ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พิธีกรรม
ท่านเคราทได้พาคาล่ากับมาเรียมายังปราสาท ท่านเคราทได้ให้โฮยองกับเฮเลนคอยดูแลพวกเราอยู่ ปราสาทแห่งนี้มีสีดำมืดมิดราวราตรีตกแต่งด้วยของที่มีสีเงินดูแปลกตา โฮยองพาพวกเราไปห้องที่ท่านเคราทจัดเตรียมไว้ให้ พวกเราถามโฮยองว่า แล้วพวกเขาไปไหนกันหมดเธอตอบว่า
“ แล้วพวกคุณจะรู้เอง ให้พวกท่านแต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่ดิฉันก็จะพาพวกท่านไปที่ห้องพิธีกรรม “
คาล่าถามว่า “ พิธีกรรมอะไร “
โฮยอง “ เดี๋ยวพวกท่านก็รู้เอง “
คาล่าหันไปหามาเรียทั้งสองมีสีหน้าที่งงสุดขีด แต่จะมีอะไรอีกละนอกจากพวกที่เราเจอมาก็คงไม่แปลกหรอกมั้งนี้อาจเป็นคำถามในใจของพวกเธอ  ที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ในตอนนี้ ตอนนี้ทั้ง 2 ตามโฮยองเข้ามาในห้อง ห้องนี้น่าจะพูดว่า กว้างอะไรปานนี้ เพราะห้องนี้สามารถเอาบ้านสักหลังสองหลัง เข้ามาในห้องนี้ได้สบายเลย ห้องนี้ก็ตกแต่งด้วยโทนสีดำและเงินเช่นเดียวกันมีเตียงอยู่สองเตียงตู้หนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้รับแขกและโซฟานุ่มๆ ตอนนี้พวกเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า คาล่ากับมาเรียหันไปมองกระจกบานใหญ่เป็นต้องอึ้งเพราะเสื้อผ้าที่พวกเธอใส่เป็นชุดสีดำกระโปรงยาวมีเครื่องประดับสีเงิน คาล่ามองหน้าตัวเองในกระจกคิดว่าผมสีดำกับตาสีดำเข้ากับชุดนี้ดีจัง ส่วนมาเรียก็มองผมสีทองกับตาสีฟ้านั้นดูดีมากนะ ถ้าเธอคิดว่าตนไม่หลงตัวเองมากเกินไป ( โห คุณพี่อันนี้เขาเรียกว่าไม่หลงตัวเองหรอกค่ะ แต่ต้องพูดว่า แค่คำว่าหลงตัวเองมันน้อยไป #_# )
ก๊อก ก๊อก  พวกเธอไปเปิดประตูก็พบโฮยองบอกว่า “ พวกคุณพร้อมหรือยังค่ะ “
” พร้อมอะไรละ “ คาล่า/มาเรียถามพร้อมกัน
“ พร้อมสำหหรับพิธีกรรมที่ทำให้พวกคุณเป็นพวกเดียวกับเราและทำให้พวกคุณมีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้นอีกเพราะพวกคุณตัดสินใจแล้วนะค่ะ”
คาล่าหันไปมองมาเรียด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกเพราะถ้าพวกเราอยู่ที่นี่ตลอดไปแล้วโลกที่พวกเราอยู่มันจะเป็นยังไงแล้วครอบครัวพวกเราล่ะจะทำยังไง? ก่อนที่คาล่าจะพูดอะไร
มาเรียก็ถามว่า “ แล้วพวกเราทำไมถึงมาที่นี่ได้และทำไมพวกเราต้องมาด้วย โฮยองคุณรู้หรือเปล่า? แล้วพวกเราจะได้เจอครอบครัวหรือเปล่า “
