คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Fic] !!!...แผนการพิชิตใจนางฟ้า...!!! Part 2
[Fic] !!!...แผนการพิชิตใจนางฟ้า...!!! Part 2
เช้าวันนี้อากาศสดใสจึงส่งผลให้คนพึ่งตื่นลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจอยู่บนเตียง สอง สามครั้ง ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ และหลังจากที่ร่างบางอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว....ก็เตรียมพร้อมกับการไปเรียนของวันนี้ทันที
~มหาวิทยาลัย~
แจจุงเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยเหมือนทุกวัน และทุก ๆ วัน เขามักจะขึ้นรถมาหรือไม่ก็ให้คนขับรถที่บ้านมาส่งถ้าเห็นว่ามันใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว....แจจุงไม่เคยขับรถคันหรูที่จอดเรียงรายไว้ที่บ้านมาเรียนซักครั้ง...เขาทำตัวให้เหมือนคนธรรมดาที่สุด...แต่ก็อย่างว่า...คุณหนูยังไง...ก็ยังเป็นคุณหนูอยู่ดี...ไม่มีทางจะไปเป็นยาจกหรือเด็กข้างถนนได้....(งงม่ะนั่น!!!)
ร่างบางเดินมายังโต๊ะหินอ่อนตัวเดียวกับที่ยุนโฮและยูชอนเคยมานั่งก่อนที่ร่างบางจะถูกขโมยหอมแก้มนั่นแหละ
แจจุงยังคงไม่เข้าห้องเรียนเพราะเนื่องจากตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมง...เป็นเพราะเขาตื่นนอนเร็วจึงมาไวผิดปกติ
ร่างบางค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนวัสถุแข็งแรง...ที่สร้างมาเพื่อรองรับน้ำหนักเป็นอย่างดี...
แจจุงนั่งรอจุนซูไปพร้อมกับอ่านหนังสือไป...และหลังจากนั้นสิบนาที...แจจุงก็ฟุบลงกับหนังสือแล้วงีบหลับไปพักนึงจึงได้ยินเสียงแหลม ๆ ของเพื่อนรัก
“แจจุง....แจจุง” จุนซูเรียกเพื่อนที่มานั่งหลับตั้งแต่เช้า
“อื้ม...อ้าวจุนซู...มิกกี้” ร่างบางเอามือขยี้ตาแล้วก็เอ่ยทักเพื่อนรักกับไอ้ญาติมาดนิ่งของเขา
“มานอนอะไรตรงนี้เนี่ยแจจุง...” เสียงทุ้มต่ำของยูชอนค่อย ๆ เอ่ยกับแจจุง
“อ๊ะ....นั่น...แฟนคลับให้มาอีกแล้วหรอ” ยังไม่ทันได้ฟังคำตอบจากปากของแจจุง จุนซูก็ชี้นิ้วไปทางดอกไม้ที่ถูกเสียบไว้กับหนังสือเล่มบาง
แจจุงหันมามองสิ่งที่จุนซูสงสัย...และเขาเองก็สงสัยไม่แพ้กัน...
“สวัสดีครับนางฟ้า...มานอนทำไมตรงนี้ครับ...เมื่อคืนนอนไม่หลับหรอครับ...แล้วอย่าลืมทานแซนวิสนะครับเผื่อหิว”.........
