ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Dath Road

    ลำดับตอนที่ #2 : เผชิญโชคชะตา

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 48


    เมื่อพวกเธออ่านจบคาล่าถามมาเรียว่า



    “ มาเรียเธอเชื่อเรื่องพวกนี้หรือเปล่า ถ้าเธอไม่เชื่อฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไง แต่สำหรับฉัน ฉันคิดว่าหากเราไม่ลองก่อนเราจะรู้ได้ไง ”



    มาเรียพูดด้วยสีหน้าที่อมทุกข์เพราะเธอต้องอธิบายเรื่องอันตรายให้เพื่อนรักที่ชอบเสี่ยงโชคฟัง  



    “ นี่เธอคิดจะทำอะไรบ้าๆอีกแล้วนะ  ถึงเธอลองทำไป ได้เกิดเรื่องขึ้นหรอก หากเธอทำฉันก็ทำด้วย เพราะไม่แน่ว่าอาจเป็นของจริง เพราะเธอก็คงจำได้นะว่า ผู้หญิงที่ร้านหนังสือน่ะ….“



    คาล่า มีสีหน้าดีใจราวกับได้ของเล่นใหม่เพราะเธอชอบทำอะไรแผงๆ สะจนทำให้เพื่อนรักต้องเอือมระอา  >_<



    “ ดีเหมือนกันที่เธอตัดสินใจ อย่างนี้ ถ้าเธอไม่ตกลงฉันก็คงต้องทำคนเดียว ถึงกลัวก็เถอะ แต่ของสนุกน่ะ มันหายาก อ่ะเดี๋ยวก่อนถ้าเธอไม่แน่ใจ งั้นเอานี่ไปแล้วกัน มาพร้อมนะ “



    พวกเธอทั้ง 2 ค่อยๆใช้เข็มทิ่มไปที่นิ้ว แล้วเลือดก็ไหลออกมา ( อย่าคิดว่าพวกเธอ ซาดิษนะ เรื่องเลือดตกยางออกคาล่าโดนมาเยอะ ส่วนมาเรียโดนลูกหลงบ่อย นะ ฟ่อ *-* )



    พวกเธอจึงใช้เลือด หยดไปในสมุด  หยดเลือดค่อยๆหายไปจากสมุด แล้วมีแสงสีดำเกิดขึ้นพวกเธอตกใจมาก แล้วสลบไป ฟื้นมาเห็นทาง ทางหนึ่งที่มีสีดำ

    คาล่าหันมาถามมาเรียด้วยดวงตาที่จริงกว่าเมื่อก่อน ว่า



    “ เธอแน่ใจใช่ไหมที่จะไปกับฉัน “



    มาเรียก็ตอบรับกับคาล่าอย่างเต็มใจแม้เธอจะกลัวก็ตาม แต่ด้วยการที่เธอมีเพื่อนไปด้วยเธอจึงตอบอย่างมั่นใจว่า



    “ ถึงเธอจะเห็นฉันเป็นอย่างนี้ ฉันก็จะไปกับเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะไปกับเธอ “



    มาเรียตอบอย่างหนักแน่น



    คาล่าพูดว่า “ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็จะเชื่อใจกันนะ “