โฮยองตอบว่า “ ที่พวกคุณมาที่นี่ได้เพราะหนังสือเล่มนั้น มันเป็นหนังสือที่ตรวจสอบพลังว่ามีมากเท่าไร แล้วมันก็จะให้หนังสือเล่มไหนมา ที่พวกคุณต้องมาเพราะจะเกิดสงครามใหญ่ระหว่างพวกเราและชนเผ่าต้องสาปมันจะทำให้มิตติเวลาบิดเบือนจนอาจทำให้ชนเผ่าร้ายกาจที่ชอบกินมนุษย์หลุดออกมาพวกเราเลยต้องเพิ่มกำลังให้มากขึ้น ดังนั้นพวกเราเลยต้องหาพวกที่มีพลังมาเป็นพวกของเรา และต้องส่งไปเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจทำให้พลังสมบูรณ์มากที่สุดเราเลยต้องดึงพลังออกมาแล้วแจกแจงว่าควรเรียนอะไรบาง นั้นคือสิ่งที่พวกคุณต้องทำ พวกคุณสามารถกลับไปโลกใบที่คุณมาได้แต่พลังนั้นก็จะติดตัวคุณตลอดไป ถ้าเกิดสงครามแล้วพวกเราแพ้ เมืองใหญ่น้อยในดินแดนนี้และแม้แต่โลกของพวกคุณเองก็ต้องตกอยู่กับความมืดมิดตลอดกาล แต่ถ้าพวกคุณไม่ต้องการเป็นแบบพวกเรานั้นเราก็บังคับพวกคุณไม่ได้เพราะมันขึ้นอยู่กับความตัดสินใจของคุณเอง หากคุณเป็นพวกเราอาจไม่ได้กลับไปเป็นมนุษย์อีกเลยและพูดได้ว่าแม้แต่นรกหรือว่าสววค์ก็ไม่อาจมีที่ให้คุณอยู่  “
คาล่ากับมาเรียรู้แล้วว่าพวกเธอควรตอบตกลงหากสงครามครั้งนี้เกิดแพ้เพียงเพราะกำลังคนไม่พอ โลกที่เธอจะกลับอาจไม่มีอีกแล้ว หากพลังอันน้อยนิดที่พวกเธอมีอยู่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้บ้างเพียงเล็กน้อย พวกเธอก็ยอม แม้พลังนั้นอาจทำให้เธอถูกเรียกเป็นอย่างอื่นแทนที่จะเป็นมนุษย์พวกเธอก็ยอม เพราะนี้เป็นสิ่งที่พวกเธอพอช่วยได้เท่านั้นและพวกเธอจะไม่มีวันถอยหลังเด็ดขาด 
คาล่าถามโฮยองว่า “แล้วมีคนอื่นก่อนเรามามากหรือเปล่าค่ะ “
โอยองก็ตอบว่า “ มีค่ะ ก็ประมาณ100 คนนะค่ะที่อยู่ที่นี้แล้วมีพวกที่เดินทางไปแล้วอีกประมาณ ..500 คน และพวกคุณเป็นพวกสุดท้ายแล้วค่ะ อ่ะเปิดประตูไปทางนั้นเลยนะค่ะจะมีคนบอกเองว่าควรทำอย่างไหร่ สนุกมากเลยค่ะที่ได้คุยกับพวกคุณ ถ้าทำพิธีเสร็จแล้วคงได้คุยกันอีกนะค่ะ “
ว่าแล้วโฮยองก็เดินไปทางอื่น พวกเธอตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูกเพราะพวกเธอไม่รู้ว่าเขาจะให้พวกเธอทำอะไร พอผลักประตูออกไปก็พบผู้ชายคนที่มีดวงตาสีน้ำเงิน ผมสีชา แต่งตัวเหมือนนักวิชาการ กำลังกวักมือเรียกให้พวกเรามาทางนี้ ในห้องนั้นมีวงกลมเวทมนตร์ อยู่2วง และโต๊ะที่มีขวดตั้งอยู่ในขวดนั้นมีของใสๆสีแดง และมีโต๊ะนั่ง ตั้งอยู่เป็นแถวๆแล้วมีประตูหนึ่งที่พวกเธอรู้สึกเหมือนกับมีคนจ้องมองอยู่ พวกเธอไม่รู้ต้องทำอย่างไรจนกระทั่งเสียงผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมา ว่า