แจจุงอ่านไปยิ้มไปจนคนสองคนอย่างยูชอนและจุนซูร้องเรียก
“แจจุง” ทั้งสองผลัดกันเรียกชื่อคนที่กำลังเหม่อลอย
“อ๊ะ...จะเรียกทำไมเนี่ยกำลังอ่านอยู่ว่าใครเอามาให้
“โหยยิ้มหวานเชียวนะ...แล้วใครเอามาให้ล่ะ” จุนซูแซวเพื่อนรักพร้อมกับถามเปรย ๆ ว่าเจ้าของดอกไม้ดอกเนี้ยใครเป็นคนเอามาให้
“เขาไม่ได้บอกไว้อ่ะ...ฉันก็สงสัยเหมือนกันนะแต่ช่างเหอะคงเป็นแฟนคลับให้มาแหละ”
“จุนซู...แจจุง...ผมต้องไปเรียนแล้วน๊ะ...งั้นขอตัวก่อนนะ” ยูชอนขอตัวกับทั้งคู่เมื่อเห็นว่าเวลาของการเรียนรู้กำลังจะมาถึง
“อืม” แจจุงตอบพร้อมพยักหน้าไปให้
“ยูชอน...อย่าลืมนะเลิกเรียนแล้วไปดูหนังกัน” จุนซูกำชับกับคนที่กำลังจะเดินไป ยูชอนพยักหน้าว่ารับรู้แล้วก็รีบเดินไปยังตึกเรียนทันที
“แหม...อะไรกัน...ยังไม่ทันไรเลยไปดูหนังด้วยกันซะและ”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย...เพื่อนกันไปดูหนังด้วยกันไม่ได้หรอ”
“เพื่อนงั้นหรอ...อ้าวอย่างนี้นายก็ไม่ได้ชอบมิกกี้มันล่ะซิ” แจจุงทำหน้าตาล้อ ๆ กับเพื่อนที่ตอนนี้หน้าแดงแป๊ด
“จะบ้าหรอแจ...ก็ชอบแหละ...แต่ตอนนี้แค่ดูๆกันไปก่อน”
“นี่จุนซู...เท่าที่เรารู้จักกับมิกมานะ...เราว่ามิกเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยแหละ...ถ้าไม่ติดว่าเราเป็นญาติกับเจ้านั่นนะเราจีบไปแล้ว”
“ขอบใจนะแจจุงแต่เราอยากดู ๆ กันไปก่อนหนะ...เผื่อนิสัยบางอย่างจะเข้ากันไม่ได้”
“อืม...แต่เรารับประกันเลยว่าดีเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นเลยและ” สีหน้ามั่นใจของแจจุงเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนรักทันที
“โห...ถ้าได้รับคำยืนยันอย่างนี้ก็คงไม่ต้องดูนาน ฮ่าๆๆ” ทันทีที่พูดจบจุนซูก็เดินนำแจจุงเข้าไปยังห้องที่เรียนทันที
ร่างบางรีบเดินตามเพื่อนรักไปทันที...แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบหนังสือ และก็ดอกลิลลี่สีขาวกับแซนวิสที่มีผู้ไม่ประสงออกนามเอามาให้ไปด้วย
หลังจากที่เลิกเรียนแล้วแจจุงก็เดินมานั่งรอยูชอนเป็นเพื่อนกับจุนซู...ตอนแรกแจจุงก็ยืนยันคำเดียวว่าจะไม่มา...เพราะไม่อยากเจอหน้าของใครบางคน...แต่ก็ต้องจำนนต่อสีหน้าและสายตาอันบ่องแบ้วของเพื่อน...
“ยูชอน....ทางนี้ฮะ” เมื่อเห็นร่างของคนที่มารอจุนซู...ก็เรียกทันที
คนที่แจจุงคิดไว้ตลอดเวลาว่าไม่อยากเจอ...และก็คงไม่มาหรอก...แต่บัดนี้...สิ่งนั้นไม่เป็นอย่างที่ร่างบางคิดเลยในเมื่อใบหน้ากวน ๆ ของคน คนนั้นกำลังเดินมาข้าง ๆ ญาติของเขานั่นเอง
“จุนซู...งั้นฉันไปก่อนนะรีบมีธุระหน่ะ” ยังไม่ทันที่จุนซูจะหันมาตอบ แจจุงก็หันหลังกำลังจะเดินไปทันที
“อ้าว....คนสวยจะรีบไปไหนล่ะครับ” เสียงกวน ๆ ที่แจจุงไม่ได้อยากได้ยินในที่สุดก็ดังร้องเรียกร่างบางขึ้นมา
แจจุงพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ แล้วก็รีบเดินไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด...แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยมือหนา ๆ ของยุนโฮ ร่างบางพยายามแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออก แต่ดูเหมือนยิ่งแกะจะยิ่งแน่น
“ปล่อย” แจจุงสั่งพร้อมกับมองตาเขียว...แต่คนหน้าด้านอย่างยุนโฮ...มีหรือจะสลด
“ไม่”
“ฉันบอกให้ปล๊อยยยยยยยยย”
“ถ้าจะให้ปล่อย...ก็ต้อง” ยุนโฮพองลมที่แก้มข้างนึงแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หน้าของแจจุง
“บ้า...ฉันไม่ทำหรอก”
“ไม่ทำก็ไม่ต้องกลับบ้าน...ดีไม่ดีน้าผมจะอุ้มคุณไปเก็บไว้ที่บ้านด้วยเลย”
“ไอ้บ้า...ได้...ทำก็ทำ” ร่างบางรับปากร่างสูงที่ดูเหมือนจะยิ่งจับแขนตัวเองจนจะกอดเขาอยู่แล้วด้วยซ้ำ
“งั้นก็หลับตาก่อนซิ” ยุนโฮทำตามที่แจจุงบอกหวังว่าเขาจะได้รับมันจริง ๆ
“โอ๊ย....” แจจุงเตะเข้าอย่างจังกับน้องชายสุดที่รักของยุนโฮอีกครั้ง...และก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้เมื่อร่างสูงเอามือไปกุมไว้ยังกล่องดวงใจ จึงทำให้แจจุงหลุดออกมาจากอุ้งมือหมีทันที
“ฮ่าๆๆๆ....ไอ้หมีบ้า...หื่นไม่เลือกที่และไม่เลือกคนอีกด้วย” แจจุงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งสะใจที่ได้เอาคืน...
