ตอนที่ 45 : Special talk by เฮียภัทร 100%
จะว่าไปความจริงยัยเกดก็น่ารักนะ หน้าใสๆ จิ้มลิ้มน่ารักพอตัวเลยล่ะ อืม ไม่ใช่พอสิ ต้องบอกว่าค่อนข้างมากซะด้วยซ้ำ ไม่งั้นไอ้หมอน้องชายผมจะหลงจนหัวปักหัวปำได้ยังไง
เพราะความน่ารักปนใสๆ ซื่อๆ ของยัยเกด ผมเลยอยากแกล้งน้องชายตัวเองเล่นอยู่บ่อยๆ วันละหลายหน มันเป็นความสุขเล็กๆ ของพี่ชายที่รู้จุดอ่อนน้องชายและได้แกล้งให้ปวดหัวเล่นๆ แต่สงสัยจะแกล้งบ่อยไปหน่อย ทำไปทำมา ยัยแก้มยุ้ยเลยจ้องจะกันท่าในฐานะเพื่อนดีเด่น หันมาเขม่นเข่นเขี้ยวผมซะงั้น ด้วยข้อหา‘จ้องจะตีท้ายครัวน้องชายตัวเอง’
เหอะ ยัยบ้า ใครมันจะคิดแบบนั้นได้
เรื่องนี้แหละเธอจึงจ้องจะแยกเขี้ยวใส่ผมอยู่เสมอ (ไม่รวมที่ผมแกล้งแหย่เธอเล่นบ่อยๆ อีกต่างหาก) แต่จะทำยังไงได้ แกล้งเธอเล่นมันสนุกจะตาย เห็นเธอหน้าบึ้งขัดใจหรืออะไรอย่างนั้นทีไร ผมกลับอารมณ์ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น
แต่อย่าเพิ่งเข้าใจกันผิดนะว่าผู้ชายอย่างผมจะเอาแต่แกล้งเธออย่างเดียว โหมดดีๆ ของผมก็ยังพอมีอยู่บ้าง ไม่เชื่อลองถามเจ้าตุ๊กตาตุ๊กตุ่นที่อยู่ในห้องนี้ดูสิ ฝีมือผมทั้งนั้นเลยนะจะบอกให้
ผมรู้ว่าเธอชอบตุ๊กตา พอๆ กับนิยายและการมีนิสัยไม่ต่างกับเด็ก เริ่มตั้งแต่เจ้าบลายธ์ที่อยู่หัวเตียง ผมหิ้วมาฝากตั้งแต่มันยังไม่ฟีเว่อร์ในเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่จะให้บอกว่าตั้งใจซื้อมาฝากก็ใช่ที่ เหตุผลที่บอกไปเลยตรงข้ามอย่างเห็นได้ชัด ผมบอกเธอว่าซื้อมาฝากยัยเกด เธอเลยมีผลพลอยได้ไปด้วย
พอลองหันไปดูหน้ายัยเกดสิ แทบจะเขวี้ยงมันทิ้งไปตรงหน้า ต่างกับยัยนี่ที่เห็นปุ๊บแทบอยากจะกระโดดโลดเต้น แต่ก็พยายามเก๊กหน้าเก็บอารมณ์สุดฤทธิ์ ลูกเกดจะน้อยใจไหมนะที่ผมเห็นคนอื่นดีกว่าน้องสะใภ้ตัวเอง แต่มันก็ช่วยไม่ได้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ตัวผมเองตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำลงไปได้ยังไง
ตอนนี้ผมเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนของเธอ พร้อมกับเอกสารที่วางไว้ตั้งแต่กลางวันแต่ยังไม่ได้ลงมือทำสักที กวาดตามองรอบๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้ตัวเองแบบขำๆ ความจริงการตกแต่งห้องนี้ได้อิทธิพลมาจากตุ๊กตาที่ผมอุตส่าห์หอบมาจากทั่วสารทิศเพื่อเอามาฝากเธอมากอยู่เหมือนกันนะ มันเรียกว่าตัวอะไร ผมจำไม่ค่อยได้หรอก เพราะโดยสามัญสำนึกนิสัยเถื่อนๆ ของผู้ชายก็ไม่คิดจะสนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อืม นับๆ ดูมีเป็นเกือบสิบตัวได้ล่ะมั้ง
แล้วนั่นเจ้าตัวล่าสุดที่ผมเพิ่งลากมาจากไปประชุมที่ญี่ปุ่นเมื่อสองสามเดือนนี่เอง มันชื่อเจ้าคูเมิงคูมะอะไรนั่นล่ะ จำไม่ได้หรอก รู้แต่ว่าเธอคงจะชอบไอ้เจ้าตัวนี้มากเป็นพิเศษ ผมเดาเอาจากเคสโทรศัพท์ที่เธอใช้ เพราะเปลี่ยนกี่อันๆ ก็จะเป็นไอ้เจ้าตัวนี้ตลอด ในไลน์เอย เฟซบุ๊คเอย ก็มีแต่รูปเจ้าตัวนี้ คลั่งไคล้ถึงขนาดตั้งเป็นรูปโปรไฟล์
พอเห็นเธอชอบมากขนาดนั้น ผู้ชายอย่างผมมีหรือจะขัด จัดการสนองด้วยการหอบเจ้าหมีตัวโตเท่าตัวเธอยัดใส่กระเป๋ามาให้ถึงเมืองไทยโดยไม่ต้องร้องขอ รู้สึกอายชะมัดที่ผู้ชายตัวโตๆ ต้องไปยืนเลือกซื้อตุ๊กตา
แต่มันก็คุ้ม เมื่อแลกกับรอยยิ้มปลื้มตาเป็นประกายอย่างปิดไม่มิด ยังจำได้เลย ตอนเธอเห็นเจ้ากล่องเล็กๆ เปิดคลี่ออกมาเป็นเจ้าตุ๊กตาโตขึ้นไปไม่รู้กี่เท่า รอยยิ้มสดใสนั้นทำผมยิ้มตามด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ยิ่งรู้สึกดีเข้าไปใหญ่ เพราะยัยนี่ดันไปโพสรูปตัวเองคู่กับตุ๊กตาตัวนี้ลงในเฟซบุ๊ค พร้อมข้อความว่า