“ สวัสดีพวกเธออาจรู้สึกแปลกที่หน่อยนะ ฉัน ไบรอั้น กิลอาท ฉันรู้จักชื่อพวกเธอแล้วไม่ต้องแนะนำตัว เอาล่ะ ให้พวกเธอหยิบขวดพวกนั้นมาดื่ม คนล่ะหนึ่งขวดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามคาย แล้วให้เธอเข้าไปอยู่ในนั้นสะ แล้วมันอาจจะทำให้ชาๆหรือรู้สึกหายใจไม่ออกไม่ต้องห่วงนะเพราะมันเป็นแค่เดี๋ยวเดียวเอง แล้วมันจะมีสัญญาลักษณ์ว่าพวกเธออยู่สายไหน มีสาย เหลือง ขาว น้ำเงิน ดำ-ทอง สัญญาลักษณ์ที่แขนและมือของเธอ แล้วพวกเธอก็รู้เองไม่ต้องสงสัยพอเลือกสายเสร็จแล้ว เราจะให้พวกเธอพักผ่อนก่อนและค่อยเดินทางไปพร้อมพวกที่มาที่นี่เหมือนกันส่วนเรื่องเสื้อผ้าฉันคิดว่าคงมีชุดสำรองให้ก่อนแล้วให้พวกเธอไปหาซื้อมามัง เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า”
เขาพูดมาราวกับพูดเรื่องนี้ จนมันไปในสมองด้วยซ้ำ พวกเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่ทำให้เสียเวลาเปล่าเลยเพราะเขาพูดแบบ ไม่หายใจด้วยซ้ำ พวกเธอเองก็อยากจะนอนอยู่จะแย่แล้ว พวกเธอเลยทำตามอย่างว่องไวเมื่อตอนที่เธอดื่มมันเข้าไปเหมือนน้ำใสๆอุ่นลงคอเลยมันเหมือนกับว่าหายใจไม่ออกยังกับขาดอากาศ แต่มันก็เหมือนกับที่ ไบรอั้น บอกเพราะมันก็ค่อยหายไป เกิดสัญญาลักษณ์ที่ หลังมือลามมาถึงแขนมันทำให้รู้สึกแสบๆคันอยู่บ้างแต่พวกเธอพยายามที่จะไม่เกามัน สัญญาลักษณ์เริ่มปรากฏ ค่อยเป็นรูปร่าง ตรงแขนมีอักขระจาลึกอยู่ต่อมาหลังมือของพวกเธอก็ปรากฏเป็นรูป ดอกบัวสีดำข้างใต้ดอกบัวเป็นจักรสีทอง เมื่อไบรอั้นเห็นอุปทานมาอย่างตกใจว่า
“ โอ้ !!.. ปิศาจให้ตายเถอะนี่มันสัญญาลักษณ์ ดำ-ทองเผ่าราชันย์ผู้มีอำนาจแล้วทำไม..  ? พวกเธอถึงมีได้ล่ะ โอ้ พวกเราได้เผ่าที่ใกล้หายไปกลับมาตั้ง 2 คนแล้ว นี่ข้าคงไม่ฝันไปหรอกนะ “
คาล่ามาเรียตกใจในการกระทำของเขาผู้นั้น ไบรอั้นตรงรี่มาหาพวกเธอแล้วบอกว่าพวกเธอได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในสายแห่งราชันย์ ตามข้ามา จะพาไปพบท่านเคราท เขาพูดพร้อมเปิดประตูบานนั้น พวกจึงรู้ว่าที่แท้ท่านเขามองพวกเธออยู่นี้เอง