ร่างสูงมองไปยังร่างที่กำลังเดินไปหัวเราะไป หันมาแลบลิ้นให้บ้างล่ะ
“ฝากไว้ก่อนนะคนสวย....ไม่มีครั้งที่สามแน่” ยุนโฮพูดด้วยใบหน้าเจือสี เพราะจุกกับสิ่งที่โดนกระทำ ตายสิยังใช้การได้อยู่มั๊ยเนี่ย - -“
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โรงภาพยนต์ SM Cinema
“สนุกมั๊ยครับจุนซู”
“สนุกมากเลยอ่ะยูชอนเราดูมันมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วแหละ Pirates of the Caribbeanเนี่ย”
“เหมือนเราเลย...เรานะเคยชวนไอ้ยุนมาดูนะ”
“แต่ก็ไม่เคยมาซักที” พูดไปก็นึกน้อยใจไป
“ก็เหมือนเรานั่นแหละชวนแจจุงก็ไม่เคยมากับเราเลยบอกว่าไม่ชอบหนังแนวนี้”
“ฮ่าๆๆ...ส่วนไอ้ยุนก็บอกเหมือนแจจุง...แถมมันยังชอบหนังผีเอามาก ๆ ด้วยนะ”
“โหย...เหมือนแจจุงเลยแหละยูชอน...รายนั้นนะโครตชอบเลยอ่ะ” จุนซูทำหน้าขนลุกมาทันที เมื่อนึกถึงตอนที่มาดูหนังผีกับแจจุง
“ชอบอะไร ๆ ก็เหมือนกันนะ...แต่ทำไมกัดกันจังเลย” ยูชอนพร้อมไปหัวเราะไปจนทำให้จุนซูอดขำตามไม่ได้ ก็มันจริงนี่หน่า...กัดกันทุกวัน
“งั้นกลับบ้านกันนะ” ยูชอนพูดจบก็เดินจูงมือบางของจุนซูไปทันทีจุนซูได้แต่ก้มหน้าเดินตามงุดๆ
“นี่จุนซู...หนังเรื่องนี้นะเราประทับใจตอนที่นางเอกต้องรอพระเอกนานถึงสิบปี...กว่าจะได้เจอกันครั้งนึง...แต่ก็ได้อยู่ด้วยกันแค่วันเดียวเองอ่ะ..เศร้าแทน”
“เราว่านะถ้าเป็นเรา...เราจะฆ่าตัวตายไปเลย...สิบปีแนะรอจนเหี่ยวพอดี” หน้าของยูชอนตอนนี้ดูผิดหวังนิด ๆ ก่อนที่จะได้ยินอะไรบางอย่าง
“แต่ถ้าเป็นยูชอนนะ...ต่อให้เป็นร้อยปีเราก็จะรอ” ริมฝีปากหนาค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา ตอนนี้ร่างเล็กก็ได้แต่เขินจนวิ่งนำเขาไปแล้วเรียบร้อย (ร้อยปีจะอยู่ถึงรึเปล่าก็ไม่รู้นะนู๋เซีย/..คนแต่ง)
“รอด้วยซิจุนซู...” ร่างโปร่งวิ่งตามคนตัวเล็กไปพร้อมกับระบายยิ้มอย่างหุบไม่ลง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แจจุงกับมาถึงบ้านก็ตรงเข้ามาหาพ่อ และแม่ พร้อมกับพี่ชายสุดหล่ออย่างซีวอน พร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่ให้กับทุกคน....และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว...แจจุงจึงขอตัวขึ้นไปอาบน้ำทันที
“ก๊อก...ก๊อก” เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก และเสียงคุณแม่บ้านที่ร่างบางคุ้นเคยก็ถูกกล่าวมาขออนุญาตเจ้าของห้อง
“เชิญฮะ”
“คุณหนูค่ะ...มีคนเอามาส่งคะ”
“เอ๊ะ....อีกแล้วหรอเนี่ย” แจจุงขมวดคิ้วทันที...นี่เป็นครั้งที่สองของวันและแถมยังส่งมาติดกันแล้วสองวันด้วยซ้ำ ดอกไม้ชนิดเดิม ที่ร่างบางโปรดปานนักโปรดปานหนา
“ป้าฮะ...วันนี้ใครมาส่งหรอฮะ”
“เป็นผู้ชายสูง ๆ หน่ะค่ะ...ใส่เสื้อสูทสีดำดูภูมิฐานเหมือนจะเป็นพวกบอดี้การ์ดหรืออะไรประมาณนั้นเลยหละค่ะ
