ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DO NOT ENTER

    ลำดับตอนที่ #13 : -

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 53


     
    นอกเหนือจากคุณ { db. pipink  แล้ว
    ไม่ว่าใครก็ตาม ห้ามคัดลอกข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด
    ออกจากหน้าบทความนี้เป็นอันขาด
    ห้ามดัดแปลง และห้ามขโมยไอเดีย... อย่าแม้แต่จะคิด - -


    Follow your form audition : )

     

    ส่วนของผู้สมัคร

    ๑. ชื่อ

    : จี ค่ะ (Gee Gee Gee Gee Baby Baby Baby~ ฮ่าๆ)

     

    ๒. อายุ

    : 16 ขวบค่ะ

     

     

    ส่วนของตัวละคร

    ๑. ชื่อตัวละคร

    : โน ฮวารัง (เป็นชื่อดอกไม้ในตำนานของราชวงศ์ชิลลา / ราชวงศ์ของควีนซอนต๊อกอ่ะพี่ =[]=)

     

    ๒. อายุ

    : 22 ปี

     

    ๓. อาชีพ

    : นักศึกษาปีสี่ แลกเปลี่ยนมาเรียนปีสุดท้ายที่มหาลัย “มยองมุน” ในเกาหลี (มหาลัยสมมติขึ้น ตัดปัญหาเรื่องข้อมูลสถาบันเวลาแต่งน่ะค่ะ พี่ยูสามารถมั่วเอาเองได้เลย -0-)

     

    ๔. ลักษณะนิสัย

    : เหมือนลูกหมา? ใครๆ ก็พูดว่าอย่างนั้น อาจจะเพราะว่าฉันมีคุณสมบัติของลูกหมาหลายประการ ตั้งแต่หน้าตาก่อนเลย หน้าตาฉันมันจัดอยู่ในประเภทแบ๊วมากกว่าสวย ตาโตๆมักจะส่องประกายใสซื่อตลอดเวลาเหมือนกับว่าฉันช่างอ่อนต่อโลกยิ่งนัก และยิ่งฉันไม่ค่อยยิ้ม มันจะยิ่งดูเหมือนว่าฉันเป็นลูกหมาหลงทาง , ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนหัวช้าในเกือบทุกเรื่องยกเว้นเวลาเรียน อาจจะเป็นเพราะเวลาเรียนฉันมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนล่ะมั้ง แต่ถ้าคุยกับคนอื่นน่ะหรอ? ฉันมักจะเป็นคนที่ “หา?” หรือ “อะไรนะ?” อยู่เสมอๆ ที่สำคัญคือฉันจะยิ่งหัวช้าไปอีกในเรื่องรักๆใคร่ๆ จนเพื่อนบางคนถามว่าฉันโง่จริงหรือแกล้งโง่กันแน่ แต่ฉันว่าเรื่องแบบนี้ฉันพูดได้เต็มปากอย่างไม่อายว่าฉันโง่จริงๆนะ เฮ้อ , ฉันเป็นคนสดใสและมองโลกในแง่ดี นั่นยิ่งเหมือนลูกหมาเข้าไปใหญ่เลย อะไรๆก็เป็นสิ่งสวยงามไปหมดในสายตาฉัน ถ้าอยากให้ครบสูตรด้วย ก็คงต้องบอกว่าฉันไม่ชอบวันฝนตกเพราะมันหม่นหมอง ฉันไม่ชอบความเจ็บปวดและไม่ชอบทนดูคนอื่นเจ็บปวด ฉันกลัวเลือดเพราะมันคือสัญลักษณ์ของความเจ็บปวด ฉันขี้แยกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ฉันไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง บลาๆๆ ฉันดูเหมือนนางเอกนิยายรักหวานแหววมากพอรึยัง? ฮ่ะๆ ก็ฉันมันอ่อนต่อโลกอย่างที่ใครๆเขาว่ากันไง , จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าฉันเองก็เข้มแข็งและมีจุดยืนเป็นของตัวเองเหมือนกันนะ ฉันมีขอบเขตของทุกสิ่ง ความอดทน,ความพยายาม,ความใจเย็น,หรือแม้กระทั่งความอ่อนแอ ถ้าฉันจะสู้ขึ้นมาสักครั้งล่ะก็ ฉันก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาตามที่สะสมไว้ข้างใน...