ท่านเคราทพูดว่า “ ดีมากเลยที่พวกเธออยู่สายนี้แต่มีปัญหาอยู่ที่ว่า พวกเธอจะพักที่ไหนเพราะสายนี้ไม่มีคนมาเรียนเลยน่าจะประมาณ 100 ปีแล้วนะฉันว่าพวกเธอคงต้องไปพักบ้านของสายอื่นก่อน ส่วนเรื่องการเรียนนั้นฉันจะไปติดต่อกับอาจารย์เอง ฉันยินดีมากที่ พวกเธออยู่สายเดียวกับฉันเพราะไม่มีใครเลยนอกจากเรา2คนแต่ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะมันเพิ่มพวกเธอมาด้วยเป็น 4 คนก็ยังดีนะ“
“ ฉันว่าพวกเธอควรพักผ่อนก่อน เพราะพรุ่งนี้ก็เดินทางแล้วใช่ไม ส่วนเรื่องเสื้อผ้าข้าวของอุปกรการเรียนทางเราจะจัดให้ส่วนเรื่องชุดนักเรียนนั้นเราเตรียมไว้ให้พวกเธอคนละ 3ชุด ชุดไปเวทจะมีให้ 5 ชุด ฉันว่าพวกเธออาจไปเดินหาซื้อได้นะ เพราะวันหยุดเขาจะให้พักผ่อนตามใจชอบส่วนเรื่องเงินเราจะมีให้ไม่ต้องห่วงแล้วเราจะเพิ่มให้ตามความสามารถของแต่ละคน ฉันว่าพวกเธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ “ พวกเธอเพียงกล่าว ลาตรีสวัสดี แล้วรีบกลับห้องของพวกเธอ
ตอนนี้พวกเธออยู่บนที่นอนอันแสนนุ่นและ คิดใคร่ควรในสิ่งที่ผ่านไปราวเรื่องโกหก พวกเธอไม่รู้ว่าอนาคตของพวกเธอจะเป็นยังไงต่อไป คิดไปคิดมาพวกเธอก็หลับสนิท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
  ถ้ารักถ้าชอบกรุณา แสดงความคิดเห็นด้วย
“ แล้วพวกคุณจะรู้เอง ให้พวกท่านแต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่ดิฉันก็จะพาพวกท่านไปที่ห้องพิธีกรรม “
คาล่าถามว่า “ พิธีกรรมอะไร “
โฮยอง “ เดี๋ยวพวกท่านก็รู้เอง “
คาล่าหันไปหามาเรียทั้งสองมีสีหน้าที่งงสุดขีด แต่จะมีอะไรอีกละนอกจากพวกที่เราเจอมาก็คงไม่แปลกหรอกมั้งนี้อาจเป็นคำถามในใจของพวกเธอ  ที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ในตอนนี้ ตอนนี้ทั้ง 2 ตามโฮยองเข้ามาในห้อง ห้องนี้น่าจะพูดว่า กว้างอะไรปานนี้ เพราะห้องนี้สามารถเอาบ้านสักหลังสองหลัง เข้ามาในห้องนี้ได้สบายเลย ห้องนี้ก็ตกแต่งด้วยโทนสีดำและเงินเช่นเดียวกันมีเตียงอยู่สองเตียงตู้หนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้รับแขกและโซฟานุ่มๆ ตอนนี้พวกเธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า คาล่ากับมาเรียหันไปมองกระจกบานใหญ่เป็นต้องอึ้งเพราะเสื้อผ้าที่พวกเธอใส่เป็นชุดสีดำกระโปรงยาวมีเครื่องประดับสีเงิน คาล่ามองหน้าตัวเองในกระจกคิดว่าผมสีดำกับตาสีดำเข้ากับชุดนี้ดีจัง ส่วนมาเรียก็มองผมสีทองกับตาสีฟ้านั้นดูดีมากนะ ถ้าเธอคิดว่าตนไม่หลงตัวเองมากเกินไป ( โห คุณพี่อันนี้เขาเรียกว่าไม่หลงตัวเองหรอกค่ะ แต่ต้องพูดว่า แค่คำว่าหลงตัวเองมันน้อยไป #_# )