“วันหลังถ้ามีคนมาส่ง...ป้าช่วยถามเขาด้วยนะครับว่าเขาชื่ออะไร” แจจุงกำชับกับหญิงตรงหน้า
“ป้าถามแล้วนะค่ะ...แต่เขากับบอกว่าเอามาให้คุณหนูแจจุง...แล้วก็ไม่ยอมบอกอีกเลยละค่ะ” ป้าซอนอาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“หรอฮะ...ไม่เป็นไรฮะ...ขอบคุณป้ามากนะฮะ” แจจุงรับช่อดอกไม้มาก่อนนะเอ่ยขอบคุณ
“ค่ะ...งั้นป้าไม่กวนแล้วนะคะ” ทันทีที่พูดจบซอนอาก็เดินออกจากห้องนอนของร่างบางทันที
แจจุงหยิบการ์ดขึ้นมาดูข้อความที่ถูกเจ้าดอกไม้ของเขียนไว้ทุกครั้งที่ได้รับ
“กินข้าวหรือยังครับถ้ายังก็กินด้วยนะครับเดี๋ยวปวดท้อง...แล้ววันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ..รีบๆนอนน๊า..ฝันดีนะครับ”
แจจุงอ่านไปยิ้มไป...ทำไมเรารู้สึกแปลก ๆ น้า...ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครให้...
แต่ข้อความที่อยู่บนการ์ดมันสร้างความอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด....
“คุณลิลลี่ผมขอเรียกคุณอย่างนี้ล่ะกันนะฮะ...แต่ผมอยากรู้มากเลยว่าคุณเป็นใคร” แจจุงนำดอกไม้ไปวางไว้บนโต๊ะ พร้อมกับดอกไม้ดอกแรกของวันนี้ก็เช่นกัน
แจจุงทำกิจวัตรของตัวเองจนเสร็จและหลังจากนั้นก็เข้านอนตามปกติ....................................
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นดูเหมือนว่า...จะมีคนส่งดอกไม้มาให้แจจุงทุกวัน...บางวันก็มาแค่ช่วงเย็นครั้งเดียว...แต่บางวันก็มาตอนช่วงที่แจจุงไปมหาวิทยาลัยแล้วเผลอหรือลุกไปไหนซักที่...แล้วก็มีดอกลิลลี่สีขาวดอกนึงมาวางไว้ตลอด...
และนั่นมันยิ่งทำให้แจจุงเพิ่มความสงสัย...อยากจะรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนเอามาให้....บางวันร่างบางถึงกับมารออยู่หน้าบ้าน...รอนานจนแม่ต้องมาเรียกให้เข้าบ้านแต่พอแจจุงเข้าบ้านไปได้ไม่ถึงห้านาที...สิ่งที่เขารอคอยก็ถูกส่งมาให้ทันที...โดยที่เขาไม่เคยได้รู้เลยว่าใครกันเป็นคนให้เขาทุกวัน....เขาทำอย่างนี้มาเป็นระยะเวลาเดือนกว่า ๆแล้ว.....เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่เขาสงสัยที่สุด....
แต่มันก็ไม่ได้สร้างอาการวุ่นวายใจที่ต้องตามหาคน ๆ นั้นแต่อย่างใด...ในเมื่อยังมีหมีตัวควาย ๆ คอยกวนเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน....แต่ถึงจะทำให้ร่างบางรำคาญแค่ไหน...แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อเลยซักนิด...ที่มีคนอย่างยุนโฮคอยกวนใจเขาได้ตลอดเวลา....และนั่นมันก็ทำให้เขาสนิทกันมากขึ้นซะด้วยซ้ำ...
“แจจุงครับ...ไปกินข้าวกับผมซักมื้อได้มั๊ยครับ” นั่นไง...เสียงหมี ๆ ตัวควาย ๆ ที่แจจุงเจอทีไรต้องปวดหัวทุกทีก็ดังขึ้นมา
“อะไรไอ้หมี...วันนี้มาอารมณ์ไหนเนี่ย” ร่างบางกึ่งพูดกึ่งตวาดใส่คนตรงหน้า...
