คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จดหมายและความทรงจำ(50%)
เสียงทำนอง ในบทเพลงที่ได้ฟัง
เสียงความหลัง เมื่อเวลานั้นพัดผ่าน
สี่เผ่าพันธ์ อยู่ร่วมกันมาช้านาน
กาลเวลา ก่อกำเนิดซึ่งเรื่องราว
ความรักความโลภ..ความโกรธความหลง
ทุกสิ่งประสงค์ รวมเป็นมนุษย์ทั้งหลาย
เพราะอ่อนแอ..จึงเรียนรู้..เพื่ออยู่รอด
ในแสงสว่าง..ในแผ่นดิน..ตลอดไป
เพียงมีวาโย นภา และอิสระ
สามสิ่งรวมเป็น วิหคที่โผบิน
ขนปีกปักษา นำพาความเด็ดเดี่ยว
นำพาขับเคี่ยว เป็นเจ้าแห่งนภา
คล้ายมีดวงจิต แต่ก็มิใช่
คือเหล่าภูตพราย ผู้ล่วงรู้กาล
มองเห็นอนาคต จากความมืดมิด
คือความลับปกปิด ที่ถูกเปิดเผย
เจ้าแห่งน่านน้ำ ในพื้นสมุทร
นั้นคือเผ่าเงือก ผู้เลื่องลือนาม
รอยยิ้มโลหิต เสียงเพลงนั้นนา
สำคัญมีค่า มีประโยชน์มากมาย
ปรากฎบุคคล ผู้เป็นตราบาป
ยอมศิโรราบ เพื่อหวังขโมย
ความลับเผ่าพันธ์ ถูกแพร่พัดหลาย
บุกเข้าทำลาย ซึ่งกันและกัน
บาดเจ็บมากมาย โลกาลุกไหม้
แสงสว่างหายไป ความมืดมาแทน
จิตใจผู้คน ตกสู่ก้นเหว
คนดีคนเลว ไร้ทางฉุดดึง
เผ่าเงือกหลีกหนี ไปในสมุทร
เข้าสู่ส่วนลึก แล้วเงียบหายไป
วิหคสูญหาย ในคลื่นวายุ
สายลมประทุ กลับสู่สงบ
สุริยุปราคราส ปรากฎเหนือฟ้า
เหล่าภูตภูตา เร้นกายจากไป
เหลือเพียงมนุษย์ อยู่บนแผ่นดิน
เข้าใจว่าสิ้น ซึ่งเผ่าพันอื่น
กาลเวลา..พัดผ่าน จิตใจ..ผันแปร
ติดตามดูแล ว่าเกิดสิ่งใด
สวรรค์บันดาล ชะตาลิขิต
ทุกที่ทุกทิศ เปลียนแปลงตามกรรม
เสียงเพลงไพเราะดังก้องกังวาลไปทั่วบริเวณที่มืดมิด บทเพลงที่ฟังดูเศร้าสร้อยยังคงดังต่อไปเรื่อยอย่างไร้ที่มา ณ บริเวณเเห่งนี้ปรากฎร่างของเด็กสาวใบหน้าเรียวสวยอมชมพู นัยน์ตาสีนิลกลมโต เส้นผมสีรัตติกาลเงาสลวยที่ถูกถักเป็นเปียแบบหลวม ๆ ยาวไปจนถึงข้อเท้ามีโบสีขาวมัดไว้ที่หางเปีย เธอสวมใส่ชุดกระโปรงสีขาวที่ช่วงเอวมีเชือกคาดไว้ แขนเสื้อสั้นมีระบายลูกไม้ ชายกระโปรงยาวเลยหัวเข่ามาเล็กน้อย สบัดพลิ้วยามที่เธอเคลื่นไหว เธอสังเกตดูรอบตัวด้วยความสงสัยใคร่รู้
“เพลงอะไรกัน ฟังดูเศร้าแต่ก็เพราะ” เสียงใสดังลอดจากริมฝีปากสวยแต่เหมือนเป็นดังสัญญาณที่ทำให้บทเพลงที่ดังก้องอยู่อยู่ลง
“ในที่สุดก็มาสักที”เสียงลึกลับที่ใสกังวาน เสียงเดียวกับเสียงที่ใช้ร้องเพลงเมื่อครู่ดังขึ้นทำให้เด็กสาวรีบมองหาต้นตอของเสียงก็พบกับร่างลึกลับในชุดคลุมสีขาวคลิปทองดูสวยงามสวมฮูตส์ปิดบังใบหน้ามีเพียงริมฝีปากบางที่ปรากฎให้เห็นทำให้เด็กสาวรู้ได้คร่าว ๆ ว่าร่างนี้คือผู้หญิง เธอคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เด็กสาวจึงเห็นถึงส่วนสูงของทั้งคู่ที่มีความสูงพอ ๆ กัน