     

    ๕. ชื่ออิมเมจ

    : ซันนี่ แห่งยุคของเด็กสาว Girls’ Generation.

     

    ๖. คู่ของคุณ

    : ยางซึงโฮ (ช่วงนี้ติดตระกูลยางจริงๆ ฮ่าๆๆ)

     

    ๗. อายุ

    : 22 ปี

     

    ๘. อาชีพ

    : นักศึกษามหาวิทยาลัยมยองมุนชั้นปีที่ 4

     

    ๙. ลักษณะนิสัย

    : ผมคือใคร? ผมคือคนที่คนทั้งมหาลัยรู้จัก หึ แต่ผมเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะเหตุผลไหนมากกว่า ระหว่างการที่ผมเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยมยองมุนหรือการที่ผมเป็นอัจฉริยะที่มีไอคิวถึง 200 กันแน่ แต่ที่แน่ๆคือผมไม่ใช่คนประเภทที่จะขยันเรียนหรืออะไรเพราะผมฉลาด ผมไม่มีเป้าหมายชีวิตด้วยซ้ำเพราะคนรอบข้างเอาความคิดโน่นนี่มายัดเยียดใส่ผมมากเกินจนผมตัดสินใจเรื่องอนาคตตัวเองไม่ได้ ผมจึงเลิกที่จะสนใจมัน แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างไร้สาระไปวันๆ แต่ผมไม่ใช่ลูกคุณหนูประเภทผู้ชายเย็นชาเหมือนในหนังหรอกนะ ถึงผมจะโหด(ไม่)หน่อยก็เถอะ ผมเฮฮากับเพื่อนฝูงได้เสมอๆ แต่ก็พร้อมที่จะชิ่งออกมาคนเดียวเมื่อพวกเขาทำอะไรให้ไม่พอใจได้เช่นกัน ผมยังคงถือคติที่ว่าคนเพียบพร้อมอย่างผมน่ะอยู่คนเดียวก็ได้สบายดี ถึงผมจะมีปู่ฐานะโคตรดีทั้งคนแต่ผมก็ยังขาดความอบอุ่นไม่น้อย เพราะว่าผมกำพร้าพ่อแม่นั่นเอง ผมมีปมในใจ นั่นทำให้ผมชอบระบายอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆของตัวเองใส่คนอื่นตลอดเวลา แน่นอนว่าเวลาผมอารมณ์เสียนี่ผมอาละวาดพอดูเลยล่ะ ผมโมโหร้ายนี่นา แม้แต่ผู้หญิงผมก็คงไม่ไว้หน้า แต่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมยกเว้น ผมโกรธเธอคนนี้ไม่ลง และดูเหมือนเธอจะเป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของผม เธอชื่อฮัมอึนจอง เธอคือคนที่ควบคุมผมได้ไม่ให้ผมกลายเป็นเด็กมีปัญหามากกว่านี้ เพราะเธอผมจึงมีมุมที่อ่อนโยน ทำตัวเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากขึ้น และผมก็รู้จักที่จะรักใครด้วย ที่สำคัญคือ..เพราะเธอ ทำให้ผมแพ้สิ่งเดียวในตัวผู้หญิง นั่นก็คือความน่ารัก ผมแพ้ผู้หญิงที่น่ารักจากใจจริง

     

    ๑๐. รูปอิมเมจคุณ


    ๑๑. รูปอิมเมจคู่ของคุณ


    ๑๒. ตีมสตอรี่ที่คุณเลือก

    : Airport : สนามบิน

     

    ๑๓. ตีมสตอรี่ของคุณเกี่ยวข้องกับคุณหรือคู่อย่างไร

    : Hwarang says;

     

