คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ลำดับตอนที่ 29
PART SIX .
{heartbreaker}
ส่วนของผู้สมัคร
ขื่อ : อีจีอึน Gee Gee Gee Gee Baby Baby Baby~ J
อายุ : สิบเจ็ดขวบ วัยกำลังเอ๊าะ ฮ่ะ ฮ่าา .
--------------------------------------------------------------------
ส่วนของคาแร็กเตอร์
ชื่อ : พันธิตรา กีรติเมธาสกุล (พั้นช์)
อายุ : ครบยี่สิบปีหมาด ๆ
อาชีพ : นักศึกษาปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
ฐานะ / ครอบครัว : ถ้าบอกว่าฐานะรวย แต่ไม่มีครอบครัว * จะดูขัดกันไหม ? แต่นี่คือชีวิตจริงของเธอ ถึงจะฟังดูรันทดไปบ้าง แต่เธอเคยมีทั้งพ่อและแม่ ใช่ .. มีตอนเกิดมาไง หลังจากเริ่มจำความได้ว่าตัวเองอาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในโบสถ์เธอก็รู้ตัวแล้วว่าครอบครัวที่เคยให้ความอบอุ่นได้ทิ้งเธอเสียแล้ว . โตขึ้นโดยไม่รู้จักว่าคำว่าความสุขหมายความว่าอะไร รู้แต่ว่าเงิน ที่มีล้นเหลือในบัญชีที่ซิสเตอร์ผู้ดูแลเธอเก็บไว้ให้นั้น พอจะให้เธอได้มีที่ซุกหัวนอน หลังจากที่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว มีอาหารประทังชีวิต มีเสื้อผ้าให้ความอบอุ่น และมีเงินซื้อยาที่เธอแทบจะแยกไม่ออกว่ายานอนหลับ มีไว้ช่วยให้หลับหรือช่วยให้หายไปจากโลกนี้กันแน่
งานอดิเรก : คนที่ไม่รู้จุดยืนของชีวิตตัวเองอย่างเธอจะมีอะไรทำกันเล่า นอกเสียจากพยายามทำให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นมาบ้าง * ด้วยการออกไปนั่งดูชีวิตของผู้คนตามที่ที่มีคนพลุกพล่านต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งที่มหาลัย ยังไงมันก็ดีกว่าอยู่คนเดียวในหอพักโทรม ๆ เป็นไหน ๆ .
ชอบ : คนดี * ใครก็ตามที่ทำดีกับเธอเธอก็ชอบแล้ว . และคนที่เห็นคุณค่าของชีวิตเธอ แค่นั้นก็พอ
ไม่ชอบ : ความรู้สึกของการไม่มีตัวตนในสายตาคนอื่น ๆ . เวลากลางคืน . ความเงียบ . ความว้าเหว่เดียวดาย ถึงแม้เธอจะเจอมันมาตลอดชีวิต * ก็ไม่สามารถทำใจให้ชินชาได้สักที
สถานที่โปรด : สถานที่ที่มีคนเยอะ ๆ *
นิสัย : เธอเป็นเด็กมีปัญหา ถึงแม้ใคร ๆ ต่างก็มองว่าเธอเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อม ทั้งหน้าตาที่แสนสวย เงินทองที่มีพอใช้ไปตลอดชีวิต และสมองที่มีคุณภาพจนเพื่อนร่วมสายชั้นต่างพากันอิจฉา ถึงแม้เธอจะอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ก็ตาม มีหลายกรณีที่สมองอันชาญฉลาดของเธอไม่ช่วยในเรื่องอะไรเลย * เพราะเธอคนนี้ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจมากกว่าใช้เหตุผล หัวใจแสนบอบบางและอ่อนแอ ความว้าเหว่กัดกินหัวใจจนแทบจะเป็นโรคขาดสารอาหาร โรคสติฟั่นเฟือน และโรคจิต . เธอคิดมากจนถึงขั้นเกินตัว แถมยังพูดน้อยอีกด้วย