ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DO NOT ENTER

    ลำดับตอนที่ #14 : -

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 53



    นอกเหนือจากคุณ { db. pipink  แล้ว
    ไม่ว่าใครก็ตาม ห้ามคัดลอกข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด
    ออกจากหน้าบทความนี้เป็นอันขาด
    ห้ามดัดแปลง และห้ามขโมยไอเดีย... อย่าแม้แต่จะคิด - -


     

    Follow your form audition : )

     

    ส่วนของผู้สมัคร

    ๑. ชื่อ

    : จี ค่ะ (Gee Gee Gee Gee Baby Baby Baby~ ฮ่าๆ)

     

    ๒. อายุ

    : 16 ขวบค่ะ

     

     

    ส่วนของตัวละคร

    ๑. ชื่อตัวละคร

    : พัน ยูริม

     

    ๒. อายุ

    : 20 ปี

     

    ๓. อาชีพ

    : นักศึกษามหาวิทยาลัย

     

    ๔. ลักษณะนิสัย

    : เธอเป็นเด็กมีปัญหา ใครๆต่างก็มองว่าเธอคือผู้หญิงเพียบพร้อม ทั้งหน้าตาที่สะสวย เงินมรดกที่มีพอใช้ไปตลอดชีวิต และสมองที่ดีจนน่าอิจฉา ถึงแม้เธอจะกำพร้าพ่อแม่ก็ตามและญาติสนิทก็ไม่มี แต่มีอยู่บางกรณีที่มันสมองอันชาญฉลาดของเธอช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเธอคนนี้มักปล่อยให้ความรู้สึกเป็นตัวนำพามากกว่าความสมเหตุสมผล เธออาศัยอยู่ตัวคนเดียวในหอพักเล็กๆ และนั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก เธอคิดมากและพูดน้อย จนกลายเป็นคนเก็บกด ถึงอย่างนั้นแล้วในเวลาที่เธอออกไปข้างนอก คนอื่นๆก็ยังเห็นว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสุขดี นั่นก็เพราะเธอไม่แสดงความเจ็บปวดออกมานั่นเอง เธอคิดมากว่าคนอื่นจะเป็นเดือดเป็นร้อนไปด้วย ในชีวิตเธอไม่มีคนที่เธอสนิทจริงจัง แต่เธอเป็นคนแพ้คนดี เธอตกหลุมพรางของคนที่เข้ามาทำดีด้วยได้ง่ายถึงแม้เขาคนนั้นอาจจะผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วผ่านไปอย่างเร็วก็ตาม หากใครทำดีด้วยนิดหน่อยเธอก็มีความสุขแล้ว และทางเลือกของชีวิตเธอก็มีอยู่แค่สองทาง รักใครสักคน หรือ จบมันซะ

     

    ๕. ชื่ออิมเมจ

    : ยูริม (Model for Dahong)

     

    ๖. คู่ของคุณ

    : คิม คยูจง of SS501

     

    ๗. อายุ

    : 24 ปี

     

    ๘. อาชีพ

    : พนักงานร้านตัดผม Triple S (ชื่อนี้เล่นง่ายดีเนอะ - -)

     

    ๙. ลักษณะนิสัย

    : โดยปกติแล้ว เขาคนนี้คือคนที่เล่นบทสุภาพบุรุษในกลุ่มเพื่อนฝูง เขาเป็นคนที่เทคแคร์คนอื่นดีมาก ทั้งอ่อนโยน และโรแมนติก เขาพูดน้อย แต่ก็คงพูดมากกว่ายูริมล่ะนะ เขาเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกคนอื่นได้ดี และชอบช่วยคนอื่นแก้ปัญหามากกว่าที่จะมานั่งสนใจปัญหาของตัวเอง แต่เขาก็อารมณ์ร้อนเป็นเหมือนกัน เขาเป็นคนขี้หึงหวงและรักใครรักจริง ถ้าโดนแย่งของรักของหวงไปล่ะก็เตรียมรอรับฉากบู๊จากคนคนนี้ได้เลย เขาเก่งด้านหาเรื่องคนอื่นพอดูเลยล่ะ เพราะพวกเพื่อนในกลุ่มเดียวกับเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เรื่องประหลาดอย่างนึงของเขาคือการที่เขามีประสาทสัมผัสพิเศษที่สามารถจับภัยหรือเรื่องร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และแน่นอนว่าเขาต้องเข้าไปรับมือกับมันทั้งๆที่คนอื่นยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จนเพื่อนๆมักจะพูดว่าเขาชอบหาเรื่องใส่ตัว