    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าฉันเป็นคนเกาหลีแต่ฉันเกิดและโตในเมืองไทย ครอบครัวของฉันอยู่ที่ภูเก็ต พวกเขาเปิดธุรกิจสนามกอล์ฟที่ตอนนี้กำลังรุ่งโรจน์ เพราะในภูเก็ตมีคนเกาหลียั้วเยี้ยไปหมด - - ส่วนฉันอยู่หอพักที่กรุงเทพฯ และกำลังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังในชั้นปีที่สี่ ศึกษาเกี่ยวกับประเทศเกาหลีโดยตรง แน่นอนว่าพ่อแม่คือคนที่ยัดเยียดให้ฉันเรียนเพื่อหวังว่าจะให้ฉันรักบ้านเกิด แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเกิดที่ภูเก็ตนะ -0- ช่างเถอะ ฉันรู้แต่ว่าในปีนี้ที่ฉันกำลังจะขึ้นปีสี่ ฉันต้องเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปยังประเทศเกาหลี เพื่อไปทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษาที่นั่น และฉันก็ถูกบรรจุลงในมหาวิทยาลัยมยองมุนชื่อดัง ใช่แล้ว...แม้แต่คำว่ามยองมุนยังแปลว่ามีชื่อเสียงเลย มหาลัยนี่มันจะดังสักแค่ไหนกัน

     

    เรื่องมันเกิดขึ้นด้วยความซวยหรือดวงของฉันที่มันไม่ถูกกับประเทศบรรพบุรุษฉันก็ไม่แน่ใจ รู้เพียงแต่ว่าเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ฉันเหยียบเท้าลงบนแผ่นดินนี้ก็มีปัญหาจนได้ ฉันเดินทางมาที่เกาหลี แต่แน่นอนว่ามหาลัยที่ไทยไม่ได้ให้ทุนฉันเพียงคนเดียวเป็นแน่ มีนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกหลายคนเดินทางมาด้วย และมหาลัยมยองมุนจะมีรถมารับฉันที่ประตูทางออกสนามบินอินชอน ตอนที่คิดได้อย่างนั้นฉันก็วิ่งสุดชีวิตเพื่อหาทางให้ตัวเองไม่ตกรถ แต่ความซวยก็พาให้ฉันหลงทางในสนามบินกว้างใหญ่แห่งนี้เสียแล้ว

     

    แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นเมื่อฉันวิ่งไปชนชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ที่สำคัญคือเขาดูท่าทางมีอายุมากพอดูด้วย เมื่อคุณลุงล้มลงฉันก็ตกใจแล้วช่วยพยุงขึ้น แต่ใครอีกคนในที่เกิดเหตุก็ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางของเขาผลักหน้าผากฉันอย่างไม่ใยดี ที่สำคัญคือเขาหน้าตาดีมากเลยล่ะ ผิดกับหน้าตานั้นคือนิสัยของเขา แค่ฉันชนคุณลุงโดยไม่ตั้งใจ เขาก็ด่าฉันฉอดๆอย่างกับว่าฉันผิดอะไรนักหนา มันจะไม่น่าโมโหไปกว่านั้นถ้าหากเหตุผลที่เขาด่าฉันไม่ใช่ “นี่เธอ แค่ต้องเดินทางกับคุณปู่ฉันก็เบื่อจะตายแล้ว นี่เธอยังหาเรื่องให้ฉันต้องพยุงท่านต่อไปอีกหรอ?” คำเดียวที่ฉันนึกได้คือคำว่าอกตัญญู ผู้ชายอะไรนิสัยเสียชะมัด แต่คุณปู่ของเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ แถมฉันยังเห็นว่าคุณปู่แข็งแรงสบายดีซะอีก

     

    แค่นั้นยังไม่พอ นายนี่เขาดึงฉันออกมาจากวงสนทนาแล้วก็แสดงท่าทีโกรธมาก ท่าทางว่าเขาจะอารมณ์เสียเรื่องอื่นมาก่อนแฮะ อยู่ดีๆเขาก็ถามประวัติฉันแทบทุกเรื่อง จนสุดท้ายเขาก็ได้เรื่องว่าฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปเรียนที่มหาลัยเดียวกับเขา?! มิหนำซ้ำเขายังซ้ำเติมอีกว่า “อ๋อ เพราะอย่างนี้สำเนียงของเธอเลยฟังดูปัญญาอ่อนกว่าคนเกาหลีปกติทั่วไป”