ทำให้กลายเป็นคนเก็บกด ถึงอย่างนั้นแล้วก็ใช่ว่าเธอจะไม่มีคนรู้จักเลย เธอมีเพื่อนร่วมคณะหลายคน ซึ่งเวลาที่ที่อยู่ต่อหน้า เธอจะไม่เคยแสดงความเจ็บปวดออกมาให้ใครเห็น ต้นเหตุก็มาจากความคิดมากอีกนั่นแหละ เธอไม่อยากให้ใครต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะตัวเธอเอง แค่นี้ชีวิตมันก็น่าสมเพชพอแล้ว ยังจะไปทำให้คนอื่นสมเพชตัวเองอีกทำไม ? ถึงจะไม่มีคนสนิทจริงจัง แต่เธอก็เป็นคนแพ้คนดี ใครทำอะไรให้หน่อยก็รู้สึกดีแล้ว เธอมีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตรงนี้ ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะแค่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วผ่านไปก็ตาม ไม่ต่างอะไรกับแฟนเก่าคนนั้นซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะที่แค่บังเอิญต้องทำงานกลุ่มเดียวกับเธอเท่านั้นเอง แค่เขาช่วยงาน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว เธอกลับมีความสุขล้นเหลือ ติดเขาไม่หยุด จนกระทั่งเขายอมคบเป็นแฟนด้วยเพราะแค่ความสงสาร สุดท้ายเขาก็ผ่านออกจากชีวิตเธอไป ก็ความสงสารมันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน ในขณะที่คนน่าสงสารไม่เคยมองย้อนกลับมาที่ตัวเองเลย ไม่เคยคิดที่จะทำดีกับตัวเองเลย . ทางเลือกชีวิตของเธอมีอยู่แค่สองทาง รักใครสักคน หรือ จบมันซะ *
เพิ่มเติม : ลองคิดดูสิว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน .. ที่จะต้องเห็นคนที่เคยคบกันมานาน ยังใช้ชีวิตอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เหมือนเขาเป็นของร้อน ที่ไม่สามารถจับต้องได้เลย ? แฟนเก่าของพั้นช์ยังคงเรียนอยู่ที่เดียวกัน คณะเดียวกัน และเจอหน้ากันอยู่ทุกวัน แต่เขาเลือกที่จะตีตัวออกห่างเธอ ด้วยความหวังดีที่จะให้เธอได้เลิกนึกถึงเขาซะ จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสดใส . แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า เขาเป็นต้นเหตุให้เธอพยายามฆ่าตัวตายอยู่หลายต่อหลายครั้งนัก *
ชื่อพระเอกของคุณ : วรินทร์ นคริทรา (วิน)
--------------------------------------------------------------------
อิมเมจ
ตัวละครของคุณ : ปาร์ค เยอึน (Park Yeeun / 박예은 / Wonder Girls)
พระเอกของคุณ : คิม คยูจง (Kim Kyujong / 김규종 / SS501)
--------------------------------------------------------------------
คำถาม
1.หลังจากที่คุณอกหักจากคนรักที่รักกันมาหลายปี คุณก็เสียใจถึงขนาดคิดสั้น แต่แล้วคุณก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาพูดอะไรกับคุณคุณถึงเลือกที่จะมีชีวิตต่อไป
Ans. เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่การกระทำมันฟ้องทุกอย่าง .. เรื่องมันมีอยู่ว่า .