“ท่านเป็นใครกัน” เด็กสาวเอ่ยถามเมื่อสำรวจผู้มาใหม่คร่าวๆแล้ว
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แต่..” ร่างนั้นยั้งจังหวะไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ข้าอยากให้เจ้าช่วย”
“เอ! ข้าหรือ” เด็กสาวเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่ร่างนั้นเอ่ยออกมา
“ใช่” ร่างนั้นพยักหน้าน้อยๆ ประกอบคำตอบของตน
“แล้วทำไมถึงต้องให้ข้าช่วย” เด็กสาวถามถึงเหตุผล
“เพราะมันเกี่ยวข้องกับตัวเจ้าเอง” เธอคนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ถ้าเช่นนั้น..ท่านต้องการให้ข้าช่วยในสิ่งใด” เด็กสาวที่หลังได้รู้เหตุผลแล้วก็คิดว่า คงไม่เสียหายอะไรในเมื่อมันเกี่ยวข้องกับตนเอง เด็สาวรอคอยคำตอบจากร่างนั้นแต่..แทนคำพูดเธอผู้นั้นกลับยื่นมือมาเบื้องหน้าก่อนจะสะบัดเล็กน้อย ก็ปรากฎขนน้อยเจ็ดเส้นเรียงรายคั่นกลางระหว่างเด็กสาวและตัวเธอเอง มีขนาดและรูปร่างที่คล้ายคลึงมาก จะแตกต่างก็เพียงแค่สีสัน ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง และ ใส มีประกายเปล่งแสงสวยงาม เด็กสาวจ้องมองขนนกเหล่านั้นด้วยแววตาชื่นชมราวกับถูกตรึงไว้ด้วยมนตร์สะกด
“ข้าอยากให้เจ้าตามหาขนนกเหล่านี้”เสียงใสกังวานของเธอผู้นั้นเรียกให้เด็กสาวหลุดจากพวังค์
“ละ..แล้วจะให้ข้าตามหาอีกทำไม ในเมื่อท่านก็มีมันแล้ว” เด็กสาวออกอาการแปลกใจ
“นั้นเป็นเพียงมโนภาพจากความทรงจำเท่านั้น” เฮเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เศร้าลงก่อนวาดมือตามการเรียงของขนนกทำให้ขนนกเหล่านั้นเลือนหายไป
“ถ้าเช่นนั้นพอจะมีเบาะแสให้ข้ารับรู้หรือไม่” เด็กสาวเอ่ยถามอย่างมีความหวัง
“เจ้ารู้อยู่แล้ว”
“เอ๋ !”เด็กสาวยิ่งแปลกใจแต่เมื่อครั้นจะถามเพิ่อให้หายข้องใจร่างนั้นกลับเริ่มเลือนลางจากไป “นี้ ดะ..เดี๋ยวสิ รอก่อน”
“ขอให้โชคดี” ร่างนั้นอวยพรก่อนหายไป
.....................................
“เฮือก !” นัยน์ตาสีนิลลืมโพล่งขึ้นอย่างตกใจท่ามกลางความมืดสลัวที่พอจะมองเห็นรอบข้างได้ หน้าเรียวสวยชุ่มไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากบางหอบถี่แต่ได้ไม่นานก็รู้สึกเจ็บไปทั่วร่างกายจึงพยายามยันกายให้ลุกขึ้นแต่... “โอ๊ย !!”