“โหย....ก็มาในอารมณ์คิดถึงแจจุงไง...เนี่ยหิวจะแย่แล้ว...อยากไปกินกับแจจุงอ่ะ” ยุนโฮใส่คำพูดหวาน ๆ เรียกอาการคลื่นไส้ได้เป็นอย่างดี
“แล้วทำไมไม่ไปกินกับมิกกี้มันล่ะ”
“แล้วทำไมแจจุงคนสวยไม่ไปกินข้าวกับจุนซูล่ะครับ...มานั่งอยู่คนเดียวทำไม” เพียงแค่แจจุงถามมาเท่านั้น ยุนโฮก็สวนกลับทันที
แจจุงทำหน้าหงอย ๆ ทันทีก็ตั้งแต่จุนซคบกับยูชอน แจจุงแทบจะไม่ได้ไปไหนมาไหนกับจุนซูเลย....เรื่องของเรื่องเขาเองไม่อยากไปเป็นก้างของสองคนนั้น...เลยยอมไปไหนมาไหนคนเดียวดีกว่า
“เห็นมั๊ยล่ะ...แจจุงก็รู้ดีว่าทำไมผมถึงไม่มีเพื่อนทานข้าวแล้วแจจุงก็เหมือนกัน” เออ...อันที่จริงยุนโฮพูดถูกทุกคำเลยล่ะ
“ฉันไปกินคนเดียวได้....เรื่องอะไรฉันต้องไปกับนายด้วย....ไม่มีทาง” แจจุงเบ้อหน้าทันที
“ไปเถอะนะ...นะ” ยุนโฮทำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็ก ๆ ช่างขัดกับสายตาจริง ๆ สงสัยไปทำกับสาว ๆ คนอื่นบ่อยแน่เลย เชอะ....
“ไม่..........ชั้นไม่ไปกินกับนายหรอกไอ้หมีหื่น”
“เอ้า...คำก็หื่น...สองคำก็หื่น....เดี๋ยวก็หื่นให้ดูซะหรอก” ยุนโฮพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไป...จนแจจุงต้องผละหนีก่อนที่มันจะเป็นจริง
“ไอ้หมีบ้าง.....โรคจิต......หื่น”
“อ๊ายยยยยยยยย...........ไปก็ได้” ในที่สุดแจจุงก็ต้องยอมจำนนต่ออาการหื่น ๆ ของยุนโฮ
“เอ้า...รีบยอมทำไมเล่า...นึกว่าจะได้....” เสียงของร่างบางขัดขึ้นมาทันทีก่อนที่ยุนโฮจะพูดอะไรอุบาท ๆ ออกมา (ใจจริงก็อยากยอมชิมิล่ะแจจุง/..คนแต่ง)
“จะไปกินหรือไม่ไปฮะ...ไอ้หมีควาย”
“ไปก็ไปครับ...งั้นขอสงบศึกก่อนวันนึงนะครับคนสวย” ร่างสูงหันมาพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้แจจุง
“เออ...วันเดียวแค่นั้นนะ” เมื่อแจจุงตอบ ยุนโฮก็จัดการเอามือหนา ของตัวเอามาจับมือบางเอาไว้ทันที
แจจุงตะลึงกับการกระทำของร่างสูง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร....แต่มันกำลังให้แจจุงรู้สึกแปลก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคน ๆ นี้จะมอบความอบอุ่นให้เขาได้
แจจุงจมกับความคิดของตนเองซักครู่ก่อนจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังเรียกเขา
“แจจุงครับ...แจจุง”
“อะ...อะไรเล่าเรียกอยู่ได้น่ารำคาญ” หน้าของร่างบางหงิกมาทันที ก็คนกำลังคิดเพลิน ๆ นี่หน่า
“จะไปกินที่ไหนดีล่ะครับ...มัวแต่เหม่ออยู่ได้...เอ...หรือว่าแอบชอบผมหรือเปล่า” ยุนโฮพูดไปทำท่าคิดไป
“ไอ้บ้า....ใครจะไปชอบหมีอย่างนายห๊ะ....จะไปกินไหนก็ไปซิ” ร่างบางด่าก่อน พร้อมกับค่อยๆก้มหน้าลงไปเพราะเขารู้สึกได้ถึงอาการแปลก ๆที่เกิดขึ้นบนหน้าเขา
“เป็นอะไรอ่ะ...เขินหรอ” ยุนโฮเอ่ยล้อ ๆ กับร่างบาง เรียกกำปั้นชุดใหญ่ได้ทันที