วันนั้นเป็นวันหยุด ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางตึกแถวในละแวกที่ตัวเองอาศัยอยู่ ในหัวก็ยังคิดแต่เรื่องเดิม ๆ เรื่องเขาคนนั้น * น้ำตาก็ไหลมาเรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บแสบที่รอยกรีดที่ข้อมือตัวเองแต่อย่างใด เมื่อรู้สึกว่าคนอื่นเริ่มมอง ฉันก็เงยหน้าขึ้นฟ้าเพื่อหวังจะให้มันไหลย้อนกลับ ฉันไม่อยากให้ใครที่เห็นฉันในสภาพแบบนี้ต้องมาทุกข์ร้อนเพราะฉัน . แต่แล้วอะไรบางอย่างก็สะดุดตาเข้าให้เต็ม ๆ มันคือความสูงของตึกที่ฉันยืนอยู่ตรงหน้า มันคือร้านอาหารที่มีชื่อว่า Triple S ฉันตัดสินใจว่าจะไปเยี่ยมชมดาดฟ้าของที่นี่สักหน่อย บางทีมันอาจจะทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ก็เป็นไปได้ *
เมื่อเดินอ้อมไปทางด้านหลังของตึก ฉันก็พบบันไดฉุกเฉินที่มีเหมือนกันทุก ๆ ตึกทั้งแถวนี้ ฉันก้าวขาพร้อมกับมือที่จับตรงราวจับแบบไม่มั่นคงด้วยจิตใจที่มั่นคงกว่า ก่อนจะได้ขึ้นไปครึ่งทาง สายตาก็เหลือบไปสบกับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังล้างจานอยู่ตรงหลังร้าน ฉันรีบยิ้มบาง ๆ แล้วขึ้นบันไดต่อไปทันทีโดยพยายามไม่ให้เขาสนใจฉันมากที่สุด . และแล้วฉันก็มาถึงดาดฟ้า สถานที่ที่ทำให้ฉันสามารถยืนบนขอบและอ้าแขนรับลมได้อย่างเต็มที่ * และเต็มใจ เมื่อได้ปลดปล่อย เรื่องเก่า ๆ ก็พาลไหลย้อนกลับมาอีก ฉันเริ่มร้องไห้หนักโดยไม่สนเรื่องการทรงตัวอีกต่อไปแล้ว หวังแต่ว่าความพลั้งเผลอครั้งนี้จะทำให้ฉันตกลงไปข้างล้างโดยไม่ต้องยั้งใจสักที ฉันจะได้เกิดใหม่สักที . ไม่สิ ตายไปซะ จะได้ไม่เกิดมาบนโลกที่แสนโหดร้ายนี่อีกสักที
วินาทีที่รู้สึกเหมือนโลกมันหมุน น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาช่วยปกปิดดวงตาฉันไม่ให้เห็นความโหดร้ายตรงหน้า ฉันกอดตัวเองแน่น . แต่วินาทีนั้นเอง ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่ได้กอดตัวเองด้วยแค่แขนสองแขน อีกสองแขนโอบฉันจากด้านหลังและความอบอุ่นก็แผ่ซ่านมาถึงหลังของฉันที่ทาบอยู่บนแผ่นอกกว้างของใครบางคน ฉันลืมตาขึ้น แต่ก็มองไม่เห็นอะไรอยู่ดี เพราะน้ำตานั่นเอง แต่เสียงที่ดังขึ้นอย่างอ่อนโยนข้างหู ทำให้ฉันเห็นภาพอย่างชัดเจน * ภาพของผู้ชายแสนดีที่ฉันรอคอยมาทั้งชีวิต ถึงแม้ฉันจะไม่รู้จักเขาเลยก็ตาม กับเสียงที่ว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะครับ”
ร่างของฉันถูกพาลงมาที่ชั้นล่างอย่างง่ายดายโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงใด ๆ เพราะฉันเองก็ไม่เหลือเรี่ยวแรงใด ๆ จะขัดขืน เขาวางฉันลง ณ โซฟาหน้าห้องทำงานภายในร้านอาหารที่เป็นเจ้าของตึกแถวห้องนั้น แล้วหายเข้าไปในห้องผู้จัดการพร้อมกับเสียงด่าของใครในนั้นที่ดังตามมาติด ๆ . วินาทีนั้นฉันกลัว กลัวว่าเสียงดุด่าจะทำให้เขาคนนั้นหายจากฉันไป * แต่แล้วเขาก็กลับออกมาด้วยสีหน้าประดับรอยยิ้ม ฉันเห็นหน้าเขาชัด ๆ ในตอนนี้ และฉันก็เรียกเขาเต็มปากเต็มคำหลังจากที่ใบ้กินมาตั้งแต่ตื่นนอน “วิน” . เขาดูจะแปลกใจเล็กน้อยที่ฉันรู้ชื่อเขา แต่ฉันก็ฟังมาจากที่คนในห้องเรียกเขานั่นแหละ เขาเริ่มบทสนทนาต่าง ๆ นานาด้วยการถามชื่อฉัน และชวนคุยเรื่องไร้สาระที่เหมือนจงใจคุ้ยขึ้นมาเพื่อให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
