คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1:คำขอร้องจากจักรพรรดินีผู้แบกกางเขน
บทที่1
คำขอร้องจากจักรพรรดินีผู้แบกกางเขน
เคยได้ยินเรื่องของสตรีดำไหม?
หญิงสาวผู้คงอยู่ในโลกใบนี้มาเนิ่นนานกว่าสองร้อยปี...
ใช่ นามของนางคือสิ่งต้องห้าม
ชื่อที่ไม่ว่าใครต่างก็หวาดผวา ด้วยเรื่องเล่าของหญิงสาวงามสะคราญในชุดดำและกระดิ่งปิศาจ
กระดิ่งใบน้อยสีเงิน ที่ลือกันว่าหากได้สดับ ก็จะถูกช่วงชิงวิญญาณไป
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง แม้ว่าจะต้องจ่ายสิ่งแลกเปลี่ยนที่แพงแสนแพงไป ใช่... เพราะนางเป็นสตรีเจ้าของพลังมนตราอันหาได้ยากยิ่ง พลังอันมหาศาลเสียจนสามารถคืนได้แม้แต่ชีพของคนตาย.....
ดังนั้น นามแท้จริงของนางที่ถูกลืมเลือนจึงถูกผนึกไว้ในความทรงจำของผู้คนไป... ตลอดกาล
เหลือไว้เพียงหนึ่งวลีใช้เรียกขานผู้บัลดาลความปรารถนาซึ่งมาพร้อมความน่าพรั่นพรึง
‘คีย์’
“จะกำจัดควีน ต้องใช้คิง”เสียงนุ่มนวลชวนฟังติดจะเย็นชาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบที่มีเพียงเสียงน้ำตกที่กระทบพื้นหินดัง ซ่า.... ซ่า.....
“แล้วเคยได้ยินไหมว่ากษัตริย์ผู้ลุ่มหลงสตรีก็มีจุดจบอันไม่น่าโสภานัก”ครานี้เป็นเสียงหวานที่ดังก้อง มือเรียวขาวขยับควีนหลบ ก่อนยกน้ำชาหอมกรุ่นขึ้นจิบ
เจ้าของคิงดำมองดูเสี้ยวหน้าของผู้พูดด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะเลิกสนใจควีน และหันมารุกกษัตริย์ขาวแทน
“ยุคนี้เป็นยุคของอัศวิน.... รุก”
คำเอ่ยที่ทำให้หญิงสาวโคลงหัวน้อยๆ จนเส้นผมสีทองสว่างนั้นปลิวไสวยามที่นิ้วเรียวคีบนักบวชของตนไปเก็บม้าผู้หารกล้ามาเผชิญหน้ากษัตริย์
“หรืออาจเป็นยุคทองของบิชอป”
ดวงตาสีเงินคู่งามมองดูบุรุษเจ้าของดวงหน้าเฉกรูปปั้นของเซนต์มิคาเอลบนหลังคาโบสถ์ แต่กลับเย็นชายิ่งกว่าเทพแห่งเหมันต์ด้วยสายตาเย็นเยียบไม่ต่างกัน
“บิชอปก็บิชอป รุก”
คำประกาศศึกที่เรียกให้กลีบปากสวยขยับยิ้มจางเพราะเห็นตำแหน่งจะรุกฆาตคิงของอีกฝ่าย นางจึงขยับมือไปบนกระดานสี่เหลี่ยมอย่างแช่มช้า ก่อนจะดันเรือโครม
“ระวังโดนลอบสังหารนะ... รุกฆาต”
คิงสีดำที่ถูกเรือชนเข้านั้นทอดร่างลงสู่พื้นหินเย็น เกิดเสียงกังวานขึ้นในจังหวะเดียวกับที่บุรุษหนุ่มหัวเราะเบาๆด้วยกระแสเสียงอันไพเราะแต่เย็นชาจับใจ
“เรื่องกระดานสี่เหลี่ยมนี่ข้าอาจสู้เจ้าไม่ได้จริง ครัสตาเซีย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแก้มือด้วยหมากล้อมสักตา แต่เกรงว่าตอนนี้ภายนอกจะมีอาคันตุกะมาเยือน”ประโยคที่ทำให้ร่างระหงชะงัก ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา
“นั่นสิ... เป็นผู้ ‘แบกกางเขน’ ที่สูงศักดิ์มากเสียด้วย”เอ่ยพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้หินอ่อนสีชมพูเข้าชุดกับศาลาที่ตนนั่งอยู่ มือซ้ายที่มีริบบิ้นสีดำสนิทร้อยกระดิ่งสีเงินอยู่ยกขึ้นช้าๆ
กริ๊ง... กริ๊ง...