    หลังจากนั้นคาล่ากับมาเรียก็เดินจูงมือกันเดินเข้าไปในถนนเส้นนั้น พวกเธอมั่นใจแล้วว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเธอเป็นคนเลือกทางเดินเองไม่มีใครมาบังคับหรือเลือกให้ แม้เลือกผิดพวกเธอก็จะไม่โทษใคร แต่จะโทษตัวเองเท่านั้น ตอนนี้พวกเธอกำลังเดินไปตามเส้นทางที่เหมือนกำลังกลายเป็นอวกาศมีเพียงแสงไฟเล็กๆมากมายคล้ายหมู่ดาว แต่พอเดินมาไม่ไกลเท่าไหร่ หนังสือที่พวกเธอถือมานั้นเปลี่ยนเป็นบัตรที่มีสีดำ และ ทอง พวกเธอแปลกใจว่าทำไมมันกลับเป็นสิ่งนี้ แต่พวกเธอก็ไม่รู้ดี จึงใสเก็บบัตรนั้นไว้ในกระเป๋า แล้วพวกเธอก็เดินทางต่อไป พวกเธอเดินมาสุดถนนแล้วไม่สามารถเดินต่อได้ เพราะทางต่อไปเป็นแม่น้ำที่อยู่ในถ้ำ ที่มีแม่น้ำสีเงินดูน่ากลัว พวกเธอพยายามมองหาว่ามีเรือแถวนี้หรือเปล่า แล้วพวกเธอก็เห็นเรือลำหนึ่งจอดอยู่มันเป็นเรือพายเล็กๆ พวกเธอเดินไปหาเรือ บนเรือมีตะเกียงที่ยังไม่ได้จุดไฟ แล้วก็มีที่พาย 2 อัน พวกเธอพากันขึ้นไปบนเรือ

    มาเรียรู้สึกว่าทำไมมีเรืออยู่ที่นี่ มันไม่บังเอิญไปหน่อยเรอะ แต่เรือก็ไม่คิดอะไรมาก แล้วว่า



    “ นี่แล้วเจ้าของเรือไม่ว่าหรือ ที่เรามาเอาเรือของเขาไป  “



    คาล่าพูดด้วยสีหน้าที่ ไม่มีความกังวล ( ถ้ากังวลทุกเรื่องมีหวังแย่แน่ เพราะแม่คุณเขาทำเรื่องไว้มาก 0-0)



    “ เขาคงไม่ว่าหรอกน่า  เธอพายเป็นใช่ไหมมาเรีย ถ้าพายไม่เป็นแย่แน่ “



    “ไม่ต้องห่วงพายเป็น “ มาเรียตอบพร้อมส่ายหัว เธออยากเป็นคาล่าจังที่ไม่สนเรื่องอะไรเลย  



    พวกเธอจุดตะเกียงไว้บนหัวเรือ แสงไฟจากตะเกียงมีเพียงพอมองเห็นข้างหน้าไม่ไกลนัก พวกเธอพากันพายเรือไปเรื่อยๆ พออยู่กลางน้ำนั้นพวกเธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรจับตาดูอยู่ พวกเธอพยายามรีบพายให้ถึงฝั่งให้ได้ อีกเพียง 5 เมตรเท่านั้นที่จะถึงฝั่ง แต่แล้วจู่ๆเรือก็สั่น จนพวกเธอไม่สามารถพายต่อไปได้ แล้วพวกเธอก็รู้สึกผิดสังเกตตรงผนังถ้ำด้านหลัง พวกเธอจึงหันไปเจอสิ่งที่น่ากลัวมันเป็นตัวอะไรกันแน่ก็ไม่รู้ มันมากันมากมาย หัวมันกลมๆกลางหน้าผากมีไฟดวงเล็กๆ รูปร่างก็เหมือนคนแต่ตัวมันมีเมือกๆที่ดูเหนียวๆน่าขยักแขยง มากจนพวกเธออยากจะกรีดร้องแต่พวกเธอต้องตั้งสติ ใช่แล้ว! พวกเธอพยายามมองหาทางหนีหรืออาวุธ แต่พวกมันก็เริ่มโจมดี พวกเธอรีบคว้ามีดสั้นที่พวกเธอเอามาด้วย  มันกำลังจะใช้ลิ้นที่ยาวของมันมามัดตัวของมาเรีย มาเรียดิ้นสุดกำลังเธอได้โอกาสตอนที่มันผ่อนแรงใช้มีดปักที่หน้าผากที่มีดวงไฟ มันร้องเสียงดังสนั่นด้วยความเจ็บปวด พวกเพื่อนของมันเห็นอย่างนั้นแล้วกระโจนมาทั้งฝูงด้วยความโกรธแค้น คาล่ารีบจับมือมาเรียพากันกระโจนกันลงน้ำเพราะการต่อสู้เมื่อกี้ทำให้เรือเริ่มพัง แม่น้ำนี้ลึกมากและที่ทำให้พวกเธอเริ่มอ่อนแรงเพราะมันมีแรงดันภายในใต้น้ำมากจนรู้สึกไม่มีแรงขึ้นมาเฉยๆ พวกเธอกำลังจะจมลง แต่ก็มีมือหนึ่งมาจับพวกเธอเอาไว้ไม่ให้จมลงไปใต้น้ำ  มือนั้นดูอบอุ่น แล้วเมื่อเธอจับพวกเธอก็รู้สึกใจเต้นอย่างแปลกประหลาด พวกเธอได้ยินเสียงไม่ค่อยถนัดนัก ได้ยินเสียงพวกเขาพูดว่า