ใครใช้ให้พูดตรงเกินไปล่ะ
“โอ๊ย...ไม่ล้อแล้ว...ขึ้นรถครับ” ร่างสูงเปิดประตูรถให้แก่แจจุง ส่วนตัวเองก็เดินไปด้านคนขับ...แล้วรถสปอร์ตคันหรูก็ค่อย ๆเคลื่อนออกไป
แล้วทั้งสองก็พากันไปกินอาหารญี่ปุ่น...เมื่ออิ่มหนำสำราญก็จูงมือกันราวกับคู่รักไปเดินซื้อของตามความต้องการของร่างบาง....ที่งดการช็อปปิ๊งไปนานเนื่องจากไม่มีเพื่อนรักไปด้วย
เมื่อเลือกซื้อของเสร็จแล้ว...ทั้งสองที่กำลังจะกลับบ้านเพราะนี่ก็เป็นเวลาตั้งทุ่มกว่าแล้ว...แต่ยุนโฮก็ถูกมือบางยื้อไว้แล้วชี้ไปทางร้านไอศกรีมน่ากินนั่นเอง
“ยุนโฮ...ไปกินไอศกรีมก่อนนะ...เค้าอยากกินอ่ะ” นี่เป็นครั้งแรกที่แจจุงเรียกชื่อเขาและแทนตัวเองด้วย ‘เค้า’
“อืม...ก็ได้ ๆ...” จากตอนแรกที่ยุนโฮเป็นคนดึงแจจุงไปโน้นมานี่...แต่ตอนนี้เขาถูกร่างบางดึงไปโน้นทีมานี่ทีแทน ตั้งแต่เข้ามาในห้างสรรพสินค้า
เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแล้วแจจุงก็รีบจัดการสั่งรายการที่ตนเองอยากกินทันที...ไม่นานไอศกรีมลูกกลม ๆ น่าตาน่ารับประทานสองที่...ก็ถูกพนักงานสาวของร้านเสริฟมาให้แก่ลูกค้า
แจจุงเมื่อเห็นว่าไอศกรีมถูกวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้วก็จัดการตักเข้าปากทันที
ยุนโฮได้แต่มองอาการของคนตรงหน้า...ไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด...นี่ซินะที่เขาเรียกว่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้น
“มองอะไร....แล้วนี่ไม่กินหรือไง” ร่างบางละจากของกิน มาถามคนตรงหน้าที่เอาแต่มองเขา
“กินซิ...เนี่ย...ดูซิกินเหมือนเด็กเลย...เห็นมั๊ยเปื้อนหมดแล้ว” ยุนโฮหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดบริเวณมุมปากของแจจุง ซึ่งดูเหมือนว่าแจจุงจะทำอะไรไม่ถูก จึงแย่งกระดาษจากมือร่างสูงแล้วนำมาเช็ดเองดีกว่า
“อิ่มแล้ว...กลับบ้านกัน” แจจุงรีบชวนยุนโฮกลับทันทีเพราะถ้าอยู่นานกว่านี้เห็นท่าคงจะไม่ดีแน่นอน...ไหนจะอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ...และอาการเขินหน้าแดง ๆ นี่อีก...
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย....ทำไมต้องมาเป็นกับไอ้หมีบ้าด้วยล่ะ
...ทั้งสองก็ได้ฤกษ์กลับบ้านกันจริง ๆ ซักที....ระหว่างทางที่ยุนโฮขับรถมาส่ง....อาจจะด้วยความเพียรจึงทำให้แจจุงเผลอหลับไป...โดยที่หัวของร่างบางนั้นเอนมาซบอยู่กับไหล่แกร่งของยุนโฮ...ร่างสูงได้แต่ยิ้มกับอาการของร่างบาง....ยามที่สงบนิ่งนี่มีเสน่ห์มาก ๆ....
....รถของยุนโฮค่อย ๆ หยุดเบา ๆ เพราะกลัวว่าคนข้าง ๆ จะตื่น (นี่แกคิดไรเนี่ย/..คนแต่ง)
ขอให้ผมมองคุณซักพักนะแจจุง....ผมกลัวว่าผมจะไม่มีโอกาส...กลัวว่าคุณจะเกลียดผม....ผมกลัวทุกอย่าง...