ความเจ็บปวดแล่นทั่วร่างกายราวกับถูกฟันมาทั่วร่างจนขยับได้ไม่ดี เด็กสาวพยายามคิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวในตอนนี้แต่สมองนั้นกลับว่างเปล่ามีเพียงภาพของสถานที่ที่หนึ่งกับนกแปดเส้นจากความฝันเท่านั้น เมื่อไม่สามารถคิดเรื่องเกี่ยวกับตนเองออกเธอจึงเริ่มสำรวจรอบตัว ห้องที่ทำจากไม้ที่ไม่ได้กว้างขวางมากนัก ด้านปลายเท้าเยื้องไปทางซ้ายมีประตูอยู่หนึ่งบาน ทางขวามือมีหน้าต่างที่แขวนผ้าม่านลายลูกไม้สีขาวที่พลิ้วไหวตามแรงลมยามรัตติกาล นัยน์ตาคู่สวยทอดมองผ่านหน้าต่างออกไปยังท้องฟ้าสีน้ำเงินที่ไร้ซึ่งแสงดาวมีเพียงดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นดูสวยงามแต่ทว่ากลับดูเศร้าสร้อยอย่างน่าประหลาด
ดวงหน้างามผินกลับมามองยังเพดานห้องก่อนจะหลับตาแล้วถอนหายใจให้กับตนเอง พลางคิดไปถึงความฝันที่เห็นก็รุ่นคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับตัวของเธออย่างไร และเมื่อไม่สามารถนึกออกจึงคิดที่จะนอนหลับต่อแต่ความง่วงนอนกลับหายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงนอนลื่มตาโพล่งพลางคิดว่าหากรุ่งอรุณมาถึงคงมีใครสักคนมาและอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอก็ได้
.......................................
แอ๊ดดดด...
เสียงประตูที่ปลายเท้าถูกเปิดออกยามรุ่งสางมีเด็กสาวเดินเข้ามาภายในห้องเส้นผมสีกุหลาบเป็นล่อนยาวลงมาคลอเคลียถึงกลางหลังที่ช่วงบนมีโบสีชมพูผูกไว้ เมื่อปิดประตูเสร็จเธอคนนั้นก็หันมาทำให้ร่างบางที่นอนอยู่มองเห็นใบหน้าของเด็กสาวได้ชัดเจน ใบหน้าเรียวสวยขาวอมชมพูกับนัยน์ตาสีอเมทิสต์ที่สดใส
“อ้าวแล้วเหรอ” ริมฝีปากบางเอ่ยถามผู้ที่นอนอยู่ ซึ่งก็รับการตอบรับเป็นการพยักหน้าน้อยๆ เด็กสาวเดินของไปใกล้แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างที่นอนก่อนเอื้อมมือไปหยิบผ้ากับอ่างน้ำที่ว่างอยู่เหนือศีรษะของผู้ป่วย บิดน้ำออกแล้วนำไปเช็ดที่แขนของร่างที่นอน แต่เมื่อเจ้าของร่างเห็นร่องรอยบาดแผลที่เธอได้รับจึงคิดจะถามออกไป แต่...
“....” เธอทำได้เพียงอ้าปากเป็นคำเท่านั้นแต่ไร้ซึ่งเสียงใดที่เปล่งออกมา
“ช่วงนี้เธอยังพูดอะไรไม่ได้นะแต่เดียวอีกไม่กี่ชั่วโมงยาก็จะหมดฤทธิ์แล้ว” ร่างบางอธิบายออกมา “แต่ไม่ต้องกังวลนะไม่ใช่ฤทธิ์ของยาโดยตรงแค่ผลข้างเคียงจากยาสมานแผลนะ ส่วนที่ขยับไม่ได้ดังใจนะเป็นเพราะร่างกายบอบซ้ำมากจะการโดนทำร้ายนะ”
ความคิดเห็น