“Thanks a loz ขอบคุณคนใจดีที่หิ้วตุ๊กตาตัวนี้มาให้”
ตอนนั้นผมยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เธอคงไม่คิดล่ะสิว่าคนอย่างผมจะมีพฤติกรรมประหลาดชอบแอบส่องทามไลน์เธอ อย่าว่าแต่เธอเลย ผมเองก็ไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกที่เป็นไปเองอัตโนมัติ อยากรู้ว่าแต่ละวันเธอทำอะไรบ้าง ยิ่งยัยแก้มยุ้ยชอบเล่นเฟซเล่นไลน์ด้วย ยิ่งเข้าทางผม ผมไม่เคยเม้นต์ ไม่เคยไลค์ ทั้งเฟซทั้งไลน์ แต่ก็รู้หมดว่าเธอกำลังทำอะไร บางทีถ้าเธอรู้ อาจหาว่าผมเป็นโรคจิตมันก็ไม่แน่
นี่ล่ะ ความรักตามแบบฉบับของผม
ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจในตัวเอง คิดว่ามันก็คงเป็นแค่ความชอบ เอ็นดู หรืออะไรบางอย่าง ผมอยากมองเธออยู่ห่างๆ แบบนี้ ส่วนตัวผมเองก็อย่างที่ทุกคนรู้ เรื่อยๆ และยังมีความพอใจกับความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด ผมคิดจะปล่อยเรื่องราวให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไป โดยไม่ยึดติดกับอะไรทั้งหมด
จนวันหนึ่งเรื่องบางเรื่องที่ได้รับรู้มาจะทำให้ปล่อยเธอไว้แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเธอจึงต้องกลายมาเป็นแฟนกำมะลอของผมหรือทำไมผมต้องทำอย่างนั้น
มากกว่าการกำจัดเรื่องราววุ่นวายของผมที่ลลนารู้ สิ่งที่น้องชายผมบอกว่าครอบครัวลลนาเหมือนกำลังมีปัญหา (ไม่ต้องสงสัย ไอ้หมอน้องชายผม มันอ่านเกมออกตั้งแต่แรกละ) แม้ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ความรู้สึกไหววูบที่เกิดขึ้นในหัวใจผู้ชายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมจึงรู้ใจตัวเองว่าเธอสำคัญมากกว่าที่คิด และผมก็ไม่สามารถปล่อยเธอให้ต่อสู้เพียงลำพังต่อไปได้
ผมเต็มใจช่วยเธอในทุกสิ่งทุกอย่าง ช่วยแบบที่เธอไม่ต้องลำบากใจ ถ้าเธอไม่อยากบอก ก็ไม่จำเป็นต้องเล่า และผมต้องการให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มี‘เรื่องนั้น’ ที่ผมเพิ่งได้รับรู้มา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันใหญ่เกินกว่าที่คิด ซึ่งผมไม่สามารถอยู่เฉยๆ แบบเงียบๆ ในมุมของตัวเองได้อีกต่อไป ผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อ‘คุ้มครองและปกป้อง’
สำหรับผมไม่เคยคิดว่าตัวเงินสำคัญและสามารถซื้อคนได้ หรือครอบครัวตัวเองยิ่งใหญ่มาจากไหน พ่อแม่ไม่เคยสอนให้เราพี่น้องห้าคนคิดแบบนั้น แต่ถ้าวันนี้เงินทองหรือชื่อเสียงในวงสังคมที่ผมมี มันจะทำให้ผมดูแล ปกป้อง เเละคุ้มครองคนที่ผมรักได้ ผมก็ยินดีทำ
เสียงประตูเปิดออก เรียกสติผมที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เงยหน้าสบตาเจ้าของห้องที่มองมาทางผมอยู่เช่นกัน แววตาตระหนกตกใจอย่างกับผมเป็นตัวประหลาดมาจากดาวอังคารแล้วอวตารลงมาในห้องเธอ ผมอดอมยิ้มไม่ได้ เธอคงสงสัยว่าผมเข้ามาทำอะไรในนี้
เอาล่ะ ผมคงมีเรื่องมากมายต้องจัดการและตกลงกับเธอ
ผู้ชายรักอิสระอย่างผม ถ้าคิดจะหยุด มันคงอาจจะทำไม่ได้แค่ภายในวันเดียว แต่เมื่อรับเธอเข้ามาแล้ว ผมจะทำทุกอย่าง ทำอะไรก็ได้ ถ้ามันจะทำให้เธอคนนี้ ยัยแก้มยุ้ยของผม‘เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด’
ผมไม่ใช่ผู้ชายที่ถนัดพูดอะไรต่อมิอะไรออกมานัก แต่สิ่งที่จะทำต่อไป ผมยินดีจะทำทุกอย่างให้เธอด้วยความรักของผม
จะปกป้อง คุ้มครอง และดูแลเธอให้ดีที่สุด ด้วยชีวิตที่ผมมี
Talk แปะ แปะ แปะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1 ความคิดเห็น
-
#1 SiCipher (จากตอนที่ 45)วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 / 00:04เฮียยย#10