ก๊อก ก๊อก  พวกเธอไปเปิดประตูก็พบโฮยองบอกว่า “ พวกคุณพร้อมหรือยังค่ะ “
” พร้อมอะไรละ “ คาล่า/มาเรียถามพร้อมกัน
“ พร้อมสำหหรับพิธีกรรมที่ทำให้พวกคุณเป็นพวกเดียวกับเราและทำให้พวกคุณมีพลังอำนาจมากยิ่งขึ้นอีกเพราะพวกคุณตัดสินใจแล้วนะค่ะ”
คาล่าหันไปมองมาเรียด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกเพราะถ้าพวกเราอยู่ที่นี่ตลอดไปแล้วโลกที่พวกเราอยู่มันจะเป็นยังไงแล้วครอบครัวพวกเราล่ะจะทำยังไง? ก่อนที่คาล่าจะพูดอะไร
มาเรียก็ถามว่า “ แล้วพวกเราทำไมถึงมาที่นี่ได้และทำไมพวกเราต้องมาด้วย โฮยองคุณรู้หรือเปล่า? แล้วพวกเราจะได้เจอครอบครัวหรือเปล่า “
โฮยองตอบว่า “ ที่พวกคุณมาที่นี่ได้เพราะหนังสือเล่มนั้น มันเป็นหนังสือที่ตรวจสอบพลังว่ามีมากเท่าไร แล้วมันก็จะให้หนังสือเล่มไหนมา ที่พวกคุณต้องมาเพราะจะเกิดสงครามใหญ่ระหว่างพวกเราและชนเผ่าต้องสาปมันจะทำให้มิตติเวลาบิดเบือนจนอาจทำให้ชนเผ่าร้ายกาจที่ชอบกินมนุษย์หลุดออกมาพวกเราเลยต้องเพิ่มกำลังให้มากขึ้น ดังนั้นพวกเราเลยต้องหาพวกที่มีพลังมาเป็นพวกของเรา และต้องส่งไปเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจทำให้พลังสมบูรณ์มากที่สุดเราเลยต้องดึงพลังออกมาแล้วแจกแจงว่าควรเรียนอะไรบาง นั้นคือสิ่งที่พวกคุณต้องทำ พวกคุณสามารถกลับไปโลกใบที่คุณมาได้แต่พลังนั้นก็จะติดตัวคุณตลอดไป ถ้าเกิดสงครามแล้วพวกเราแพ้ เมืองใหญ่น้อยในดินแดนนี้และแม้แต่โลกของพวกคุณเองก็ต้องตกอยู่กับความมืดมิดตลอดกาล แต่ถ้าพวกคุณไม่ต้องการเป็นแบบพวกเรานั้นเราก็บังคับพวกคุณไม่ได้เพราะมันขึ้นอยู่กับความตัดสินใจของคุณเอง หากคุณเป็นพวกเราอาจไม่ได้กลับไปเป็นมนุษย์อีกเลยและพูดได้ว่าแม้แต่นรกหรือว่าสววค์ก็ไม่อาจมีที่ให้คุณอยู่  “
คาล่ากับมาเรียรู้แล้วว่าพวกเธอควรตอบตกลงหากสงครามครั้งนี้เกิดแพ้เพียงเพราะกำลังคนไม่พอ โลกที่เธอจะกลับอาจไม่มีอีกแล้ว หากพลังอันน้อยนิดที่พวกเธอมีอยู่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้บ้างเพียงเล็กน้อย พวกเธอก็ยอม แม้พลังนั้นอาจทำให้เธอถูกเรียกเป็นอย่างอื่นแทนที่จะเป็นมนุษย์พวกเธอก็ยอม เพราะนี้เป็นสิ่งที่พวกเธอพอช่วยได้เท่านั้นและพวกเธอจะไม่มีวันถอยหลังเด็ดขาด 
