ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction] HEARTROCKER x GRAYMAN Xll

    ลำดับตอนที่ #4 : HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part จบ] ;คิดถึงนะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 56


    + ❥ Free theme mouse.naru



    HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part จบ]

    (Short fic)

                    ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อไม่มีเพื่อนคนสนิทมาเดินด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเคย แต่ก็เป็นเพราะผม

    ไปตวาดใส่เขาเองนี่นะ... ผมไม่คิดเลยว่าผมจะรู้สึกอ้างว้างขนาดนี้เมื่อไม่มีเขา

                    เราหลบหน้ากันและไม่ได้คุยกันแม้สักคำเดียวนับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวานขึ้น  ผมว่าผมจะลองทักเขาตอนเข้า

    ชมรม ถ้าผมกล้าพอ... แล้วไอออยไอคิวที่บอกจะช่วยซัพพงซัพพอร์ทอะไรก็ไม่เห็นหัวพวกมันมาตั้งแต่เช้าละเนี่ย ไป

    ซัพพอร์ทความรักของพวกมันเองอ่ะสิไม่ว่า

                    พี่เอกกกกกี้

                    ผมหันไปมองตามเสียงเรียก แหม..พอบ่นถึงก็มาเลยนะไอน้องสุดที่รักยิ่ง..

                    มีไรวะ

                “เดี๋ยวผมกับพี่ออยจะนั่งที่นั่งอื่นให้หมดแล้วเว้นที่ข้างๆ พี่เบสไว้นะ พี่เอกก็ต้องไปนั่งตรงนั้นเคป่ะ จะได้ปรับ

    ความเข้าใจอะไรกันไง พวกผมจะพยายามทำเป็นไม่ได้ยิน พวกพี่คุยกันตามสบายเลยนะ

                    มันขยิบตาให้ผมทีนึง พร้อมลากแขนออยเดินเข้าไปด้วย และในช่วงระยะเวลาเพียงเสี้ยวนาทีที่ประตูเปิดนั้นผมก็

    มองไปเห็นสายตาเย็นชาคู่หนึ่งมองมาทางนี้ ...แน่นอนว่าเป็นไอเบส เฮ้อ...ยังไงก็ต้องเข้าไปสินะ

                    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องชมรม แล้วตรงไปนั่งยังที่ว่างตามแผนของคิว และพยายามแอบมองคนข้างๆ ใน

    ระหว่างที่พูดคุยเรื่องกิจกรรมชมรมไปด้วย แต่แปลกแฮะ ผมว่าสีหน้ามันไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรรึเปล่านะ?

                “เบสผมรวบรวมความกล้าทักมันไปก่อน และก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาอีกหลายคู่กำลังจับจ้องมาที่ผมกับเบส

                    ...มันไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันมามองหน้าผมอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่เลื่อนลอย ผมว่ามันไม่ปกติแล้วนะ..

                    เป็นอะไรเปล่.... ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ หน้าของมันก็ลดระดับลงมาซบที่หน้าอกผมอย่างรวดเร็ว

                    เฮ้ย!! เป็นไรวะเบส ตัวร้อนมากเลยว่ะผมตกใจและทำอะไรไม่ถูก ได้แต่โอบตัวมันแล้วมองสมาชิกที่เหลือ

    ที่รีบเดินมามุงดูอาการไอ้เบส             

                    พาเบสไปโรงบาลเหอะ ผมแนะนำ อาการท่าจะไม่ไหวแล้ว

                 “เอางั้นเหรอ? โอเคๆ งั้นกูขอตัวนะ

                 ผมอุ้มคนที่อยู่ในอ้อมกอดขึ้นมา แล้ววิ่งออกไปจากห้องชมรมอย่างลนลาน แม้จะมีผู้คนมากมายที่จับจ้องมาที่

    ผม แต่ ณ วินาทีนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเพื่อนสนิทของผมที่กำลังหอบอีกแล้ว เขาดูทรมาณมาก ผมไม่อยากเห็นภาพ

    แบบนี้นานๆ หรอกนะ

                    ผมอุ้มเบสออกมาถึงหน้าโรงเรียนและรีบพาขึ้นรถแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาล โดยที่ไม่ลืมบอกให้คนขับรถขับสปีดยิ่ง

    กว่านรก เพราะถ้าไปช้า คนในอ้อมแขนผมอาจจะทนไม่ไหวก็ได้..