    “ ระวังอย่าปล่อยมือเด็ดขาดมาเอามือมากอดคอฉันเร็ว “



    พอพวกเธอได้ยินดังนั้นก็ทำตามเพราะพวกเขาคงไม่ฆ่าพวกเธอหรอกถ้าคิดจะฆ่าคงไม่ช่วย เราเอาไว้หรอก พวกเธอรอดพ้นจากการจมน้ำไปได้และรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ แต่มันเป็นความจริงตอนนี้พวกเธอกำลังลอยอยู่เหนือน้ำ มือกอดคอผู้ชายคนหนึ่ง พอพวกเธอมองไปรอบๆก็เห็นฝูงค้างคาวบิน อยู่ส่วนใหญ่จะ บินไปจัดการพวกปีศาจที่ทำร้ายพวกเธอเมื่อกี้ ตอนนี้หรือเพียงไม่กี่ตัว ส่วนค้างคาวที่เหลือก็บินอยู่รอบๆคาล่ากับมาเรีย พวกเขาบอกพวกเธอว่า



    “ อดทนหน่อยเดี๋ยวพวกคุณก็จะได้เจอท่านแล้ว “



        พวกเธอคิดท่านนะใครแต่เธอก็ได้แต่อึ้งจนเกินไป ต่อมาพวกเขาก็อุ้มพวกเธอลอยมาจนถึงฝั่ง ก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณ 30 ได้ หน้าตาดูคมเข้มดูมีสง่าราศีเป็นที่สุด กับผู้หญิงที่ท่าทางใจดีหน้าตาเหมือนตุ๊กตาโบราณของยุโรปแต่มีชีวิตมีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ไม่เหมือนเพราะดวงตาดูสดใสยิ่งนัก ทั้ง 2 คนนั้นน่าจะเป็นเจ้านายเพราะ มีผู้หญิงที่แต่งชุดเป็นสาวใช้อยู่ข้างหลัง พวกเธอที่อยู่ข้างนั้นหน้าตาดีมาก โดยเฉพาะดวงตาสีฟ้า กับผมสีชา ดูเข้ากันมากๆ แถมทั้งสองมีหน้าตาคล้าย กันมีเพียงผมเท่านั้นที่บอกได้ มีคนหนึ่งมัดผมแบบเรียบ อีกคนก็ใช้ผ้าคาดผม  พวกเขาค่อยๆวางพวกเธอลง คาล่าสังเกตผู้ชายที่วางเธอลงนั้นหน้าตาดีมาก เธอสังเกตดูว่าเขานะสูง 185 ซ.ม.สีผมน้ำตาลอ่อนดูน่าจับ+ดวงตาสีฟ้ากลมโตแต่ในดวงตานั้นมีความน่ากลัวหลงเหลืออยู่แต่ดวงตาคู่นั้นดูเข้ากับใบหน้าที่เรียวงาม เขาอยู่ในชุดที่ดูทะมัดทะแมงที่มีสีดำ คาล่าดูเขาจนเพลินจดเจ้าตัวเกือบถูกจับได้ว่าแอบมองเขาอยู่ แต่คาล่าคิดว่าเขาน่าจะจับได้แล้วเพราะหน้าเขาแดงๆขึ้น มันทำให้คาล่าอย่างแกล้งชะมัด  กล่าวถึงมาเรีย  มาเรียก็สังเกตเห็นคนที่อุ้มตนมานั้น มีผมที่ยาวจดกลางหลังมัดด้วยผ้าผูกผมแต่เขามีดวงตาสีม่วงที่ดูนิ่งสงบเหมือนทะเลยามปอดคลื่น ชุดที่ใส่นั้นเป็นชุดยูกาตะของญี่ปุ่นดูแล้วน่าเกรงขาม  มาเรียสูภาพกว่าคาล่า (เล็กน้อยเท่านั้น ) เพราะเธอแอบมองเป็นระยะๆ จนทำให้เจ้าตัวหลบหน้าหนีเนื่องจากไม่รู้จะทำหน้าอย่างไงดี ( คนเขียนนี้ก็ ทำเรื่องน้ำเน่า อิมหนาย อย่าเบื่อนะ %_% )