     

    ๑๐. รูปอิมเมจคุณ

    :

     

    ๑๑. รูปอิมเมจคู่ของคุณ

    :

     

    ๑๒. ตีมสตอรี่ที่คุณเลือก

    : Veranda : ดาดฟ้า

     

    ๑๓. ตีมสตอรี่ของคุณเกี่ยวข้องกับคุณหรือคู่อย่างไร

    : Kyujong’s story;

     

    จะมีสักกี่คนกันที่เชื่อในประสาทสัมผัสประหลาดของผม ประสาทสัมผัสที่ทำให้ผมรับรู้อันตรายล่วงหน้า ถ้าให้นับดูแล้วก็คงจะมีเพื่อนทั้งสี่คนของผมเพียงเท่านั้น ไอ้ฮยอนจุง ยองแซง จงมิน และฮยองจุน มันเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่มันก็ยังพูดว่าผมชอบหาเรื่องใส่ตัวเสมอๆ... มันก็จริงนี่เนอะ เพราะแม้แต่เรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นผมยังจับสัมผัสได้เลย และผมก็เป็นคนนิ่งนอนใจไม่ได้ด้วยสิ

     

    วันนั้นก็เป็นอีกวันที่เราทั้งห้าคนทำงานอยู่ในร้านตัดผม Triple S ที่พวกเราบริหารและบริการกันเองทั้งหมด โชคดีที่ผมไม่มีลูกค้าแต่เพียงแค่ยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านเท่านั้น เพราะอยู่ดีๆผมก็สัมผัสถึงอันตรายอีกแล้ว อันตรายที่จะเกิดกับชีวิตของ...คนอื่น ถ้าหากผมทำผมให้ลูกค้าอยู่ก็คงจะได้เปิดเวทีโต้วาทีกับฮยอนจุงจนไม่ทันช่วยชีวิตผู้หญิงคนนั้นแล้ว เธออาจจะตายได้ ใครจะรู้... ใช่ มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนดาดฟ้าของตึกแถวแห่งนี้ ดาดฟ้าของร้านเรา...

     

    “จองมิน ฝากทางนี้หน่อย” ผมตะโกนเรียกจงมินที่อยู่อีกฝั่งของร้านแบบขอไปทีแล้ววิ่งหายลับเข้าไปยังหลังร้านเพื่อขึ้นบันได ผมได้ยินเสียงพี่ใหญ่ของพวกเราซึ่งก็คือฮยอนจุงตะโกนไล่หลังมาด้วย แต่ผมไม่สนแล้ว ค่อยด่าผมหลังผมกลับลงมาแล้วกัน

     

    บนดาดฟ้า ผมยืนพักหายใจแรงกว่าปกติเล็กน้อย ภาพที่อยู่เบื้องหน้าคือหญิงสาวร่างสูงเพรียวคนหนึ่งยืนอ้าแขนรับลมอยู่บนขอบดาดฟ้า เป็นภาพที่สวยงามครับ เหมือนในหนังเลย ตลกดีแท้... แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้มารับลมแค่นั้นหรอก ประสาทสัมผัสผมไม่ได้บอกว่าอย่างนั้น และนั่นไง... เธอเริ่มหดมือกลับมาที่ตัวแล้วกอดตัวเองแน่น เธอกำลังร้องไห้ เธอร้องไห้หนักขึ้นจนเธอเริ่มทรงตัวไม่อยู่ และกว่าจะรู้ตัวผมก็พุ่งเข้าไปคว้าเธอเอาไว้แล้ว

     

    เธอตกใจผมจนหน้าซีด แต่ผมก็ยิ้มและบอกกับเธอว่าไม่เป็นไรแล้ว เธอไม่พูด และดูเหมือนว่าเมื่อเธอพยายามจะพูดเสียงเธอมันก็แผ่วเบาและขาดๆหายๆ อีกทั้งเมื่อมองไปที่ข้อมือเธอก็จะพบเส้นรอยกรีดบางๆสีแดง ทั้งแผลใหม่และแผลเก่า อย่างที่ผมคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน ผมเจอเด็กมีปัญหาเข้าแล้วไง...