แว่วเสียงใส ละอองแสงสีพิสุทธิ์โรยตัวลงจากตัววัตถุอันจ้อย ก่อนที่ร่างสูงระหงนั้นจะจางหายไป...
ทิ้งให้ชายหนุ่มขยับยิ้มจาง เสริมให้ดวงหน้าหล่อเหลานั้นแลดูมีเสน่ห์
“หมากรุก...หมากรุก...”พึมพำแผ่วเบายามทอดสายตามองกระดานหมากสีดำขลิบทองด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่มือขาวเรียวไม่แพ้อิสตรีจะหยิบคิงสีดำของตนขึ้นมา
“เกมที่เล่นคนเดียวมันจะสนุกตรงไหน...”
ถ้อยวลีแฝงปริศนา หมากในมือถูกโยนวูบ ลอยคว้างในอากาศก่อนจะตกกระทบลงพื้นอย่างมิมีความสนใจของบุรุษรูปงามแม้แต่น้อย....
****************
ดวงตาคู่งามประหลาดมองร่างเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่งเยือกเย็น
ร่างบางในอาภรณ์สีทองบานพลิ้วปักเลื่อมเยี่ยงสตรีสูงศักดิ์ รับกับเรือนผมหยักศกสีเขียวมรกตคลุมทับผ้าแพรบางเบาสีเดียวกับชุด และนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนบนดวงหน้างามแฝงความอ่อนเยาว์
สมเด็จพระจักพรรดินีแห่งลีโอ ทวีปแห่งเศษฐกิจอันมั่งคั่งทางตอนใต้
มาทำไมที่นี่... ที่เอเรเทเรียแห่งนี้....
ความสงสัยพลันบังเกิด ก่อนที่จะถอนหายใจบางเบา กลีบปากงามขยับเอ่ยถ้อยวลี
“ยินดีต้อนรับ.... จักพรรดินีแห่งลีโอ มีเรื่องอะไรถึงได้มาเยือนไกลถึงทวีปเอเรเทเรียแห่งนี้”ถามเสียงเย็นแม้อีกฝ่ายจะสูงศักดิ์กว่าตน ก่อนจะทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าทระนง
เพราะครัสตาเซีย เวลส์ เทียเรเทร่า เจ้าฟ้าหญิงแห่งเอเรเทเรีย ทวีปที่กว้างใหญ่และมั่งคั่งที่สุดไม่จำเป็นต้องนอบน้อมต่อทวีปที่เคยเป็นประเทศราช....
“เจ้าคือสตรีดำผู้สามารถบันดาลให้สมความปรารถนาได้ใช่หรือไม่”เสียงหวานถามพลางลอบมองดวงหน้างามแลดูอ่อนเยาว์ของคนเบื้องหน้าอย่างหวั่นเกรง
ไม่ใช่เพราะใบหน้านั้นแสนน่าเกลียดน่ากลัว... แต่มันงามเกินไป เป็นความงามล้ำที่มีมากเกินจนน่าหวาดหวั่น โดยเฉพาะกับนัยน์ตาประหลาดนั้น
...ดวงตา.... ที่ข้างซ้ายเป็นฟ้าประกายรุ้ง แต่ข้างขวากลับมีสีเงินยวง
แต่คำถามของนางกลับไม่ได้รับคำตอบ ดวงพักตร์งามจึงเชิดขึ้นอย่างทระนงแม้ในใจแจะหวาดหวั่น
“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย....เกี่ยวกับทวีปแห่งนี้”
คำเอ่ยที่ทำให้ดวงเนตรสองสีทองประกายวูบหนึ่ง ก่อนที่นางจะกระตุกยิ้มบางที่มุมปาก ทำให้ดวงหน้านั้นงดงามเสียยิ่งกว่าเทวีแห่งเหมันต์ฤดู
“ทุกความปรารถนาย่อมต้องการสิ่งตอบแทน...ราชินีผู้แบกกางเขน”
เสียงหวานน่าฟังทว่าเย็นชาที่เอ่ยขึ้น ทำให้ความหวาดกลัวเริ่มเกาะกุมดวงหทัยของจักพรรดินีสาว แต่ก็ยังคงฝืนตีหน้านิ่งเฉยเพื่อสิ่งที่ตนต้องการ
“ย่อมได้.... เพียงเจ้าสามารถโค่นกลุ่มกบฏที่รกครองทวีปเอเรเทเรียอยู่ในปัจจุบันลงได้ ยามนี้ลีโอกำลังอ่อนแอ ทวีปเราขาดบุรุษเป็นเสาหลัก หากไม่อยากถูกเอเรเทเรียกลืนกินก็จำต้องล้มล้างจักรพรรดิมืดองค์นี้ซะ”
กริ๊ง....