คาล่าถามโฮยองว่า “แล้วมีคนอื่นก่อนเรามามากหรือเปล่าค่ะ “
โอยองก็ตอบว่า “ มีค่ะ ก็ประมาณ100 คนนะค่ะที่อยู่ที่นี้แล้วมีพวกที่เดินทางไปแล้วอีกประมาณ ..500 คน และพวกคุณเป็นพวกสุดท้ายแล้วค่ะ อ่ะเปิดประตูไปทางนั้นเลยนะค่ะจะมีคนบอกเองว่าควรทำอย่างไหร่ สนุกมากเลยค่ะที่ได้คุยกับพวกคุณ ถ้าทำพิธีเสร็จแล้วคงได้คุยกันอีกนะค่ะ “
ว่าแล้วโฮยองก็เดินไปทางอื่น พวกเธอตื่นเต้นยังไงบอกไม่ถูกเพราะพวกเธอไม่รู้ว่าเขาจะให้พวกเธอทำอะไร พอผลักประตูออกไปก็พบผู้ชายคนที่มีดวงตาสีน้ำเงิน ผมสีชา แต่งตัวเหมือนนักวิชาการ กำลังกวักมือเรียกให้พวกเรามาทางนี้ ในห้องนั้นมีวงกลมเวทมนตร์ อยู่2วง และโต๊ะที่มีขวดตั้งอยู่ในขวดนั้นมีของใสๆสีแดง และมีโต๊ะนั่ง ตั้งอยู่เป็นแถวๆแล้วมีประตูหนึ่งที่พวกเธอรู้สึกเหมือนกับมีคนจ้องมองอยู่ พวกเธอไม่รู้ต้องทำอย่างไรจนกระทั่งเสียงผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมา ว่า
“ สวัสดีพวกเธออาจรู้สึกแปลกที่หน่อยนะ ฉัน ไบรอั้น กิลอาท ฉันรู้จักชื่อพวกเธอแล้วไม่ต้องแนะนำตัว เอาล่ะ ให้พวกเธอหยิบขวดพวกนั้นมาดื่ม คนล่ะหนึ่งขวดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามคาย แล้วให้เธอเข้าไปอยู่ในนั้นสะ แล้วมันอาจจะทำให้ชาๆหรือรู้สึกหายใจไม่ออกไม่ต้องห่วงนะเพราะมันเป็นแค่เดี๋ยวเดียวเอง แล้วมันจะมีสัญญาลักษณ์ว่าพวกเธออยู่สายไหน มีสาย เหลือง ขาว น้ำเงิน ดำ-ทอง สัญญาลักษณ์ที่แขนและมือของเธอ แล้วพวกเธอก็รู้เองไม่ต้องสงสัยพอเลือกสายเสร็จแล้ว เราจะให้พวกเธอพักผ่อนก่อนและค่อยเดินทางไปพร้อมพวกที่มาที่นี่เหมือนกันส่วนเรื่องเสื้อผ้าฉันคิดว่าคงมีชุดสำรองให้ก่อนแล้วให้พวกเธอไปหาซื้อมามัง เอาล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า”