     

    ผมนำเธอลงไปยังชั้นล่างได้อย่างง่ายดาย เหตุทั้งเพราะน้ำหนักตัวเธอที่น้อยจนน่าตกใจและการที่เธอไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืนต่อไป เมื่อเราไปถึงห้องทำงานหลังร้าน ฮยอนจุงยืนปั้นสีหน้าเครียดอยู่ที่นั่น ผมเข้าไปในห้องทำงานเล็กของเขาแล้วปล่อยเธอคนนั้นไว้ที่โซฟาด้านนอก ฮยอนจุงบ่นใส่ผมเป็นชุด...ตามเคย ผมที่เริ่มชินแล้วก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ผมแค่ยืนฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเขาก็จะเลิกบ่นใส่ผมไปเอง เขาแค่ปิดท้ายว่า “ดูแลปัญหาใหม่ของนายให้ดีแล้วกัน”

     

    เขาไม่ได้เลวร้ายหรอก เขาแค่เป็นห่วงพวกเราเพราะพวกเราเองก็เป็นเด็กมีปัญหาเหมือนๆกันทั้งนั้น แต่เขาก็รู้ดีว่ายังไงผมก็จะจัดการปัญหาของคนอื่นด้วยตัวเองอยู่ดี เขาปล่อยให้ผมกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น เธอได้ยินทุกอย่างที่ฮยอนจุงบ่นใส่ผม และดูเหมือนเธอจะอาการดีขึ้นนิดหน่อย เมื่อเธอเอ่ยปากเรียกผมว่า “คยูจง” ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย ผมถามกลับว่าเธอชื่ออะไร เธอก็ตอบเสียงแผ่วว่า “ยูริม... พันยูริม” และเมื่อผมเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เธอก็เริ่มใบ้กินเสียอีก เธอตอบเพียงคำถามเดียวว่าทำไมเธอจึงขึ้นไปอยู่บนนั้น ถึงมันจะเป็นคำถามงี่เง่า แต่คำตอบที่ได้กลับมามันมากกว่าที่คาดไว้

     

    “เพราะที่นี่เป็นตึกที่สูงที่สุดในละแวกนี้”

     

    เพียงเท่านั้นผมก็ตัดสินใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตเธอทันที ผมคงทนเห็นเธอทำแบบนี้อีกครั้งในอนาคตไม่ได้ และชีวิตผม รวมถึงชีวิตเธอ ก็เปลี่ยนไป แต่ผมไม่รู้ว่าการมีเธอติดสอยห้อยตามไปตลอดจะเป็นผลดีกับเธอหรือไม่ โดยเฉพาะเวลากลางคืน... ซึ่งเป็นช่วงที่เธอต้องการใครสักคนมากที่สุด แต่มันเป็นเวลาที่ผมและพวกของผมออกไปมีเรื่องกับแก๊งอื่นๆในละแวกเหมือนแค่วัยรุ่นตีกันดีๆนี่เอง

     

    ผมมันอันตรายเกินไปสำหรับเธอรึเปล่านะ...

     

     ๑๔. ในหนึ่งวัน . คุณชอบช่วงเวลาไหนมากที่สุด พร้อมเหตุผล

    : ฉันไม่ค่อยชอบหรอก ความรู้สึกของการมีชีวิตอยู่เหมือนคนไร้ตัวตน เวลาไหนฉันก็ดูเหมือนจะไร้ตัวตน ฉันไม่ชอบมันเลย... แต่ถ้าให้เลือก กลางวันก็ดีกว่ากลางคืนเสมอๆแหละ เพราะอย่างน้อยมันก็สว่าง และหากฉันออกไปข้างนอกก็ยังมีสิ่งมีชีวิตให้เห็น แต่ตอนกลางคืนมีเพียงฉันคนเดียวที่ฉันมองเห็น ฉันอยู่ตัวคนเดียวและนั่นทำให้ฉันเกลียดเวลากลางคืนมากขึ้นไปอีกเป็นพันเท่า...

     

     

     ขอบคุณสำหรับการออดิชั่นในครั้งนี้มากๆ เลยค่ะ นอมู ~ ซารางเฮ <3

    ขอบคุณที่มีบทความดีๆ แบบนี้ขึ้นมามากๆ เลยเช่นกันค่ะ นอมู คัมซาแฮ <3

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=606999

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×