แว่วเสียงกระดิ่ง ทำให้ใบหน้าแฉล้มของผู้สูงศักดิ์ไร้สีเลือด เหงื่อเย็นๆนั้นไหลโทรมกาย
ทั้งๆที่มันเป็นเพียงแค่เสียงของกระดิ่ง....
แต่ทำไม... ถึงน่ากลัวเพียงนี้
คีย์มองร่างที่สั่นระริกเบื้องหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืน มือซ้ายที่ผูกกระดิ่งสีเงินยวงอันน้อยยื่นไปเบื้องหน้า
กริ๊ง...กริ๊ง....กริ๊ง...
“ข้ามีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องการจากเจ้า”เสียงของอีกฝ่ายที่ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากห้วงภวังค์ ก่อนที่นางจะสูดลมหายใจลึก
นางต้องทำเพื่อแผ่นดิน....
การปรกครอง... ต้องสละบางสิ่งเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า....
หากไม่รู้จักสละ ก็จะเป็นนักปรกครองที่ดีไม่ได้....
คิดอย่างมาดมั่น ก่อนจะกล่าวรับแม้อัสสุชลจะเริ่มเอ่อคลอ
“ตกลง”
กริ๊ง... กริ๊ง....กริ๊ง....กริ๊ง
เสียงของกระดิ่งยังคงดังขึ้นไปตามจังหวะที่มันแกว่งไกวในอากาศ
“หึ... เจ้ามีแววตาที่ดีนี่ ส่วนของตอบแทนข้าจะขอรับตอนทำงานเสร็จ”พูดพลางสบลึกลงไปในดวงเนตรงามเปี่ยมความมุ่งมั่นแม้จะแฝงความหวาดกลัว กลีบปากอิ่มสวยขยับยิ้มเย็นเยียบ
“ข้าจะทำงานนี้ให้เสร็จก่อนหิมะตก อย่าเป็นห่วงไปเลย องค์จักรพรรดินี.... เพราะข้าไม่เคยทำงานพลาด”
กริ๊ง...
กระดิ่งใบน้อยขยับไหวยามแขนเรียวทิ้งลงข้างกาย ทำให้วงหน้าหวานซีดเผือดเริ่มกลับมามีสีเลือด ราชินีสาวถอนหายใจเบา ก่อนเอ่ยถามด้วยสุรเสียงแฝงความหวาดเกรง
“งั้น... ข้าขอส่งคนไปกับเจ้าด้วยได้หรือไม่”ถ้อยดำรัสที่ทำให้คิ้วเรียวของคีย์ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แม้ว่าแววตาจะยังคงว่างเปล่า
....รู้.....
ว่าคนตรงหน้าเพียงแค่จะส่งคนไปจับตามองนาง
ไร้สาระสิ้นดี เอามนุษย์ไปด้วยก็เหมือนเป็นตัวถ่วง...
ใช่... ทั้งๆที่รู้ว่ามันไร้สาระ ทว่า....
“ตกลง....”
....ข้าไม่ได้ทำเพื่อเจ้าหรอกนะ ผู้แบกกางเขน และข้าไม่ได้ทำเพื่อทวีปลีโอ แต่ทั้งหมดนี้ข้าทำเพื่อตัวข้าเอง....
เพื่อตัวตนของข้า ในฐานะ ครัสตาเซีย เวลส์ เทียเรเทร่า
ด้วยสัจจะที่ข้าได้ลั่นเอาไว้
ใช่... ข้าจะต้องล้างแค้น...
ข้าจะต้องสังหารเจ้า! คนที่ข้าเกลียดชังกว่าใครๆ!
-----Chapter 1 – fin ------
ความคิดเห็น