ยุนโฮค่อย ๆ เกลี่ยผมที่ปิดหน้าของแจจุงเบา ๆ ใบหน้าสวย ผิวขาวเนียน ขนตาเป็นแพยาวสวย และยังจะมีปากสีแดงได้รูป คนตรงหน้านี้เหมือนกับนิยายเลยจริง ๆ สวยเหมือนนางฟ้า....แถมจิตใจยังดีอีกตั้งหาก...ไม่แปลกทำไมถึงมีคนรักเยอะแยะไปหมด....
ร่างสูงค่อย ๆ โน้มหน้าตัวเองลงไป พร้อมกับประทับริมฝีปากลงไป แล้วก็ผละออก เพียงแค่กลัวว่าร่างบางจะตื่นขึ้นมา...แล้วเห็นการกระทำของเขา
เมื่อยุนโฮปรับสีหน้าของตนให้เป็นปกติดีแล้ว...จึงค่อย ๆ ปลุกแจจุงทันที
“แจจุงครับ...ถึงบ้านแล้ว” ร่างบางงัวเงียแล้วค่อย ๆ ลืม ตาขึ้นทีละนิด
“ห้าว...ถึงแล้วหรอเนี่ยไวจัง”
“แขนผมชาหมดแล้วเนี่ย...อยู่ๆ คุณก็ซบผมเฉยเลย...” ยุนโฮคาดโทษกับร่างบางที่ตอนนี้ทำหน้าตูมแล้ว
“โห...แค่นี้เอง...นายเป็นผู้ชายเปล่าเนี่ย....ไปแล้วฉันเข้าบ้านก่อนนะ....นายเองก็กลับบ้านดี ๆ ล่ะ” เมื่อล่ำลาจบแจจุงก็ถือถุงต่าง ๆ พร้อมกับเปิดประตูรถลงไป
แจจุงมองดูรถของคนร่างสูงขับออกไปจนลับสายตาแล้วค่อยเดินเข้าบ้านไปทันที
ความจริง เขาตื่นตั้งแต่ยุนโฮจอดรถแล้วล่ะ...ใช่...เขารู้ว่ายุนโฮทำอะไรกับเขาบ้าง...และก็รู้ด้วยว่าร่างสูงจูบเขา...แต่เขาก็ไม่เคยคิดรังเกียจอะไรแม้แต่น้อย...ไม่อย่างนั้นเขาคงโวยมันออกมาเหมือนกับทุกครั้งที่เจอกันแล้วละ....ทำไมกัน....มันดูเหมือนไม่มีเหตุผลเลยด้วยซ้ำ...อย่าบอกนะว่าเขากำลังจะชอบยุนโฮ....
แจจุงเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็ส่งของให้คนใช้ที่บ้านเอาไปเก็บยังบนห้อง แล้วร่างบางก็พบกับคุณแม่สุดที่รักของเขานั่นเอง
“ไปไหนมาจ๊ะเจ้าลูกชายสุดสวย” ผู้เป็นแม่ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้แจจุง ร่างบางจึงเดินเข้าไปโอบเอวแม่ทันที
“ไปกินข้าวแล้วก็ซื้อของหนะฮะ”
“หืม...ไปกับใครมากันยิ้มหน้าบ้านมาเชียวลูกแม่...ดูท่าทางจะสนุกน๊า...เอ๋..หรือไปกับคนพิเศษ” คุณนายคิมเอ่ยล้อ ๆ กับลูกชายและก็ต้องขำออกมาเมื่อลูกชายตัวดีเขินจนหน้าแดงทันที
“ไม่ใช่ซักหน่อย...แค่เพื่อนเองฮะ” แจจุงรีบแก้ตัวเป็นพัลวันทันที
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่...แต่ถ้าใครทำให้ลูกแม่มีความสุขแม่ก็ดีใจด้วย” แชรินลูบหัวเบา ๆ จนทำให้แจจุงรับรู้ถึงความอบอุ่นและความรักที่เขามักจะได้รับจากผู้เป็นแม่อยู่เป็นประจำ
“งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะฮะ...ดูซิเหนียวตัวไปหมดแล้ว” พูดจบร่างบางก็หอมแก้มผู้เป็นแม่แล้วค่อยวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนทันที
“คุณป้าซอนอาฮะ...วันนี้ไม่มีคนเอาดอกไม้มาให้หรอฮะ” เหมือนว่าแจจุงจะนึกขึ้นได้จึงรีบวิ่งลงมาถามอีกรอบ
“ไม่หนิค่ะคุณหนู....วันนี้ไม่เห็นมีใครมาเลย”
“หรอฮะ...งั้นไม่เป็นไรฮะ” แจจุงเดินคอตกขึ้นไปทันที ด้านคุณแชรินที่ยังยืนอยู่ตรงได้แต่ส่ายหน้ากับอาการของลูกชาย ก็ตั้งแต่เลี้ยงลูกมาไม่เคยเห็นแจจุงต้องเศร้าอย่างนี้เลยซักครั้ง
ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจเหมือนกันที่อยู่ ๆ คนที่เคยส่งดอกไม้และคำว่าฝันดีมาให้เขา กับหายไป....
