คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part 2] ;กรรมตามสนอง
HEARTROCKER x GRAYMAN Xll : Memory of us [part 2]
“ฮ้าวววว” ผมตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคย ที่นี่มันที่ไหนกัน? ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หรือเมื่อคืนผม
ดื่มหนักมากเกินไปนะ แต่ช่างเถอะ..เอ๊ะ ทำไมมันหวิวๆ วะ
“เฮ้ย!!!" ผมตะโกนเมื่อพบว่าตอนนี้ผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า อยะ..อย่าบอกนะว่า..เมื่อคืนไอ้เบสมันแอบทำ
อะไรผม!? ...แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดมากเท่าไหร่ ก็นึกอะไรไม่ออกเลย จำได้คร่าวๆ ว่าผมพยุงมันออกจากบาร์แค่นั้น..
ผมหยุดคิดและหาเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ แต่แล้วเสียงงัวเงียของตัวการก็ดังขึ้น ผมเลยรีบลากคอมันออกมา
จากผ้าห่มทันที...แต่ก็ต้องรีบยัดตัวมันกลับเข้าไปในผ้าห่มเหมือนเดิม เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะมันก็อยู่ในสภาพเปลือย
แบบผมในตอนแรกน่ะสิ!!
“ไอ้เบสสส มึงแหกตาตื่นขึ้นมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้! " ผมตะโกนอัดหูมัน
“โอ้ย จะเสียงดังไปทำไมวะ” อีกฝ่ายถามพร้อมขยี้ตา
“มึงดูสภาพตัวเองก่อนแล้วค่อยถาม” หลังผมพูดจบ เบสก็ก้มลงมองร่างตัวเองและหันมาตะโกนกลับใส่ผมทันที
“ไอ้เหี้ย เมื่อคืนนี้มึงทำอะไรกู ฉวยโอกาสตอนกูเมาเหรอวะ!? “
“มึงนั่นแหละทำอะไร! คิดว่ากูชอบเหรอ ที่ตื่นมาแล้วเห็นตัวเองโป๊แถมนอนกับผู้ชายเนี่ย!! “ ผมตะคอกใส่
กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ย!! ตื่นมาก็แบบนี้แล้วเนี่ย กูไม่ได้ทำอะไรเลย มึงนั่นแหละ! ”
“มึงคิดว่ากูจะพิศวาสอยากนอนกับผู้ชายหรอวะ!? “
“...” มันเงียบไป ผมเลยถือโอกาสนี้เปิดประตูแล้วพูดคำขาดใส่หน้ามันว่า
“มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูอีกเลยนะ! ตั้งแต่นี้เรา-ขาด-กัน!!! ” พูดจบผมก็ปิดประตูด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ปัง!!
ผมเดินออกมาจากโรงแรมนั่น แล้วก็มารู้ทีหลังว่ามันเป็นโรงแรมม่านรูด...บางที ผมอาจจะผิดเองก็ได้ที่พยุงมันเข้าไปที่
นั่น โดยที่ไม่ดูให้ดีก่อน แต่ก็ช่างหัวมันสิ! หึ...แค่โดนตะคอกคงไม่เป็นอะไรหรอกน่า ก็ตะคอกใส่ออกจะบ่อย...
หลังจากที่ผมถูก ‘เพื่อนสนิท’ ตะคอกใส่ ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี...ผมทำอะไรผิดไป? ผมจำไม่ได้
จริงๆ ผมแค่เมาแล้วสลบไปเท่านั้นเอง ผมไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะ...ทำไมเขาไม่เชื่อผมล่ะ...
และในระหว่างที่มีคำถามมากมายผุดขึ้นมานั้น หยาดน้ำใสๆ ก็ไหลออกมาจากตาผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว
“ฮึ...ใจเย็นไว้เบส ก็แค่ถูกคนสำคัญที่สุดทิ้ง ไม่เห็นจะต้อง...ร้องไห้” ผมพูดกับตัวเอง ก่อนจะปาดน้ำตาออกด้วย
หลังมือ แต่ผมคงสู้หน้าเอกไม่ติดแล้วล่ะนะ ไม่ว่าผมจะผิดจริงๆ หรือไม่ก็เถอะ...
วันนี้ก็ขอขาดไปละกัน...แต่วันพรุ่งนี้ที่ชมรม...ผมจะทำยังไงดี? ...จิตใจผมกำลังอ่อนแอ...และเจ็บปวด...
ฝั่งโรงเรียน
“พี่เอกขาาาาาาา” รุ่นน้องที่ทั้งหลายต่างมายืนล้อมผม ทำให้ผมไม่สามารถเดินต่อได้ จึงต้องสนใจพวกเขาแม้
อารมณ์ผมจะยังไม่ดีสักเท่าไหร่
“มีอะไรเหรอครับ” ผมฝืนยิ้มให้รุ่นน้องเหล่านั้น
“พี่เบสไปไหนเหรอคะ!? / พี่เบสป่วยรึเปล่าคะ? / เซอร์วิสเอกเบสล่ะคะเอกเบสล่ะ!?”
ฉึก! ฉึก!! ฉึก!!!
แต่ละคำถาม..มันช่างทำร้ายผมเหลือเกิน แต่มันแปลกๆ นะ..ถ้าแค่ไม่มาโรงเรียนก็ไม่น่าจะเป็นห่วงกันขนาดนี้นี่.