แต่แล้วบทสนทนาก็เปลี่ยนรสชาติไป เมื่อเขาดูเหมือนจะเกิดโง่ขึ้นมากะทันหันและถามฉันด้วยสีหน้าไร้เดียงสาเกินไปว่า “เธอขึ้นไปทำอะไรบนดาดฟ้าของพวกเราหรอ?” . ซึ่งฉันก็ไม่ยอมรับตรง ๆ บ้างแต่กลับพูดว่า “เพราะที่นี่มีดาดฟ้าที่สูงที่สุดในตึกละแวกนี้น่ะสิ”
เท่านั้นเอง * เขาเหมือนจะตัดสินใจเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตของฉันทันที ทั้งนัดแนะว่าต่อไปนี้ฉันต้องมาหาเขาที่นี่ทุกเย็น หรือแม้กระทั่งถามไถ่เรื่องราวชีวิตของฉันราวกับเป็นพ่อ เขาไม่ยอมให้ฉันคลาดสายตาเท่าไหร่นอกจากเวลาที่ฉันไปเรียน เขาบอกว่าฉันอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนี้ได้ จะช่วยงานก็ได้ถ้าเกรงใจ . ผู้จัดการของร้าน ซึ่งกลายเป็นว่าเป็นหนุ่มรุ่นเดียวกับเขา ดูท่าทางจะไม่ชอบการมีตัวตนของฉันในร้านเท่าไหร่นัก แต่ปัญหาไม่ใช่เพราะตัวฉัน * พวกเขามีกันหกคนในร้าน กลางวันเหล่าชายหนุ่มวัย 24 ปีทั้งหกคนจะเป็นผู้บริหารและบริการร้านอาหารแห่งนี้ แต่ในกลางคืน พวกเขาก็ออกไปมีเรื่องกับใครไปทั่ว เหมือนเหล่าวัยรุ่นยกพวกตีกันดี ๆ นี่เอง . นายผู้จัดการก็เลยไม่ไว้ใจว่าพวกเขาจะอันตรายเกินไปสำหรับฉันหรือเปล่า สินะ ..
2.เมื่อคุณได้รู้จักกับผู้ชายคนนั้นมากขึ้น คุณมีความรู้สึกกับเขาแตกต่างจากคนรักเก่าของคุณอย่างไรบ้าง
Ans. ความต่างน่ะหรอ ? มันอยู่ในระดับนรกกับสวรรค์เลยล่ะ . ความสุขที่ฉันไขว่คว้ามาตลอดชีวิตกลับหาได้ง่ายมากจากเขาคนนี้ หรือแม้กระทั่งเพื่อนของเขาก็ไม่ได้รังเกียจฉันเลย ตอนนี้ฉันมีตัวตนในสายตาคนอื่นแล้วนะ จะไม่ให้ฉันมีความสุขได้ยังไง ในขณะที่รักเก่าของฉันมีดีแค่ยิ้มแหย ๆ และบอกฉันเป็นแค่คำเดียวว่า “อย่าเครียด” . วินทร์เป็นคนที่พอรู้จักแล้วก็เหมือนยาเสพติด ฉันห่างเขามาก ๆ แล้วเหมือนชีวิตจะกลับมาไร้ค่าอีก มีเพียงที่ร้านอาหารร้านนั้นที่เดียวเท่านั้นแหละที่ฉันจะมีตัวตน * ฉันเรียนรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทำดีกับทุกคน แต่แค่ฉันได้เป็นหนึ่งในทุกคนของเขา ฉันก็พอใจแล้ว .
3.สำหรับคุณแล้ว ความรักคืออะไร
Ans. ความรัก คือ สิ่งสิ่งเดียวที่มีค่าสำหรับชีวิตฉัน . ความรักคือออกซิเจน * ความรักหล่อเลี้ยงให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าฉันไม่มีรักจากใคร ๆ แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม ถึงอย่างนั้นก่อนที่จะคิดสั้นทำอะไร ฉันก็พยายามไขว่คว้าหาความรักมาตลอด แต่ก็บอกแล้ว ทางเลือกชีวิตของฉันมีแค่สองทาง รักใครสักคน หรือ จบมันซะ *
------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น