เสียงโทรศัพท์เครื่องขนาดพอดีกับเจ้าของ ดังขึ้น.....ร่างบางคว้าจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะกรอกเสียงรับสาย
“อันยอง แจจุงพูด”
“เป็นอะไรหรอครับเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี” เสียงปลายสายดังขึ้นมาตอนนี้แจจุงเริ่มจะยิ้มได้แล้ว
“ไง...นายหมี...โทรมามีไร....แล้วเอาเบอร์ชั้นมาจากไหนเนี่ย” แจจุงไม่ได้สะกิดใจอะไรนักหรอก เขาจะถามจุนซูก็ได้ ก็แค่หาเรื่องคุยแค่นั้นแหละ
“ก็ผมเก่งอ่ะ...ทำไมแค่เบอร์คนสวยผมจะหามาไม่ได้” เสียงกวน ๆ จากปลายสายยิ่งทำให้คนทางนี้ยิ่งหมันไส้ขึ้นไปใหญ่
“โห....เออ...นายมันเก่ง...เก่งแต่เรื่องหลอกผู้หญิงนะ” นั่นไงเข้าตัวอีกแล้วตรู....พึ่งจะหยุดทะเลาะได้ไม่เท่าไหร่นี่จะชวนกันทะเลาะอีกแล้วหรอเนี่ย
“เอาเหอะนะ...อย่างน้อยผมก็จริงจังกับคุณก็แล้วกัน” เสียงของยุนโฮจริงจัง เขาอยากให้คนคนนี้รับรู้
“ว่าแต่คุณเป็นอะไรอ่ะ...น้ำเสียงไม่ค่อยดี” ยุนโฮถามอาการด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง....
แจจุงตัดสินใจที่จะบอกแก่ร่างสูง “คือเนี่ยคือฉันกำลังรอคุณลิลลี่อยู่แล้วเนี่ยวันนี้ก็ยังไม่มาซักทีอ่ะ...” แจจุงเลือกที่จะบอกแค่ย่อ ๆ
“อืม...” ยุนโฮกำลังคิดสิ่งที่ร่างบางพูดมาแล้วทันทีที่ความคิดอะไรบางอย่างเข้ามาในหัวสมองยุนโฮถึงกับร้องอ๋อในใจทันที
“งั้นแค่นี้นะแจจุง...คือผมง่วงและ...ฝันดีนะครับ” ยังไม่ทันที่แจจุงจะตอบกลับยุนโฮก็วางสายไปเสียแล้ว
“ไอ้หมีบ้า...จะไม่ถามซักหน่อยหรือไงว่าฉันเป็นอะไรมากมั๊ย...แต่ถ้านายรู้นายอาจจะหัวเราะชั้นก็ได้...แล้วนายจะทำอะไรที่มันโรแมนติกกับเขาเป็นบ้างมั๊ยเนี่ย”
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ยุนโฮมัวแต่ยุ่งจนไม่มีเวลาทำในสิ่งที่เขาทำทุกวัน...ใช่แล้วล่ะครับผมเนี่ยแหละเป็นคนส่งดอกไม้ไปให้แจจุงทุกวัน...ก็วันนี้ผมไปกับแจจุงจนลืมไปเลยว่าผมยังไม่ได้เอาดอกไม้ไปให้เขาเลย....ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะให้เขาแบบลึกลับ ๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้หนิคร๊าบ...ก็ผมทำลงไปแล้ว...แล้วจะให้ถอนตัวออกมาคงจะลำบาก...ถือว่าเป็นอีกแผนนึงและกันสำหรับจะพิชิตใจนางฟ้า....(แผนไหนของแกวะ/...คนแต่ง)
“นี่แจจุงเรียกเราว่าคุณลิลลี่หรอเนี่ย”
ยุนโฮหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีพร้อมกับกดเบอร์ไปยังปลายทาง....เมื่อมีคนรับเขาก็พูดอะไรออกไปสามสี่คำแล้วก็กดวางสาย
“ฝันดีนะครับ...นางฟ้าของผม”
ความคิดเห็น