เขาพูดมาราวกับพูดเรื่องนี้ จนมันไปในสมองด้วยซ้ำ พวกเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่ทำให้เสียเวลาเปล่าเลยเพราะเขาพูดแบบ ไม่หายใจด้วยซ้ำ พวกเธอเองก็อยากจะนอนอยู่จะแย่แล้ว พวกเธอเลยทำตามอย่างว่องไวเมื่อตอนที่เธอดื่มมันเข้าไปเหมือนน้ำใสๆอุ่นลงคอเลยมันเหมือนกับว่าหายใจไม่ออกยังกับขาดอากาศ แต่มันก็เหมือนกับที่ ไบรอั้น บอกเพราะมันก็ค่อยหายไป เกิดสัญญาลักษณ์ที่ หลังมือลามมาถึงแขนมันทำให้รู้สึกแสบๆคันอยู่บ้างแต่พวกเธอพยายามที่จะไม่เกามัน สัญญาลักษณ์เริ่มปรากฏ ค่อยเป็นรูปร่าง ตรงแขนมีอักขระจาลึกอยู่ต่อมาหลังมือของพวกเธอก็ปรากฏเป็นรูป ดอกบัวสีดำข้างใต้ดอกบัวเป็นจักรสีทอง เมื่อไบรอั้นเห็นอุปทานมาอย่างตกใจว่า
“ โอ้ !!.. ปิศาจให้ตายเถอะนี่มันสัญญาลักษณ์ ดำ-ทองเผ่าราชันย์ผู้มีอำนาจแล้วทำไม..  ? พวกเธอถึงมีได้ล่ะ โอ้ พวกเราได้เผ่าที่ใกล้หายไปกลับมาตั้ง 2 คนแล้ว นี่ข้าคงไม่ฝันไปหรอกนะ “
คาล่ามาเรียตกใจในการกระทำของเขาผู้นั้น ไบรอั้นตรงรี่มาหาพวกเธอแล้วบอกว่าพวกเธอได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในสายแห่งราชันย์ ตามข้ามา จะพาไปพบท่านเคราท เขาพูดพร้อมเปิดประตูบานนั้น พวกจึงรู้ว่าที่แท้ท่านเขามองพวกเธออยู่นี้เอง
ท่านเคราทพูดว่า “ ดีมากเลยที่พวกเธออยู่สายนี้แต่มีปัญหาอยู่ที่ว่า พวกเธอจะพักที่ไหนเพราะสายนี้ไม่มีคนมาเรียนเลยน่าจะประมาณ 100 ปีแล้วนะฉันว่าพวกเธอคงต้องไปพักบ้านของสายอื่นก่อน ส่วนเรื่องการเรียนนั้นฉันจะไปติดต่อกับอาจารย์เอง ฉันยินดีมากที่ พวกเธออยู่สายเดียวกับฉันเพราะไม่มีใครเลยนอกจากเรา2คนแต่ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะมันเพิ่มพวกเธอมาด้วยเป็น 4 คนก็ยังดีนะ“
“ ฉันว่าพวกเธอควรพักผ่อนก่อน เพราะพรุ่งนี้ก็เดินทางแล้วใช่ไม ส่วนเรื่องเสื้อผ้าข้าวของอุปกรการเรียนทางเราจะจัดให้ส่วนเรื่องชุดนักเรียนนั้นเราเตรียมไว้ให้พวกเธอคนละ 3ชุด ชุดไปเวทจะมีให้ 5 ชุด ฉันว่าพวกเธออาจไปเดินหาซื้อได้นะ เพราะวันหยุดเขาจะให้พักผ่อนตามใจชอบส่วนเรื่องเงินเราจะมีให้ไม่ต้องห่วงแล้วเราจะเพิ่มให้ตามความสามารถของแต่ละคน ฉันว่าพวกเธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ “ พวกเธอเพียงกล่าว ลาตรีสวัสดี แล้วรีบกลับห้องของพวกเธอ
ตอนนี้พวกเธออยู่บนที่นอนอันแสนนุ่นและ คิดใคร่ควรในสิ่งที่ผ่านไปราวเรื่องโกหก พวกเธอไม่รู้ว่าอนาคตของพวกเธอจะเป็นยังไงต่อไป คิดไปคิดมาพวกเธอก็หลับสนิท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
  ถ้ารักถ้าชอบกรุณา แสดงความคิดเห็นด้วย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น