                    เมื่อถึงโรงพยาบาล พยาบาลก็รีบพยุงเบสขึ้นเตียงรถเข็นทันที และในระหว่างที่หมอกำลังตรวจร่างกายของไอ

    เบสอยู่นั้น ผมก็ได้แต่รอและรอ...

                    นี่เป็นความผิดของกูเอง...มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ยเบส ผมพึมพำออกมา แม้จะรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้ยินก็ตาม

     

                    ...

                   

                    ในระหว่างที่เอกกำลังโทษตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณหมอก็ออกมาจากห้องตรวจพอดี เอกเห็นคุณหมอปุ๊บก็รีบ

    เดินเข้าไปถามถึงอาการของเพื่อนคนสนิททันที คุณหมอทำหน้าสลดพร้อมพูดว่า

                    คนไข้มีก๊าซออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ส่วนต่างๆ ไม่พอ ตอนฟื้นมาอาจมีอาการความจำเสื่อมหรือสูญเสีย

    ความจำในบางส่วนไปนะครับ

                    เอกบอกขอบคุณคุณหมอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตรวจ แล้วเขย่าตัวเพื่อนสนิทเบาๆ

                    เบส ตื่นสิวะ อย่าพึ่งชิงความจำเสื่อมไปเชียวนะเว้ย ตื่นมาคุยกับกูก่อน เรื่องนั้นกูยังไม่ได้ขอโทษมึงเลย! “

                 เอกพูดและเขย่าร่างกายอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะขยับ เขาเลยหยุดและยืนพิงขอบเตียงรอ

    เวลาที่เบสจะตื่นขึ้นมา เขาหวังว่าเบสคงจะไม่ลืมเรื่องนั้นไปซะก่อน เพราะถ้าเขาไม่ได้ขอโทษ เขาคงคาใจมากแน่ๆ

                    ...กูตื่นตั้งนานแล้วเว้ยเชี่ยเอกเบสพูดออกมาเบาๆ ทำเอาคนที่ยืนพิงเตียงอยู่สะดุ้ง แล้วหันไปจับไหล่อีกฝ่าย

    ทันที เอกมีน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย ก่อนจะปาดมันออกไป

                    มึงร้องไห้ทำ? ”

                    กูนึกว่ามึงจะลืมกูแล้ว หมอบอกว่ามึงอาจจะความจำเสื่อม กูขอโทษจริงๆ เรื่องที่นั่น...จริงๆ แล้วกูไม่รู้หรอกว่า

    ใครผิดกันแน่ กูขอโทษที่โทษมึงฝ่ายเดียว

                “ไม่เป็นไร..เบสตอบอย่างเย็นชา เอกเลยทำตาแวววาวใส่เบส ก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยอีกฝ่าย

                    อย่างอนนะ โอ๋เอ๋ สัญญาว่าจะไม่ตวาดใส่อีกแล้ว เอกยิ้มร่าทำเอาเบสยิ้มตาม เบสรู้สึกว่าคนตรงหน้าตัวเอง

    เหมือนเด็กขึ้นมาทันทีในเวลานี้

                    อย่างกับเด็กอนุบาล เออจริงสิ อุ้มกลับเหมือนตอนอุ้มมาทีดิขี้เกียจเดิน

                เอกหน้าแดงทันทีไม่คิดว่าเบสจะรู้สึกตัวตอนที่เขาอุ้ม เขานึกว่าเบสหมดสติไปแล้วเลยทำอะไรแบบไม่คิดในตอน

    นั้น เบสเห็นท่าทีของเอกแล้วก็อมยิ้มตาม เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เอกจะให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้

