ฟังปุ๊บ เสียงกระซิบของเธอก็ไม่มีความหมายเพราะคุณเธอเล่นตะโกนออกมาซะดังลั่น ไม่พอยังเอาแต่ขำเอาๆ
“ฮะ อะไรนะ บอกรักกันได้เงียบสุดๆ ไปเลยว่ะ ฮ่าๆๆ พี่ภัทรนี่ร้ายจริงๆ ”
“ไอ้เกด แกอย่ามาหัวเราะนะ คนกำลังเครียดๆ อยู่ด้วย”
“แกยังมีเรื่องอะไรต้องเครียดอยู่อีกเหรอวะ เตรียมตัวนั่งเป็นคุณนายท่านรองได้แล้ว ฮ่าๆๆ ” มันพยายามพูดออกมาทั้งที่จริงๆ ก็ขำจนน้ำตาเล็ด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะตลกอะไรนักหนา ชิ
“เครียดสิ ฉันต้องเครียด แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนเขาก็เสนอหน้าไปนอนข้างเตียงฉัน ไม่พอยังจะ เอ่อ…” แต่เมื่ออายมาขนาดนี้แล้ว เธอคิดว่าคงไม่มีอะไรจะเสีย ปัญหาระดับชาติของเธอ ยัยเกดเพื่อนรักควรได้รับรู้ เผื่อความมีประสบการณ์แล้วของคุณเธอจะช่วยชีวิตกันได้บ้าง
“กินตับฉัน!!! ”
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะแค่ฟังจบ ยัยนี่ก็เข้าใจความหมายได้โดยไม่ต้องอธิบายว่าอะไรเป็นอะไร ก่อนตั้งท่าจะหัวเราะและตะโกนออกมาอีก ดีที่เธอไวพอจะเอามือไปปิดปากเล็กๆ นั้นได้ก่อน ไม่อย่างนั้นมีหวังอับอายอีกรอบแน่
นั่นคงทำให้ยัยลูกองุ่นอบพอสงบสติอารมณ์ได้บ้าง ทำเป็นหันมาโอบไหล่เธอเบาๆ เรียบเรียงคำพูดออกมาได้สามประโยคหนักแน่น
“ฉันเข้าใจแก แต่แกคงต้องทำใจ อยู่กับเฮียภัทรก็แบบนี้ โดนกินตับแน่ๆ ยัยแก้มยุ้ย”
ตัวต้นเหตุเดินจากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ลลนาที่ยังนั่งอ้าปากค้างอยู่กับคำพูดเมื่อกี้ ก่อนจะค่อยๆ เรียบเรียงและแปลความหมายได้แจ่มชัด
อึ้ย ไม่ช่วยแล้วยังจะมาซ้ำเติม ไอ้เกดเพื่อนบ้า
Talk หืมมมม ยัยเกดดดดดด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