..หรือว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น? คงต้องลองถามจากรุ่นน้องพวกนี้ดู
“ผมก็ไม่เห็นเหมือนกันครับ ทุกคนพอรู้รึเปล่าว่ามันไปไหน? “
“อืม...เห็นมาลาหยุดกับครูแป๊ปนึงอ่ะค่ะ แต่สภาพโทรมมากเลย ตาแดงๆ ด้วย เหมือนพึ่งร้องไห้มายังไงยังงั้น”
มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมา จากนั้นรุ่นน้องทุกคนต่างก็ทำหน้าสลด เมื่อได้ยินคำว่าร้องไห้ ผมเองก็เช่นกัน...หรือ
รุ่นน้องพวกนี้อาจจะมโนไปเองก็ได้ แค่ผมตวาดใส่มันไม่น่าจะ...ร้องไห้
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าไอ้เบสมันร้องไห้ ผมจะเป็นคนเช็ดน้ำตาให้มันเอง” ผมยิ้มหวานให้ทุกคน
“กรี๊ดดดด แก ได้ยินพี่เอกพูดมั้ย โอ้ยยย ติ่งจะเป็นลม / กรี๊ดดด เอกเบส! เอกเบส! เอกเบสสสส!!!”
เมื่อทุกคนเริ่มละลายไปกับคำพูดของผมแล้ว ผมเลยรีบหาทางปลีกตัวออกมาจากฝูงชนทันที แล้วมุ่งไปยังห้อง
ชมรม อย่างน้อย...ผมก็ควรปรึกษาเรื่องนี้กับใครสักคน...หรืออาจจะหลายคน
“ออย คิว สุมหัวด่วน! นี่มันเรื่องอีเมอร์เจนซี่มาก” ผมพูดทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ทุกคนหันมามองหน้าผมงงๆ แต่
ก็ยอมมานั่งเป็นกลุ่มตามคำสั่ง
“ทีหลังพี่อย่ากระแดะใช้ศัพท์อังกฤษเลยครับ ขนลุกซู่ซ่า” สวิตช์ปากหมาของคิวเริ่มทำงาน
“แล้วทำไมกูไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องวะ” ลุงโน้ตบ่นพึมพำ ในระหว่างที่ผมกำลังเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนฟัง
พอผมเล่าเรื่องเมื่อคืนและเมื่อเช้านี้จบ ทั้งสองคนก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ แล้วพูดออกมาพร้อมกันว่า
“พี่เลวว่ะ”
“ฮะ!? กูทำอะไรผิดวะ”
“ผมพูดเองพี่ ในฐานะที่เคะหน้าตาดีเหมือนพี่เบส พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เบสเขาทำจริงรึเปล่า แต่พี่ไปต่อว่าพี่เขา
ขนาดนั้น เป็นใครๆ ก็คงช็อค ผมก็ว่าอยู่เห็นพี่เบสเดินมาลาพวกผม ตาแดงก่ำเลยพี่ เหมือนคนพึ่งร้องไห้มาอ่ะ ไม่ก็ปวดขี้
แล้วขี้ไม่ออกไรงี้”
พอมาลองคิดๆ ดู..คิวมันก็พูดถูกจริงๆ นั่นแหละ แต่ทำไงได้ เพราะไม่อยากเสียหน้าเลยพูดไปแบบนั้น ถ้ารู้ว่าจะ
เป็นแบบนี้ คงจะนั่งคุยกับมันดีๆ ก่อน...
“ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้นะ..กูจะคิ..” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ออยก็แทรกขึ้นมาว่า
“เอกก็รู้ อดีตไม่มีวันหวนคืน คิดถึงวันพรุ่งนี้ดีกว่า เดี๋ยวพวกผมจะช่วยซัพพอร์ทเอง”
“ซัพพงซับพอร์ทเชี่ยไรวะออย” ผมถามด้วยความสงสัย มันจะช่วยอะไรผมได้?
“หึหึ...เดี๋ยวก็รู้” ออยยิ้มเจ่าเล่ห์ แล้วหันไปกระซิบกระซาบกับคิว...สองคนนี้มีซัมติ้งกันอีกละ....แล้วนี่ผมจะขอ
โทษไอ้เบสมันวิธีไหนดีล่ะเนี่ย จะยอมรับคำขอโทษของผมรึเปล่าก็ไม่รู้..อาจจะโกรธมากก็ได้..ไม่น่าเลยเรา
“พี่ลองฟังนี่ดิ” คิวเสียบหูฟังเข้าหูผม ...เพลงนี้มัน...
“ทำร้ายกันชิบหาย พวกนี้” ผมดึงหูฟังออกแล้วคิดหาวิธีง้อเบสต่อไปแต่พวกนั้นก็ยังหาทางกวนผมได้ โดยการถอดหู
ฟังออกแล้วเปิดลำโพงดังๆ แทน
...ไม่มีเธอแล้ว...อ้อนวอนแค่ไหน ไม่ว่าจะทำอย่างไร เธอก็คงไม่มีวันย้อนคืน
จบลงตรงนี้ สิ้นแรงขัดขืน...อยากจะย้อนเวลาจากตรงนี้ กลับไปทำให้ดีให้รักของเราฟื้นคืน...
ความคิดเห็น