                    เป็นไร อุ้มดิ ฮ่าๆ

                “อยากให้อุ้มนักใช่มั้ย? ถ้าไม่กลัวอายก็จัดให้

                    เอกพูดจบก็ช้อนตัวเบสขึ้นมาและพาเดินออกไปนอกโรงพยาบาล พร้อมนั่งแท็กซี่กลับโรงเรียนตามเดิม

                   

                กลับมาปัจจุบัน

                    เฮ้ยเอก เหม่อไร? แค่ให้ดูภาพตอนม.ปลายแค่นี้ถึงกับเอ๋อเบสโบกมือไปมาผ่านหน้าผม ทำให้ผมได้สติ

    กลับมา พอผมคิดถึงเรื่องตอนมัธยมทีไรก็ขนลุกซู่ทุกทีสิน่า...แต่ก็เป็นเพราะตอนนั้นทำให้เราสนิทกันมากขึ้น..แบบเพื่อน

    นะครับ...

                    เปล่าๆ นึกถึงเรื่องม่านรูดนิดหน่อยคนข้างๆ ผมหัวเราะแล้วพูดต่อว่า

                    หลังจากนั้นกูไปดูที่กล้องวงจรปิดในโรงแรมม่านรูดนั่นแล้วนะเว้ย

                “ฮะ? ทำไมไม่เคยบอกกันวะ สรุปเป็นไง..กูกับมึงไม่ได้มีอะไรกันใช่มั้ย?”

                “หึ..กูอ่ะเมาจนละเมอถอดชุด แต่มึงอ่ะ อาบน้ำแล้วดันไม่ใส่ชุดก่อนนอน

                เอ่อ...นี่หรือคือเหตุที่ทำให้ผมกับมันต้องทะเลาะกันในตอนนั้น? มันสมควรแล้วหรือ? ทำไมพระเจ้าถึงกลั่นแกล้ง

    กันแบบนี้ล่ะครับ ผมนึกว่าตัวเองจะเสียเพื่อนที่รักที่สุดไปแล้วนะ..

                    เออแล้วก็กูมีเรื่องจะบอกมึงอีกอย่าง

                “อะไรวะ?”

                “ตอนที่กูเข้าโรงบาลอ่ะ คือกูแค่เพลียเฉยๆ แต่กูบอกให้หมอไปบอกมึงว่ากูเป็นโรคขาดก๊าซอะไรนั่น ฮ่าๆ

                ผมนอนฟังเงียบๆ แล้วนั่งคิดอะไรไปมา นี่สินะ..มารยาชาย ว่าแต่มันจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน อยากให้ผมสนใจ

    เหรอ ? แต่ถึงไม่ทำผมก็เทคแคร์มันอยู่แล้วนะ..

                    เออเบส กูก็มีเรื่องจะบอกมึงเหมือนกัน

                “ฮะ อะไรวะ?”

                “ตอนกูอุ้มมึงไปโรงพยาบาลเห็น UFO บินผ่านด้วยผมทำหน้าจริงจังจนอีกฝ่ายเผลอหลุดขำออกมา

                    มึงเบลอจนบ้าป่ะเนี่ย มโนไกลละมึง

                “อืม...มึงอาจจะคิดไม่ถึง...แต่กูคิดถึงนะผมยิ้มพร้อมขยิบตาใส่อีกฝ่าย แต่เบสกลับทำท่าเหมือนจะอ้วกแล้ว

    เอาหมอนมาตีผมรัวๆ

                    เหี้ยไรมึงเนี่ยยย!!” 


    ---------------------------------------------------------------------------------------------

     

    จบตอน 'Memory of us : ความทรงจำของสองเรา' แล้วค่า ><
    มุขตอนท้ายนี่ถ้าจำไม่ผิด เอามาจาก 9GAG ล่ะมั้งคะ? ไม่แน่ใจเหมือนกัน O<-<
    ตอนหน้าคิดว่าจะทำเป็น Short fic แบบพาร์ทเดียวจบนะคะ
    สปอยว่าจะเกี่ยวกับเกม "ทรูออแดร์" ค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ !!


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×