    พวกเขาบอกพวกเราว่า พวกทางนี้คือท่านเคราท จัสติน ไมโด เล็ฟออฟ ต่อมาก็ท่านหญิง มาเจล ไมโด เล็ฟออฟ แล้วนี้ 2สาวใช้คนสนิท คนที่ถูกเรียกว่าท่านเคราทพูดกับพวกเธออย่างอ่อนโยนว่า



    “ พวกเจ้าคงยังตื่นเต้นสินะ ข้าให้พวกเจ้าตัดสินใจอีกทีว่าพวกเจ้าจะไปกับข้าหรือไม่ “



    คาล่าพูดออกมาด้วยความมั่นใจแม้ว่าจะกลัวก็ตามว่า



    “ พวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะมาที่นี้ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน “



    “แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้ขึ้นอีกหรือ “ ท่านเคราทว่าพรางยิ้มไปด้วย



    “ แน่นอนพวกเราเตรียมใจไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้ขึ้น พวกเราไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกเพราะนี่ถือเป็นการเผชิญโชคชะตาที่พวกเราเลือก “



    ท่านเคราท มีสีหน้าที่เรียกได้ว่าออกดีใจ พูดว่า “ ดีพวกเจ้าตัดสินใจเองแล้ว งั้นตามข้ามา “



    พวกเธอตามผู้ชายที่ถูกเรียกอกว่าท่านเคราทไป พวกเธอแทบไม่อยากเชื่อตัวเองว่าทำไมเราไว้ใจเขานะ เพราะคนที่เราเห็นแค่พึ่งแป็บเดียวเอง ตามทางที่พวกเราไปนั้นตอนแรกเป็นทางที่ขุกขักมากบางทีก็ลื่น ท่านเคราทเลยเตือนว่าเดินให้ระวังหน่อย “ กรี๊ด “ คาล่าเกือบล้มทันทีที่ท่านเคราทพูดเสร็จอาจจะเพราะคาล่าสนใจผนังถ้ำมากไปมั่งถึงไปสะดุดก้อนหินได้ ดีที่ท่านเคราทช่วยไว้ ส่วนมาเรียเกือบจะลื่นเหมือนกันดีที่ท่านหญิงจับหลังไว้ ในนาทีนั้นเองความอบอุ่นอย่างแปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานาน เป็นความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งที่ให้ต่อผู้ที่เรารักมากที่สุด แม้ไม่มีคำยืนยัน แต่พวกเธอคิดว่า พวกเธอสามารถไว้ใจเขาได้  ท่านเคราทหรือท่านหญิง ตอนนี้คาล่าเริ่มสนิทกับท่านเคราท เพราะคาล่าชอบถามคำถามต่างๆมากมาย จนอาจทำให้คนฟังเบื่อแต่สำหรับท่านเคราทแล้วกับรับฟังและตอบปัญหาอย่างจริงใจ จึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะได้ยินเสียงถามเรื่องต่างๆมากมาย จนกระทั่งมาถึงที่ที่น่าจะเรียกว่าปราสาทเพราะมันใหญ่โตมาก  

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    ( ออกน้ำเน่าหน่อย นะตอนแรก แต่รับรองได้ว่า ต่อไปมันแน่ ตอนต่อไป คือ \" พิธีกรรม \"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×