     

    นายนี่ขุดเรื่องบ้าบอเรื่องหนึ่งขึ้นมาพูด เขาบอกว่า “ท่าทางว่าปีนี้คงจะสนุกแน่ ยินดีต้อนรับสู่มหาวิทยาลัยมยองมุนนะ เธอได้รับเกียรติเป็นเบ๊ประจำปีของนายยางซึงโฮคนนี้” เบ๊? ให้ตายฉันก็ไม่มีทางทำใจเชื่อว่าเขาวางมาดแค่ไหนทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักกัน ฉันไม่เกลียดเขาหรอกนะ แต่ฉันยอมรับว่าฉันกลัว ให้ตายสิ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหนึ่งปีของฉันที่นี่กันนะ

     

    หลังจากที่จัดการอะไรๆเรียบร้อยและได้เข้าเรียนที่มยองมุนแล้ว ฉันก็ค้นพบว่าฉันกลายเป็นคนดังภายในพริบตา ไม่ใช่เพราะฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่เพราะฉันเป็นเบ๊ของนายซึงโฮ และจากการฟังเรื่องเล่าจากเพื่อนใหม่ของฉันนั้น เบ๊ คือสิ่งที่ซึงโฮทำเป็นประเพณีทุกปีตั้งแต่ปีหนึ่ง ในวันแรกของการเปิดเรียนเขาจะจ้องจับผิดหาคนที่เขาไม่ถูกชะตาด้วยมากที่สุดมาเป็นเบ๊ของเขา และมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้สำเร็จผู้ถูกเลือก มีทางเดียวคือการหายไปจากโลกของนายซึงโฮเท่านั้น แต่ฉัน! ฉันยังต้องอยู่ที่นี่เพิ่อทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษานะ! หมายความว่าฉันต้องยอมรับเป็นเบ๊หมอนี่ และให้หมอนี่ใช้งานพร้อมๆกับแกล้งสารพัด การแกล้งแต่ละอย่างก็ดูท่าว่าเขาจะเป็นตัวพ่อด้วยน่ะสิ ช่างสรรหามาเหลือเกิน... แถมฉันยังได้เกียรติเป็น “เบ๊คนแรกที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกที่โรงเรียน” พระเจ้า...

     

    เมื่อเวลาผ่านไป ฉันกลับกลายเป็นคนที่ได้เห็นเขาในมุมต่างๆที่คนอื่นไม่เคยเห็น ฉันมีบทบาทในชีวิตเขามาก แถมคนรอบกายเขาก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตของฉันด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเขาอย่างนายจีโอ ซังฮยอน อีจุน ชอลยอง หรือแม้กระทั่งเพื่อนสาวคนเดียวของเขาที่ชื่ออึนจอง... รวมไปถึงพี่สาวคนสวยของเขาที่ดูจะโปรดปรานฉันเป็นพิเศษด้วย เธอคือพี่คิวริ

     

    และนี่คือจุดเปลี่ยนแบบสามร้อยหกสิบองศาของชีวิตฉัน โนฮวารัง...

     

    ๑๔. ในหนึ่งวัน . คุณชอบช่วงเวลาไหนมากที่สุด พร้อมเหตุผล

    : ฮวารังชอบช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเป็นที่สุด เพราะเธอได้กลับมาที่สถานที่ที่เป็นบ้านของเธอ มันทำให้รู้สึกสบาย แถมเธอยังได้ทำอะไรที่อยากทำอย่างเช่นทำอาหาร อบขนม ทำความสะอาดหรือแต่งห้องนอนตัวเองอีกด้วย ก็เธอน่ะเป็นคนเรียบร้อยนี่!

     

     

     

     ขอบคุณสำหรับการออดิชั่นในครั้งนี้มากๆ เลยค่ะ นอมู ~ ซารางเฮ <3

    ขอบคุณที่มีบทความดีๆ แบบนี้ขึ้นมามากๆ เลยเช่นกันค่ะ นอมู คัมซาแฮ <3

    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=606999

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×